SSS-Class Suicide Hunter – ตอนที่ 19: ความล้ำค่าของกาแฟหนึ่งแก้ว (1)

SSSH ตอนที่ 19: ความล้ำค่าของกาแฟหนึ่งแก้ว (1)

 

จ้อกแจ้ก จ้อกแจ้ก

 

“แล้วใครพิชิตชั้น 10 ล่ะ?”

 

“ฉันดูข่าวตลอด แต่ไม่มีข่าวคราวอะไรเลย มีแต่ข่าวลือเท่านั้น…”

 

“ไม่ใช่ว่ามังกรดำปิดบังมันไว้เหรอ? และพวกเขาจะเปิดเผยครั้งใหญ่…”

 

“ฉันบอกว่ามันคือเซียนดาบยังไงล่ะ!”

 

ในเมืองชั้นหนึ่งของหอคอย ผู้คนนั้นพลุกพล่าน

 

ผู้คนต่างดีใจที่ในที่สุดชั้น 10 ที่ยากลำบากก็ถูกเคลียร์ แต่พวกเขาทั้งหมดมารวมตัวกันที่ร้านกาแฟเพื่อพูดคุยกันว่าใครคือผู้ท้าทายที่เป็นความลับ

 

พวกเขาจะตอบสนองอย่างไร?

 

“อื้ม”

 

ถ้าพวกเขารู้ว่าคนๆนั้นนั่งอยู่ข้างๆพวกเขา

 

“หวานจัง”

 

ฉันจิบคาราเมลมัคคิอาโต้ของฉัน ร้านกาแฟแห่งนี้ที่อยู่ตรงข้ามกับซังยุลเป็นสตาร์บัคแห่งเดียวในบาบิโลน

 

ฉันชื่นชมความจริงที่ว่าแม้ว่าคุณจะไม่สามารถออกจากหอคอยได้เมื่อเข้ามา แต่ก็ยังมีแฟรนไชส์อยู่ และยังมีแฟรนไชส์ที่มีชายชราอ้วนจมูกแดงเป็นตัวนำโชค

 

นี่แหละหนา ความปรารถนาของมนุษย์!

 

“นายคิดว่ายังไงจักรพรรดิดาบ? ชัยชนะไม่หอมหวานเหรอ? ที่จริงฉันรู้สึกว่าแม้เอสเพรสโซก็มีรสชาติหวานในตอนนี้ หืม?”

 

– ….

 

“หืม หูฟังอันนี้เสียหรือเปล่า? แปลกแฮะ ไม่มีเสียงตอบกลับมาเลย”

 

ฉันเคาะหูฟังที่หู แน่นอนว่าไม่มีเสียงใดๆมาจากมัน

 

มันเป็นแค่ของหลอกตา

 

ฉันจะดูเหมือนคนบ้าถ้าฉันแค่พูดกับตัวเอง ดังนั้นฉันจึงแสร้งทำเป็นเหมือนกำลังโทรหาใครบางคน มันใช้งานได้ดีทีเดียว ไม่มีใครในร้านกาแฟมองฉันว่าฉันประหลาด

 

“จักรพรรดิดาบค้าบ? จักรพรรดิดาบ? ฮัลโหล คุณโรคจิต ฮัลโหล คนบ้า?”

 

-…อะไร

 

“อ่า ตอนนี้ฉันได้ยินนายแล้ว ฉันคิดว่าตอนนี้นายหูหนวกไปแล้ว ชิ ชิ นายทำให้ ท่านกงจาผู้สูงส่งเป็นกังวล มนุษย์ไม่ควรทำเช่นนั้น”

 

– …

 

“อ่า ใช่สิ นายเป็นผีไม่ใช่มนุษย์ ฉันมันโง่เอง ฉันลืมไปเลย โอ้ ใช่! จักรพรรดิดาบ ตอนนี้ฉันสามารถพูดกับนายแบบเป็นกันเองได้หรือยัง มันแปลกถ้าฉันพูดกับนายอย่างสุภาพเมื่อนายต้องเรียกฉันว่าท่านกงจา ใช่มั้ยล่ะ?”

 

– …บัดซบ…

 

แบ ฮุรยองลอยอยู่ตรงข้ามกับฉัน ไหล่ของเขากำลังสั่นไม่หยุด

 

– ตลอดชีวิตฉันไม่เคยสัมผัสกับความอัปยศอดสูแบบนี้มาก่อน…จักรพรรดิ…คนที่เคยถูกเรียกว่าจักรพรรดิกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง…

 

“ม่ายอะ มันเป็นเพียงมุขตลก แม้ว่าฉันจะถูกเรียกว่าท่านกงจา แต่ฉันก็ไม่สามารถพูดกับรุ่นพี่คนนี้แบบห้วนๆได้ แม้ว่าฉันจะทำได้ ใช่ฉันทำได้ จากนี้ไปฉันจะเรียกนายว่าคุณจักรพรรดิดาบ เป็นยังไง? พอใจไหม?”

 

– ฆ่าฉันเสียดีกว่า!

 

แบ ฮุรยองคำราม

 

– ไปหาสกิลใหม่และเอามายัดแทนที่ช่องสกิลกลุ่มดาวแห่งดาบ! นายทำแบบนั้นได้ แกไอ้สารเลว! ฆ่าฉันเสียที!

 

“ไม่นะ คนๆนี้พูดในสิ่งที่เขาไม่ควรพูด เราไม่ได้เป็นคู่หูหรอ คู่หูน่ะ? เพื่อนกันตลอดไป เพื่อนรัก! ใครในโลกที่จะฆ่าเพื่อนที่ดีที่สุดของพวกเขา? จากนี้เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป”

 

-ฮือ ฮือ ฮือ ช่างเถอะ… ฉันจะไม่พูดอะไร ตาเฒ่ามาร์คัส ฉันอยากกลับไปหานายเหลือเกินตาเฒ่า…

 

อา มันหอมหวานจริงๆ

 

ฉันมองขึ้นไปบนท้องฟ้าขณะจิบกาแฟของฉัน

 

[22:32:50]

 

นาฬิกาบนท้องฟ้าแสดงให้เห็นว่าหนึ่งชั่วโมงได้ผ่านไป

 

ขณะที่ฉันคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องเผยตัว

 

-เหมียว

 

“หืม?”

 

แมวสีน้ำตาลคลานมาหาฉัน มันสะอาดเกินไปที่จะแมวหลง หากมีสิ่งพิเศษเกี่ยวกับตัวมันก็คือมีทองคำสองชิ้นอยู่ที่คอของมันแทนที่จะเป็นกระดิ่ง

 

“…..”

 

อึก

 

 

ฉันสงสัยว่าฉันควรรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างไร

 

‘แมวทองคำ’

 

– หืม?

 

‘แมวทองคำ มันมีชื่อเสียงมาก … อ่า ตอนนี้คนทั่วไปคงยังไม่รู้กัน’

 

แมวตัวนี้ไม่ใช่สัตว์เลี้ยงธรรมดา

 

มันจะเป็นมาสคอตที่รู้จักกันดีของหอคอยประมาณ 5 ปีต่อมา

 

‘…ฉันไม่รู้ว่าคนใหญ่คนโตจะมาหาฉัน’

 

ฉันควรจะแสร้งทำเป็นเหมือนไม่รู้อะไรเลย

 

ฉันมองลงไปที่แมวอย่างใจเย็น ควบคุมสีหน้าของฉัน

 

“หลงทางเหรอ?”

 

-เหมียว

 

แมวสีน้ำตาลเอาหัวของมันถูที่ขาของฉัน ฉันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ถ้าฉันไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของมัน ฉันก็คิดว่ามันเป็นแมวที่เป็นมิตร

 

“แกอยากอยู่กับฉันจนกว่าเจ้าของจะมาไหม?”

 

-เมี๊ยววว

 

ฉันยกแมวขึ้นบนตัก แมวเลียอุ้งเท้าบนตักของฉันอย่างใจเย็นเหมือนกับว่ามันต้องการทำสิ่งนี้ตลอดเวลา มันยังหาวด้วยเสียงดังเหมียว

 

‘ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่านั่นเป็นคนที่คลั่งไคล้แมว การแสดงนั้นยอดเยี่ยมมาก’

 

ฉันลูบหัวแมว

 

-เมี๊ยว

 

ขณะที่ฉันกำลังฟังเสียงครางของแมว กลุ่มฮันเตอร์ก็เข้ามาหาฉัน หนึ่งในนั้นพูดกับฉัน

 

“ขอโทษครับ คุณชื่อคิม กงจา?”

 

“อืม”

 

เพียงแวบเดียวฉันก็บอกได้ว่าอุปกรณ์ของพวกเขามีราคาแพง พวกเขาไม่ได้เป็นเพียงกลุ่มอันธพาล ถ้าไม่ใช่หัวหน้ากิลด์อย่างน้อยก็เป็นผู้บริหาร กลุ่มคนประเภทนี้รวมตัวกันอยู่รอบๆร้านกาแฟ

 

ฉันแสดงบัตรประจำตัวของฉันกับพวกเขา

 

“ผมสงสัยว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนกัน มันใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที”

 

“…!”

 

ดวงตาของฮันเตอร์สั่นสะท้านเมื่อเห็นบัตรประจำตัวของฉัน พวกเขาควักโทรศัพท์ออกอย่างเมามันและเริ่มติดต่อกับคนอื่นๆ

 

“ครับ ผมพบเขาแล้ว!”

 

“ในร้านกาแฟตรงข้ามธนาคาร…”

 

“ไม่ครับ กิลด์อื่นๆก็อยู่ที่นี่เช่นกัน …ใช่ ครับท่าน! เข้าใจแล้วครับบอส”

 

“ไม่ต้องกังวลครับ ผมจะไม่ให้กิลด์อื่นเอาตัวเขาไป!”

 

มันเป็นวันก่อนพายุโหม

 

ฉันเฝ้าดูสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าอย่างพึงพอใจ

 

‘ฉันรู้สึกเหมือนเป็นวีไอพี’

 

– กิลด์ส่วนใหญ่จะพยายามดึงตัวนาย นายเคลียร์ชั้น 10 ด้วยตัวตนเดียว นั่นแหละคือวีไอพีของจริง

 

‘อืม ฉันก็คิดแบบนั้น แม้แต่คนที่เคลียร์ชั้น 99 ก็ยังเรียกฉันว่าท่านกงจา ดังนั้นมันคงแปลกถ้าฉันไม่ได้เป็นวีไอพี’

 

– บัดซบ! แกมันคนบัดซบบบ!

 

เหล่าฮันเตอร์ต่างวางสายทีละคน

 

พวกเขาทั้งหมดมองมาที่ฉันด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด

 

ในขณะที่ฉันรอให้กิลด์แรกพูดขึ้นมา ฮันเตอร์ผมบลอนด์ตัวใหญ่ก็ก้าวมาข้างหน้า

 

“ผมเป็นหัวหน้าทีม HR ของกิลด์อาสาสมัครพลเรือน คุณฮันเตอร์คิม กงจา อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าอาสาสมัครพลเรือนเป็นกิลด์ที่มีเกียรติที่สุดในบาบิโลน หากคุณเข้าร่วมกิลด์ของเรา…!”

 

“รอเดี๋ยวก่อน”

 

ฉันยกมือขึ้น หัวหน้าทีม HR ของกิลด์อาสาสมัครพลเรือนหยุดพูดทันดี

 

“ขอโทษที่ขัดจังหวะคุณ แต่เรามาพูดกันหลังจากที่มีสองสิ่งที่เข้าใจตรงกัน”

 

“…”

 

“อย่างแรก อย่าให้เรื่องนี้รั่วไหลไปยังสื่อ”

 

ฉันค่อยๆมองไปที่เหล่าฮันเตอร์ ฉันสามารถรับประกันได้ว่าไม่มีฮันเตอร์คนไหนที่จะมีอันดับต่ำกว่าฉัน ก่อนที่ฉันจะย้อนกลับมา ฉันไม่กล้ามองพวกเขาด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ฉันไม่ได้ห่างชั้นอะไรจากพวกเขาเลย

 

ความสามารถของฉัน

 

ฉันมีความสำเร็จในการเป็นคนแรกที่พิชิตชั้น 10

 

นี่เป็นเหมือนแลนด์มาร์คสำคัญที่ฮันเตอร์ไม่สามารถทำลายได้โดยไม่คำนึงถึงระดับของพวกเขา

 

ฮันเตอร์ที่มีความสามารถถือว่าการโชว์ฝีมือเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าพวกเขามีความสามารถพวกเขาจะไม่สามารถปฏิบัติต่อฉันเหมือนฉันไม่เป็นอะไร

 

“ผมจะไม่เซ็นสัญญากับกิลด์ใดๆที่ทำให้ชื่อของฉันรั่วไหลสู่สาธารณะ ฉันจะไม่สนทนากับพวกเขาอีกเลย โปรดระวังไว้ให้ดี”

 

“เอ่อ…จนถึงเมื่อไหร่ครับ?”

 

ฮันเตอร์อีกคนยกมือขึ้นถาม

 

“นักข่าวของหนังสือพิมพ์ทองคำมีเส้นสายของพวกเขาในทุกกิลด์…คุณคิม กงจา ผมไม่รู้ว่าเราจะปิดเรื่องนี้ได้นานแค่ไหน”

 

“ผมไม่ได้บอกว่าจะปิดเรื่องนี้ตลอดไป”

 

ฉันชี้ไปที่ท้องฟ้า

 

ฮันเตอร์ทุกคนต่างก็มองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยเช่นกัน

 

[22:25:31]

 

“จนถึงวันนี้ จนกว่านาฬิกาจะถึง 00:00:00 ช่วยปิดเรื่องนี้ด้วย”

 

“อา! ได้เลย ถึงตอนนั้น…เข้าใจแล้ว”

 

ฮันเตอร์ทุกคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

ฉันยิ้ม

 

‘ฉันไม่สามารถถูกนักข่าวจับตัวได้ ไม่ใช่ว่าฉันต้องวิ่งให้เร็วที่สุดเพื่อไปที่ชั้น 11 เมื่อทางเข้าเปิดออก’

 

ฉันเปิดปากอีกครั้ง

 

“นั่นคือเงื่อนไขแรก และสำหรับเงื่อนไขที่สอง-”

 

“…”

 

นักล่าทุกคนมองมาที่ฉันด้วยสีหน้าแข็งกระด้าง พวกเขาคงกังวลเกี่ยวกับเงื่อนไขที่ยากลำบากที่ฉันจะร้องขอ

 

ฉันยิ้มและมองไปรอบๆตัวฉัน

 

 

“ -ที่นี่คือพื้นที่สาธารณะ ดังนั้นเรามาเคารพลูกค้าคนอื่นๆกันเถอะ”

 

“ว่าไงนะ?”

 

“คุณไม่เห็นลูกค้ามองมาทางนี้หรอ พวกเขาประหลาดใจเพราะจู่ๆพวกคุณก็มารวมตัวกันที่นี่”

 

ฉันพูดถูก

 

ลูกค้าคนอื่น ๆ มองมาทางนี้ ลูกค้าส่วนใหญ่กระซิบกันด้วยสายตามราสงสัย มีแม้กระทั่งลูกค้าที่ดูเหมือนพวกเขากำลังถ่ายคลิปอยู่

 

“มันน่ารำคาญ”

 

“ผมรู้ว่าคุณทุกคนต่างเร่งตามหาผม แต่ได้โปรดไม่ต้องรีบร้อน ไม่ใช่ว่าผมจะหนีไปไหน”

 

“ข, ขอโทษ”

 

เหล่าฮันเตอร์ตระหนักถึงบรรยากาศโดยรอบและแยกย้ายกันไป

 

“ผมขอโทษด้วย ผมบอกเหตุผลคุณไม่ได้ แต่ถ้าพวกคุณไปร้านอื่นได้…”

 

“คุณเจ้าของร้าน ค่าเช่าคาเฟ่ 1 ชั่วโมงนี่ราคาเท่าไหร่?”

 

“ทุกท่านครับ ขอบคุณสำหรับความเข้าใจของพวกคุณ! ถ้าคุณมาที่เฉิน มูมันสักครั้ง เราจะ… ”

 

อำนาจผู้บริหารของกิลด์ใหญ่นั้นมากมายจริงๆ

 

“ก็ได้”

 

เราเข้าไปที่มุมหนึ่งของร้านกาแฟและเริ่มพูดคุย

 

“จากนั้นมาเริ่มการเจรจากัน ระบุเงื่อนไขของพวกคุณมา”

 

น่าขำ พวกเขาทั้งหมดมีถ้วยกาแฟอยู่ในมือ เป็นเพราะฉันบอกว่าพวกเขากำลังสร้างความรำคาญ น่ารักกันเสียจริง

 

 

“ …กิลด์อาสาสมัครพลเรือนของเราเสนอ 10,000 เหรียญทองสำหรับค่าสัญญา”

 

นั่นคือจุดเริ่มต้น

 

“10,000 เหรียญทอง? โอโห้ คุณกำลังแสดงให้เห็นว่าคุณยากจนในสถานที่เช่นนี้ คุณฮันเตอร์คิม กงจา! กรุณาลงทะเบียนกับสมาคมนักผจญภัย เราให้คำสัญญาเป็น 20,000 เหรียญทองและตำแหน่งผู้บริหาร”

 

“มาที่ เฉิน มูมัน คุณฮันเตอร์ กิลด์ของเราเลี้ยงดูฮันเตอร์เป็นเฉพาะในด้านการต่อสู้และเราจะพาคุณไปเป็นผู้ฝึกสอนพร้อมเงิน 25,000 เหรียญทอง”

 

“ตำแหน่งผู้ฝึกสอนนั้นน่ารำคาญ กรุณาคิดให้ดี คุณฮันเตอร์คิม กงจา! หากคุณเข้ามาในกิลด์หมื่นวิหาร เราขอรับประกันตำแหน่งกิตติมศักดิ์ พูดตามตรงเราหวังว่าคุณจะส่งเสริมกิลด์ของเรา ด้วยเงิน 30,000 ทองและค่าจ้างแยกต่างหากสำหรับงานอื่น ๆ…”

 

“สมาคมฮันเตอร์! ได้โปรดกรุณามาทำงานเป็นทูตของสมาคมฮันเตอร์!”

 

มันวุ่นวายไปหมด

 

หัวหน้าทีม HR ทุกคนต่างอ้อนวอนฉัน ฉันเข้าใจว่าพวกเขารู้สึกอย่างไร กิลด์ระดับสูงทั้งหมดอาจรู้สึกกดดันจากเซียนดาบ

 

ฮันเตอร์ที่ไม่ได้ลงทะเบียนในกิลด์ใดๆ ที่ได้อันดับ 1!

 

เพราะอย่างนั้นคนจึงสงสัย ว่ามันจำเป็นต้องสมัครกิลด์จริงๆหรือเปล่า หากการลุยคนเดียวเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด …

 

‘แม้ว่าจะเป็นเพราะเซียนดาบนั้นพิเศษก็ตาม’

 

มันยังคงทำร้ายชื่อเสียงของกิลด์

 

‘แล้วถ้าฮีโร่คนใหม่ที่โด่งดังพอๆกับเซียนดาบดันโผล่ขึ้นมาล่ะ?’

 

ฉันยิ้ม

 

‘พวกเขาจะทำทุกอย่างเพื่อดึงตัวเขา’

 

อย่างน้อยที่สุดก็ขวางกิลด์อื่นๆไม่ให้แย่งตัวเขาไป!

 

อาจเป็นคำสั่งที่หัวหน้าทีมเหล่านี้ได้รับ เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเช่นนั้น

 

“อะ อาสาสมัครพลเรือนสามารถให้ 36,000 เหรียญเป็นค่าเซ็นสัญญา…”

 

“เหอะ กิลด์จนๆควรถอยนะ ว่าไหม?”

 

“นายพยายามต่อสู้กับพวกเราด้วยตัวเลขหลักพัน? นายไม่เข้าใจสถานการณ์หรือยังไง”

 

“พวกเราปราสาทแปรธาตุสามารถ…!”

 

ตอนนั้นเอง

 

“ซังยุล”

 

เสียงหนึ่งดังมาจากที่ไหนสักแห่ง

 

“50,000 เหรียญทอง”

 

“…”

 

ฮันเตอร์ทุกคนหันหัวของพวกเขา สายตาของพวกเขาจ้องมาบนตักของฉัน แน่นอนว่ามันคือแมวที่อยู่บนตักของฉัน

 

แมวร้องเหมียวและกระโดด เป็นอุ้งเท้าที่อ่อนนุ่มเมื่อมันกระโดดลงจากตักของฉัน แต่เมื่อมันตกลงมาก็ไม่เป็นเช่นนั้น พวกมันแตะพื้นลงมาพร้อมกับรองเท้าหนึ่งคู่

 

 

ทุกคนหันกลับมา แกร๊ง ทอง 2 ชิ้นบนสร้อยคอของเขาส่งเสียงดังชัดเจนที่พวกมันสั่นไหว

 

“และตำแหน่งรองหัวหน้าของซังยุล”

 

ฮันเตอร์อันดับ 3

 

หัวหน้ากิลด์ของสมาคมพ่อค้า เคาท์

 

“50,000 ทองและตำแหน่งรองหัวหน้ากิลด์ คิดว่ายังไง”

 

ผู้หญิงที่มีทักษะ [Metamorphosis] ยิ้มสดใสและพูด แม้ว่าเธอจะอายุมากกว่า 40 ปี แต่เธอก็ดูเหมือนคนอายุ 20 ปี เธออาจจะดื่มน้ำอมฤตทุกวัน

 

เธอเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในหอคอย

 

“อืม”

 

คนใหญ่คนโตที่ฉันไม่เคยพบมาก่อนในอดีต

 

ฉันฝืนบังคับตัวเองให้ใจเย็นลงและฉีกยิ้ม

 

“ได้ฤกษ์คุยกันเสียที”

 

ขั้นตอนแรกของการเจรจาเพื่อแย่งตัวฉันก็สิ้นสุดลง

SSS-Class Suicide Hunter – ตอนที่ 19: ความล้ำค่าของกาแฟหนึ่งแก้ว (1)

SSS-Class Suicide Hunter – ตอนที่ 19: ความล้ำค่าของกาแฟหนึ่งแก้ว (1)

SSSH ตอนที่ 19: ความล้ำค่าของกาแฟหนึ่งแก้ว (1)

 

จ้อกแจ้ก จ้อกแจ้ก

 

“แล้วใครพิชิตชั้น 10 ล่ะ?”

 

“ฉันดูข่าวตลอด แต่ไม่มีข่าวคราวอะไรเลย มีแต่ข่าวลือเท่านั้น…”

 

“ไม่ใช่ว่ามังกรดำปิดบังมันไว้เหรอ? และพวกเขาจะเปิดเผยครั้งใหญ่…”

 

“ฉันบอกว่ามันคือเซียนดาบยังไงล่ะ!”

 

ในเมืองชั้นหนึ่งของหอคอย ผู้คนนั้นพลุกพล่าน

 

ผู้คนต่างดีใจที่ในที่สุดชั้น 10 ที่ยากลำบากก็ถูกเคลียร์ แต่พวกเขาทั้งหมดมารวมตัวกันที่ร้านกาแฟเพื่อพูดคุยกันว่าใครคือผู้ท้าทายที่เป็นความลับ

 

พวกเขาจะตอบสนองอย่างไร?

 

“อื้ม”

 

ถ้าพวกเขารู้ว่าคนๆนั้นนั่งอยู่ข้างๆพวกเขา

 

“หวานจัง”

 

ฉันจิบคาราเมลมัคคิอาโต้ของฉัน ร้านกาแฟแห่งนี้ที่อยู่ตรงข้ามกับซังยุลเป็นสตาร์บัคแห่งเดียวในบาบิโลน

 

ฉันชื่นชมความจริงที่ว่าแม้ว่าคุณจะไม่สามารถออกจากหอคอยได้เมื่อเข้ามา แต่ก็ยังมีแฟรนไชส์อยู่ และยังมีแฟรนไชส์ที่มีชายชราอ้วนจมูกแดงเป็นตัวนำโชค

 

นี่แหละหนา ความปรารถนาของมนุษย์!

 

“นายคิดว่ายังไงจักรพรรดิดาบ? ชัยชนะไม่หอมหวานเหรอ? ที่จริงฉันรู้สึกว่าแม้เอสเพรสโซก็มีรสชาติหวานในตอนนี้ หืม?”

 

– ….

 

“หืม หูฟังอันนี้เสียหรือเปล่า? แปลกแฮะ ไม่มีเสียงตอบกลับมาเลย”

 

ฉันเคาะหูฟังที่หู แน่นอนว่าไม่มีเสียงใดๆมาจากมัน

 

มันเป็นแค่ของหลอกตา

 

ฉันจะดูเหมือนคนบ้าถ้าฉันแค่พูดกับตัวเอง ดังนั้นฉันจึงแสร้งทำเป็นเหมือนกำลังโทรหาใครบางคน มันใช้งานได้ดีทีเดียว ไม่มีใครในร้านกาแฟมองฉันว่าฉันประหลาด

 

“จักรพรรดิดาบค้าบ? จักรพรรดิดาบ? ฮัลโหล คุณโรคจิต ฮัลโหล คนบ้า?”

 

-…อะไร

 

“อ่า ตอนนี้ฉันได้ยินนายแล้ว ฉันคิดว่าตอนนี้นายหูหนวกไปแล้ว ชิ ชิ นายทำให้ ท่านกงจาผู้สูงส่งเป็นกังวล มนุษย์ไม่ควรทำเช่นนั้น”

 

– …

 

“อ่า ใช่สิ นายเป็นผีไม่ใช่มนุษย์ ฉันมันโง่เอง ฉันลืมไปเลย โอ้ ใช่! จักรพรรดิดาบ ตอนนี้ฉันสามารถพูดกับนายแบบเป็นกันเองได้หรือยัง มันแปลกถ้าฉันพูดกับนายอย่างสุภาพเมื่อนายต้องเรียกฉันว่าท่านกงจา ใช่มั้ยล่ะ?”

 

– …บัดซบ…

 

แบ ฮุรยองลอยอยู่ตรงข้ามกับฉัน ไหล่ของเขากำลังสั่นไม่หยุด

 

– ตลอดชีวิตฉันไม่เคยสัมผัสกับความอัปยศอดสูแบบนี้มาก่อน…จักรพรรดิ…คนที่เคยถูกเรียกว่าจักรพรรดิกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง…

 

“ม่ายอะ มันเป็นเพียงมุขตลก แม้ว่าฉันจะถูกเรียกว่าท่านกงจา แต่ฉันก็ไม่สามารถพูดกับรุ่นพี่คนนี้แบบห้วนๆได้ แม้ว่าฉันจะทำได้ ใช่ฉันทำได้ จากนี้ไปฉันจะเรียกนายว่าคุณจักรพรรดิดาบ เป็นยังไง? พอใจไหม?”

 

– ฆ่าฉันเสียดีกว่า!

 

แบ ฮุรยองคำราม

 

– ไปหาสกิลใหม่และเอามายัดแทนที่ช่องสกิลกลุ่มดาวแห่งดาบ! นายทำแบบนั้นได้ แกไอ้สารเลว! ฆ่าฉันเสียที!

 

“ไม่นะ คนๆนี้พูดในสิ่งที่เขาไม่ควรพูด เราไม่ได้เป็นคู่หูหรอ คู่หูน่ะ? เพื่อนกันตลอดไป เพื่อนรัก! ใครในโลกที่จะฆ่าเพื่อนที่ดีที่สุดของพวกเขา? จากนี้เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป”

 

-ฮือ ฮือ ฮือ ช่างเถอะ… ฉันจะไม่พูดอะไร ตาเฒ่ามาร์คัส ฉันอยากกลับไปหานายเหลือเกินตาเฒ่า…

 

อา มันหอมหวานจริงๆ

 

ฉันมองขึ้นไปบนท้องฟ้าขณะจิบกาแฟของฉัน

 

[22:32:50]

 

นาฬิกาบนท้องฟ้าแสดงให้เห็นว่าหนึ่งชั่วโมงได้ผ่านไป

 

ขณะที่ฉันคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องเผยตัว

 

-เหมียว

 

“หืม?”

 

แมวสีน้ำตาลคลานมาหาฉัน มันสะอาดเกินไปที่จะแมวหลง หากมีสิ่งพิเศษเกี่ยวกับตัวมันก็คือมีทองคำสองชิ้นอยู่ที่คอของมันแทนที่จะเป็นกระดิ่ง

 

“…..”

 

อึก

 

 

ฉันสงสัยว่าฉันควรรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างไร

 

‘แมวทองคำ’

 

– หืม?

 

‘แมวทองคำ มันมีชื่อเสียงมาก … อ่า ตอนนี้คนทั่วไปคงยังไม่รู้กัน’

 

แมวตัวนี้ไม่ใช่สัตว์เลี้ยงธรรมดา

 

มันจะเป็นมาสคอตที่รู้จักกันดีของหอคอยประมาณ 5 ปีต่อมา

 

‘…ฉันไม่รู้ว่าคนใหญ่คนโตจะมาหาฉัน’

 

ฉันควรจะแสร้งทำเป็นเหมือนไม่รู้อะไรเลย

 

ฉันมองลงไปที่แมวอย่างใจเย็น ควบคุมสีหน้าของฉัน

 

“หลงทางเหรอ?”

 

-เหมียว

 

แมวสีน้ำตาลเอาหัวของมันถูที่ขาของฉัน ฉันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ถ้าฉันไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของมัน ฉันก็คิดว่ามันเป็นแมวที่เป็นมิตร

 

“แกอยากอยู่กับฉันจนกว่าเจ้าของจะมาไหม?”

 

-เมี๊ยววว

 

ฉันยกแมวขึ้นบนตัก แมวเลียอุ้งเท้าบนตักของฉันอย่างใจเย็นเหมือนกับว่ามันต้องการทำสิ่งนี้ตลอดเวลา มันยังหาวด้วยเสียงดังเหมียว

 

‘ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่านั่นเป็นคนที่คลั่งไคล้แมว การแสดงนั้นยอดเยี่ยมมาก’

 

ฉันลูบหัวแมว

 

-เมี๊ยว

 

ขณะที่ฉันกำลังฟังเสียงครางของแมว กลุ่มฮันเตอร์ก็เข้ามาหาฉัน หนึ่งในนั้นพูดกับฉัน

 

“ขอโทษครับ คุณชื่อคิม กงจา?”

 

“อืม”

 

เพียงแวบเดียวฉันก็บอกได้ว่าอุปกรณ์ของพวกเขามีราคาแพง พวกเขาไม่ได้เป็นเพียงกลุ่มอันธพาล ถ้าไม่ใช่หัวหน้ากิลด์อย่างน้อยก็เป็นผู้บริหาร กลุ่มคนประเภทนี้รวมตัวกันอยู่รอบๆร้านกาแฟ

 

ฉันแสดงบัตรประจำตัวของฉันกับพวกเขา

 

“ผมสงสัยว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนกัน มันใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที”

 

“…!”

 

ดวงตาของฮันเตอร์สั่นสะท้านเมื่อเห็นบัตรประจำตัวของฉัน พวกเขาควักโทรศัพท์ออกอย่างเมามันและเริ่มติดต่อกับคนอื่นๆ

 

“ครับ ผมพบเขาแล้ว!”

 

“ในร้านกาแฟตรงข้ามธนาคาร…”

 

“ไม่ครับ กิลด์อื่นๆก็อยู่ที่นี่เช่นกัน …ใช่ ครับท่าน! เข้าใจแล้วครับบอส”

 

“ไม่ต้องกังวลครับ ผมจะไม่ให้กิลด์อื่นเอาตัวเขาไป!”

 

มันเป็นวันก่อนพายุโหม

 

ฉันเฝ้าดูสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าอย่างพึงพอใจ

 

‘ฉันรู้สึกเหมือนเป็นวีไอพี’

 

– กิลด์ส่วนใหญ่จะพยายามดึงตัวนาย นายเคลียร์ชั้น 10 ด้วยตัวตนเดียว นั่นแหละคือวีไอพีของจริง

 

‘อืม ฉันก็คิดแบบนั้น แม้แต่คนที่เคลียร์ชั้น 99 ก็ยังเรียกฉันว่าท่านกงจา ดังนั้นมันคงแปลกถ้าฉันไม่ได้เป็นวีไอพี’

 

– บัดซบ! แกมันคนบัดซบบบ!

 

เหล่าฮันเตอร์ต่างวางสายทีละคน

 

พวกเขาทั้งหมดมองมาที่ฉันด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด

 

ในขณะที่ฉันรอให้กิลด์แรกพูดขึ้นมา ฮันเตอร์ผมบลอนด์ตัวใหญ่ก็ก้าวมาข้างหน้า

 

“ผมเป็นหัวหน้าทีม HR ของกิลด์อาสาสมัครพลเรือน คุณฮันเตอร์คิม กงจา อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าอาสาสมัครพลเรือนเป็นกิลด์ที่มีเกียรติที่สุดในบาบิโลน หากคุณเข้าร่วมกิลด์ของเรา…!”

 

“รอเดี๋ยวก่อน”

 

ฉันยกมือขึ้น หัวหน้าทีม HR ของกิลด์อาสาสมัครพลเรือนหยุดพูดทันดี

 

“ขอโทษที่ขัดจังหวะคุณ แต่เรามาพูดกันหลังจากที่มีสองสิ่งที่เข้าใจตรงกัน”

 

“…”

 

“อย่างแรก อย่าให้เรื่องนี้รั่วไหลไปยังสื่อ”

 

ฉันค่อยๆมองไปที่เหล่าฮันเตอร์ ฉันสามารถรับประกันได้ว่าไม่มีฮันเตอร์คนไหนที่จะมีอันดับต่ำกว่าฉัน ก่อนที่ฉันจะย้อนกลับมา ฉันไม่กล้ามองพวกเขาด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ฉันไม่ได้ห่างชั้นอะไรจากพวกเขาเลย

 

ความสามารถของฉัน

 

ฉันมีความสำเร็จในการเป็นคนแรกที่พิชิตชั้น 10

 

นี่เป็นเหมือนแลนด์มาร์คสำคัญที่ฮันเตอร์ไม่สามารถทำลายได้โดยไม่คำนึงถึงระดับของพวกเขา

 

ฮันเตอร์ที่มีความสามารถถือว่าการโชว์ฝีมือเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าพวกเขามีความสามารถพวกเขาจะไม่สามารถปฏิบัติต่อฉันเหมือนฉันไม่เป็นอะไร

 

“ผมจะไม่เซ็นสัญญากับกิลด์ใดๆที่ทำให้ชื่อของฉันรั่วไหลสู่สาธารณะ ฉันจะไม่สนทนากับพวกเขาอีกเลย โปรดระวังไว้ให้ดี”

 

“เอ่อ…จนถึงเมื่อไหร่ครับ?”

 

ฮันเตอร์อีกคนยกมือขึ้นถาม

 

“นักข่าวของหนังสือพิมพ์ทองคำมีเส้นสายของพวกเขาในทุกกิลด์…คุณคิม กงจา ผมไม่รู้ว่าเราจะปิดเรื่องนี้ได้นานแค่ไหน”

 

“ผมไม่ได้บอกว่าจะปิดเรื่องนี้ตลอดไป”

 

ฉันชี้ไปที่ท้องฟ้า

 

ฮันเตอร์ทุกคนต่างก็มองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยเช่นกัน

 

[22:25:31]

 

“จนถึงวันนี้ จนกว่านาฬิกาจะถึง 00:00:00 ช่วยปิดเรื่องนี้ด้วย”

 

“อา! ได้เลย ถึงตอนนั้น…เข้าใจแล้ว”

 

ฮันเตอร์ทุกคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

ฉันยิ้ม

 

‘ฉันไม่สามารถถูกนักข่าวจับตัวได้ ไม่ใช่ว่าฉันต้องวิ่งให้เร็วที่สุดเพื่อไปที่ชั้น 11 เมื่อทางเข้าเปิดออก’

 

ฉันเปิดปากอีกครั้ง

 

“นั่นคือเงื่อนไขแรก และสำหรับเงื่อนไขที่สอง-”

 

“…”

 

นักล่าทุกคนมองมาที่ฉันด้วยสีหน้าแข็งกระด้าง พวกเขาคงกังวลเกี่ยวกับเงื่อนไขที่ยากลำบากที่ฉันจะร้องขอ

 

ฉันยิ้มและมองไปรอบๆตัวฉัน

 

 

“ -ที่นี่คือพื้นที่สาธารณะ ดังนั้นเรามาเคารพลูกค้าคนอื่นๆกันเถอะ”

 

“ว่าไงนะ?”

 

“คุณไม่เห็นลูกค้ามองมาทางนี้หรอ พวกเขาประหลาดใจเพราะจู่ๆพวกคุณก็มารวมตัวกันที่นี่”

 

ฉันพูดถูก

 

ลูกค้าคนอื่น ๆ มองมาทางนี้ ลูกค้าส่วนใหญ่กระซิบกันด้วยสายตามราสงสัย มีแม้กระทั่งลูกค้าที่ดูเหมือนพวกเขากำลังถ่ายคลิปอยู่

 

“มันน่ารำคาญ”

 

“ผมรู้ว่าคุณทุกคนต่างเร่งตามหาผม แต่ได้โปรดไม่ต้องรีบร้อน ไม่ใช่ว่าผมจะหนีไปไหน”

 

“ข, ขอโทษ”

 

เหล่าฮันเตอร์ตระหนักถึงบรรยากาศโดยรอบและแยกย้ายกันไป

 

“ผมขอโทษด้วย ผมบอกเหตุผลคุณไม่ได้ แต่ถ้าพวกคุณไปร้านอื่นได้…”

 

“คุณเจ้าของร้าน ค่าเช่าคาเฟ่ 1 ชั่วโมงนี่ราคาเท่าไหร่?”

 

“ทุกท่านครับ ขอบคุณสำหรับความเข้าใจของพวกคุณ! ถ้าคุณมาที่เฉิน มูมันสักครั้ง เราจะ… ”

 

อำนาจผู้บริหารของกิลด์ใหญ่นั้นมากมายจริงๆ

 

“ก็ได้”

 

เราเข้าไปที่มุมหนึ่งของร้านกาแฟและเริ่มพูดคุย

 

“จากนั้นมาเริ่มการเจรจากัน ระบุเงื่อนไขของพวกคุณมา”

 

น่าขำ พวกเขาทั้งหมดมีถ้วยกาแฟอยู่ในมือ เป็นเพราะฉันบอกว่าพวกเขากำลังสร้างความรำคาญ น่ารักกันเสียจริง

 

 

“ …กิลด์อาสาสมัครพลเรือนของเราเสนอ 10,000 เหรียญทองสำหรับค่าสัญญา”

 

นั่นคือจุดเริ่มต้น

 

“10,000 เหรียญทอง? โอโห้ คุณกำลังแสดงให้เห็นว่าคุณยากจนในสถานที่เช่นนี้ คุณฮันเตอร์คิม กงจา! กรุณาลงทะเบียนกับสมาคมนักผจญภัย เราให้คำสัญญาเป็น 20,000 เหรียญทองและตำแหน่งผู้บริหาร”

 

“มาที่ เฉิน มูมัน คุณฮันเตอร์ กิลด์ของเราเลี้ยงดูฮันเตอร์เป็นเฉพาะในด้านการต่อสู้และเราจะพาคุณไปเป็นผู้ฝึกสอนพร้อมเงิน 25,000 เหรียญทอง”

 

“ตำแหน่งผู้ฝึกสอนนั้นน่ารำคาญ กรุณาคิดให้ดี คุณฮันเตอร์คิม กงจา! หากคุณเข้ามาในกิลด์หมื่นวิหาร เราขอรับประกันตำแหน่งกิตติมศักดิ์ พูดตามตรงเราหวังว่าคุณจะส่งเสริมกิลด์ของเรา ด้วยเงิน 30,000 ทองและค่าจ้างแยกต่างหากสำหรับงานอื่น ๆ…”

 

“สมาคมฮันเตอร์! ได้โปรดกรุณามาทำงานเป็นทูตของสมาคมฮันเตอร์!”

 

มันวุ่นวายไปหมด

 

หัวหน้าทีม HR ทุกคนต่างอ้อนวอนฉัน ฉันเข้าใจว่าพวกเขารู้สึกอย่างไร กิลด์ระดับสูงทั้งหมดอาจรู้สึกกดดันจากเซียนดาบ

 

ฮันเตอร์ที่ไม่ได้ลงทะเบียนในกิลด์ใดๆ ที่ได้อันดับ 1!

 

เพราะอย่างนั้นคนจึงสงสัย ว่ามันจำเป็นต้องสมัครกิลด์จริงๆหรือเปล่า หากการลุยคนเดียวเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด …

 

‘แม้ว่าจะเป็นเพราะเซียนดาบนั้นพิเศษก็ตาม’

 

มันยังคงทำร้ายชื่อเสียงของกิลด์

 

‘แล้วถ้าฮีโร่คนใหม่ที่โด่งดังพอๆกับเซียนดาบดันโผล่ขึ้นมาล่ะ?’

 

ฉันยิ้ม

 

‘พวกเขาจะทำทุกอย่างเพื่อดึงตัวเขา’

 

อย่างน้อยที่สุดก็ขวางกิลด์อื่นๆไม่ให้แย่งตัวเขาไป!

 

อาจเป็นคำสั่งที่หัวหน้าทีมเหล่านี้ได้รับ เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเช่นนั้น

 

“อะ อาสาสมัครพลเรือนสามารถให้ 36,000 เหรียญเป็นค่าเซ็นสัญญา…”

 

“เหอะ กิลด์จนๆควรถอยนะ ว่าไหม?”

 

“นายพยายามต่อสู้กับพวกเราด้วยตัวเลขหลักพัน? นายไม่เข้าใจสถานการณ์หรือยังไง”

 

“พวกเราปราสาทแปรธาตุสามารถ…!”

 

ตอนนั้นเอง

 

“ซังยุล”

 

เสียงหนึ่งดังมาจากที่ไหนสักแห่ง

 

“50,000 เหรียญทอง”

 

“…”

 

ฮันเตอร์ทุกคนหันหัวของพวกเขา สายตาของพวกเขาจ้องมาบนตักของฉัน แน่นอนว่ามันคือแมวที่อยู่บนตักของฉัน

 

แมวร้องเหมียวและกระโดด เป็นอุ้งเท้าที่อ่อนนุ่มเมื่อมันกระโดดลงจากตักของฉัน แต่เมื่อมันตกลงมาก็ไม่เป็นเช่นนั้น พวกมันแตะพื้นลงมาพร้อมกับรองเท้าหนึ่งคู่

 

 

ทุกคนหันกลับมา แกร๊ง ทอง 2 ชิ้นบนสร้อยคอของเขาส่งเสียงดังชัดเจนที่พวกมันสั่นไหว

 

“และตำแหน่งรองหัวหน้าของซังยุล”

 

ฮันเตอร์อันดับ 3

 

หัวหน้ากิลด์ของสมาคมพ่อค้า เคาท์

 

“50,000 ทองและตำแหน่งรองหัวหน้ากิลด์ คิดว่ายังไง”

 

ผู้หญิงที่มีทักษะ [Metamorphosis] ยิ้มสดใสและพูด แม้ว่าเธอจะอายุมากกว่า 40 ปี แต่เธอก็ดูเหมือนคนอายุ 20 ปี เธออาจจะดื่มน้ำอมฤตทุกวัน

 

เธอเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในหอคอย

 

“อืม”

 

คนใหญ่คนโตที่ฉันไม่เคยพบมาก่อนในอดีต

 

ฉันฝืนบังคับตัวเองให้ใจเย็นลงและฉีกยิ้ม

 

“ได้ฤกษ์คุยกันเสียที”

 

ขั้นตอนแรกของการเจรจาเพื่อแย่งตัวฉันก็สิ้นสุดลง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset