144 – ผู้พิทักษ์นิกาย
เมื่อเอี้ยนลี่เฉียงตื่นขึ้นเขาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในถ้ําบนภูเขา สิ่งแรกที่เข้ามาในมุมมองของเขาเมื่อลืมตาคือหินงอกหินย้อยที่ห้อยลงมาจากเพดานถ้ําเหมือนหน่อไม้ขนาดยักษ์
ความคิดของเอี้ยนลี่เฉียงหยุดนิ่งไปสองวินาที ก่อนที่ทุกอย่างจะท่วมท้นกลับมาที่จิตใจของเขาอีกครั้ง เขานึกถึงการต่อสู้ที่เชิงเขาหลงหูคนเก็บสมุนไพรชราและฉากก่อนที่เขาจะหมดสติ
จากนั้นเขาก็กระโดดขึ้นในทันที
เอี้ยนลี่เฉียงพยายามขยับร่างกายของเขาก่อนและพบว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากมีเพียงเคล็ดขัดยอกที่หัวไหล่ขวาเล็กน้อย
นั่นอาจเป็นบาดแผลภายนอกที่จูอันทิ้งไว้บนร่างกายของเขาแต่ก็ไม่มีอะไรร้ายแรง
เอี้ยนลี่เฉียงถอนหายใจยาวและเดินออกจากถ้ําบนภูเขา
ถ้ําตั้งอยู่ครึ่งทางบนภูเขาสูง มีป่าอยู่ด้านนอกเมฆใต้ภูเขาทอดยาวออกไปไกลสุดสายตาและเขาถูกปกคลุมไปด้วยเมฆและหมอกมีกลิ่นหอมจางๆของกล้วยไม้ทําให้รู้สึกผ่อนคลาย
การได้ชมทิวทัศน์เช่นนี้ทําให้รู้สึกราวกับว่าพวกเขาได้ออกจากโลกฆราวาสไปแล้ว
ชายชรานั่งไขว่ห้างใต้ต้นสน เขามองไปที่เอี้ยนลี่เฉียงที่เพิ่งออกจากถ้ําด้วยรอยยิ้ม
เอี้ยนลี่เฉียงเดินเข้าไปหาเขาและโค้งคํานับชายชรา
“อาจารย์ท่านสบายดี!”
“นั่งก่อน ข้าแน่ใจว่าเจ้าต้องมีคําถามมากมาย เราต้องคุยกันยาวและยังมีบางเรื่องที่ข้าต้องแจ้งให้เจ้าทราบ!”
เมื่อเห็นใบหน้าที่มีเมตตาขนาดนี้เอี้ยนลี่เฉียงแทบจะไม่สามารถนําภาพของบุคคลที่สังหารชายชุดดําพวกนั้นกว่าสิบศพโดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆมาซ้อนทับกันได้
“แม้ว่าศิษย์จะกราบท่านเป็นอาจารย์แล้วแต่ก็ยังไม่ทราบชื่อและภูมิลําเนาของอาจารย์เลย!”
“ข้ามาจากตระกูลหลิวและชื่อเต็มของข้าคือหลิวกุ้ยหยวน ข้าเป็นผู้อาวุโสของนิกายกระบีศักดิ์สิทธิ์หนึ่งในสี่นิกายหลัก!”
นิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์? เขามาจากนิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์จริงๆเหรอ?!
แม้ว่าเอี้ยนลี่เฉียงจะเดาได้ว่าอาจารย์ของเขามีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา แต่เขาก็ไม่เคยคิดว่าอาจารย์ของเขาจะเป็นถึงผู้อาวุโสของนิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ของสี่นิกายหลัก
นิกายหลักที่เรียกว่าสี่นิกายศักดิ์สิทธิ์นั้นประกอบด้วย นิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ นิกายปราชญ์วังหยกหลัว และนิกายภูเขาวิญญาณ
สี่นิกายหลักต่างมีเอกลักษณ์ในแบบของตัวเอง นิกายภูเขาวิญญาณมีบุคคลที่มีความสามารถพิเศษมากมายนับไม่ถ้วน นอกเหนือจากศิลปะการต่อสู้แล้วกลุ่มแพทย์ภายในนิกายภูเขาวิญญาณก็มีชื่อเสียงระดับโลก
เช่นเดียวกันกับนิกายปราชญ์เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ที่ชอบการต่อสู้มากที่สุดและในบรรดานิก ายทั้งหมด นิกายปราชญ์มักเข้าร่วมสงครามอาณาจักรอยู่เป็นประจําซึ่งฟังดูแล้วก็ไม่ค่อยเข้ากับชื่อนิกายของพวกเขานัก
ในทางกลับกันวังหยกหลัวนั้นลึกลับที่สุดในบรรดาทั้งหมด จนถึงปัจจุบันยังไม่มีใครทราบตําแหน่งที่แน่นอนของวังหยกหลัว
สมาชิกของพวกเขามักไม่ค่อยปรากฏตัว แต่ทุกๆสิบปีพวกเขาจะทําอะไรบางอย่า งจนเกิดความสั่นสะเทือนไปทั่วอาณาจักรฮั่นอันยิ่งใหญ่
นิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์เป็นที่รู้จักในฐานะผู้นําของนิกายหลัก ทุกวิชาดาบและกระบีในโลกมีต้นกําเนิดมาจากนิกายนี้
ภายในนิกายมีนักดาบและกระบี่จํานวนหนึ่งหมื่นคนทําให้สามารถบดขยี้ กกองกําลังที่มีในอาณาจักรฮั่นอันยิ่งใหญ่ได้อย่างง่ายดาย
ผู้ว่าการแคว้นผิงซีก็มีลูกชายที่เรียนอยู่ในนิกายนี้เช่นเดียวกัน เขาได้ก้าวขึ้นเป็นนักรบผู้พิทักษ์แล้ว และด้วยเหตุนี้เขาจึงได้รับสิทธิ์ในการฝึกฝนภายในนิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ชั้นใน
ไม่คิดว่าท้ายที่สุดแล้วศัตรูจะพบกันในทางคับแคบ ในขณะนี้เอี้ยนลี่เฉียงทําได้เพียงถอนหายใจด้วยความมหัศจรรย์แห่งโชคชะตา
เขาไม่คิดว่าหลังจากเร่ร่อนเป็นระยะเวลานาน ในที่สุดก็ได้กราบผู้อาวุโสคนหนึ่งของนิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์เป็นอาจารย์รวมทั้งยังศึกษาอยู่ในสํานักเดียวกันกับลูกชายของศัตรูด้วย
หลิวกุ้ยหยวนคิดว่าตัวตนของเขาทําให้เอี้ยนลี่เฉียงตกตะลึง หลังจากให้เวลาเอี้ยนลี่เฉียงประมวลผลข้อมูลเงียบๆ เขาก็พูดต่อ
“ในนิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ตัวตนของข้าคือผู้อาวุโสหุบเขายาประจํานิกาย อย่างไรก็ตามยังมีอีกตัวตนหนึ่งของข้าซึ่งก็คือผู้พิทักษ์ของนิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์”
“ผู้พิทักษ์นิกาย?” เอี้ยนลี่เฉียงมองหลิวกุ้ยหยวนอย่างสับสนเมื่อได้ยินสองคํานี้เป็นครั้งแรกเขาไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน
“หน้าที่ของผู้พิทักษ์นิกายคืออะไร?
“นิกายใหญ่ทุกนิกายล้วนมีผู้พิทักษ์มีใครอยู่ ผู้พิทักษ์นิกายเป็นผู้พิทักษ์ที่ซ่อนเร้นที่สุดในนิกาย ในเวลาสงบสุขพวกเขาจะปกปิดตัวเองอย่างดีและกลมกลืนกับส่วนที่เหลือ
อย่างไรก็ตามเมื่อภัยพิบัติใหญ่เกิดขึ้นกับนิกายหน้าที่ของผู้พิทักษ์นิกายคือปกป้องวิชาลับของนิกายเพื่อไม่ให้มันรั่วไหลออกสู่ภายนอก
ในขณะเดียวกันเขาจะต้องพยายามรักษาศิษย์ที่โดดเด่นที่สุดของนิกายให้รอดชีวิตไปได้เพื่อที่จะก่อตั้งนิกายขึ้นใหม่อีกครั้ง”
“ข้าเข้าใจแล้ว หน้าที่สําคัญของอาจารย์คือปกป้องเมล็ดพันธุ์ของนิกาย. ในช่วงเวลาที่นิกายได้รับอันตรายอาจารย์จะคุ้มครองเมล็ดพันธุ์ที่ดีที่สุดรวมถึงคัมภีร์ทุกสิ่งทุกอย่างของนิกายและทําการบ่มเพาะเขาในสถานที่เหมาะสมเพื่อให้สามารถก่อตั้งนิกายขึ้นได้อีกครั้ง”
“เจ้าเข้าใจถูกต้อง!” หลิวกุ้ยหยวนพยักหน้าด้วยท่าทางเคร่งขรึม
“ตัวตนของข้าในฐานะผู้พิทักษ์นิกายนั้นเป็นความลับสุดยอดแม้แต่ภายในนิกายดาบศักดิ์สิทธิ์นอกจากตัวข้าและประมุขนิกายแล้วก็ไม่มีใครทราบเรื่องนี้อีก
นั่นรวมไปถึงผู้อาวุโสของนิกายและครอบครัวของข้าด้วย เจ้าห้ามมิให้เปิดเผยตัวตนของข้า ให้ใครรู้ ไม่เช่นนั้นเจ้าจะต้องเผชิญกับความพิโรธแห่งกฎของนิกาย เมื่อถึงตอนนั้นแม้แต่เทพก็ช่วยไม่ได้เข้าใจหรือไม่!”
“ถ้าตัวตนของอาจารย์ในฐานะผู้พิทักษ์นิกายเป็นข้อมูลลับแล้วท่านบอกข้าทําไม?”
หลิวกุ้ยหยวนมองไปที่เอี้ยนลี่เฉียงอย่างสงบ
“เจ้าก็เป็นคนฉลาดคนหนึ่งทําไมไม่ลองคิดดู
เอี้ยนลี่เฉียงกลืนน้ําลายอย่างแรงและเคาะศรีษะตัวเองพร้อมกับกล่าวอย่างไม่แน่ใจว่า
“ท่านอาจารย์… ท่านคงไม่คิดจะปลูกฝังข้าให้เป็นผู้พิทักษ์นิกายคนต่อไปของนิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์หรอกนะ?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า นั่นคือแผนของข้า!” หลิวกุ้ยหยวนหัวเราะอย่างเต็มที่
“ทําไมต้องเป็นข้าด้วย? ท่านเป็นถึงผู้อาวุโสก็น่าจะมีลูกศิษย์มากมายอยู่ในนิกายไม่ใช่หรือ?”
“ข้าใช้เวลาถึงสามทศวรรษในการตามหาคนแบบเจ้า!”
“เจ้าคิดว่าพวกเราเพียงพบกันครั้งเดียวบนภูเขาหลงหูอย่างนั้นหรือ”
หลิวกุ้ยหยวนมองไปที่เอี้ยนลี่เฉียงด้วยรอยยิ้ม
“ตอนที่เจ้ากินแล้วชักดาบในร้านอาหารก็เป็นข้าที่จ่ายเงิน จังหวัดคิดว่าพวกเราเจอกันเพียงครั้งเดียวแต่ในความเป็นจริงข้าได้ติดตามเจ้ามานานแล้ว
คืนนั้นเมื่อเจ้าฆ่าคนทั้งสามในป่าและทําลายศพของพวกเขาเพื่อกําจัดหลักฐาน ข้าก็ยืนอยู่ข้างๆเจ้านั่นเองเพียงแต่ว่าเจ้าไม่ได้สังเกตเห็นเท่านั้น ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเฝ้าติดตามพฤติกรรมของเจ้าอยู่ตลอด
การพบกันของเราที่ภูเขาหลงหูนั้นเป็นเพียงการทดสอบครั้งสุดท้ายเท่านั้น เมื่อเจ้ายอมทําทุกสิ่งทุกอย่างตามที่ข้าขอร้องเจ้าก็ถูกกําหนดให้เป็นลูกศิษย์คนของข้าแล้ว
หากในตอนนั้นเจ้าทิ้งข้าไปโดยไม่แยแสข้าก็จะไม่ช่วยเหลือเจ้าในตอนสู้กับคนจากหอคอยพระจันทร์
เมื่อได้ยินการเปิดเผยดังกล่าวเอี้ยนลี่เฉียงก็รู้สึกเปรมปรีดิ์ แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็อดไม่ได้ที่จะหลั่งเหงื่อเย็นเยียบไปด้วย
“แล้วอาจารย์จะพาข้ากลับไปที่นิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์เลยหรือเปล่า?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ถ้าข้าพาเจ้ากลับไปในตอนนี้ตัวตนของเราก็จะถูกเปิดเผยในทันที!” หลิวกุ้ยหยวนส่ายหัว
“เราอยู่ในแคว้นล่ายแล้วตอนนี้ สาขาหลักของนิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์อยู่ห่างจากที่นี่เพียงสองร้อยล้ําบนภูเขากระบี่ หน้าที่เดียวของเจ้าคือต้องไปที่นั่นและขอสมัครเป็นศิษย์ของพวกเขา”