86 – เริ่มการสอบ
อะไร? สถาบันศิลปะการต่อสู้แห่งแคว้นผิงซีกำลังจะรับสมัครนักเรียนถึงห้าสิบคนในปีนี้? นั่นเป็นจำนวนเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้วไม่ใช่หรือ?
นอกจากนี้ยังหมายความว่าผู้สอบที่เข้าร่วมการสอบศิลปะการต่อสู้ในปีนี้จะมีโอกาสสูงขึ้นในการเข้าเรียนในสถาบันศิลปะการต่อสู้ของแคว้นผิงซี
หลังจากผู้เข้าสอบทุกคนในสนามฝึกหายจากความงุนงงพวกเขาก็ก็ระเบิดเสียงหัวเราะของขึ้นทันที มีคนมากมายรู้สึกตื่นเต้นกับเรื่องนี้
เอี้ยนลี่เฉียงไม่เหมือนคนรอบข้างเขาไม่ยิ้มหรือมีความสุขหลังจากได้ยินข่าวนี้ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยในขณะที่สมองของเขาขบคิดอย่างรวดเร็ว
เขาได้เรียนรู้จากประสบการณ์ในชีวิตที่ผ่านมาว่าไม่มีอาหารกลางวันฟรีในโลกนี้ เมื่อคุณคิดว่าแพนเค้กหล่นลงมาบนหัวคุณส่วนใหญ่ไม่มีแพนเค้กชิ้นที่สองอยู่ข้างหลังแพนเค้กแผ่นแรก แต่เป็นระเบิดแทน
สือฉางเฟิงได้ประกาศว่าจะมีการเพิ่มจำนวนการรับสมัคร แต่เขาไม่ได้อธิบายเหตุผลเบื้องหลังการรับสมัคร ทุกอย่างค่อนข้างคลุมเครือและนั่นคือจุดที่เป็นปัญหา
การนึกภาพชนชั้นปกครองของประเทศใหญ่โตที่ใจดีเกินไปหรือเอื้อเฟื้อเกินไปนั่นไม่ใช่เรื่องที่ดีอย่างแน่นอน
แม้ว่าเอี้ยนลี่เฉียงจะอายุเพียงสิบสี่ปี แต่จริงๆแล้วเขาก็ไม่ได้ไร้เดียงสาอีกต่อไป หากมีช่วงเวลาที่คุณคิดว่าชนชั้นปกครองใจดีเกินไปหรือโง่เกินไป
นั่นจะทำให้คุณมองข้ามแผนการที่อยู่เบื้องหลังของพวกเขา และคุณจะเกิดความประทับใจต่อผู้ปกครองของอาณาจักรโดยข้อมูลเท็จ
อย่างไรก็ตามในตอนนี้เอี้ยนลี่เฉียงก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงได้เข้าสอบใน ‘ช่วงเวลาที่ดี’ ได้ …
บนเวทีหลักสือฉางเฟิงถอยกลับไปสองสามก้าวหลังจากที่เขาพูดเสร็จโดยเว้นที่ว่างไว้ด้านหน้าเพื่อจัดการสอบศิลปะการต่อสู้จากนั้นเสิ่นหงปิงก้าวไปข้างหน้า
“ขอประกาศว่าการทดสอบวิชาศิลปะการต่อสู้ประจำมณฑลชิงไห่เพื่อเข้าศึกษาต่อในสถาบันศิลปะการต่อสู้ของแคว้นผิงซี ได้เริ่มขึ้นแล้วณบัดนี้”
หลังจากประกาศการเริ่มต้นแล้วเสิ่นหงปิงและสือฉางเฟิง ก็ถอยกลับไปที่ที่นั่งด้านหลังเวทีหลัก ทั้งคู่นั่งลงเหมือนผู้ควบคุมและเฝ้าดูจากตำแหน่งที่สูงขึ้นซึ่งสามารถมองเห็นสนามฝึกซ้อมและสนามประลองทั้งหมด
บรรดาผู้ที่ติดตามพวกเขามาที่นี่ได้เดินไปยังแต่ละสนามประลองในและเตรียมตัวจัดการทดสอบขึ้นทันที
เจ้าหน้าที่สถาบันการศึกษาเข้ามาอยู่ใต้ธงเมืองหลิวเหอจากนั้นก็มองไปที่เอี้ยนลี่เฉียงและคนอื่นๆ
“มีใครบ้างที่ไม่ได้มาจากเมืองหลิวเหอ ท่ามกลางผู้เข้าสอบที่นี่หรือมีใครสงสัยว่ามีผู้อื่นสวมชื่อปลอมหรือไม่”
ทุกคนเข้าใจว่านี่เป็นพิธีการและการปฏิบัติตามปกติก่อนการสอบ วัตถุประสงค์คือเพื่อยืนยันตัวตนของทุกคนและตรวจสอบว่ามีใครโกงหรือมีคนมาแทนที่
ทุกคนมองหน้ากันแล้วส่ายหัว นี่เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมมาก บุคคลที่น่าสงสัยจะถูกคุ้ยเขี่ยต่อหน้าทุกคนในตอนนี้เพราะไม่มีใครสามารถติดสินบนผู้เข้าสอบทั้งหมดในเมืองได้
แม้ว่าจะทำได้ แต่การโกงขนาดใหญ่เช่นนี้อาจเป็นที่รู้จักของทุกคนในมณฑลชิงไห่ยกเว้นพวกเขาจะเป็นฝาแฝด
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นพวกเขาก็ต้องถูกตรวจสอบลายนิ้วมืออีกครั้งหลังจากที่การสอบเสร็จสิ้นไปแล้ว
เจ้าหน้าที่สถาบันการศึกษานั้นรอครึ่งนาที เขาพยักหน้าเมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับทุกคน
“ถ้าอย่างนั้นโปรดไปที่สนามประลองของตัวเองตามป้ายทะเบียนที่พวกเจ้าได้รับและเริ่มการสอบได้!”
เอี้ยนลี่เฉียงมองไปที่ป้ายทะเบียนโลหะในมือของเขา มีตัวเลข ‘สาม’ อยู่ ขณะที่ส่วนบนสุดของแผ่นโลหะนั้นมีเลข ‘หกสิบสี่’ อยู่ตรงกลาง ด้านล่างคือชื่อของเขาที่เขียนโดยคนตรงทางเข้าเมื่อครู่นี้
เขาไม่รอช้าอีกต่อไปในขณะที่เขารีบเดินไปที่สนามประลองที่ สามพร้อมกับป้ายหมายเลขในมือของเขา เมื่อเขามาถึงสนามประลองที่สามเขารีบใส่ป้ายทะเบียนลงในกล่องไม้ด้านหน้าสนามประลองทันที
ในเวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งนาทีผู้เข้าสอบทั้งหมดที่เข้าสอบในสนามประลองที่สามก็มารวมกันอยู่ที่นี่ มีผู้สมัครเพียงสี่คนเท่านั้นที่มาจากเมืองหลิวเหอในขณะที่คนอื่นๆมาจากเมืองอื่นๆ ในมณฑลชิงไห่
กรรมการและเจ้าหน้าที่ของสถาบันการศึกษาและรวมทั้งคนอื่นๆก็เข้าสู่ตำแหน่งของพวกเขาบนเวทีอย่างรวดเร็ว
เจ้าหน้าที่สถาบันการศึกษาหยุดอยู่หน้ากล่องไม้ที่มีป้ายทะเบียน เขาหยิบกล่องไม้ขึ้นมาและเขย่ามันแรงๆสักครู่ก่อนจะดึงกลไกเล็กๆที่อยู่ใต้กล่องออกทำให้ป้ายทะเบียนสองแผ่นหลุดออกไปพร้อมกัน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ของสถาบันก็ถือป้ายทะเบียนทั้งสองขึ้นสูงและแสดงให้ดูสักพัก “ หมายเลขสิบเอ็ดซูจื่อเหอและหมายเลข เจ็ดสิบห้าหวงเสี่ยวเทียนโปรดไปที่สนามประลอง…”
ชายหนุ่มสองคนที่อยู่ด้านล่างเวทีหายใจเข้าลึกๆก่อนที่จะเดินออกไปจากฝูงชนพร้อมกันแล้วขึ้นไปบนเวที
พวกเขายืนอยู่ด้านนอกบนเส้นสีแดงสองเส้นที่ห่างกันสามวาและป้องมือเพื่อทำการทักทายกัน
“ เริ่ม…!” เจ้าหน้าที่สถาบันศิลปะการต่อสู้ในเวทีไม่เสียเวลาและสั่งให้พวกเขาเริ่มต้น