Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 – ตอนที่ 277 การล้างแค้นอันโหดเหี้ยมในคืน หิมะโปรยปราย

ตอนที่ 277 การล้างแค้นอันโหดเหี้ยมในคืน หิมะโปรยปราย
ในบ้านชั้นเดียว
หลี่หยานนิ่งอึ้งอยู่กับที่และมองไปทางพวก ฉีหลินด้วยแววตาที่ตกตะลึง โดยนึกไม่ถึงว่าคนพ วกนี้ก็คือคนส่งของ
“ไม่รู้จักฉันแล้วเหรอ?” ฉีหลินเดินเข้าไปข้าง หน้าก่อนจะยิ้มพลางถาม
“แกคือคนส่งของใช่ไหม?” หลี่หยานรู้สึกตัวขึ้น
“ใช่” ฉีหลินพยักหน้า
“แล้วแกคิดจะทําอะไร?” หลี่หยานหรี่ตามองดู ฉีหลิน และสีหน้าของเขาในตอนนั้นก็ไม่มีความรู้ อนรนสักเท่าไหร่
“ฉีกๆ !”
“ปัง!”
หลี่หยานเพิ่งจะพูดจบ ลูกน้องจากเหยากวงคน หนึ่งก็ลั่นปืนไปที่ขาของเขาทันที
“ตึง!”
หลี่หยานล้มลงกับพื้นทันที ตัวของเขาพิงอยู่ บนโซฟาและเจ็บจนเกร็งไปทั้งตัว
“ฉันจะฆ่าแก!” นายทหารที่อยู่ข้างๆ เอื้อมมือ ไปหยิบปืนที่อยู่ระหว่างเอว
“ตึง!”
ทันใดนั้นชาเหมิงก็ออกตัวเตะไปที่หน้าอกของ อีกฝ่ายทันที
จนนายทหารกระเด็นออกไปไกล
“พลัก”
ขาซ้ายของชาเหมิงยันไปบนโซฟาจากนั้นก็ใช้ ดันตัวเองขึ้นมาก่อนจะใช้เข่าขวาที่อยู่กลาง อากาศออกแรงเตะไปด้านบนอย่างรวดเร็ว
“พลั่ก!”
เข่าชนเข้ากับคางของทหารหนุ่มจนเกิดเสียง ดังขึ้น เขาเงยหน้าขึ้นฟ้าตัวของเขากระเด็นถอยห ลังขณะนั่งคุกเข่าอยู่แล้วนั่งลงไปกับพื้นเต็มตูด และน็อคตายไปทันที
ชาเหมิงหมุนคอก่อนจะยื่นมือไปชี้หน้าทหาร หนุ่มสองนายพลางตะโกนด่า “ถ้าขยับแม้แต่นิด เดียวฉันจะฆ่าพวกแกให้หมด”
“อย่าขยับ ห้ามใครขยับทั้งนั้น!”
หลี่หยานนั่งคุกเข่าอยู่ข้างโซฟา โบกมือห้ามลู กน้องของตัวเองพลางเงยหน้าขึ้นพูดกับฉีหลิน “กล้ามาหาเรื่องถึงกองพันแบบนี้ ฉันคงดูถูกพวก แกเกินไปสินะ
ฉีหลินหันมองไปรอบๆ ก่อนจะโบกมือส่ง สัญญาณลับให้ลูกน้องสองคนที่อยู่ข้างหลัง “พวกแกคงเฝ้าอยู่ข้างนอกตั้งนานแล้วสินะ?”
“สี่ชั่วโมง” ฉีหลินตอบกลับ
“มีความอดทนสูงเหมือนกันนี่ทหารของฉันไป กันหมดแล้วพวกแกยังไม่ขยับเลยสักนิด”
“ใช่ เรารอนายดื่มกันอยู่น่ะ” ฉีหลินก้มหน้าเช็ ดเลือดที่มือของตัวเอง
“ดี ฉันยอมแล้ว” หลี่หยานกัดฟันพยักหน้า “เอา แบบนี้ฉันจะแบ่งให้นายส่วนหนึ่ง แล้วให้เรื่องมัน จบลง”
“เหอะๆ” ฉีหลินหัวเราะ
“แกหัวเราะอะไรวะ?”
“สินค้าน่ะฉันไม่เอาแล้วฆ่านายไว้ขําคนอื่นดี กว่า” ฉีหลินใช้มือซ้ายควักปืนออกมาทันที
แววตาของหลี่หยานอึ้งทึ่ง “แกกล้ายุ่งกับคน ของแนวป้องกันร่วมแบบนี้ แกไม่อยากจะมีที่ยืน อีกต่อไปแล้วใช่ไหม? !”
“ตอนไม่มีที่ยืนในฮ่งเจียงแต่ต่อมาฉันก็ออกมา ได้สบายดีนี่” ฉีหลินตะโกนพร้อมกับจ้องตาเขม็ง
“แม่งเอ๊ย!” หลี่หยานโบกมือพลางตะโกน “หยางหนาน!”
เพิ่งจะสิ้นเสียง จู่ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นจา กชั้นบนและขณะเดียวกันก็เป็นครั้งแรกที่นายท หารที่อยู่ในห้องอีกสองคนชักปืนออกมา
“พลั่ก!”
ช่าเหมิงหันไปด้านข้างพร้อมยืนขาเตะขาออก ไปจนนายทหารกระเด็นออกไปไกลครึ่งเมตรแล้ว ลูกน้องอีกสองคนก็เดินเข้าไปยิงกระหน่ําทันที 3694 ในชั้นบน
หยางหนานที่ใส่เสื้อโค้ตตัวใหญ่มีเหงื่อเต็ม หน้าผากไปหมด ด้านข้างมีลูกน้องของตัวเอง ขนาบข้างอยู่ยืนนิ่งพลางตะโกนอยู่ตรงบันได “ลง ไปบุกมัน!”
เพิ่งจะสิ้นเสียงทั้งสามคนรีบวิ่งลงไปหลี่หยาน ทันที
“แอ๊ด!”
ประตูห้องถูกเปิดออก เด็กหนุ่มสองคนที่เคย โดนฉีหลินตักเตือนไปก่อนหน้านี้กระหน่ํายิงเข้า มาอย่างบ้าคลั่ง
“ปังปังปัง!”
เสียงกระหน่ํายิงปืนดังขึ้น บันไดไม้ที่ใช้ขึ้นไป บนดาดฟ้าของชั้นหนึ่งถูกยิงจนกลายเป็นรูพรุน ไปหมด
“พี่หนาน เราลงไปไม่ได้ พวกมันมีกองกําลัง เยอะมาก” ชายหนุ่มเดินเข้ามาก่อนจะตะโกน เสียงดัง
หยางหนานก้มหน้าพลางเหลือบมอง “ให้ตาย เถอะ ช่วยไม่ได้แล้ว รีบหนีไปทางชั้นไป เร็ว
เข้า!”
ในห้องของบ้านชั้นเดียว
ฉีหลินชักปืนก่อนจะก้มหน้าถาม “ชาเหมิง ฉัน ล่อไอ้คนที่อยู่ข้างบนออกมาได้แล้ว นายรีบไป
ซะ!”
ชาเหมิงได้ยินจึงหันหน้ากลับไปจากนั้นจึงเดิ นออกจากห้องทันที
“จ้องแกมาตั้งสี่ชั่วโมง แล้วฉันจะไม่รู้เหรอว่า ในห้องนี้มีทั้งหมดกี่คน? ห้ะ?!” ฉีหลินก้มหน้าลง พลางเอาปากกระบอกปืนเล็งไปหาหลี่หยานก่อน ตะโกนอย่างชัดถ้อยชัดคํา “แล้วมันมีประโยชน์ อะไรไหม? ในตอนที่แกต้องคุกเข่าก็ต้องทําอยู่ดี ไม่ใช่รึไง?!”
“พวก สินค้าพวกนั้นฉันให้นายหมดเลย” หลี่ห ยานเริ่มร้อนรนใจ
“แกไม่อยากแย่งเหรอไม่อยากรวยเหรอ? งั้น ฉันไม่เอาแล้ว ให้นายละกัน” ฉีหลินเอาปืนจ่อหัว หลี่หยานก่อนจะลั่นไกปืนทันที
“ปังปังปัง!”
เสียงปืนหลายนัดดังสนั่นแล้วหัวของหลี่หยาน ก็พรุนไปหมดจากนั้นเขาก็ล้มลงไปบนพื้นทันที
ภายในห้อง นายทหารอีกสองคนที่เหลือรวมถึง ลูกน้องที่อยู่กับหลี่หยานและไม่ได้ขึ้นไปชั้นบน ทั้งหมดพากันหันไปมองด้วยใบหน้ายิ้งทิ้ง 3694
รองผู้บังคับบัญชาบอกให้เอาถึงตายก็เอาถึงตา ยจริงๆ แล้วถ้างั้นตัวเองจะมาเร่งงานดึกๆ
“ลูกพี่ ก็คือว่าเรา…”
ลูกน้องคนหนึ่งคุกเข่าลงกับพื้นด้วยสีหน้าหวา ดกลัว “ก็คือ…ก็คือเราแค่มาช่วย คนบงการหลัก ไม่ใช่เรา”
ฉีหลินมองไปทางทหารหนุ่มก่อนจะยกขาเตะ ปลอกกระสุนข้างๆ “นายมาจากกองพันที่สองใช่ ไหม?”
ทหารกลืนน้ําลายพลางพยักหน้า
“โทรหากองพันที่สองแล้วบอกไปว่าพวกนาย ถูกทําร้าย” ฉีหลินออกคําสั่ง ทุกคนฟังแล้วก็พากันนิ่งไป
ข้างนอกห้อง
“ตึก ตึก!
หยางหนานพาชายหนุ่มสองคนกระโดดลงมา จากชั้นบนจากนั้นก็วิ่งออกไปที่ลานกว้างด้วย ความตื่นตระหนก
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ทั้งสามคนก็ออกไปถึงนอก ลานกว้างก่อนจะรีบวิ่งไปอยู่ข้างรถของตัวเองจน หอบไปหมด”บขึ้น!”
เสียงเร่งเครื่องดังขึ้นก่อนจะมีรถออฟโรดคัน หนึ่งมุ่งตรงเข้ามา
ทั้งสามคนนิ่งไปจากนั้นจึงรีบแยกย้ายกันไป หลบซ่อนแล้วยิงกระหน่ําทันที
รถออฟโรดเร่งความเร็วขึ้น ในขณะเดียวกันก็ ยังเปิดไฟสูงอีกด้วย ตัวรถถูกยิงคนเป็นรอยกระ สุนไปหมดในขณะที่ขับมาด้วยความเร็วสูง
ทั้งสามคนถูกรถไล่ตามจนวิ่งไปถึงพื้นที่ร้าง ของหมู่บ้าน และตอนนี้กระสุนของพวกเขาก็หมด พอดี
ภายในรถ
ชาเหมิงเอื้อมมือไปถึงมีดพกออกมาก่อนจะขับ ไปข้างหน้าประมาณยี่สิบเมตร พอรถจอดลงก็ เปิดประตูแล้วกระโดดลงไปทันที
สีหน้าของหยางหนานซีดเซียวไปหมด แววตา ทั้งคู่จ้องมองชาเหมิงพลางตะโกนด่า”แม่งเอ๊ย! บุกมันซะ มันไม่มีปืน!
พูดจบ ลูกน้องทั้งสองคนก็ดึกมีดออกมาจาก เอวแล้วพุ่งเข้าไปทันที
ไม่กี่วินาทีผ่านไป
ชาเหมิงโน้มตัวลงเบ่งกล้ามเนื้อแขนซ้ายก็ขึ้น มาเป็นมัดๆ จากนั้นเขาก็ชกออกไปทันที”ซึ่ง! “
ลูกน้องที่เพิ่งจะพุ่งเข้าเข้าไปก็ถูกต่อยจนกระ เด็นออกไปไกลจนเห็นเดือนเห็นดาวทันที” พลั่ก! “
ชาเหมิงเดินเข้าไปพร้อมกับใช้มีดจี้ไปที่ คอ”ตึง!”
เสียงดังมาจากทางด้านซ้าย ชาเหมิงเดิน เข้าไปแย่งพอดึงออกมาได้แล้วจึงหันหลังก่อนจะ ใช้เท้าขวาเตะไปทางด้านหลังอย่างเต็มแรง”ปีง!”
ชาเหมิงยกเท้าเตะขมับของอีกฝ่ายก่อนที่ชาย คนนั้นจะล้มสลบลงทันที
ตรงทางข้างหน้า หยางหนานกําลังจะเดินเข้า มาแต่ชะงักไปซะก่อนจากนั้นจึงถอยหลังด้วยใบ หน้าอึ้งทึ่ง”ฉันต่อให้แกวิ่งไปก่อนสักห้าสิบเมตร แล้วฉันค่อยวิ่งตามนาย“ชาเหมิงเดินเข้าไปด้วย สีหน้าเฉยชา ”วิ่งไปสิ!”
หยางหนานกัดฟัน”พวก ที่นี่ก็มีแค่เราสองคน นายบอกจํานวนเงินมาเถอะ” “พูดหาพ่อแกสิ! คน ที่ถูกแกฆ่าน่ะเป็นลูกน้องฉันครึ่งหนึ่ง ชาเหมิงตะ โกนอย่างโมโหก่อนจะถือมีดพุ่งเข้าไป”แม่ง เอ๊ย! “หยางหนานตะโกนด้วยความโมโหก่อนจะ วิ่งหนีไป
ในห้องของตึกเดี่ยวสองชั้น”ฮัลโหล ฮัลโหล… เราถูกทําร้ายอยู่ในลานกว้าง พวกนายรีบมาเร็ว เข้า! “นายทหารถือสายโทรศัพท์พลางตะ โกน”เหมือนว่าอีกฝ่ายจะเป็นพวกถูกปล้นสินค้าน่
พูดจบฉีหลินก็กดวางสายทันที” สรุปแล้วแก หมายความว่ายังไงกันแน่?“นายทหารถามพร้อม กับใบหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อ”ฉันแค่จะบอกนาย ว่าฉันเป็นคนจัดการแนวป้องกันร่วมของพวกแก เอง ฉีหลินชี้ไปที่หน้าของฝ่ายตรงข้าม”ไม่ใช่แค่ ครั้งนี้เท่านั้น ครั้งหน้าถ้าใครกล้ายุ่งกับสินค้าของ ฉันอีก ขอแค่ฉันไม่ตาย ฉันก็จะฆ่าให้หมด”ปัง ปังปัง!“ฉีหลินกระหน่ํายิงนายทหารไปหลายนัด ก่อนจะโบกมือพลางตะโกน”จัดการพวกที่เข้ามา ให้หมด”
ในอาคารสํานักงานตํารวจเขตซ่งเจียง
ฉินอวี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องทํางาน มือขวาคืบ บุหรี่ไฟฟ้าเอาไว้ส่วนมือซ้ายก็เคาะไปที่โต๊ะเบาๆ พลางขมวดคิ้วครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

Special District 9 เขตพิเศษที่ 9

Special District 9 เขตพิเศษที่ 9

Special District 9 เขตพิเศษที่ 9
Status: Ongoing
บทนำ โลกกำลังเกิดหายนะ…ภัยพิบัติร้ายแรงทำลายล้างมนุษยชาติ…สัตว์กลายพันธุ์…ผู้คนขาดแคลนอาหาร…สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม…ยุคสมัยและอารยธรรมถูกทำลาย… ‘ฉินอวี่’ ชายหนุ่มผู้อาศัยอยู่ในเขตพัฒนาซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นดินแดนไร้กฎ ด้วยสภาพแวดล้อมอันน่าสังเวช…ทั้งถนนผุผัง ระบบบำบัดน้ำเสียใช้การไม่ได้ รวมไปถึงบ้านเก่าทรุดโทรมและกลิ่นปฏิกูลคละคลุ้ง ฉินอวี่จึงลาออกจากงานและตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อซื้อสัญชาติเข้าไปอยู่ในเขตปกครองพิเศษที่เก้า…หวังให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม! ภายในเขตพิเศษที่เก้า…ฉินอวี่เข้าสมัครงานในสำนักงานตำรวจนครบาลเมืองพื้นทมิฬเพื่อดิ้นรนเพื่อหาเลี้ยงชีพ แม้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ทว่าในความโชคร้ายยังมีความโชคดีซ่อนอยู่…เขาได้เจอเพื่อนร่วมงานผู้หวังดีที่เปรียบเสมือนเพื่อนแท้… ระหว่างทำงานในสำนักงานตำรวจ…ฉินอวี่ได้เผชิญการกดขี่มากมายและก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยไหวพริบเฉียบแหลมและแผนการอันชาญฉลาด เขาจะสร้างตำนานบทใหม่ของตนเองได้อย่างไร…โปรดติดตามต่อใน…เขตพิเศษที่เก้า!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset