Special District 9 เขตพิเศษที่ 9 – ตอนที่ 231 การเผชิญหน้ากันโดยบังเอิญ

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 Special District 9 ตอนที่ 231 การเผชิญหน้ากันโดยบังเอิญ

ตอนที่ 231 การเผชิญหน้ากันโดยบังเอิญ

ฉินอวี่มองแมวเฒ่าพลางขมวดคิ้ว สีหน้าเต็มไปด้วยความฉงน “เกิดอะไรขึ้น?”

“คนในห้องหายไปไหนหมดก็ไม่รู้?” แมวเฒ่าเดินไปเปิดประตูห้องน้ํา “ฉันได้ยินเสียงจ่าวเปามาจากทางนี้ล่ะ…”

 

ฉินอวีและหลินเหนียนเล่ยยังคงงุนงงกับการกระทําของแมวเฒ่า

 

เมื่อแมวเฒ่าเข้ามาในห้องน้ํา เขาก็ตรงไปผลักประตูห้องน้ําทันที“เฮ้..ใครอยู่ข้างในนั้น?”

“ใครคะ ผลักประตูทําไม?” เสียงหญิงสาวดังขึ้น

“คุณอยู่ในห้องน้ําใช้ไหม? ทําอะไรอยู่ตอบหน่อย” แมวเฒ่าตะโกนถามพลางขมวดคิ้ว “เสียงผู้ชายเมื่อกี้ ใช่คุณรึเปล่า…คุณจ่าว?”

“ใคร?” จ่าวเปาตะโกนตอบด้วยความสงสัย

 

“ผมแมวเฒ่าเอง เพื่อนของคุณกําลังตามหาคุณอยู่ที่ห้องไพร

เวท”

 

“แอ๊ด!”

ประตูเปิดออก จ่าวเปาเดินโซซัดโซเซออกมาด้วยสีหน้าบูดบึงก่อนพูดด้วยท่าทางเขินอาย “แป๊บหนึ่งนะครับ…ผม…ผมค่อนข้างสับสนคุณบอกผมว่า เพื่อนตามหาผมหรืออะไรนะ?”

“ใช่ เราตามหาคุณตั้งนาน มาหลบอยู่นี่เอง” หลินเหนียนเลย

พูดขึ้น

จ่าวเปาหันหน้าไปมอง เห็นว่าเป็นหลินเหนียนเลยก็ตะลึงในทัน

“งั้นฉันจะกลับไปบอกพวกเขาว่าคุณไปไม่ได้เพราะยุ่งอยู่ที่นี่”หลินเหนียนเลยพูดก่อนจะเบือนหน้าหนีและเดินจากไป

“เดี๋ยวสิ ฉัน…ฉันแค่มาอ้วก และพวกเธอแค่มาช่วยฉันเฉยๆ”จ่าวเปาพูดด้วยใบหน้าซีดเผือด

 

ฉินอวีได้ยินดังนั้นจึงพูด “พวกเขาเลยเหรอ? นักข่าวจ่าวนี้แข็งแรงจริงๆ นะ”

“เดี๋ยวนะ คุณกําลังพูดอะไรให้หลินเหนียนเลยเข้าใจผิดรึเปล่า?” จ่าวเปาหันไปถามแมวเฒ่า

 

แมวเฒ่าแสร้งพูดด้วยสีหน้ารู้สึกผิด “ผมไม่รู้ว่าคุณอยู่ที่นี่ ผมเรียกฉินอวี่มาคุยเล่น แต่หลินเหนียนเลยมากับเขาด้วย”

แมวเฒ่าพูดก่อนจะเดินออกไป “ไม่เป็นไร คุณก็ทําอะไรให้เสร็จ พวกเราจะกลับไปก่อนละกัน”

“วันซวยจริงๆ” จ่าวเปากระแทกประตูและตะโกน

 

“จะเสียงดังไปทําไมล่ะคะ มันน่าตื่นเต้นจะตาย” หญิงสาวตอบกลับอย่างอ่อนแรง

แมวเฒ่ายืนพิงอยู่ที่ประตูข้างนอกตั้งใจฟังอยู่ครู่หนึ่งก่อนหันไปพูดกับฉินอวี่ “ไปกันเถอะ

“นี่นายนั่งเฝ้าอยู่ที่นี่ตั้งนานแล้วเหรอ?” ฉินอวี่ถาม

“เออสิ ไม่งั้นฉันจะเรียกนายมาทําไม” แมวเฒ่าพยักหน้า “เจ้านั่นปากดีจริงๆ เลยต้องสอนให้รู้มารยาทซะบ้าง”

“นายนี้มันคนเลวตัวจริงเลย!”

“อย่ามาทําเป็นคนดีหน่อยเลย สิ่งที่ฉันทําก็เป็นประโยชน์กับนายไม่ใช่เหรอ?”

“ไปไกลๆ เลยนะ”

“ฮ่าฮ่า!”

ทั้งสองคนหัวเราะกันอย่างมีความสุขระหว่างกลับไปที่ห้องรับรอง

ในห้องรับรอง

 

เสี่ยวมี่สวมเสื้อโค้ตและเดินออกไปพร้อมกับหลินเหนียนเลย

“อ่าว เธอสองคนจะไปไหน?” แมวเฒ่าถาม

“กลับบ้าน”

“ช้าก่อนสิ ยังกี่โมงอยู่เลย?” แมวเฒ่ารั้งไว้ “ฉันสั่งเค้กปีใหม่มาและอยากจะอธิษฐานกับพวกเธอก่อน”

 

“อธิษฐานกับนาย” เสี่ยวมีกลอกตา

“ฉันอยากอวยพรกับเธอจริงๆ นะ” ข้อดีหรือข้อได้เปรียบของแมวเฒ่าก็คือความลื่นไหลในบทสนทนากับเหล่าหญิงสาวที่เขาสามารถรับมือได้ทุกสถานการณ์

เสี่ยวมีถอนหายใจ “ฉันมาที่นี่นานแล้วพรุ่งนี้ฉันจะไปบ้านญาติต่อเลยจําเป็นต้องนอนแต่หัวค่ํา”

 

แมวเฒ่าครุ่นคิดอยู่นานก่อนจะตอบกลับ “ก็ได้ งั้นพวกฉันจะออกไปส่งเอง”

“ไปเถอะ ฉันจะไปส่ง” ฉินอวี่พูดเสริม

หลังพูดจบทั้งสี่ก็เดินออกไปและลงไปชั้นล่าง ระหว่างทางก็พูดคุยหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน

 

หลังจากนั้นสามนาที

จ่าวเปาวิ่งมาเปิดประตูก่อนตะโกนด้วยเสียงหอบ “แล้วเหนียนเลยละ?”

“ไปกันแล้วล่ะ” หม่าเหลาเอ๋อตอบก่อนจะเงยหน้าถามด้วยรอยยิ้ม “คืนนี้โอเคมั้ย? ฮ่าฮ่า!”

 

“บ้าจริง!” จ่าวเปากัดฟันพลางตะโกนเรียกเพื่อนที่พามา “ไปเถอะกลับกัน”

“จะรีบไปไหนกัน?” หม่าเหลาเอ่อลุกขึ้นเดินไปที่ประตูแล้วพูด“เล่นต่ออีกหน่อยเถอะ”

“ไม่เล่นแล้ว ผมไม่ไหวแล้ว” จ่าวเปาโบกมือไปมาเพื่อปฏิเสธ

ขณะทั้งสองกําลังคุยกันหมิงเฟยก็นําชายสี่ถึงห้าคนมาตรงทางเดินห่างประมาณสิบเมตร “ฉันบอกนายว่าเฒ่าหวังต้องการเงินนายแค่รออีกสองวันแล้วค่อยไปหาเขาที่บ้าน…”

 

หม่าเหลาเอ๋อหันกลับมาเห็นหมิงเฟยทันที และอีกฝ่ายก็บังเอิญเหลือบไปสบตากับหม่าเหลาเอ๋อ

ทั้งสองฝ่ายจ้องตากันเขม็ง

 

“โลกกลมจริงๆ ไอ้สารเลวหม่าเหลาเอ๋อ!” ชายที่อยู่ถัดกับหมิงเฟยสบถค่าทันที

หยินหมิงเฟยมารัฐพื้นทมิฬวันนี้เพื่อดูอาการชายร่างใหญ่และแวะเข้ามาจอยพาเลซเพราะเห็นว่าเพิ่งเปิดกิจการใหม่ แต่ไม่คิดว่าจะได้มาเจอกับหม่าเหลาเอ๋อที่มีเรื่องขัดแย้งกับเขาเมื่อสองวันก่อน

“แกว่าใคร?!” หลิวจื้อชูรีบวิ่งออกมาชี้หน้าด่า

 

“ก็ด่าถึงไง! จะทําไมวะ?” ชายร่างกํายําตะโกนพลางหยิบถังขยะใกล้มือขว้างด้วยความแค้น

“ก็มาสิวะ!”

 

หม่าเหลาเอ๋อถูกลากคอไปอย่างไม่ทันตั้งตัวและถูกของแข็งฟาดเข้าที่หัว

“ไอ้พวกเวรตะไล!”

หลังจากนั้นทุกคนก็รุมกระทืบหม่าเหลาเอ๋อ เว้นแต่หมิงเฟยที่ยืนนิ่งงัน

 

ขณะนั้นไม่เพียงหม่าเหลาเอ๋อที่รู้สึกหงุดหงิดเมื่อได้พบพวกเขาแต่หยินหมิงเฟยรู้สึกกังวลและเสียใจเล็กน้อย เพราะจุดประสงค์ไม่ได้อยากมาสร้างปัญหา แต่ยังไงความคับข้องใจระหว่างทั้งสองฝ่าย ก็ยังไม่ได้สะสางสาเหตุที่หม่าเหลาเอ๋อตัดมือพรรคพวกของเขาก็มาจากเหตุผลที่ไปล้ําเส้นก่อน

หลังจากทั้งสองฝ่ายปะทะกัน จ่าวเปาก็ตกตะลึงไปพักใหญ่เขาถอยหลังไปสองก้าวก่อนยกมือข้างหนึ่งขึ้นแล้วตะโกน “อย่านะฉันไม่เกี่ยวอะไรด้วยนะโว้ย…”

“ผัวะ!”

จ่าวเปายังพูดไม่ทันจบ เขาก็โดนชายคนหนึ่งชกเข้าที่เบ้าหน้าเต็มแรง

“ไอ้พวกป่าเถื่อน! ฉันบอกว่าฉันไม่เกี่ยวอะไรกับพวกนั้น…” จ่าวเปาตะโกนขณะปิดจมูกของตน

“หมับ!”

ชายสองคนขึ้นมาและดึงคอเสื้อจ่าวเปาทันที

ห้าวินาทีต่อมาจ่าวเปาก็ตะโกนเรียกเพื่อนของเขาสุดเสียง “นี่พวกนาย! มาช่วยฉันอัดหน้ามันหน่อย!”

ชั้นล่าง

 

ฉินอวี่กับแมวเฒ่าที่เพิ่งไปส่งสองสาวและกําลังเดินขึ้นไปชั้นบน

“แย่แล้ว! มีคนทะเลาะวิวาทกันอยู่ชั้นบน” บริกรรีบวิ่งมาตะโกนบอกทุกคนชั้นล่าง “ไปเรียกยามมาหน่อยเร็ว!”

“ห้ะ! ไอ้พวกปัญญาอ่อนห้องไหนเมาแล้วชกต่อยกันในที่แบบนี้เนี่ย?” ฉินอวี่กระซิบด้วยรอยยิ้มขณะหันไปทางแมวเฒ่า

 

Special District 9 เขตพิเศษที่ 9

Special District 9 เขตพิเศษที่ 9

บทนำ โลกกำลังเกิดหายนะ…ภัยพิบัติร้ายแรงทำลายล้างมนุษยชาติ…สัตว์กลายพันธุ์…ผู้คนขาดแคลนอาหาร…สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม…ยุคสมัยและอารยธรรมถูกทำลาย… ‘ฉินอวี่’ ชายหนุ่มผู้อาศัยอยู่ในเขตพัฒนาซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นดินแดนไร้กฎ ด้วยสภาพแวดล้อมอันน่าสังเวช…ทั้งถนนผุผัง ระบบบำบัดน้ำเสียใช้การไม่ได้ รวมไปถึงบ้านเก่าทรุดโทรมและกลิ่นปฏิกูลคละคลุ้ง ฉินอวี่จึงลาออกจากงานและตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อซื้อสัญชาติเข้าไปอยู่ในเขตปกครองพิเศษที่เก้า…หวังให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม! ภายในเขตพิเศษที่เก้า…ฉินอวี่เข้าสมัครงานในสำนักงานตำรวจนครบาลเมืองพื้นทมิฬเพื่อดิ้นรนเพื่อหาเลี้ยงชีพ แม้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ทว่าในความโชคร้ายยังมีความโชคดีซ่อนอยู่…เขาได้เจอเพื่อนร่วมงานผู้หวังดีที่เปรียบเสมือนเพื่อนแท้… ระหว่างทำงานในสำนักงานตำรวจ…ฉินอวี่ได้เผชิญการกดขี่มากมายและก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยไหวพริบเฉียบแหลมและแผนการอันชาญฉลาด เขาจะสร้างตำนานบทใหม่ของตนเองได้อย่างไร…โปรดติดตามต่อใน…เขตพิเศษที่เก้า!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset