แบ ฮุรยองพูดอย่างเมามันเมื่อแสงสาดลงมา
– เดี๋ยวก่อน ถ้ามีการอัญเชิญคนเพียง 10 คน ตาเฒ่ามาร์คัสจะไม่อยู่ที่นั่นรึเปล่า? นายจะทำยังไงเมื่อเขาเห็นนายและพยายามที่จะจัดการนาย?
‘ไม่หรอก นายกังวลมากเกินไป ไม่เป็นไรหรอก สิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่เป็นไปได้คือตายไม่ใช่หรอ?’
– คิมซอมบี้ นายมัน….
ริมฝีปากของแบ ฮุรยองกระตุกเหมือนกำลังจะจู้จี้ฉัน
‘มันไม่เป็นไรเพราะฉันมีแผน นายไม่รู้เหรอ ฉันชื่อคิมกงจา คนอ่อนแอที่จักรพรรดิดาบยอมรับ! เชื่อฉันสิ’
– นายมีแผน?
‘แน่นอน! ฉันมีแผนอยู่แล้ว ฉันจะแสดงให้นายเห็นเร็วๆนี้’
– อะแฮ่ม
เขากอดอกด้วยท่าทางสงสัย
แต่มันสายไปแล้ว การอัญเชิญได้เริ่มต้นขึ้นแล้วและค่ำคืนสีขาวก็ปกคลุมเราอย่างสมบูรณ์
สิ่งเดียวที่เราทำได้คือพบกับเซียนดาบ
ฉันหลับตาลงและ
[การเคลื่อนย้ายเสร็จสมบูรณ์]
พอลืมตาขึ้นมา ฉันก็อยู่ที่ชั้น 12 แล้ว
มันแตกต่างจากชั้น 11 อย่างสิ้นเชิง ตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง ถ้าชั้น 11 เป็นสนามรบที่สกปรกและดุเดือด ชั้น 12 ก็เป็นพระราชวังที่ฟุ่มเฟือย เป็นพระราชวังของจักรวรรดิเอจิม
‘…ไม่’
ฉันมองไปรอบๆ
‘การเมืองในวังก็ทั้งสกปรกและดุเดือดมาก’
ในห้องรับรอง ผู้ท้าชิงคนอื่นๆก็ถูกเรียกตัว มีคนที่ฉันเห็นเป็นครั้งแรก แต่ส่วนใหญ่เป็นฮันเตอร์ที่ฉันเจออยู่แล้วเช่นแม่มดและเคาท์ แน่นอน พวกเขาไม่ได้เป็นผู้นำของกิลด์ใหญ่โดยไม่มีเหตุผล
ฉันได้สบสายตาของฮันเตอร์คนอื่นๆ
“โอ้?”
“อืม”
ปฏิกิริยาของพวกเขาทั้งหมดแตกต่างกัน มีฮันเตอร์บางคนที่ยิ้มให้ฉันอย่างสดใสเหมือนพวกเขารู้ว่าฉันจะอยู่ที่นี่และมีบางคนที่มีหน้าตาบูดบึ้งอย่างกับว่าพวกเขาไม่เคยคาดหวังให้ฉันมาที่นี่
“ฮันเตอร์คิม กงจา! คุณยอดเยี่ยมมาก!”
นักถามนอกรีตเป็นพวกแรก
“ฉันเห็นสิ่งที่คุณทำที่ชั้น 11! ในการใช้ NPC แบบนั้น ฉันรู้สึกประทับใจจริงๆ!”
เขาวิ่งมาหาฉัน เพราะเขาตัวเตี้ยมากเขาจึงดูเหมือนลูกหมาตัวเล็กๆ
“ดาบที่เอวของคุณเป็นของพิเศษหรือเปล่า? NPC ดูเหมือนจะติดตามคุณทันทีหลังจากเห็นคุณมีดาบเล่มนี้ คุณได้รับดาบเล่มนี้เป็นรางวัลจากการเคลียร์ชั้น 10 หรือเปล่า?”
“เอ่อ ประมาณนั้น…”
“อย่างที่คิดไว้!”
เขายิ้มแฉ่งและมองมาที่ฉัน
“คุณใช้รางวัลชั้น 10 เพื่อเคลียร์ชั้น 11 การจัดการสกิลของคุณยอดเยี่ยมมาก!”
“ไม่หรอก เอ่อ มันก็ไม่ได้…”
“นับจากนี้ไปฮันเตอร์จำนวนมากจะอิจฉาคุณ พวกเขาอาจถือว่าคุณเป็นคนโชคดี ไม่ต้องสนใจพวกเขา! ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณสกิลของคุณ!”
เอ่อ
คนคนนี้มันอะไรกัน?
เทวดาเหรอ?
แบ ฮุรยองตะโกน
มันแตกต่างจากน้ำเสียงกวนบาทาตามปกติของเขา เขาโวยวาย
– ระวัง! ข้างหลังนาย…!
หลังจากนั้น ก่อนที่แบฮุรยองจะพูดเสร็จ ทุกอย่างก็จบลง
“หืม”
คนแรกที่ตอบสนองคือนักถามนอกรีตที่อยู่ตรงหน้าฉัน
ดวงตาที่ร่าเริงของเขาหายไปและถูกแทนที่ด้วยดวงตาที่แคบลง เขาดึงข้อมือฉันกลับ ฉันล้มลงไม่สามารถทรงตัวได้ เพียงก้าวเดียว นักถามนอกรีตดึงฉันกลับมาและก้าวขึ้นมาแทน
“เทคนิคศักดิ์สิทธิ์ เทวะประจักษ์”
เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ จากนั้นเสียงเหล็กกระแทกกับบางอย่างก็ดังขึ้น มันเป็นเหล็กธรรมดาๆ
เป็นการโจมตีที่มีจิตสังหารอย่างชัดเจน
“ฮาฮา”
นักถามนอกรีตหัวเราะ
แต่สายตาของเขาไม่ได้หัวเราะ
“น่าแปลกใจนะ เซียนดาบ คุณกลายเป็นนักฆ่าตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ขยับไป”
ชายชราสวมสูท เซียนดาบพูดอย่างเย็นชา
ดาบของเขาชูขึ้นชี้ที่เรา
ไม่
ช่างปะไร
“ฉันจะฆ่าผู้ชายคนนั้น”
มันไม่ได้ถูกชูมาที่เรา แต่ชูมาที่ฉัน
ความเงียบได้เกิดขึ้นในห้องรับรอง
เหมือนมีไฟฟ้าอยู่ในอากาศ ร่างกายของฉันรู้สึกขนลุก
“อืม”
มีเพียงนักถามนอกรีตเท่านั้นที่พูดในทัศนคติที่ไม่แตกต่างไปจากเดิมมากนัก
“ขอโทษนะครับ แต่ “ผู้ชายคนนั้น” ที่คุณกำลังพูดถึงคือฮันเตอร์คิม กงจาใช่ไหม?”
“ถูกต้อง”
เซียนดาบตอบ
“ถ้าเธอไม่ขยับไปจากตรงนั่น แขนข้างหนึ่งของเธอก็จะถูกตัดเช่นกัน”
นักถามนอกรีตมีรอยยิ้มที่สดใส
“มันค่อนข้างยากอยู่นะครับ! ผมไม่สามารถขยับเพื่อคุณ ฮันเตอร์คิม กงจาได้รับการยอมรับจากห้ากิลด์ใหญ่รวมถึงหมื่นวิหาร ถ้าผมปล่อยให้เขาตาย ชื่อเสียงของห้ากิลด์ใหญ่จะต้องมีปัญหาแน่!”
“เข้าใจแล้ว เธออยากเสียแขนสินะ เจ้าหนู”
“อ้า นั่นก็ยากเหมือนกัน! แขนของผมยังคงจำเป็นสำหรับผมเหมือนกัน”
นักถามนอกรีตเอียงหัวและยังคงยิ้ม
“คุณบอกฉันได้ไหมว่าทำไมคุณถึงกำหนดเป้าหมายไปที่ฮันเตอร์คิม กงจา”
“ฉันไม่มีเหตุผลที่ต้องบอก”
“คุณกำลังบอกว่าคุณจะไม่ยอมปล่อยเขาไปใช่ไหม?”
“หลบไปและหยุดพูดไร้สาระ”
เซียนดาบปฏิเสธอย่างหนักแน่น
ใช่. ในสายตาของเขาฉันเป็นฆาตกรที่ฆ่าคนไปกว่า 4000 คน เนื่องจากเขาไม่รู้สกิลของฉัน เขาก็จะคงจะปฏิกิริยาเช่นนั้น
“ฉันจะพูดอีกครั้ง ฉันจะฆ่าผู้ชายคนนั้น”
“หื้ม! คุณทำให้ผมไม่มีทางเลือก”
นักถามนอกรีตประสานมือของเขา
“ผมจะควบคุมคุณที่นี่ เทคนิคศักดิ์สิทธิ์ เคลื่อนเทวะ”
ทันใดนั้นแสงก็ระเบิดขึ้นด้านหลังเซียนดาบ ฮันเตอร์สองคนปรากฏตัวขึ้น ปรมาจารย์เฉินมู่มัน พญาอสรพิษ รองหัวหน้ากิลด์กองกำลังอาสาสมัครพลเรือน ครูเซเดอร์ ฮันเตอร์ทั้งสองตะโกน อาวุธทั้งสองของพวกเขาชี้ไปที่เซียนดาบ
“ฮ่าาาาาาาาา!”
เซียนดาบขมวดคิ้ว
“เจ้าพวกนี้”
เขาเดาะลิ้นของเขา ในระหว่างการเดาะลิ้นครั้งหนึ่ง เขาเหวี่ยงดาบของเขาหนึ่งครั้ง ออร่าสีน้ำเงินของเขาแยกอากาศและกรีดเลือด การฟันเพียงสองที ด้วยการโจมตีเพียงสองครั้ง แก้มของครูเซเดอร์ก็มีรอยแผล แขนของอสรพิษมีเลือดไหล
“ตาแก่บ้าเลือด!”
มันเกิดขึ้นในพริบตา
“คนแก่คนนั้นกินอะไรถึงมีพลังขนาดนั้น! ได้โปรด แก่สักที! เกษียณสักที! เพราะคุณคนหนุ่มสาวถึงไม่สามารถเลื่อนอันดับได้”
พญาอสรพิษกัดฟันและตะโกน
เซียนดาบสบถเบาๆ
“ตอนนี้ไม่ใช่ว่านายก็อายุเกิน 40 แล้วหรือไง เมื่อมองไปที่เด็กๆ จริงๆแล้วนายก็แก่แล้วเหมือนกัน”
“ตลกล่ะ! 40 มันยังเด็กอยู่! นั่นคือตอนที่ชีวิตจริงได้เริ่มต้น… ”
“ปรมาจารย์เฉินมู่! คุณแก่แล้ว! คุณตาเกือบบอดแล้วด้วย!”
“นังคนนี้อยู่ข้างฉันจริงๆใช่ไหม?”
“เฮ้อ”
ครูเซเดอร์ถอนหายใจ
“โฟกัสไปที่คู่ต่อสู้หน่อย เรากำลังเสียเปรียบอยู่”
แม้จะถอนหายใจ แต่ครูเซเดอร์ก็ไม่ยอมลดราวาศอก ไม่ เธอดูกังวลมากขึ้น นักถามนอกรีต พญาอสรพิษและครูเซเดอร์ ฮันเตอร์ดับดับสูงสุด 3 คนกำลังต่อสู้ร่วมกัน แต่เซียนดาบยังคงรั้นอยู่
“เราเสียเปรียบแน่นอนถ้ายังเป็นแบบนี้”
นักถามนอกรีตรู้สึกแบบนั้นเหมือนกันเหรอ?
เขายิ้มสดใสและร้องขอความช่วยเหลือ
“คุณเคาท์!”
“อะไร”
“เอาเงินให้ผมหน่อย!”
“เท่าไหร่?”
“โชคดีที่เซียนดาบยังไม่เสียสติ มันเพียงพอแล้วที่จะควบคุมเขาได้ในระยะหนึ่ง 10,000 เหรียญทองครับ!”
“ดอกเบี้ย 15%”
เคาท์คลี่พัดของเธอในขณะที่ดูการต่อสู้อย่างเงียบ ๆ
“ผ่อน 3 เดือน นั่นโอเคไหม?”
“ฮ่าฮ่า! คุณเข้าใจผิดแล้ว! ผมไม่ได้ขอยืมเงิน ผมบอกว่าเอาเงินมาให้ผม”
“ฮะ เธอกำลังขอให้แม่ค้าบริจาคงั้นเหรอ?”
“ใช่ครับ! ไม่ใช่ว่ามันเป็นเงินที่คุณได้รับจากการทำเรื่องสกปรกหรือยังไง? ผมจะใช้เป็นสถานที่ที่ดี กลับใจแล้วไปวิหารและไปสวรรค์!”
“เธอเป็นโจรที่แย่กว่าฉันเสียอีก…”
เคาท์ส่ายหัวแล้วดึงบางอย่างออกมา
มันเป็นกระเป๋าที่มีลายหอยทากอยู่
เคาท์คลายเชือกทองที่ปากกระเป๋า
“ถอน 10,000 เหรียญทอง”
กระเป๋าเปิดปากออก เหรียญนับไม่ถ้วนหล่นออกมา กระเป๋านั้นน่าจะเป็นของหายาก เมื่อเหรียญทองสุมเป็นภูเขาเล็กๆ เคาท์ก็เอากระเป๋าของเธอเก็บกลับไป
“นี่ เอาไปเลยพ่อนักบวช มันเท่ากับ 10,000 เหรียญทอง”
“ผมจะใช้มันอย่างดี!”
นักถามนอกรีตยิ้มอย่างร่าเริงและประสานสองมือของเขา
“เทคนิคศักดิ์สิทธิ์ อุทิศสวรรค์!”
ทองคำบนพื้นเปล่งแสง แสงสีทองสว่างทั้งห้องรับรอง ตรงกลางนั้นนักถามนอกรีตพูดพึมพำและขยับมืออย่างรวดเร็ว
“การถ่ายพลังศักดิ์สิทธิ์ เสริมร่างกาย ผู้รับ ครูเซเดอร์และพญาอสรพิษ เวลา 300 วินาที ทองคำจะคว้ามือเรา เทคนิคเสร็จสมบูรณ์!”
“หืม”
“อืม”
แต่แสงจากเหรียญส่องไปที่ครูเซเดอร์และพญาอสรพิษ มันเป็นเหมือนออร่า นักถามนอกรีตกางแขนออกจากกันและพูด “ลุยกันเลย”
“เป็นเวลา 300 วินาที ครูเซเดอร์และปรมาจารย์เฉินมู่จะแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด เซียนดาบ! แม้ว่าคุณจะแข็งแกร่ง แต่คุณก็ไม่สามารถทนต่อการโจมตีของพวกเราทั้งสี่คนได้! ผม เคาท์ ครูเซเดอร์และปรมาจารย์เฉินมู่!”
“…”
“และคลังของเคาท์ก็ไม่ได้ว่างเปล่า ฮ่าๆ ผมไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไง! หากคุณต้องการทดสอบว่าเคาท์จะล้มละลายก่อนหรือว่าคอของคุณจะถูกตัดคอก่อนก็ลุยกันเลย!”
เคาท์หน้ามุ่ยมาแต่ไกล
“ทำไมเธอถึงดึงเงินในคลังของฉันเข้ามามีส่วนร่วมในการทดสอบนี้! ฉันเพิ่งบริจาคเพราะตาเด็กคลั่งศาสนาบอกให้ฉันทำ แย่จริงๆ การเป็นแม่ค้านั้นยากทั้งในและนอกหอคอย”
“ …และถ้าฉันจะเสริมอะไรบางอย่าง”
เสียงที่เย็นชาพูดขึ้น มันคือแม่มด ฮันเตอร์อันดับ 2 ได้ทำลายความเงียบของเธอ
เธอมองไปที่เซียนดาบด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย
“มันจะไม่จบแค่สี่คน ฉันจะแสดงเจตนาที่จะเข้าร่วมการต่อสู้ในตอนนี้ เนื่องจากฮันเตอร์คิม กงจาได้ทำข้อตกลงกับห้ากิลด์ใหญ่”
เซียนดาบขมวดคิ้ว
“ข้อตกลง?”
“ใช่ ข้อตกลง “
แม่มดพยักหน้า
“ฮันเตอร์คิมกงจาไม่ได้มีพันธะกับที่เดียว ใช่ แต่กับกิลด์ใหญ่ทั้งห้า ในทางกลับกันเราสัญญาว่าจะปฏิบัติต่อเขาอย่างเท่าเทียมกัน เซียนดาบ ถ้าคุณชักดาบเข้าหาคิม กงจา นั่นหมายความว่าคุณกำลังโจมตีพวกเราทุกคน”
“….”
“แน่นอนว่า “พวกเรา” ที่ฉันกำลังพูดถึงคือห้ากิลด์ใหญ่”
เธอดึงกระจกออกมา
“มังกรดำซังยุล เฉินมู่มัน กองกำลังอาสาสมัครพลเรือน”
กระจกลอยขึ้นมาเอง และพวกมันเริ่มหมุนไปรอบๆ หนึ่ง สอง สาม โดยรวมแล้วกระจกทั้งหกบานหมุนรอบแม่มดเหมือนเป็นสุนัขล่าสัตว์ที่ปกป้องเธอ
“คุณสามารถจัดการกับพวกเราทุกคนได้หรือเปล่า เซียนดาบ?”
ชิ้ง
ฮันเตอร์ทั้งห้าต่างชักอาวุธใส่เซียนดาบ
“…”
นักดาบชราเงียบไป
ใช่
‘แม้ว่าเซียนดาบจะแข็งแกร่งเกินไป’
ในเวลานี้-
‘เขาไม่แข็งแกร่งพอที่จะมีห้ากิลด์ใหญ่เป็นศัตรูของเขา’
นี่คือเหตุผลที่ฉันทำข้อตกลงกับพวกหัวหน้ากิลด์
จนกว่าวันที่ฉันแข็งแกร่งเซียนดาบจะมาถึง ไม่ มันจะมาแน่ๆ แต่มันไม่ใช่วันนี้หรือพรุ่งนี้ จนถึงวันนั้นฉันต้องมีเครื่องป้องกัน
ฉันยิ้มอยู่ข้างใน
‘นายจำที่ฉันพูดที่ชั้น 11 ได้ไหม?’
– อะไร?
‘ว่ามันมีสองวิธีในการจัดการกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง’
เป็นคนคนเดียวที่แข็งแกร่งพอที่จะบดขยี้ศัตรูของคุณ
หรือสร้างกองทัพของตัวเองและสวนกลับไป
‘เซียนดาบไม่ต่างอะไรไปจากผู้เล่นเดี่ยว’
แต่ฉันแตกต่างออกไป
‘ฉันมีพันธมิตรแล้ว’
ดังนั้นถ้าเซียนดาบและฉันต่อสู้กัน มันจะเป็นชัยชนะของฉัน
‘เห็นไหม? นี่คือแผนของฉัน เอาเลย ตกใจซะสิ ‘
– ชิชิ ช่างเป็นอะไรที่อ่อนแอเสียจริงๆ…
แบ ฮุรยองถอนหายใจ
แต่ใบหน้าของเขาก็ไม่ได้ดูเลวร้ายเกินไป ดูเหมือนเขาจะพอใจมากที่ฉันขึ้นมาชั้น 12 พร้อมกับแผนการ ผีตัวนั้น แม้ว่าเขาจะไม่ได้แสดงออก แต่เขาก็กังวลเกี่ยวกับหลายๆอย่าง
ฉันก้าวไปข้างหน้า
“คุณเซียนดาบ”
ฮันเตอร์ทุกคนมองมาที่ฉัน และเซียนดาบก็เป็นหนึ่งในนั้น ฉันยิ้มโดยตั้งใจที่จะดูมีท่าทีผ่อนคลาย
และฉันก็สบตากับเซียนดาบ
“เราจะคุยกันได้ไหมครับ?”
ฟังให้ดี เพราะท่านกงจาคนนี้กำลังจะพูดแล้ว