SSS-Class Suicide Hunter – ตอนที่ 17: บทลงโทษบาดแผลในใจ (2)

 

[เริ่มการลงโทษ]

 

 

[บาดแผลในใจของมอนสเตอร์หญิงสาวจากเพลิงนรกกำลังถูกสร้างขึ้น]

 

 

คฤหาสน์สไตล์ตะวันตกสุดหรู

 

 

ฉันอยู่ที่นี่

 

 

ไม่คำว่า “อยู่ที่นี่” อาจไม่เหมาะ ฉันไม่ได้อยู่ที่นี่ มันเป็นเพียงสติสัมปชัญญะของฉันที่ล่องลอยไปมาราวกับผีที่มองลงไปที่สิ่งต่างๆจากมุมมองบุคคลที่สาม

 

 

‘นี่มันอะไร?’

 

 

ฉันถึงกับผงะ

 

 

‘เกิดอะไรขึ้น…?’

 

 

-ชะ ช่วยหนูด้วย

 

 

จากนั้นฉันก็ได้ยินเสียง

 

 

เด็กตัวเล็กๆนั่งอยู่ที่มุมล็อบบี้ชั้น 2 ตอนแรกฉันคิดว่าเธอคุยกับฉัน แต่เธอกำลังอ้อนวอนคนอื่นอยู่

 

 

– ได้โปรดช่วยหนูด้วย…หนูหิว…ขออะไรสักอย่าง…ของกิน ได้โปรด…

 

 

– อืม

 

 

กับคนที่แต่งตัวเหมือนขุนนาง

 

 

– เด็กกำพร้าอย่างแกเป็นภัยพิบัติของอาณาจักรนี้

 

 

– ของกินสักอย่าง…

 

 

– ถูกทอดทิ้ง แกกัดกินสังคม แกไม่ได้แม้แต่ทำงานด้วยซ้ำ แกเร่ร่อนจากหมู่บ้านหนึ่งไปอีกหมู่บ้านหนึ่งเพื่อแพร่กระจายโรคร้ายของแก ฉันเป็นผู้คุมเรือนจำที่แยกคนแบบแกออกจากอาณาจักร

 

 

ในไม่ช้าข้อมูลก็ไหลเข้าสู่สมองของฉัน

 

 

ช่วงเวลาที่มีคนเร่ร่อนจำนวนมากเพราะอาหารไม่เพียงพอ ขุนนางรวบรวมเด็กกำพร้าเข้ามาในเคหะสถานของเขา เขาให้เงินแก่บ้านเด็กกำพร้าเป็นหน้าฉาก เขาเป็นที่รู้จักในฐานะชายผู้ร่ำรวย นักธุรกิจที่ยิ่งใหญ่และเป็นคนที่มีความรู้กว้างขวาง

 

 

– คนอื่นมองว่าแกคือเศษเดน แต่ฉันนั้นแตกต่าง

 

 

แต่ในคฤหาสน์หลังใหญ่นี้

 

 

– ฉันจะให้ความรู้กับพวกแก

 

 

ขุนนางคนนี้เป็นเพียงเผด็จการบ้าอำนาจ

 

 

– ผู้ที่มองหาอาหารเพียงเพราะหิวคือสัตว์ร้าย แน่นอน แกเกิดมาในท้องทุ่งเหมือนสัตว์ร้าย แต่แกไม่ควรใช้ชีวิตแบบนั้น

 

 

– หนูหิว… หิว…

 

 

– อดทนซะ แม้ว่าแกจะหิว แต่ก็อดกลั้นเอาไว้ อดทนและกลับกลายเป็นมนุษย์

 

 

ขุนนางยิ้ม มันเป็นรอยยิ้มที่ใจกว้าง เขาเป็นคนที่สามารถยิ้มให้เด็กตัวผอมที่มองเห็นแผงซี่โครงได้

 

 

– จงกลับใจ!

 

 

ไอ้บ้าที่เรียกคนอื่นว่าไอ้บ้า

 

 

– อ๊าาาาา!

 

 

– โอ ยัยแม่มดน้อย! ภัยพิบัติในอาณาจักรของเรา! ไม่ต้องกังวล พระเจ้าไม่เคยหันหลังให้เจ้า เช่นเดียวกับพระองค์ท่าน ฉันจะไม่หันหลังให้เหล่าลูกแกะ!

 

 

– เจ็บ…มัน…เจ็บ…

 

 

นักบวชของพระเจ้าคนหนึ่งยกค้อนขึ้น

 

 

– ภาวนา!

 

 

ช่วงเวลาที่ความบ้าคลั่งถูกห่อหุ้มด้วยความเมตตา

 

 

เสียงกรีดร้องยังไม่จบลงภายในคฤหาสน์

 

 

-หนูหิว…

 

 

ความอดอยาก

 

 

– หนูไม่ชอบ…โปรดยกโทษให้หนูด้วย…ทำไม…ยกโทษให้หนู…

 

 

การทรมาน

 

 

-อา ขอบคุณค่ะ…. นายท่านผู้เมตตา…ให้รางวัลสำหรับการอดทนต่อความเจ็บปวด ตามสัญญา ขอบคุณค่ะ ขอบคุณนายท่านผู้ใจดี…

 

 

การล้างสมอง

 

 

เด็กกำพร้าเหล่านี้ถูกนำมาเหมือนซากศพและถูกทิ้งให้เป็นซากศพ เป็นเพียงความตายของคนที่กำลังจะตาย แต่เด็กๆไม่สามารถจินตนาการถึงความเจ็บปวดระหว่างทั้งสองอย่างนี้ได้

 

 

หลายสิบ หลายร้อย หลายพันคนที่อยู่ในคฤหาสน์แห่งนี้

 

 

และหลายสิบ หลายร้อย หลายพันคนที่ตายในที่แห่งนี้

 

 

‘…’

 

 

ฉันจ้องมองไปด้วยสายตาที่ว่างเปล่ากับภาพตรงหน้า

 

 

‘อะไรกัน…’

 

 

-อี๋ นี่มันอะไร?

 

 

ฉันสามารถทำใจขอบคุณใครบางคนได้

 

 

‘นายก็มองเห็นด้วยเหรอ? ฉันนึกว่านายไม่อยู่ที่นี่ซะแล้ว’

 

 

– ฉันมองดูตั้งแต่แรกแล้ว ฉันไม่รู้ว่านายก็อยู่ที่นี่ ฉันไม่เห็นนาย

 

 

‘อืม ดูเหมือนสติสัมปชัญญะของเราทั้งคู่ำกำลังล่องลอยไปมา… ’

 

 

– นั่นไม่ใช่ปัญหาของฉัน

 

 

แบ ฮุรยองพูด

 

 

– ไอ้โรคจิตบ้าอะไรพวกนี้มันอะไรกัน? ฮ่า พวกเขากำลังให้ความรู้แก่มนุษย์? ไอ้พวกเชี่ยที่ไม่ใช่มนุษย์พวกนี้จะให้ความรู้แก่มนุษย์คนอื่นได้ยังไง?

 

 

‘…นี่คงเป็นต้นกำเนิดของบอสชั้น 10’

 

 

ก่อนที่สติของฉันจะหลุดลอยมาที่นี่ เสียงได้ำบอก [การตายของศัตรูที่ฆ่าคุณกำลังจะถูกกระตุ้นอีกครั้ง]

 

 

ถ้าเป็นศัตรูที่ฆ่าฉัน…มันคือตุ๊กตาตัวจริงที่ซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งในที่อยู่ของไฟนรก นั่นหมายความว่านี่คือบาดแผลในใจที่ตุ๊กตานั่นจำได้

 

 

‘ฉันไม่รู้เลย’

 

 

ฉันกระซิบ

 

 

‘มอนสเตอร์นั้นเป็นมนุษย์เมื่อมันยังมีชีวิตอยู่…’

 

 

– ไม่ใช่มอนสเตอร์ทุกตัวที่เป็นแบบนั้น มี แต่พวกบอสเท่านั้นที่เป็นเช่นนี้ โดยปกติบอสมอนสเตอร์จะสร้างจากมนุษย์จากโลกอื่น

 

 

ฉันได้ยินเขาเดาะลิ้นของเขา

 

 

– จะพืชกินคนหรือวีรบุรุษของโลกอื่น ของแบบนั้น เมื่อนายเข้าชั้น 11 มันจะโหดร้ายกว่านี้มาก

 

 

‘อะไรนะ? ทำไมนายถึงไม่บอกฉันล่ะ?’

 

 

– ก็นายไม่ได้ถาม

 

 

‘…’

 

 

เขาหน้าด้านจนฉันพูดไม่ออก

 

 

– ชิ แต่ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน

 

 

‘อะไรนะ?’

 

 

– ต้นกำเนิดที่นายพูดถึง ฉากที่เราเห็นตอนนี้ ฉันรู้ว่าบอสมอนสเตอร์มาจากโลกอื่น แต่ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกมัน ไม่ใช่ว่าฉันมีพลังจิตซะหน่อย…

 

 

แบ ฮุรยองพึมพำกับตัวเอง

 

 

– ฉันรู้สึกแย่เป็นบ้า

 

 

เห็นด้วย

 

 

‘…ใช่’

 

 

สิ่งที่เลวร้ายกว่านี้อาจเกิดขึ้นไปทั่วทั้งโลกในขณะนี้ แต่การจินตนาการและการมองเห็นด้วยตาตัวเองนั้นแตกต่างออกไป

 

 

ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ดี

 

 

-ฟะ ไฟไหม้!

 

 

แต่ [บาดแผลในใจ] ก็จะสิ้นสุดลงในไม่ช้า

 

 

คนรับใช้บางคนบังเอิญทำเชิงเทียนล้ม คนรับใช้เดินผ่านไปโดยไม่สังเกตเห็น เป็นเวลากลางคืน เมื่อผู้คนกำลังนอนหลับ ไฟค่อยๆลุกลามอย่างเงียบๆ มันสายเกินไปเมื่อมีคนตระหนักถึงเปลวไฟ

 

 

– แค่กแค่ก!

 

 

– เราต้องหนี…

 

 

เปลวไฟก็ลุกโหม

 

 

เชือกในห้องใต้ดินถูกไฟไหม้ โซ่ลุกเป็นไฟ กุญแจมือรอบๆเหล่าเด็กกำพร้าก็ถูกไฟไหม้เช่นกันและเด็กถูกล้างสมอง เด็กที่ถูกทรมานและเด็กที่อดอาหารก็ถูกเผา มันเหมือนกับไฟที่เผาผลาญการล้างสมอง ความทรมานและความอดอยาก

 

 

-อา…

 

 

เหล่าเด็กๆเปิดปากของพวกเขา โซ่ที่ลุกไหม้ถูกคล้องไว้รอบข้อเท้าและข้อมือของเด็กๆ พวกเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เหมือนตุ๊กตา พวกเขาทำได้แค่กรีดร้อง

 

 

ถึงอย่างนั้น ฉันก็ได้ยินมัน

 

 

– หนูไม่อยากตาย

 

 

ความเกลียดชัง

 

 

-หนูหิว

 

 

-หนูอยากมีชีวิต…

 

 

– นายท่านผู้เมตตา

 

 

ความเสียใจและความคับแค้นถาโถมเข้ามาในสติสัมปชัญญะของฉัน

 

 

– หนูไม่ได้ทำอะไรผิด หนูนไม่มีครอบครัว แต่มันก็ยังโอเค หนูยังอยากจะเล่นอีกสักหน่อย แต่…

 

 

– นั่นไม่ใช่ความผิดของเรา หนูรู้สึกผิด หนูไม่ได้ทำมัน

 

 

– หนูหิว

 

 

คฤหาสน์ไหม้อยู่ในเปลวเพลิง

 

 

โคมไฟระย้าบริเวณล็อบบี้ชั้น 1 ถูกไฟไหม้ ห้องนอนของเจ้าของบ้านถูกไฟไหม้ ม่านที่สวยงาม รวมไปถึงบันไดหินที่ทอดลงไปชั้นใต้ดิน

 

 

– หนูไม่อยากตาย

 

 

แกร่กก-

 

 

ประกายไฟลอยคละคลุ้งไปทุกที่

 

 

ตอนนี้สิ่งที่ฉันเห็นคือคฤหาสน์ที่ลุกเป็นไฟจากที่ไกลๆ

 

 

[บทลงโทษบาดแผลในใจได้สิ้นสุดแล้ว]

 

 

[บทลงโทษกำลังจะสิ้นสุดลง]

 

 

และฉันก็กลับไปก่อนหน้านี้หนึ่งวัน

 

.

.

.

.

.

.

 

เมื่อฉันลืมตาตื่น

 

 

แบ ฮุรยองกับฉันไม่ได้พูดอะไร เราทั้งสองนั่งบนเตียงอย่างเงียบๆ

 

 

แทนที่จะตกใจ…มันเป็นเพราะเราไม่รู้ว่าจะตอบสนองอย่างไร

 

 

– อืม…

 

 

หลังจากนั้นไม่นานแบ ฮุรยองก็เกาหัวของเขา

 

 

– มันช่างน่าเศร้าและน่าเวทนาจริงๆ ฉันเห็นมันแล้ว แต่ไม่มีอะไรที่เราสามารถทำได้ใช่มั้ย?

 

 

“ว้าว นั่นคือสิ่งแรกที่นายพูดหรอ? นายนี่มัน…”

 

 

-ช่าย ถูกแล้ว นิสัยของฉันมันแย่

 

 

เขาขมวดคิ้ว คุณเคยเห็นกอริลลาโกรธไหม? มันคล้ายกับสิ่งที่ฉันได้เห็นอยู่

 

 

– แต่ความจริงก็มักจะเลวร้ายแบบนี้แหละ! บอสชั้น 10 เป็นเพียงมอนสเตอร์และเด็กๆได้ตายไปแล้วในอีกโลกหนึ่ง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว ซอมบี้ นายทำอะไรได้บ้าง!

 

 

“ …”

 

 

– และถ้ามันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในหอคอยนี้ นายสามารถตาย 4000 หรือ 5,000 ครั้งเพื่อกลับไปยังอดีต แต่นั่นมันเกิดขึ้นในโลกอื่นในเวลาที่ต่างกัน แม้ว่าฉันจะยังมีชีวิตอยู่ แต่มันก็แก้ไขอะไรไม่ได้! แม้ว่าฉันจะเป็นเทพดาบ ไม่ใช่ จักรพรรดิดาบแต่ฉันก็ทำอะไรไม่ได้

 

 

เขาพูดถูก

 

 

– ค้นหาราชาตัวจริงและตามล่ามัน ฆ่ามัน

 

 

แบ ฮุรยองพูด

 

 

– แล้วไปที่ชั้น 11 นั่นเป็นวิธีเดียวที่นายจะเคลียร์ชั้น 20,30,40 และ 50 ได้ หากนายตัดสินใจที่จะเป็นฮันเตอร์อันดับต้นๆ จัดการกับเรื่องพวกนี้ด้วยตัวนายเอง!

 

 

เขาพูดถูกอีกครั้ง

 

 

แต่

 

 

“จักรพรรดิเพลิงก็คิดแบบนั้นเช่นกัน”

 

 

– หืม?

 

 

“จักรพรรดิเพลิง จักรพรรดิอึ ยู ซูฮา มนุษย์คนแรกที่ฉันล่า”

 

 

ฉันลุกขึ้นจากเตียง

 

 

ฉันผูกถงนอนไว้ที่กระเป๋าเป้ ฉันสะพายกระเป๋าเป้ ฉันสอดดาบเข้าไปที่เอวของฉัน กล่าวอีกนัยหนึ่ง ฉันก็พร้อมที่จะปีนหอคอยแล้ว ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด แต่ฉันก็ยังคงเตรียมพร้อมในฐานะฮันเตอร์

 

 

“นายรู้รึเปล่า? ยู ซูฮาจะหาตุ๊กตาตัวจริงและระเบิดหัวแน่ๆ 100% โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย ไม่ว่าเขาจะเห็นบาดแผลในอดีตหรือไม่ “

 

 

– แล้วไง?

 

 

“ฉันไม่อยากเป็นเหมือนไอ้จักรพรรดิเพลิงระยำนั่น”

 

 

ฉันปีนขึ้นไปบนหอคอย

 

 

เหมือนครั้งที่แล้ว ฉันหลอกผู้ดูแลประตู

 

 

และฉันก็เดินมาที่หน้าคฤหาสน์อีกครั้ง

 

 

คฤหาสน์ขุนนางหลังเดียวกันกับที่ฉันเห็นในบาดแผลในใจ

 

 

– เฮ้! นายไม่ใช่เด็กนะ นายไม่อยากจัดการบอสนั่นเพียงเพราะนายไม่อยากเป็นแบบคนคนนั้น? นายจะทำอะไร นายต้องกำจัดบอสเพื่อเคลียร์ด่านนี้ ไอ้ซอมบี้โง่!

 

 

“ใครพูดอย่างนั้น”

 

 

– อะไรนะ?

 

 

ฉันวางมือบนประตูและบ่นกับตัวเอง

 

 

“บ้าเอ้ย ฉันมันโง่”

 

 

– นายกำลังพูดถึงอะไร?

 

 

“ฉันมันโง่! และนายก็โง่พอๆกัน เชี่ย เรากำลังบอกว่าเราจำไม่ได้”

 

 

แบ ฮุรยองขมวดคิ้วของเขา

 

 

– เจ้าหนูนี่เสียสติหรือเปล่า? นายโง่เป็นเรื่องจริงที่คนรู้ทั้งโลก แต่ทำไมฉันถึงโง่ด้วย? ฉันเติบโตขึ้นมาโดยได้ยินว่าฉันเป็นอัจฉริยะ

 

 

“สกิลการ์ด”

 

 

“สกิลการ์ดคลาส S ที่เราไม่ได้เลือก นายจำได้ไหม? ขีดจำกัดของไฟนรก นายเป็นบ้าแล้วบอกว่าฉันต้องเลือกสกิลอันนี้”

 

 

– หืม? แน่นอนฉันจำได้

 

 

– เฮอะ เจ้าซอมบี้นี่ ก็ได้…ฟังซะ

 

 

แบ ฮุรยองทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ฉันเดาว่าการที่เขาถูกเรียกว่าอัจฉริยะเมื่อตอนที่เขายังเด็กไม่ใช่เรื่องโกหก เขาพูดทุกอย่างบนการ์ดโดยไม่ผิดพลาดแม้แต่คำเดียว

 

 

[กับดักนรก]

 

 

แรงก์: S-

 

 

เอฟเฟค: ความเสียใจ ความไม่พอใจ ความข้องใจ สิ่งที่คุณทำไม่ได้ ำเสียงที่คุณพูดไม่ได้ ความปรารถนาที่คุณไม่สามารถบรรลุได้ เผาพวกมันไปทั้งหมด ‘มันร้อน’ ร้อนไหม? ทำให้โลกลุกเป็นไฟ ‘ฉันรู้สึกเหมือนว่ากำลังจะตาย’ ตาย ถ้าคุณต้องการ ออร่าไฟนรกจะแผดเผาทุกสิ่งในระยะ 2 กม. จากตัวคุณ

 

 

ไม่มีใครสามารถออกจากนรกได้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากคุณ

 

 

ไม่มี

 

 

※อย่างไรก็ตาม คุณต้องอยู่ในรัศมี

 

 

ฉันฟังเงียบๆสกิลและถามเขา

 

 

“จักรพรรดิดาบ นายไม่คิดว่ามีอะไรผิดปกติหรอ?”

 

 

– พระเจ้า นี่มันน่าหงุดหงิดชะมัด มันมีอะไร!

 

 

“ส่วนสุดท้าย”

 

 

[ไม่มีใครสามารถออกจากนรกได้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากคุณ]

 

 

[ไม่มี]

 

 

ฉันพูด

 

 

“มันบอกว่าไม่มีทางรอดจากกับดักนรกได้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากบอสมอนสเตอร์ ไม่มี แล้วผู้เล่นที่ท้าทายชั้น 10 จะสามารถหนีออกมาได้ยังไง”

 

 

– หา?

 

 

แบ ฮุรยองกระพริบตา

 

 

-…หา? เชี่ยเอ้ย ทำไมกันละ?

 

 

มีกิลด์หนึ่งที่ชื่อมังกรดำ

 

 

ผู้ที่ควบคุมพวกเขาคือฮันเตอร์อันดับ 2 แม่มดดำท้าทายชั้น 10 นับครั้งไม่ถ้วน ทุกครั้งที่ทำเธอล้มเหลว อันดับ 2 ล้มเหลว แต่ฮันเตอร์ทุกคนรอดชีวิตกลับมาทุกครั้ง

 

 

พวกเขาทั้งหมดรอดกลับมา

 

 

“มันไม่สมเหตุสมผล”

 

 

ฉันใส่แรงลงบนแขนของฉัน

 

 

มันค่อยๆเปิดออก

 

 

“มันบอกว่าการหนีนั้นเป็นไปไม่ได้ถ้าบอสไม่ปล่อยออกมา นั่นคือสกิล… และพวกเขาหนีออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบทุกครั้งแม้ว่าจะไม่ได้ฆ่าบอสก็ตาม ทุกคนเลย ดังนั้นมันจึงไม่สมเหตุสมผล”

 

 

– แล้ว…เกิดอะไรขึ้น?

 

 

“เชี่ย มันก็มีเพียงคำตอบเดียวไง!”

 

 

แอ๊ดดดดด

 

 

ประตูเปิดออกเหมือนจะต้อนรับฉันพร้อมกับอ้าแขนกว้าง

 

 

“บอสปล่อยพวกเขาไป! ปล่อยให้หนี!”

 

 

บอสชั้น 10

 

 

ชั้นที่มนุษยชาติไม่สามารถเอาชนะได้

 

 

คฤหาสน์เพลิงนรกได้เผยโฉมให้เห็น

 

 

[คุณเข้าสู่ด่านบอสแล้ว]

 

 

[ผู้ท้าทายคือฮันเตอร์คิม กงจา , 1 คน]

 

 

[ขอให้โชคสถิตกับท่าน]

 

 

“นายบอกไม่ได้หรือไงว่าเธอปล่อยให้พวกเขาหนีไปได้ยังไง? บอสพวกนี้ พวกเขาไม่เคยคิดจะเป็นศัตรูกับฮันเตอร์”

 

 

– …..

 

 

[ด่านบอสกำลังเริ่มต้นขึ้น]

 

 

“พวกเขาแค่อยากเล่นกับคนที่มา”

 

 

เทียน

 

 

เทียนเอียงไปทั่วทั้งคฤหาสน์ ไฟเริ่มลุกขึ้นจากที่ที่พวกมันเอียงลงมา

 

 

-ฮ่าๆๆๆ!

 

 

เหล่าตุ๊กตาออกมาจากเปลวไฟ พวกมันไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เหมือนถูกอะไรบางอย่างมัดไว้ พวกเขาทำแค่หันหัวมามองฉัน

 

 

– คุณจะเล่นกับฉันไหม?

 

 

ตุ๊กตาเปิดปาก

 

 

– วิ่งไล่จับ? เกมดอกไม้บาน? ซ่อนหา?

 

 

– เล่นซ่อนหากันเถอะ!

 

 

– ไปกันเถอะ! เล่นกับเรา! เล่นซ่อนหากับเรา!

 

 

-ฮ่าๆๆๆ!

 

 

แล้วเปลวไฟก็ลุกโหม

 

 

โคมไฟระย้าบริเวณล็อบบี้ชั้น 1 ถูกไฟไหม้ ห้องนอนของเจ้าของบ้านถูกไฟไหม้ ม่านที่สวยงาม รวมไปถึงบันไดหินที่ทอดลงไปชั้นใต้ดิน

 

 

ท่ามกลางทุกสิ่ง เด็กๆที่ตอนนี้เป็นตุ๊กตาก็ไม่ได้ถูกไหม้

 

 

“ …”

 

 

ฉันกัดฟันแน่น

 

 

“เอาล่ะ ฉันจะเล่นกับพวกเธอ”

 

 

[สกิลของคุณกำลังเปิดใช้งาน]

 

 

ทักษะที่ฉันได้รับจากความตายครั้งสุดท้ายของฉัน ฉันใช้ทักษะภูมิคุ้มกันไฟกับตัวเอง ทันทีที่เปิดใช้งานทักษะ ความร้อนก็ถูกชะล้างออกจากร่างกายของฉัน ฉันหายใจได้สะดวก การมองเห็นของฉันก็ชัดเจนขึ้นจากควันเล็กน้อยด้วย

 

 

ฉันสามารถเห็นใบหน้าของตุ๊กตาได้

 

 

-ฮะ?

 

 

– เขาไม่ได้ถูกเผา

 

 

ใบหน้าของตุ๊กตาต่างกันทั้งหมด พวกเขาไม่มีการแสดงออกใดๆ แต่ฉันรู้

 

 

– ไม่ร้อนเหรอ?

 

 

– ผู้ชายประหลาด

 

 

– คุณสามารถเล่นได้ไหม?

 

 

– คุณจะเล่นกับเราไหม?

 

 

ฉันพยักหน้าอีกครั้ง

 

 

“ได้ ซ่อนหา ระวังด้วยล่ะ ฉันไม่เคยแพ้เล่นซ่อนหาตอนที่ฉันยังเด็ก”

 

 

– ฮิฮิฮิ! เขาเป็นคนประหลาด!

 

 

– ซ่อนเร็ว! ทุกคนซ่อนเร็ว!

 

 

ตุ๊กตาทั้งหมดหัวเราะ ฉันบอกให้พวกเขาซ่อนตัว แต่ไม่มีใครขยับ หลายสิบ หลายร้อย เด็กหลายพันคนกำลังหัวเราะ

 

 

– พร้อมหรือยัง จะหาแล้วนะ พร้อมหรือยัง…

 

 

การเล่นซ่อนหาเริ่มขึ้น

 

 

“…เจอแล้ว”

 

 

– ผิด! ไม่ใช่ฉัน!

 

 

ตุ๊กตาหายไปในขณะที่หัวเราะ

 

 

-ไม่ใช่ฉัน!

 

 

-ไม่ใช่ฉัน!

 

 

ทุกที่ที่ฉันหันไปมีแต่ตุ๊กตา พวกมันมีนับไม่ถ้วน ฉันไล่ดูพวกมันทีละตัวและทุกตัว

 

 

– …

 

 

หนึ่ง

 

 

– นี่มัน…

 

 

อีกหนึ่ง

 

 

– นี่มัน…การส่งวิญญาณ

 

 

แบ ฮุรยองพึมพำ

 

 

การส่งวิญญาณ

 

 

ปลอบปะโลมวิญญาณของคนตาย

 

 

ฉันเดินไปรอบๆคฤหาสน์อย่างเงียบๆ ฉันเห็นโซ่ที่ล่ามเด็กกำพร้าและฉันเห็นกุญแจมือของพวกเขา โซ่และกุญแจมืออยู่ที่ไหนก็มีตุ๊กตาอยู่ที่นั่นเสมอ

 

 

เพลิงโหมหนักกว่าเดิม

 

 

-ไม่ใช่ฉัน! ไม่ใช่ฉัน! ไม่ใช่ฉัน!

 

 

-ไม่! ไม่ ฉัน…ฉัน…ฉัน…ไม่ใช่…ฉัน…

 

 

-ไม่…ใช่…ฉัน…

 

 

เวลาผ่านไป

 

 

ในที่สุดฉันก็อยู่ในห้องใต้ดิน ฉันเพิ่งก้าวลงบันไดหินยาว มีตุ๊กตาอยู่ที่บันไดด้วย พวกเขาทั้งหมดกองสุมกัน ราวกับว่าพวกเขาหยุดขณะพยายามหนีจากห้องใต้ดิน

 

 

“ …”

 

 

ฉันพาเด็กๆทุกคนที่ล้มตรงบันไดมายืนอยู่หน้าตุ๊กตาตัวสุดท้าย

 

 

– คุณจะเล่นกับเราไหม?

 

 

ตุ๊กตาตัวนั้นพิงกำแพงอยู่

 

 

รอบๆตัวตุ๊กตามีค้อน เคียว และตะปู

 

 

-…

 

 

ฉันค่อยๆเดินเข้าไปหามัน

 

 

และฉันก็แตะหัวตุ๊กตาที่ไม่มีผม

 

 

“โป้ง”

 

 

ศีรษะของเด็กที่สร้างไฟนรกนี้มีขนาดเล็ก เล็กพอที่จะจับได้ด้วยมือข้างเดียว

 

 

“ …ตอนนี้เจอเธอเรียบร้อยแล้ว เด็กน้อย”

 

 

มีเพียงความเงียบ

 

 

ตุ๊กตาเงยหน้าขึ้น เช่นเดียวกับตุ๊กตาตัวอื่นๆ ตุ๊กตาก็ไม่แสดงสีหน้า ตุ๊กตาพูดด้วยใบหน้าที่ไม่แสดงอาการใดๆ

 

 

-คนใจดี

 

 

นั่นไม่ใช่สิ่งเดียวที่เธอพูดออกมา ริมฝีปาก ผิวหนัง ตา ร่างของเธอหล่นลงมาเหมือนแผ่นกระดาษ ไฟกลืนตุ๊กตาทันทีและเธอยังคงพูดเหมือนแผ่นเสียงที่พัง

 

 

-ขอบคุณค่ะ

 

 

และมันก็ละลาย

 

 

-ขอบคุณค่ะ

 

 

ตุ๊กตาลุกไหม้ โซ่หลอมละลาย กุญแจมือ ค้อน เคียวและตะปู มันถูกไหม้จนหมด แม้แต่ร่องรอยของความอดอยาก ไฟที่เกาะกินชีวิตของมันมอดหายไปจนหมด

 

 

ความตายหายไปอย่างไร้ร่องรอย

 

 

ฉันยืนอยู่คนเดียวท่ามกลางคฤหาสน์ที่รกร้าง

 

 

“…”

 

 

เป็นเวลาหลายปี

 

 

[ขอแสดงความยินดี]

 

 

เป็นเวลาหลายปีที่มนุษยชาติไม่สามารถเคลียร์สถานที่นี้ได้

 

 

[ด่านปกติเคลียร์]

 

 

[ด่านลับเคลียร์]

 

 

[คุณเคลียร์ด่านโบนัสแล้ว]

 

 

วันนั้น ชั้นที่ 10 ของหอคอยได้ถูกเคลียร์ลงแล้ว

SSS-Class Suicide Hunter – ตอนที่ 17: บทลงโทษบาดแผลในใจ (2)

SSS-Class Suicide Hunter – ตอนที่ 17: บทลงโทษบาดแผลในใจ (2)

 

[เริ่มการลงโทษ]

 

 

[บาดแผลในใจของมอนสเตอร์หญิงสาวจากเพลิงนรกกำลังถูกสร้างขึ้น]

 

 

คฤหาสน์สไตล์ตะวันตกสุดหรู

 

 

ฉันอยู่ที่นี่

 

 

ไม่คำว่า “อยู่ที่นี่” อาจไม่เหมาะ ฉันไม่ได้อยู่ที่นี่ มันเป็นเพียงสติสัมปชัญญะของฉันที่ล่องลอยไปมาราวกับผีที่มองลงไปที่สิ่งต่างๆจากมุมมองบุคคลที่สาม

 

 

‘นี่มันอะไร?’

 

 

ฉันถึงกับผงะ

 

 

‘เกิดอะไรขึ้น…?’

 

 

-ชะ ช่วยหนูด้วย

 

 

จากนั้นฉันก็ได้ยินเสียง

 

 

เด็กตัวเล็กๆนั่งอยู่ที่มุมล็อบบี้ชั้น 2 ตอนแรกฉันคิดว่าเธอคุยกับฉัน แต่เธอกำลังอ้อนวอนคนอื่นอยู่

 

 

– ได้โปรดช่วยหนูด้วย…หนูหิว…ขออะไรสักอย่าง…ของกิน ได้โปรด…

 

 

– อืม

 

 

กับคนที่แต่งตัวเหมือนขุนนาง

 

 

– เด็กกำพร้าอย่างแกเป็นภัยพิบัติของอาณาจักรนี้

 

 

– ของกินสักอย่าง…

 

 

– ถูกทอดทิ้ง แกกัดกินสังคม แกไม่ได้แม้แต่ทำงานด้วยซ้ำ แกเร่ร่อนจากหมู่บ้านหนึ่งไปอีกหมู่บ้านหนึ่งเพื่อแพร่กระจายโรคร้ายของแก ฉันเป็นผู้คุมเรือนจำที่แยกคนแบบแกออกจากอาณาจักร

 

 

ในไม่ช้าข้อมูลก็ไหลเข้าสู่สมองของฉัน

 

 

ช่วงเวลาที่มีคนเร่ร่อนจำนวนมากเพราะอาหารไม่เพียงพอ ขุนนางรวบรวมเด็กกำพร้าเข้ามาในเคหะสถานของเขา เขาให้เงินแก่บ้านเด็กกำพร้าเป็นหน้าฉาก เขาเป็นที่รู้จักในฐานะชายผู้ร่ำรวย นักธุรกิจที่ยิ่งใหญ่และเป็นคนที่มีความรู้กว้างขวาง

 

 

– คนอื่นมองว่าแกคือเศษเดน แต่ฉันนั้นแตกต่าง

 

 

แต่ในคฤหาสน์หลังใหญ่นี้

 

 

– ฉันจะให้ความรู้กับพวกแก

 

 

ขุนนางคนนี้เป็นเพียงเผด็จการบ้าอำนาจ

 

 

– ผู้ที่มองหาอาหารเพียงเพราะหิวคือสัตว์ร้าย แน่นอน แกเกิดมาในท้องทุ่งเหมือนสัตว์ร้าย แต่แกไม่ควรใช้ชีวิตแบบนั้น

 

 

– หนูหิว… หิว…

 

 

– อดทนซะ แม้ว่าแกจะหิว แต่ก็อดกลั้นเอาไว้ อดทนและกลับกลายเป็นมนุษย์

 

 

ขุนนางยิ้ม มันเป็นรอยยิ้มที่ใจกว้าง เขาเป็นคนที่สามารถยิ้มให้เด็กตัวผอมที่มองเห็นแผงซี่โครงได้

 

 

– จงกลับใจ!

 

 

ไอ้บ้าที่เรียกคนอื่นว่าไอ้บ้า

 

 

– อ๊าาาาา!

 

 

– โอ ยัยแม่มดน้อย! ภัยพิบัติในอาณาจักรของเรา! ไม่ต้องกังวล พระเจ้าไม่เคยหันหลังให้เจ้า เช่นเดียวกับพระองค์ท่าน ฉันจะไม่หันหลังให้เหล่าลูกแกะ!

 

 

– เจ็บ…มัน…เจ็บ…

 

 

นักบวชของพระเจ้าคนหนึ่งยกค้อนขึ้น

 

 

– ภาวนา!

 

 

ช่วงเวลาที่ความบ้าคลั่งถูกห่อหุ้มด้วยความเมตตา

 

 

เสียงกรีดร้องยังไม่จบลงภายในคฤหาสน์

 

 

-หนูหิว…

 

 

ความอดอยาก

 

 

– หนูไม่ชอบ…โปรดยกโทษให้หนูด้วย…ทำไม…ยกโทษให้หนู…

 

 

การทรมาน

 

 

-อา ขอบคุณค่ะ…. นายท่านผู้เมตตา…ให้รางวัลสำหรับการอดทนต่อความเจ็บปวด ตามสัญญา ขอบคุณค่ะ ขอบคุณนายท่านผู้ใจดี…

 

 

การล้างสมอง

 

 

เด็กกำพร้าเหล่านี้ถูกนำมาเหมือนซากศพและถูกทิ้งให้เป็นซากศพ เป็นเพียงความตายของคนที่กำลังจะตาย แต่เด็กๆไม่สามารถจินตนาการถึงความเจ็บปวดระหว่างทั้งสองอย่างนี้ได้

 

 

หลายสิบ หลายร้อย หลายพันคนที่อยู่ในคฤหาสน์แห่งนี้

 

 

และหลายสิบ หลายร้อย หลายพันคนที่ตายในที่แห่งนี้

 

 

‘…’

 

 

ฉันจ้องมองไปด้วยสายตาที่ว่างเปล่ากับภาพตรงหน้า

 

 

‘อะไรกัน…’

 

 

-อี๋ นี่มันอะไร?

 

 

ฉันสามารถทำใจขอบคุณใครบางคนได้

 

 

‘นายก็มองเห็นด้วยเหรอ? ฉันนึกว่านายไม่อยู่ที่นี่ซะแล้ว’

 

 

– ฉันมองดูตั้งแต่แรกแล้ว ฉันไม่รู้ว่านายก็อยู่ที่นี่ ฉันไม่เห็นนาย

 

 

‘อืม ดูเหมือนสติสัมปชัญญะของเราทั้งคู่ำกำลังล่องลอยไปมา… ’

 

 

– นั่นไม่ใช่ปัญหาของฉัน

 

 

แบ ฮุรยองพูด

 

 

– ไอ้โรคจิตบ้าอะไรพวกนี้มันอะไรกัน? ฮ่า พวกเขากำลังให้ความรู้แก่มนุษย์? ไอ้พวกเชี่ยที่ไม่ใช่มนุษย์พวกนี้จะให้ความรู้แก่มนุษย์คนอื่นได้ยังไง?

 

 

‘…นี่คงเป็นต้นกำเนิดของบอสชั้น 10’

 

 

ก่อนที่สติของฉันจะหลุดลอยมาที่นี่ เสียงได้ำบอก [การตายของศัตรูที่ฆ่าคุณกำลังจะถูกกระตุ้นอีกครั้ง]

 

 

ถ้าเป็นศัตรูที่ฆ่าฉัน…มันคือตุ๊กตาตัวจริงที่ซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งในที่อยู่ของไฟนรก นั่นหมายความว่านี่คือบาดแผลในใจที่ตุ๊กตานั่นจำได้

 

 

‘ฉันไม่รู้เลย’

 

 

ฉันกระซิบ

 

 

‘มอนสเตอร์นั้นเป็นมนุษย์เมื่อมันยังมีชีวิตอยู่…’

 

 

– ไม่ใช่มอนสเตอร์ทุกตัวที่เป็นแบบนั้น มี แต่พวกบอสเท่านั้นที่เป็นเช่นนี้ โดยปกติบอสมอนสเตอร์จะสร้างจากมนุษย์จากโลกอื่น

 

 

ฉันได้ยินเขาเดาะลิ้นของเขา

 

 

– จะพืชกินคนหรือวีรบุรุษของโลกอื่น ของแบบนั้น เมื่อนายเข้าชั้น 11 มันจะโหดร้ายกว่านี้มาก

 

 

‘อะไรนะ? ทำไมนายถึงไม่บอกฉันล่ะ?’

 

 

– ก็นายไม่ได้ถาม

 

 

‘…’

 

 

เขาหน้าด้านจนฉันพูดไม่ออก

 

 

– ชิ แต่ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน

 

 

‘อะไรนะ?’

 

 

– ต้นกำเนิดที่นายพูดถึง ฉากที่เราเห็นตอนนี้ ฉันรู้ว่าบอสมอนสเตอร์มาจากโลกอื่น แต่ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกมัน ไม่ใช่ว่าฉันมีพลังจิตซะหน่อย…

 

 

แบ ฮุรยองพึมพำกับตัวเอง

 

 

– ฉันรู้สึกแย่เป็นบ้า

 

 

เห็นด้วย

 

 

‘…ใช่’

 

 

สิ่งที่เลวร้ายกว่านี้อาจเกิดขึ้นไปทั่วทั้งโลกในขณะนี้ แต่การจินตนาการและการมองเห็นด้วยตาตัวเองนั้นแตกต่างออกไป

 

 

ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ดี

 

 

-ฟะ ไฟไหม้!

 

 

แต่ [บาดแผลในใจ] ก็จะสิ้นสุดลงในไม่ช้า

 

 

คนรับใช้บางคนบังเอิญทำเชิงเทียนล้ม คนรับใช้เดินผ่านไปโดยไม่สังเกตเห็น เป็นเวลากลางคืน เมื่อผู้คนกำลังนอนหลับ ไฟค่อยๆลุกลามอย่างเงียบๆ มันสายเกินไปเมื่อมีคนตระหนักถึงเปลวไฟ

 

 

– แค่กแค่ก!

 

 

– เราต้องหนี…

 

 

เปลวไฟก็ลุกโหม

 

 

เชือกในห้องใต้ดินถูกไฟไหม้ โซ่ลุกเป็นไฟ กุญแจมือรอบๆเหล่าเด็กกำพร้าก็ถูกไฟไหม้เช่นกันและเด็กถูกล้างสมอง เด็กที่ถูกทรมานและเด็กที่อดอาหารก็ถูกเผา มันเหมือนกับไฟที่เผาผลาญการล้างสมอง ความทรมานและความอดอยาก

 

 

-อา…

 

 

เหล่าเด็กๆเปิดปากของพวกเขา โซ่ที่ลุกไหม้ถูกคล้องไว้รอบข้อเท้าและข้อมือของเด็กๆ พวกเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เหมือนตุ๊กตา พวกเขาทำได้แค่กรีดร้อง

 

 

ถึงอย่างนั้น ฉันก็ได้ยินมัน

 

 

– หนูไม่อยากตาย

 

 

ความเกลียดชัง

 

 

-หนูหิว

 

 

-หนูอยากมีชีวิต…

 

 

– นายท่านผู้เมตตา

 

 

ความเสียใจและความคับแค้นถาโถมเข้ามาในสติสัมปชัญญะของฉัน

 

 

– หนูไม่ได้ทำอะไรผิด หนูนไม่มีครอบครัว แต่มันก็ยังโอเค หนูยังอยากจะเล่นอีกสักหน่อย แต่…

 

 

– นั่นไม่ใช่ความผิดของเรา หนูรู้สึกผิด หนูไม่ได้ทำมัน

 

 

– หนูหิว

 

 

คฤหาสน์ไหม้อยู่ในเปลวเพลิง

 

 

โคมไฟระย้าบริเวณล็อบบี้ชั้น 1 ถูกไฟไหม้ ห้องนอนของเจ้าของบ้านถูกไฟไหม้ ม่านที่สวยงาม รวมไปถึงบันไดหินที่ทอดลงไปชั้นใต้ดิน

 

 

– หนูไม่อยากตาย

 

 

แกร่กก-

 

 

ประกายไฟลอยคละคลุ้งไปทุกที่

 

 

ตอนนี้สิ่งที่ฉันเห็นคือคฤหาสน์ที่ลุกเป็นไฟจากที่ไกลๆ

 

 

[บทลงโทษบาดแผลในใจได้สิ้นสุดแล้ว]

 

 

[บทลงโทษกำลังจะสิ้นสุดลง]

 

 

และฉันก็กลับไปก่อนหน้านี้หนึ่งวัน

 

.

.

.

.

.

.

 

เมื่อฉันลืมตาตื่น

 

 

แบ ฮุรยองกับฉันไม่ได้พูดอะไร เราทั้งสองนั่งบนเตียงอย่างเงียบๆ

 

 

แทนที่จะตกใจ…มันเป็นเพราะเราไม่รู้ว่าจะตอบสนองอย่างไร

 

 

– อืม…

 

 

หลังจากนั้นไม่นานแบ ฮุรยองก็เกาหัวของเขา

 

 

– มันช่างน่าเศร้าและน่าเวทนาจริงๆ ฉันเห็นมันแล้ว แต่ไม่มีอะไรที่เราสามารถทำได้ใช่มั้ย?

 

 

“ว้าว นั่นคือสิ่งแรกที่นายพูดหรอ? นายนี่มัน…”

 

 

-ช่าย ถูกแล้ว นิสัยของฉันมันแย่

 

 

เขาขมวดคิ้ว คุณเคยเห็นกอริลลาโกรธไหม? มันคล้ายกับสิ่งที่ฉันได้เห็นอยู่

 

 

– แต่ความจริงก็มักจะเลวร้ายแบบนี้แหละ! บอสชั้น 10 เป็นเพียงมอนสเตอร์และเด็กๆได้ตายไปแล้วในอีกโลกหนึ่ง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว ซอมบี้ นายทำอะไรได้บ้าง!

 

 

“ …”

 

 

– และถ้ามันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในหอคอยนี้ นายสามารถตาย 4000 หรือ 5,000 ครั้งเพื่อกลับไปยังอดีต แต่นั่นมันเกิดขึ้นในโลกอื่นในเวลาที่ต่างกัน แม้ว่าฉันจะยังมีชีวิตอยู่ แต่มันก็แก้ไขอะไรไม่ได้! แม้ว่าฉันจะเป็นเทพดาบ ไม่ใช่ จักรพรรดิดาบแต่ฉันก็ทำอะไรไม่ได้

 

 

เขาพูดถูก

 

 

– ค้นหาราชาตัวจริงและตามล่ามัน ฆ่ามัน

 

 

แบ ฮุรยองพูด

 

 

– แล้วไปที่ชั้น 11 นั่นเป็นวิธีเดียวที่นายจะเคลียร์ชั้น 20,30,40 และ 50 ได้ หากนายตัดสินใจที่จะเป็นฮันเตอร์อันดับต้นๆ จัดการกับเรื่องพวกนี้ด้วยตัวนายเอง!

 

 

เขาพูดถูกอีกครั้ง

 

 

แต่

 

 

“จักรพรรดิเพลิงก็คิดแบบนั้นเช่นกัน”

 

 

– หืม?

 

 

“จักรพรรดิเพลิง จักรพรรดิอึ ยู ซูฮา มนุษย์คนแรกที่ฉันล่า”

 

 

ฉันลุกขึ้นจากเตียง

 

 

ฉันผูกถงนอนไว้ที่กระเป๋าเป้ ฉันสะพายกระเป๋าเป้ ฉันสอดดาบเข้าไปที่เอวของฉัน กล่าวอีกนัยหนึ่ง ฉันก็พร้อมที่จะปีนหอคอยแล้ว ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด แต่ฉันก็ยังคงเตรียมพร้อมในฐานะฮันเตอร์

 

 

“นายรู้รึเปล่า? ยู ซูฮาจะหาตุ๊กตาตัวจริงและระเบิดหัวแน่ๆ 100% โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย ไม่ว่าเขาจะเห็นบาดแผลในอดีตหรือไม่ “

 

 

– แล้วไง?

 

 

“ฉันไม่อยากเป็นเหมือนไอ้จักรพรรดิเพลิงระยำนั่น”

 

 

ฉันปีนขึ้นไปบนหอคอย

 

 

เหมือนครั้งที่แล้ว ฉันหลอกผู้ดูแลประตู

 

 

และฉันก็เดินมาที่หน้าคฤหาสน์อีกครั้ง

 

 

คฤหาสน์ขุนนางหลังเดียวกันกับที่ฉันเห็นในบาดแผลในใจ

 

 

– เฮ้! นายไม่ใช่เด็กนะ นายไม่อยากจัดการบอสนั่นเพียงเพราะนายไม่อยากเป็นแบบคนคนนั้น? นายจะทำอะไร นายต้องกำจัดบอสเพื่อเคลียร์ด่านนี้ ไอ้ซอมบี้โง่!

 

 

“ใครพูดอย่างนั้น”

 

 

– อะไรนะ?

 

 

ฉันวางมือบนประตูและบ่นกับตัวเอง

 

 

“บ้าเอ้ย ฉันมันโง่”

 

 

– นายกำลังพูดถึงอะไร?

 

 

“ฉันมันโง่! และนายก็โง่พอๆกัน เชี่ย เรากำลังบอกว่าเราจำไม่ได้”

 

 

แบ ฮุรยองขมวดคิ้วของเขา

 

 

– เจ้าหนูนี่เสียสติหรือเปล่า? นายโง่เป็นเรื่องจริงที่คนรู้ทั้งโลก แต่ทำไมฉันถึงโง่ด้วย? ฉันเติบโตขึ้นมาโดยได้ยินว่าฉันเป็นอัจฉริยะ

 

 

“สกิลการ์ด”

 

 

“สกิลการ์ดคลาส S ที่เราไม่ได้เลือก นายจำได้ไหม? ขีดจำกัดของไฟนรก นายเป็นบ้าแล้วบอกว่าฉันต้องเลือกสกิลอันนี้”

 

 

– หืม? แน่นอนฉันจำได้

 

 

– เฮอะ เจ้าซอมบี้นี่ ก็ได้…ฟังซะ

 

 

แบ ฮุรยองทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ฉันเดาว่าการที่เขาถูกเรียกว่าอัจฉริยะเมื่อตอนที่เขายังเด็กไม่ใช่เรื่องโกหก เขาพูดทุกอย่างบนการ์ดโดยไม่ผิดพลาดแม้แต่คำเดียว

 

 

[กับดักนรก]

 

 

แรงก์: S-

 

 

เอฟเฟค: ความเสียใจ ความไม่พอใจ ความข้องใจ สิ่งที่คุณทำไม่ได้ ำเสียงที่คุณพูดไม่ได้ ความปรารถนาที่คุณไม่สามารถบรรลุได้ เผาพวกมันไปทั้งหมด ‘มันร้อน’ ร้อนไหม? ทำให้โลกลุกเป็นไฟ ‘ฉันรู้สึกเหมือนว่ากำลังจะตาย’ ตาย ถ้าคุณต้องการ ออร่าไฟนรกจะแผดเผาทุกสิ่งในระยะ 2 กม. จากตัวคุณ

 

 

ไม่มีใครสามารถออกจากนรกได้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากคุณ

 

 

ไม่มี

 

 

※อย่างไรก็ตาม คุณต้องอยู่ในรัศมี

 

 

ฉันฟังเงียบๆสกิลและถามเขา

 

 

“จักรพรรดิดาบ นายไม่คิดว่ามีอะไรผิดปกติหรอ?”

 

 

– พระเจ้า นี่มันน่าหงุดหงิดชะมัด มันมีอะไร!

 

 

“ส่วนสุดท้าย”

 

 

[ไม่มีใครสามารถออกจากนรกได้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากคุณ]

 

 

[ไม่มี]

 

 

ฉันพูด

 

 

“มันบอกว่าไม่มีทางรอดจากกับดักนรกได้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากบอสมอนสเตอร์ ไม่มี แล้วผู้เล่นที่ท้าทายชั้น 10 จะสามารถหนีออกมาได้ยังไง”

 

 

– หา?

 

 

แบ ฮุรยองกระพริบตา

 

 

-…หา? เชี่ยเอ้ย ทำไมกันละ?

 

 

มีกิลด์หนึ่งที่ชื่อมังกรดำ

 

 

ผู้ที่ควบคุมพวกเขาคือฮันเตอร์อันดับ 2 แม่มดดำท้าทายชั้น 10 นับครั้งไม่ถ้วน ทุกครั้งที่ทำเธอล้มเหลว อันดับ 2 ล้มเหลว แต่ฮันเตอร์ทุกคนรอดชีวิตกลับมาทุกครั้ง

 

 

พวกเขาทั้งหมดรอดกลับมา

 

 

“มันไม่สมเหตุสมผล”

 

 

ฉันใส่แรงลงบนแขนของฉัน

 

 

มันค่อยๆเปิดออก

 

 

“มันบอกว่าการหนีนั้นเป็นไปไม่ได้ถ้าบอสไม่ปล่อยออกมา นั่นคือสกิล… และพวกเขาหนีออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบทุกครั้งแม้ว่าจะไม่ได้ฆ่าบอสก็ตาม ทุกคนเลย ดังนั้นมันจึงไม่สมเหตุสมผล”

 

 

– แล้ว…เกิดอะไรขึ้น?

 

 

“เชี่ย มันก็มีเพียงคำตอบเดียวไง!”

 

 

แอ๊ดดดดด

 

 

ประตูเปิดออกเหมือนจะต้อนรับฉันพร้อมกับอ้าแขนกว้าง

 

 

“บอสปล่อยพวกเขาไป! ปล่อยให้หนี!”

 

 

บอสชั้น 10

 

 

ชั้นที่มนุษยชาติไม่สามารถเอาชนะได้

 

 

คฤหาสน์เพลิงนรกได้เผยโฉมให้เห็น

 

 

[คุณเข้าสู่ด่านบอสแล้ว]

 

 

[ผู้ท้าทายคือฮันเตอร์คิม กงจา , 1 คน]

 

 

[ขอให้โชคสถิตกับท่าน]

 

 

“นายบอกไม่ได้หรือไงว่าเธอปล่อยให้พวกเขาหนีไปได้ยังไง? บอสพวกนี้ พวกเขาไม่เคยคิดจะเป็นศัตรูกับฮันเตอร์”

 

 

– …..

 

 

[ด่านบอสกำลังเริ่มต้นขึ้น]

 

 

“พวกเขาแค่อยากเล่นกับคนที่มา”

 

 

เทียน

 

 

เทียนเอียงไปทั่วทั้งคฤหาสน์ ไฟเริ่มลุกขึ้นจากที่ที่พวกมันเอียงลงมา

 

 

-ฮ่าๆๆๆ!

 

 

เหล่าตุ๊กตาออกมาจากเปลวไฟ พวกมันไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เหมือนถูกอะไรบางอย่างมัดไว้ พวกเขาทำแค่หันหัวมามองฉัน

 

 

– คุณจะเล่นกับฉันไหม?

 

 

ตุ๊กตาเปิดปาก

 

 

– วิ่งไล่จับ? เกมดอกไม้บาน? ซ่อนหา?

 

 

– เล่นซ่อนหากันเถอะ!

 

 

– ไปกันเถอะ! เล่นกับเรา! เล่นซ่อนหากับเรา!

 

 

-ฮ่าๆๆๆ!

 

 

แล้วเปลวไฟก็ลุกโหม

 

 

โคมไฟระย้าบริเวณล็อบบี้ชั้น 1 ถูกไฟไหม้ ห้องนอนของเจ้าของบ้านถูกไฟไหม้ ม่านที่สวยงาม รวมไปถึงบันไดหินที่ทอดลงไปชั้นใต้ดิน

 

 

ท่ามกลางทุกสิ่ง เด็กๆที่ตอนนี้เป็นตุ๊กตาก็ไม่ได้ถูกไหม้

 

 

“ …”

 

 

ฉันกัดฟันแน่น

 

 

“เอาล่ะ ฉันจะเล่นกับพวกเธอ”

 

 

[สกิลของคุณกำลังเปิดใช้งาน]

 

 

ทักษะที่ฉันได้รับจากความตายครั้งสุดท้ายของฉัน ฉันใช้ทักษะภูมิคุ้มกันไฟกับตัวเอง ทันทีที่เปิดใช้งานทักษะ ความร้อนก็ถูกชะล้างออกจากร่างกายของฉัน ฉันหายใจได้สะดวก การมองเห็นของฉันก็ชัดเจนขึ้นจากควันเล็กน้อยด้วย

 

 

ฉันสามารถเห็นใบหน้าของตุ๊กตาได้

 

 

-ฮะ?

 

 

– เขาไม่ได้ถูกเผา

 

 

ใบหน้าของตุ๊กตาต่างกันทั้งหมด พวกเขาไม่มีการแสดงออกใดๆ แต่ฉันรู้

 

 

– ไม่ร้อนเหรอ?

 

 

– ผู้ชายประหลาด

 

 

– คุณสามารถเล่นได้ไหม?

 

 

– คุณจะเล่นกับเราไหม?

 

 

ฉันพยักหน้าอีกครั้ง

 

 

“ได้ ซ่อนหา ระวังด้วยล่ะ ฉันไม่เคยแพ้เล่นซ่อนหาตอนที่ฉันยังเด็ก”

 

 

– ฮิฮิฮิ! เขาเป็นคนประหลาด!

 

 

– ซ่อนเร็ว! ทุกคนซ่อนเร็ว!

 

 

ตุ๊กตาทั้งหมดหัวเราะ ฉันบอกให้พวกเขาซ่อนตัว แต่ไม่มีใครขยับ หลายสิบ หลายร้อย เด็กหลายพันคนกำลังหัวเราะ

 

 

– พร้อมหรือยัง จะหาแล้วนะ พร้อมหรือยัง…

 

 

การเล่นซ่อนหาเริ่มขึ้น

 

 

“…เจอแล้ว”

 

 

– ผิด! ไม่ใช่ฉัน!

 

 

ตุ๊กตาหายไปในขณะที่หัวเราะ

 

 

-ไม่ใช่ฉัน!

 

 

-ไม่ใช่ฉัน!

 

 

ทุกที่ที่ฉันหันไปมีแต่ตุ๊กตา พวกมันมีนับไม่ถ้วน ฉันไล่ดูพวกมันทีละตัวและทุกตัว

 

 

– …

 

 

หนึ่ง

 

 

– นี่มัน…

 

 

อีกหนึ่ง

 

 

– นี่มัน…การส่งวิญญาณ

 

 

แบ ฮุรยองพึมพำ

 

 

การส่งวิญญาณ

 

 

ปลอบปะโลมวิญญาณของคนตาย

 

 

ฉันเดินไปรอบๆคฤหาสน์อย่างเงียบๆ ฉันเห็นโซ่ที่ล่ามเด็กกำพร้าและฉันเห็นกุญแจมือของพวกเขา โซ่และกุญแจมืออยู่ที่ไหนก็มีตุ๊กตาอยู่ที่นั่นเสมอ

 

 

เพลิงโหมหนักกว่าเดิม

 

 

-ไม่ใช่ฉัน! ไม่ใช่ฉัน! ไม่ใช่ฉัน!

 

 

-ไม่! ไม่ ฉัน…ฉัน…ฉัน…ไม่ใช่…ฉัน…

 

 

-ไม่…ใช่…ฉัน…

 

 

เวลาผ่านไป

 

 

ในที่สุดฉันก็อยู่ในห้องใต้ดิน ฉันเพิ่งก้าวลงบันไดหินยาว มีตุ๊กตาอยู่ที่บันไดด้วย พวกเขาทั้งหมดกองสุมกัน ราวกับว่าพวกเขาหยุดขณะพยายามหนีจากห้องใต้ดิน

 

 

“ …”

 

 

ฉันพาเด็กๆทุกคนที่ล้มตรงบันไดมายืนอยู่หน้าตุ๊กตาตัวสุดท้าย

 

 

– คุณจะเล่นกับเราไหม?

 

 

ตุ๊กตาตัวนั้นพิงกำแพงอยู่

 

 

รอบๆตัวตุ๊กตามีค้อน เคียว และตะปู

 

 

-…

 

 

ฉันค่อยๆเดินเข้าไปหามัน

 

 

และฉันก็แตะหัวตุ๊กตาที่ไม่มีผม

 

 

“โป้ง”

 

 

ศีรษะของเด็กที่สร้างไฟนรกนี้มีขนาดเล็ก เล็กพอที่จะจับได้ด้วยมือข้างเดียว

 

 

“ …ตอนนี้เจอเธอเรียบร้อยแล้ว เด็กน้อย”

 

 

มีเพียงความเงียบ

 

 

ตุ๊กตาเงยหน้าขึ้น เช่นเดียวกับตุ๊กตาตัวอื่นๆ ตุ๊กตาก็ไม่แสดงสีหน้า ตุ๊กตาพูดด้วยใบหน้าที่ไม่แสดงอาการใดๆ

 

 

-คนใจดี

 

 

นั่นไม่ใช่สิ่งเดียวที่เธอพูดออกมา ริมฝีปาก ผิวหนัง ตา ร่างของเธอหล่นลงมาเหมือนแผ่นกระดาษ ไฟกลืนตุ๊กตาทันทีและเธอยังคงพูดเหมือนแผ่นเสียงที่พัง

 

 

-ขอบคุณค่ะ

 

 

และมันก็ละลาย

 

 

-ขอบคุณค่ะ

 

 

ตุ๊กตาลุกไหม้ โซ่หลอมละลาย กุญแจมือ ค้อน เคียวและตะปู มันถูกไหม้จนหมด แม้แต่ร่องรอยของความอดอยาก ไฟที่เกาะกินชีวิตของมันมอดหายไปจนหมด

 

 

ความตายหายไปอย่างไร้ร่องรอย

 

 

ฉันยืนอยู่คนเดียวท่ามกลางคฤหาสน์ที่รกร้าง

 

 

“…”

 

 

เป็นเวลาหลายปี

 

 

[ขอแสดงความยินดี]

 

 

เป็นเวลาหลายปีที่มนุษยชาติไม่สามารถเคลียร์สถานที่นี้ได้

 

 

[ด่านปกติเคลียร์]

 

 

[ด่านลับเคลียร์]

 

 

[คุณเคลียร์ด่านโบนัสแล้ว]

 

 

วันนั้น ชั้นที่ 10 ของหอคอยได้ถูกเคลียร์ลงแล้ว

Comment

Options

not work with dark mode
Reset