169 – พร้อมที่จะเริ่มต้น
สําหรับเอี้ยนลี่เฉียง ความรู้สึกที่กลายเป็นผู้ก่อตั้งสํานักลูกดอกระเบิดของทวีปเงินโดยไม่ได้ตั้งใจนั้นเหมือนกับใครบางคนที่ใช้เงินจนเหลือหยวนสุดท้ายแล้วพบว่าตัวเองถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 พอดี
ระหว่างทางกลับจากสถาบันศิลปะการต่อสู้ไปยังหมู่บ้านอู๋หยางก็ไม่ใช่ว่าจะใกล้ๆ แต่เอี้ยนลี่เฉียงไม่รู้ตัวว่าเขาเดินมาถึงบ้านพักของตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่
ความรู้สึกของเขาเหมือนกับว่าเดินอยู่บนเมฆอย่างสมบูรณ์ หัวของเขาหมุนจนรู้สึกคลื่นไส้เล็กน้อย วลี “สวรรค์ประทาน” ทําให้หัวใจเล็กๆของเขาเต้นด้วยความตื่นเต้นตลอดทาง
ตามที่ปรมาจารย์โดโจซ่งกล่าว จํานวนครั้งที่ผู้ก่อตั้งวิชาการต่อสู้จะได้รับการประทานพรจากสวรรค์ก็ตามขั้นตอนฝึกฝนวิชาที่ภูเขาสร้างขึ้น
ตัวอย่างเช่น หากพวกเขาฝึกฝนทักษะหมัดพยัคฆ์คํารามต่อเนื่องที่ขอบเขตสูงสุดของวิชาหมัดนี้ที่มีเพียงขั้นที่ห้า กล่าวคือ ผู้ที่สร้างวิชานี้จะได้รับการประทานพรจากสวรรค์ห้าครั้ง
อีกตัวอย่างหนึ่งคือขั้นบันไดเก้าวังสายลมเงาที่ระดับสูงสุดคือชั้นที่หก หมายความว่าผู้ที่สร้างวิชานี้ขึ้นจะได้รับการประทานพรจากสวรรค์หกครั้ง
ในเมื่อพวกเขาได้รับการประทานพรมากมายถึงขนาดนี้นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทําไมพวกเขาถึงแข็งแกร่งมากกว่าคนทั่วไปนัก
สําหรับทุกการประทานพรจากสวรรค์หมายความว่าพวกเขาได้รับโอกาสพิเศษในการเพิ่มระดับพลังของพวกเขาเอง
โอกาสพิเศษที่พวกเขามีคือเหตุผลที่บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งแต่ละคนสามารถอยู่เหนือผู้อื่นเพื่อสร้างความแตกต่างและกลายเป็นวีรบุรุษของทวีปเงินจนทุกคนต้องจับตามอง
เทคนิคเปาลูกดอกนี้เข้าถึงได้กี่อาณาจักร? เอี้ยนลี่เฉียงไม่รู้ ทั้งหมดที่เขารู้ก็คือถ้าเขาต้องการเปลี่ยนชะตากรรมของเขา เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่น่าเศร้าในอนาคต เขาต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ก่อน
เอี้ยนลี่เฉียงกลับมาที่หมู่บ้านอู๋หยางตอนเที่ยง หลังจากกินบะหมี่ชามหนึ่งและซื้อซาลาเปานึ่งแล้ว เอี้ยนลี่เฉียงก็กลับไปที่ลานเล็กๆของเขาเอง
เขาคว้าลูกดอกทํามือและขึ้นไปบนภูเขาเพื่อหาที่ฝึก หลังจากผ่านขอบเขตแรกในเทคนิคการยิงลูกดอก ความจุปอดของเอี้ยนลี่เฉียงก็ได้รับการอัพเกรดครั้งใหญ่
ไม่ว่าจะเป็นการหายใจเข้าหรือหายใจออก มันก็จะมีระยะเวลานานขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขากําลังเปาลูกดอก ลูกดอกเขาจะบินไปได้ระยะไกลมากกว่าเดิมและด้วยความเร็วมหาศาล
ในตอนนี้มันสามารถเดินทางได้ไกลเกินกว่า 25 เมตร ภายในร้านเล็กๆของเขาไม่สามารถแสดงศักยภาพของมันได้เต็มที่เขาจึงต้องออกไปยืนบนภูเขา
พื้นที่ด้านหลังเนินเขาที่หมู่บ้านอู๋หยางตั้งอยู่นั้นเป็นหลุมศพขนาดใหญ่ ดังนั้นหากยืนอยู่บนยอดเขา ก็จะมองเห็นด้านที่มีหลุมศพทั้งหมด
แม้แต่ในตอนกลางวัน ชาวบ้านที่ตัดฟืนหรือเลี้ยงสัตว์ก็ไม่ยอมเข้าใกล้ นอกจากป่าทึบบนยอดเขาแล้ว หญ้าปายังเติบโตได้ทุกที่ เป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสําหรับฝึกเปาลูกดอก
หลังจากผ่านไปเพียงวันเดียว ในวันที่สองของเดือนเพ็ญที่เก้า บนส่วนที่ซ่อนอยู่ของยอดเขาเล็กๆ เอี้ยนลี่เฉียงก็ถูกไฟแดงล้อมรอบอีกครั้ง และเขายอมรับการประทานสวรรค์ครั้งที่สอง
สี่วันต่อมา ในวันที่หกเดือนจันทรคติที่เก้าการประทานจากสวรรค์ครั้งที่สามก็มาตามที่คาดไว้
ในวันที่เจ็ดของเดือนทางจันทรคติที่เก้า เอี้ยนลี่เฉียงตื่นแต่เช้า หลังจากที่เขารับประทานอาหารเช้าที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆเสร็จ เขาก็ถอยกลับไปที่ลานเล็กๆ ของเขา
เอี้ยนลี่เฉียงไม่ได้ฝึกซ้อมหลังจากที่เขากลับมาที่ลานบ้านของเขา เขานํางูพิษวงแหวนดําที่เขาซื้อมาและรีดมันอีกครั้งเพื่อให้ได้พิษงูที่สดใหม่
จากนั้นเขาก็ทาพิษงูลงบนลูกดอกที่เขาสร้างขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่พิษงูบนลูกดอกแห้งแล้ว ก็จะเห็นได้ว่าหัวเข็มที่โผล่ออกมาจากลูกดอกจะมีชั้นสีน้ำเงิน-ดําพิเศษที่จะส่องแสงเป็นวงๆ ภายใต้แสงไฟ
ด้วยความระมัดระวังเอี้ยนลี่เฉียงได้ทดสอบพิษของงูพิษวงแหวนดําเมื่อสองสามวันก่อนกับหมูป่าในปาบนยอดเขา
หมูป่าถูกลูกดอกพิ่มเพียงเล็กน้อยเท่านั้นและร่างกายของมันถูกทําให้เป็นอัมพาตตลอดทั้งคืน มันฟื้นความสามารถในการเคลื่อนไหวของเช้าวันรุ่งขึ้นเท่านั้น
หลังจากรีดพิษงูแล้ว เอี้ยนลี่เฉียงก็ขึ้นไปบนเนินเขาและปล่อยงูพิษวงแหวนดําไป เขาแค่นํากรงไม้ไผ่กลับมาแล้วเผาให้เป็นเถ้าถ่านตรงนั้นในห้องครัวเล็กๆของลานบ้าน ทําลายหลักฐานทั้งหมด
ต่อจากนั้น เขาใช้ผ้าน้ำมันกันน้ำห่อท่อเปาและลูกดอกที่เตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว หลังจากห่อเสร็จแล้วเขาก็วางมันพร้อมกับเสื้อผ้าสําหรับเปลี่ยน
หลังจากที่เขาจัดการทุกอย่างอย่างระมัดระวัง เขาก็หยิบกระเป๋าเดินทางและออกจากหมู่บ้านอู๋หยาง มุ่งหน้าไปยังเมืองผิงซี
เอี้ยนลี่เฉียงไม่ได้ไปสถาบันศิลปะการต่อสู้แต่เขาเดินไปที่สวนพลัมในเมืองผิงซีแทน
สวนพลัมเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ภายในเมืองผิงซี ใกล้กับทะเลสาบแห่งความยืนยาวและภายในสวนพลัมดอกไม้ที่เฟื่องฟูเป็นเหมือนฝ้าย และมีศาลาริมน้ำอยู่ทุกหนทุกแห่ง นี่เป็นสถานที่ที่งดงามอย่างยิ่งภายในเมือง และชายหนุ่มหญิงสาวหลายคนในเมืองมักจะเดินผ่านที่นี่
แน่นอนว่าราคาของสิ่งของในสวนพลัมก็สูงไม่ปกติเช่นกัน คนธรรมดาไม่สามารถซื้ออะไรได้อย่างแน่นอน สิ่งที่พวกเขาทําได้มากที่สุดคือเดินเล่นชมดอกพรมและทิวทัศน์
หลังจากเดินผ่านสวนพลัมหนึ่งครั้งและตรวจดูสถานที่ทุกแห่งที่เขาต้องการ เอี้ยนลี่เฉียงก็เดินออกจากสวนพลัมและมาถึงถนนใหญ่อีกด้านของทะเลสาบ
มีโรงเตี้ยมและร้านอาหารอยู่สองข้างทางของถนนสายใหญ่นี้ และนี่ก็เป็นพื้นที่ยอดนิยมภายในเมืองผิงซี เอี้ยนลี่เฉียงเดินขึ้นและลงถนนสายนี้สองครั้ง ก่อนที่เขาจะแวะพักผ่อนในโรงเตี้ยมทะเลสาปสวรรค์
“ยินดีต้อนรับ ยินดีต้อนรับ ท่านมาที่นี่เพื่อจองห้องพักหรือรับประทานอาหารครับท่าน? ปลาในโรงเตี้ยมของเรารับประกันความสด จับได้จากทะเลสาบแห่งความยืนยาวทั้งหมด…”
หลังจากที่เอี้ยนลี่เฉียงเดินเข้ามา ผู้รับใช้ของโรงเตี้ยมก็ทักทายเขาด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
” ข้าต้องการห้องพักที่ติดกับทะเลสาบจัดการให้ด้วย”
แม้ว่าราคาห้องพักริมทะเลสาบนั้นแพงกว่าห้องปกติเล็กน้อย และพวกเขาต้องการเงินแปดเหรียญเงินต่อคืน
แต่ราคานี้ไม่ถือว่าแพงมาก เพราะตอนนี้เป็นช่วงนอกฤดูการท่องเที่ยว หากเป็นราคาปกติแม้แต่เอี้ยนลี่เฉียงก็ไม่สามารถจ่ายไหว
เอี้ยนลี่เฉียงแสร้งทําเป็นว่าเงินไม่มีปัญหา “ใช่ ถ้าแปดเหรียญเงิน ถือว่าถูกมากข้าได้ยินมาว่า ที่นี่มีบรรยากาศที่ค่อนข้างงดงามในช่วงค่ำคืน…”
“แน่นอนขอรับนายท่าน…”
ในตอนบ่ายเอี้ยนลี่เฉียงได้งีบหลับอย่างยาวนานในห้องของเขาเพื่อรักษาความแข็งแกร่งและสมาธิไว้ให้คงอยู่สูงสุด
หลังจากตื่นนอน เขาได้ฝึกฝนคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นสองครั้งในห้องหลังจากนั้นเขาก็ออกท่องเที่ยวเหมือนแขกทั่วไป ก่อนที่ในเวลาค่ำคืนเขาจะกลับมาที่ห้องของตัวเอง
หลังจากกลับมาที่ห้องของเขาเอี้ยนลี่เฉียงยืนอยู่หน้าหน้าต่าง มองออกไปเห็นเงาสะท้อนที่ส่องประกายแวววาวของทะเลสาบเขารอคอยให้ท้องฟ้ามืดค่ำมากกว่านี้ยังอดทน
ผ่านไปหนึ่งชั่วยามท้องฟ้าก็มืดสนิท สวนพลัมอยู่ห่างออกไปประมาณหนึ่งพันวา และขณะนี้ศาลาหลายแห่งภายในสวนพลัมเริ่มส่องสว่างด้วยโคมไฟหลายแถว
เมื่อมองจากระยะไกล ทะเลสาบที่ส่องประกายระยิบระยับสะท้อนโคมหลากสีและหลายรูปทรงกลับหัวกลับหาง ทําให้ดูเหมือนสิ่งผิดปกติอย่างแท้จริง
ตอนนั้นเองที่เอี้ยนลี่เฉียงเคลื่อนไหวในที่สุด เขาดึงกระเป๋าหนังออกมา หยิบมีดสั้นออกมาเหน็บไว้ที่ต้นขาและตัดวัสดุที่อยู่ในกระเป๋าหนัง เขาดึงหน้ากากที่อยู่ระหว่างชั้นของกระเป๋าหนังออกมา
หน้ากากนั้นเป็นหน้ากากที่งูจงอางเคยใช้ หลังจากที่เขาสวมหน้ากากนี้เพื่อทําลายตระกูลหง เอี้ยนลี่เฉียงก็เก็บมันไว้อย่างระมัดระวัง
เดิมที่เขาคิดว่าเขาจะไม่ได้ใช้มันอีกแล้ว แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะใช้มันในเมืองผิงซีในครั้งนี้หลังจากใช้งานครั้งสุดท้ายได้ไม่นาน ก็ถึงเวลาที่งูจงอางจะลุกขึ้นก่อความวุ่นวายอีกครั้ง