Special District 9 เขตพิเศษที่ 9 – ตอนที่ 228 พบลูกของรัฐมนตรีจ่าว

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 Special District 9 ตอนที่ 228 พบลูกของรัฐมนตรีว่าว

ตอนที่ 228 พบลูกของรัฐมนตรีจ่าว

ภายในห้องรับรอง

ขณะที่ฉินอวี่นั่งรออยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นหลินเหนียนเลยและเสี่ยวมี่ก็ผลักประตูเข้ามา

 

“เสี่ยวมี่ ทําไมเธอไม่โทรหาฉันก่อนล่ะ? ฉันจะลงไปรับเอง” แมวเฒ่าลุกพรวดจากโซฟาก่อนรีบเดินไปหาอีกฝ่าย “ข้างนอกมันหนาวนะ ดูมือน้อยๆของเธอแข็งไปหมดแล้ว”

“ทําตัวให้ดูเป็นผู้เป็นคนหน่อยได้ไหม?” เสียวมีกระซิบดุด้วยใบหน้าแดงกํา

“ไม่ต้องอายหรอก นี่คนกันเองทั้งนั้น” แมวเฒ่าเงยหน้ามองหลินเหนียนเลยและพูดเชิงหยอกล้อ “หาที่นั่งไปก่อนนะ เพิ่งมาจากข้างนอก เดี๋ยวฉันจะไปหาเครื่องดื่มร้อนๆ มาให้น้องเสี่ยวมี่ก่อน”

 

“หีม?” หลินเหนียนเหล่ยกลอกตา “จริงๆเลยตานี่”

ฉินอวี่ถามหลินเหนียนเลยด้วยรอยยิ้ม “ไหนเธอบอกจะกลับบ้านช่วงปีใหม่?”

“พอดีทางบ้านไม่ว่างนะ ลุงก็ไม่ได้อยู่เฟิงเปยฉันก็เลยคิดว่ากลับมาที่นี่ดีกว่า” หลินเหนียนเลยพูดอย่างเขินอายพลางมองไปโดยรอบ “ในนี้คนเยอะจัง ฉันทําตัวไม่ถูกเลย”

“ไม่เป็นไรน่า…คนกันเองทั้งนั้น” ฉินอวี่โบกมือพลางตะโกน “เอ้าทุกคน! ฉันจะแนะนําให้รู้จักหรืออาจรู้จักกันอยู่แล้ว นี่หลินเหนียนเลยและเสี่ยวมี่ คนที่ทําข่าวคดีของเฒ่าหวี่ยังไงล่ะ”

“ผมเคยเห็นคุณในทีวี คุณนักข่าวหลิน!”

 

“ฉันเป็นแฟนข่าวช่องเธอเลยนะ!”

ทุกคนดื่มและคุยกันอย่างสนุกสนาน บรรยากาศที่คึกคักทําให้หลินเหนียนเล่ยกับเสี่ยวมี่ไม่เคอะเขินอีกต่อไป

หลังจากรู้จักกันพอสมควร ทุกคนก็ดื่มต่อตลอดทั้งคืนโดยฉินอวี่ ขอให้หลินเหนียนเลยนั่งถัดจากตนเอง เขาถามด้วยเสียงนุ่มนวล “เธอจะดื่มอะไรดีล่ะ?”

 

“นายเรียกฉันมาดื่มเหรอ?” หลินเหนียนเลยพูดพลางสางผมของเธอ

 

“ฮ่าฮ่า ฉันรู้สึกว่าพอเห็นนายอาการของยัยเหนียนเลยก็ดูแปลกไปนะ” เสี่ยวมี่หันไปพูดกับฉินอวี่ด้วยรอยยิ้ม

หลินเหนียนเลยพยายามพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย “พูดอะไร? เราก็คุยกันแบบนี้อยู่แล้วนี่”

“นี่ฉินอวี่” เสี่ยวมี่หันไปมองฉินอวี่ “มาดื่มกันทั้งที่พวกนายไม่เรียกสาวๆ เข้ามาเหรอ?”

ฉินอวี่ตกตะลึงครู่หนึ่งก่อนตอบอย่างฉะฉาน “ฉันไม่ได้ชอบขนาดนั้นสักหน่อย!”

“เนียนเลยนะ” เสี่ยวมี่ขมวดคิ้ว “เหมือนแมวเฒ่าเลย”

 

“แอ๊ด!”

 

ทันใดนั้นเองประตูห้องรับรองถูกเปิด จ่าวเปาก็เข้ามากับชายอีกสี่คนก่อนตะโกนทันที “อ่าว…หลินเหนียนเลย คุณอยู่ที่นี่ด้วย

เหรอ?”

หลินเหนียนเลยเห็นดังนั้นกระซิบ “บังฉันหน่อยได้ไหม?”

“จมูกสุนัขตํารวจของแท้เลย” เสี่ยวมี่ก็กระซิบเช่นกัน

 

เมื่อฉินอวี่เห็นท่าทีของสองสาวแปลกไปจึงถามทันที “เขาเป็นใครเหรอ?”

“ลูกชายผู้จัดการจ่าวนะ และเขาจะมาทํางานร่วมกับเราในปีหน้า” หลินเหนียนเลย “หมอนคอยตามฉันอยู่เรื่อยเลย”

ฉินอวี่ได้ยินดังนั้น ความรู้สึกของเขาที่มีต่อจ่าวเปาก็ลดลงเหลือน้อยเต็มที่

“ฮ่าฮ่า!” จ่าวเปาไม่ได้ทักทายใครและเดินเข้ามาพูดกับหลินเหนียนเลย “ผมรู้สึกว่างานเลี้ยงมันน่าเบื่อ ก็เลยออกมาเดินเล่นกันข้างนอก ผมก็ไม่ค่อยชอบคนเยอะแบบนี้เท่าไหร่?”

 

“เพื่อนของฉันชวนฉันมาร่วมสนุกในวันปีใหม่กันน่ะ” หลินเหนียนเลยยืนขึ้นเพื่อแนะนําฉินอวี่ด้วยรอยยิ้ม “นี่คือจ่าวเปา เขาจะมาเป็นหัวหน้าแผนกเราในอนาคต จ่าวเปานี่คือฉินอวี่เขาเป็นเพื่อนฉันเองค่ะ”

“สวัสดีครับ” จ่าวเปายืนมือออกไปจับมือกับฉินอวี่

“ครับ สวัสดีครับ” ฉินอวี่ลุกขึ้นตอบ

ขณะที่ทั้งสองกําลังทักทายกัน หม่าเหลาเอ๋อก็เอนกายลงโซฟา แม้ว่าเขาจะเต็มไปด้วยแอลกอฮอล์แต่ยังถามอย่างรักษามารยาท “พี่ชายคนนี้เป็นใครเหรอ?”

 

เมื่อฉินอวี่ได้ยินเขาจึงแนะนําจ่าวเปาที่เพิ่งรู้จักให้หม่าเหลาเอ๋อ พอรู้ว่าจ่าวเปาเป็นถึงลูกชายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารสนเทศ เขาก็เข้าไปจับมือทันที “พี่ชายผู้ทําสื่อ อย่างงั้นผมคงต้องดื่มกับคุณสองแก้วซะแล้วล่ะ”

“คุณคือ?” จ่าวเปาถามด้วยรอยยิ้ม

 

“อ๋อ ผมทําธุรกิจยาอยู่นะ” จากนั้นหม่าเหลาเอ๋อหันไปตะโกน “เอาไวน์มา ฉันจะดื่มกับคุณจ่าว!”

“มาเถอะ มาดื่มกับคุณจ่าวกัน”

 

รู้เหว่ย หลิวจื้อชูและคนอื่นๆ ได้ยินดังนั้นจึงลุกออกจากโต๊ะมาทักทายจ่าวเปาทันที เพราะสถานะของเขาที่มีอิทธิพลกับสื่อสถานีออนไลน์ ทุกคนจึงสุภาพกับเขามาก

 

หลินเหนียนเลยเห็นดังนั้นก็ถึงกับกุมขมับพลางบ่นปวดหัว

 

ด้านข้าง หม่าเหลาเอ๋อวางแก้วลงก่อนถาม “ไม่ไปงานเลี้ยงปีใหม่เหรอครับ?”

 

จ่าวเปาส่ายหัวพลางตอบ “สถานีออนไลน์ก็กําลังจัดงานเลี้ยงปีใหม่เหมือนกัน แถมยังให้ผมเป็นแขกพิเศษ แต่ผมเบื่อบรรยากาศงานเลี้ยงแบบนั้น ก็เลยพาเพื่อนสองสามคนออกมาเปลี่ยนบรรยากาศ ฮ่าฮ่า! ไม่คิดเลยนะว่าจะมาเจอหลินเหนียนเลยที่นี่”

“ห้องนี้ออกจะกว้างขวาง ชวนเพื่อนๆของคุณมานั่งคุยสนุกกันก่อนเถอะ” ฟูเสียวห่าวชักชวนอย่างสุภาพ

จ่าวเปาหันไปมองหลินเหนียนเลย ”สะดวกรึเปล่าครับที่พวกผมจะอยู่นี่?”

หลินเหนียนเลยที่ได้ยินดังนั้นทําได้เพียงตอบอย่างช่วยไม่ได้ “ถ้างั้นก็มาคุยกันให้สนุกเถอะค่ะ”

 

“ฮ่าฮ่า! โอเคงั้นมาสนุกกันเลย” จ่าวเปาโบกมือเรียกของเขาทันที “เรียกบริกรมาหน่อย สั่งให้เต็มที่ ฉันจะเลี้ยงเอง!”

“คุณจะจ่ายเองทั้งหมดเลยเหรอ?!” หม่าเหลาเอ๋อตะโกน “งั้น เต็มที่นะพวกเรา”

 

หลังจากสิบนาที

แมวเฒ่าเข้ามาในห้องรับรองพร้อมกับเครื่องดื่มร้อนๆสองแก้ว เขาก็หันไปมองจ่าวเปาและพรรคพวกที่นั่งอยู่โต๊ะกลางจากนั้นก็หันมาถามฉินอวี่ “เด็กตึ๊งต๊องพวกนี้นี่เป็นใคร?”

“เขาตามเหนียนเลยมา” ฉินอวี่รู้สึกเซ็งเล็กน้อย “เจ้านั่นมายึดที่นี่ซะแล้ว พวกหม่าเหลาเอ๋อก็คุยสนุกกับพวกนั้นใหญ่เลย เฮ้อ…ฉันไม่อยากพูดแล้วให้ตายสิ!”

“ไม่ได้การละ!” แมวเฒ่าพูดอย่างเร่งด่วน “คืนนี้เราต้องได้แอ้มน้องเสี่ยวมี่ อุตส่าห์ไปซื้อสิ่งนั้นมาแล้ว…”

“ไหนว่าไปหาเครื่องดื่มร้อนๆไง?”

 

เจ้าโง่! อากาศแบบนี้เครื่องดื่มร้อนๆ มันอยู่ได้ไม่นานหรอก เพราะงั้นฉันจึงรีบไปซื้อสิ่งนั้นที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตก่อนด้วยความเร็วสูงสุด

 

ฉินอวี่พูดไม่ออก

แมวเฒ่ากะพริบตาพลางหันไปมองจ่าวเปา “บ้าจริง หมอนี้ตามพวกเธอมา แถมปล่อยให้คุยสนุกกันแบบนี้ แผนฉันก็พังหมด ฉันจะไปหาหมอนั่น”

หลังจากนั้น แมวเฒ่าก็จัดระเบียบกางเกงและถือแก้วไวน์เดินไป “เฮ้ เมื่อก็ฉันไม่ได้อยู่ที่นี่ นี่คือ…”

ทันทีที่เสี่ยวมี่เห็นแมวเฒ่าเดินเข้ามา เธอก็ลุกขึ้นแนะนําจ่าวเปา “นี่คือลูกชายของรัฐมนตรีจ่าว ไปดื่มกับเขาสิ!”

แมวเฒ่าพยักหน้าพลางกระซิบด้วยรอยยิ้ม “เธอสองคนหลบไปก่อน ฉันสัญญาว่าจะทําให้เขาเมาจนลุกออกจากโต๊ะไม่ได้ภายในหนึ่งชั่วโมง”

บนชั้นสี่ของจอยพาเลซชายหนุ่มคนหนึ่งผลักประตูเข้าไปในห้องทํางานผู้จัดการทั่วไปก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “เจ้านาย อีกเดี๋ยวลูกชายตระกูลหยินจะมาที่นี่ เขาต้องการพบคุณด้วย”

Special District 9 เขตพิเศษที่ 9

Special District 9 เขตพิเศษที่ 9

บทนำ โลกกำลังเกิดหายนะ…ภัยพิบัติร้ายแรงทำลายล้างมนุษยชาติ…สัตว์กลายพันธุ์…ผู้คนขาดแคลนอาหาร…สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม…ยุคสมัยและอารยธรรมถูกทำลาย… ‘ฉินอวี่’ ชายหนุ่มผู้อาศัยอยู่ในเขตพัฒนาซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นดินแดนไร้กฎ ด้วยสภาพแวดล้อมอันน่าสังเวช…ทั้งถนนผุผัง ระบบบำบัดน้ำเสียใช้การไม่ได้ รวมไปถึงบ้านเก่าทรุดโทรมและกลิ่นปฏิกูลคละคลุ้ง ฉินอวี่จึงลาออกจากงานและตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อซื้อสัญชาติเข้าไปอยู่ในเขตปกครองพิเศษที่เก้า…หวังให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม! ภายในเขตพิเศษที่เก้า…ฉินอวี่เข้าสมัครงานในสำนักงานตำรวจนครบาลเมืองพื้นทมิฬเพื่อดิ้นรนเพื่อหาเลี้ยงชีพ แม้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ทว่าในความโชคร้ายยังมีความโชคดีซ่อนอยู่…เขาได้เจอเพื่อนร่วมงานผู้หวังดีที่เปรียบเสมือนเพื่อนแท้… ระหว่างทำงานในสำนักงานตำรวจ…ฉินอวี่ได้เผชิญการกดขี่มากมายและก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยไหวพริบเฉียบแหลมและแผนการอันชาญฉลาด เขาจะสร้างตำนานบทใหม่ของตนเองได้อย่างไร…โปรดติดตามต่อใน…เขตพิเศษที่เก้า!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset