Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ – บทที่ 108 อย่าบังคับให้ข้าต้องทํา!

บทที่ 108 อย่าบังคับให้ข้าต้องทํา!

 

เสียงฝีเท้าใบไม้แห้งดังกรอบแกรบดังมาจากป่าทึบ ผู้คนกลุ่มหนึ่งที่แบกหม้อสามขาสัมฤทธิ์ไว้บนไหล่วิ่งออกมาปิดล้อมเยี่ยฉวนไว้ บางคนถือกระบองอันเขื่อง บางคนถือดาบที่อที่มีน้ำหนักเกือบหนึ่งร้อยจิน ทุกคนต่างแผ่จิตสังหารเย็นเยือกและวางท่าที่คุกคาม ทั้งยังบรรลุการฝึกตนขั้นซิวฉือระดับสองและระดับสาม!

 

“สํานักเครื่องนิลรึ?!”

 

เยี่ยฉวนเผยสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย เขารู้อยู่แล้วว่าสํานักเครื่องนิลที่พ่ายแพ้การประลองอย่างราบคาบไม่มีทางนิ่งเฉยและจะส่งคนมาล้างแค้นเข้าสักวัน แต่สิ่งที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายคือเจ้าสํานักโท่วป่าเซียงไม่ได้นําทัพมาจัดการกับเขาด้วยตนเอง!

 

เดิมที่เยี่ยฉวนคิดว่าหากเผชิญหน้ากับโท่วป่าเซียงเข้าจริงคงรับมือได้ยากยิ่ง แต่เมื่อเห็นว่าสํานักเครื่องนิลส่งศิษย์เพียงสิบสามคนมาเล่นงานจึงค่อยคลายความวิตกกังวล

 

“ถูกแล้ว! พวกเราศิษย์สํานักเครื่องนิล!”

 

เสียงเย็นชาและแหบแห้งดังมาจากบุคคลผู้หนึ่งที่เพิ่งเดินออกมาจากปา ชายคนดังกล่าวเดินกะเผลกมีไม้ค้ำยันรักแร้และเหลือแขนเพียงข้างเดียว ศีรษะถูกผ้าสีขาวพันรอบอย่างแน่นหนา ลักษณะน่าสังเวชเช่นนี้เป็นผู้ใดไปไม่ได้นอกจากหงลี่…ศิษย์พี่ใหญ่ผู้ถูกลงโทษโดยการตัดแขนออกหนึ่งข้างเพราะสํานักของตนพ่ายแพ้การประลองวิทยายุทธ!

 

ไอ้หนุ่มผู้นี้เองรึ?!

 

แขนข้างหนึ่งที่ถูกสังเวยเพราะความชั่วช้าของตนไม่ได้ทําให้จิตสํานึกรู้ผิดชอบชั่วดีมากขึ้นเลยแม้แต่น้อย! ไม่เห็นโลงศพคงไม่หลั่งน้ำตาสินะ!

 

เยี่ยฉวนตระหนักทันทีว่าหงลี่ต้องการแก้แค้นตน เขาส่งกระแสจิตออกสํารวจบริเวณโดยรอบและพบว่าไม่มีผู้ใดหลบซ่อนกายรอซุ่มโจมตีอีก ครั้นเห็นว่าเขาได้เปรียบเห็นๆ จึงกล่าวกับหงลี่ด้วยน้ำเสียงเย็นชา “โอ้ นึกว่าใคร!? เช้าตรู่เช่นนี้ เจ้าควรเดินทางไปรายงานตัวที่หอลาดตระเวนของสํานักเครื่องนิลไม่ใช่หรือ? เจ้าละเลยหน้าที่และมาดักรอข้าถึงที่นี่ด้วยเหตุใดกัน?!”

 

หงลี่ขบกรามแน่นใบหน้าแปรเป็นแดงก่ำด้วยความโกรธแค้นที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวี

 

หลังจบการประลองครั้งใหญ่ระหว่างสามสํานัก เจ้าสํานักโท่วป่าเซียงไม่พอใจยิ่งและถอดเขาลงจากตําแหน่งศิษย์พี่ใหญ่แห่งสํานัก ทั้งยังได้ให้เขาไปประจําการยังหอลาดตระเวนให้ห่างไกลสายตา เกียรติยศ ความรุ่งโรจน์ในชื่อเสียง และอํานาจอันหอมหวานสูญสิ้นภายในพริบตา! หนําซ้ำยังถูกประจานจนได้รับความอับอายขายหน้า เขาไม่สามารถกลับไปยังสํานักและเผชิญหน้าผู้ใดได้อีกต่อไป!

 

หงลี่ได้รับข่าวลือว่าเยี่ยฉวนปลีกตัวเข้าไปในป่าหลังเทือกเขาหมอกเมฆาเพื่อฝึกตนอย่างสันโดษ ดังนั้นเขาไม่ต้องการให้โอกาสอันประจวบเหมาะเช่นนี้หลุดลอยไป…จึงลงทุนถึงขั้นใช้ทรัพย์สินของครอบครัวและเงินออมที่ตนเก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิตเพื่อจ้างวานยอดฝีมือของสํานักเครื่องนิลสิบสามคนให้สังหารเยี่ยฉวนแทนตน! คํากล่าวที่ว่าการทํางานหนักไม่เคยทําให้ผู้ใดผิดหวังเป็นจริงราวเหล่าเทพเซียนมองเห็นความมุ่งมั่นของเขา ในที่สุดก็ได้พบเยี่ยฉวนบนเทือกเขาแห่งนี้!

 

ชายหนุ่มยอมทําทุกหนทางเพื่อให้ตนได้แก้แค้นเยี่ยฉวน เขานึกกระหยิ่มยิ้มย่องที่จะได้เห็นอีกฝ่ายทุกข์ทรมานปางตายจนต้องร้องขอชีวิต โดยไม่ฉุกคิดเลยแม้แต่น้อยว่าตนต่างหากที่จะถูกเยี่ยฉวนตอกย้ำแผลเก่าให้ยิ่งอักเสบ! 

 

“ฆ่ามัน! ลากศพมันมาให้ข้า!” หงลี่คํารามลอดไรฟัน 

 

ยามนี้เขาไม่ต้องการสิ่งใดนอกจากชีวิตเยี่ยฉวน! เขาโกรธแค้นจนไม่อยากอยู่ร่วมโลกกับอีกฝ่ายอีกต่อไป! ยิ่งฆ่ามันให้ตายเร็วเท่าใดยิ่งดี

 

สิ้นคําสั่งของหงลี่ ยอดฝีมื่อสิบสามคนจากสํานักเครื่องนิลตีวงล้อมเข้าใกล้เยี่ยฉวนยิ่งขึ้น! จิตสังหารซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นเล็งเป้าไปยังคนคนเดียวกัน บรรยากาศโดยรอบปกคลุมไปด้วยความกดดันหนักหน่วง

 

ชายทั้งสิบสามคนเป็นยอดฝีมือผู้มีชื่อเสียงระบือไกลมาอย่างยาวนาน เพียงต่อสู้กับผู้ที่เพิ่งบรรลุสู่ขั้นซิวถือมาหมาดๆ อย่างไรพวกเขาก็มีชัยชนะเหนือกว่าอย่างแน่นอน!

 

หงลี่และยอดฝีมือทุกคนล้วนมีความมั่นใจ ในฝีมือของตนอย่างเต็มเปี่ยม!

 

“คุณชายหง…เจ้าจําเป็นต้องลงทุนถึงเพียงนี้เชียวหรือ?!”

 

เยี่ยฉวนโคลงศีรษะพร้อมหัวเราะอย่างขบขัน สายตาของเขามองข้ามบรรดายอดฝีมือทั้งสิบสามคนที่แผ่จิตสังหารโหดเหี้ยมอย่างไม่แยแส เขาหยุดชะงักชั่วครู่ก่อนกล่าวออกด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “เจ้ากับข้าไม่มีความแค้นใดต่อกัน การต่อสู้ระหว่างเราก็ดําเนินไปในนามของสํานักตามกติกา ไม่มีสิ่งใดแอบแฝงทั้งสิ้น! เกิดเป็นบุรุษควรสร้างมิตรมากกว่าศัตรูมิใช่รึ?! ที่สําคัญการประลองครั้งใหญ่ระหว่างสามสํานักก็จบลงแล้ว เจ้าไม่จําเป็นต้องทําเช่นนี้ด้วยซ้ำ! จิตใจของเจ้าที่มีแต่ความแค้นเช่นนี้ไม่เป็นผลดีเลยแม้แต่น้อย สังหารข้าแล้วอย่างไร? หน้าตาของเจ้าคงไม่หล่อเหลาไปกว่านี้แขนของเจ้าก็คงไม่งอกออกมาใหม่! คนเลวทรามต่ำช้าอย่างเจ้าคู่ควรแล้วหรือที่จะแต่งงานกับโท่วป่าเซียงเนียว?”

 

“ไอ้…ไอ้สารเลว! ฆ่ามัน! ฆ่ามันให้ข้าเดี๋ยวนี้!”

 

คําพูดตอกย้ำปมด้อยจากปากเยี่ยฉวนทําให้ความอดทนของหงลี่ที่มีอยู่เพียงน้อยนิดขาดผึ้ง! ใบหน้าพลันบิดเบี้ยวด้วยโกรธายิ่ง!

 

บรรดาศิษย์ทุกคนในสํานักเครื่องนิลต่างมองออกว่าเขาหลงใหลในตัวโท่วป่าเซียงเนียว ก่อนหน้านี้แม้เขาจะเตี้ยล่ำและอัปลักษณ์อย่างไรก็มีฐานะเป็นถึงศิษย์พี่ใหญ่แห่งสํานัก ต่อให้ไม่คู่ควรกับนางทว่าก็ยังไม่ไร้ความหวังเสียทีเดียว แตกต่างจากตอนนี้โดยสิ้นเชิง! เพียงแค่คิดว่าจะพาสภาพน่าสังเวชของตนเข้าพิธีแต่งงานกับนางก็เป็นเรื่องที่น่าอัปยศสุดจะบรรยาย!

 

ชิ้ง! ชิ้ง! เสียงการชักอาวุธสังหารออกจากฝักพร้อมกันดังลั่นเสียดแทงแก้วหู!

 

ยอดฝีมือทั้งสิบสามคนสลับตําแหน่งกันก่อนเริ่มจู่โจมด้วยกระบวนท่าอันรุนแรงหมายเอาชีวิต แสงวาววับของกระบี่และกริชคมกริบสะท้อนไปทั่วบริเวณ ใบไม้ร่วงหล่นลงพื้นเพราะแรงสั่นสะเทือนก่อนปลิวว่อนอยู่ในอากาศ ทันใดนั้นกองทัพน่าเกรงขามพร้อมด้วยทหารม้านับพันนายปรากฏขึ้นล้อมเยี่ยฉวนไว้ทุกทิศทางโดยไม่เปิดทางให้หลบหนี!

 

จัดทัพประตูนิลสังหาร!

 

หงลี่และเหล่ายอดฝีมือของเขาได้เปรียบด้วยจํานวนคนที่มากกว่าอีกฝ่ายอย่างมหาศาล รอบนี้ไม่มีช่องโหวใดๆ หรือแม้แต่ความเสี่ยงที่จะพ่ายแพ้ พวกเขาใช้รูปแบบการจัดทัพของสํานักเพื่อเอาชนะเยี่ยฉวน!

 

“ฮ่าๆๆ! ไอ้บัดซบ ก่อนหน้านี้เจ้าอยากได้แขนของข้า แต่ตอนนี้ข้าต้องการชีวิตของเจ้า! ไปลงนรกซะ! ฮ่าๆๆ!”

 

หงลี่ระเบิดเสียงหัวเราะดังกึกก้องอย่างบ้าคลั่งราวคนเสียสติ!

 

ยามเคียดแค้นใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวอย่างน่ากลัว แต่ยามตื่นเต้นยินดีใบหน้าก็ยังบิดเบี้ยวอย่างน่าสยดสยอง!

 

ใบไม้ทุกใบที่ลอยวนอยู่บนอากาศอย่างบ้าคลั่งเมื่อครู่ร่วงลงสู่พื้นและเงียบกริบ หงลี่ผู้เห็นว่าบรรยากาศรอบข้างเริ่มผิดปกติจึงปิดปากของตัวเองลงฉับพลัน!

 

เยี่ยฉวนซึ่งถูกกระบวนทัพปิดล้อมไว้ทุกทิศทางไม่มีอาการตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย! เขายืนนิ่งอยู่ตรงจุดเดิมด้วยท่าทางผ่อนคลายไร้กังวล ทว่าราชันปีศาจวัวที่เขาขี่เมื่อครูกลับหายไป!

 

ยอดฝีมือทั้งสิบสามพุ่งตัวเข้าโจมตีพร้อมกันในคราวเดียว แม้เยี่ยฉวนสามารถรับมือได้อย่างสบายๆ แต่เขาคิดว่ายังไม่ถึงเวลาออกโรง จึงทําเพียงเบี่ยงตัวหลบหลีกอาวุธสังหารอย่างรวดเร็ว!

 

ร่างกายที่พลิ้วไหวดุจขนนกของเขาและความเร็วอันน่าอัศจรรย์ ทําให้เขาสามารถหลบเลี่ยงอาวุธคมกริบที่คนเหล่านั้นฟาดฟันลงมาอย่างต่อเนื่อง

 

“ไอ้สารเลว! หากเจ้าแน่จริงก็อย่าหลบ! อย่าให้ข้าต้องใช้ไม้ตายขั้นรุนแรง!”

 

หงลี่จ้องเขม็งไปยังเยี่ยฉวน หากเขายังมีสภาพร่างกายสมประกอบเช่นทุกครั้งคงพุ่งเข้าไปฉีกร่างอีกฝ่ายออกเป็นชิ้นๆ ด้วยตนเองแล้ว! ตอนนี้เขาทําได้เพียงอยู่กับที่พร้อมสาปแช่งอย่างเดือดดาล “อย่างไรซะวันนี้เจ้าก็ต้องตาย! ฆ่ามัน! ดูซิว่าเจ้าจะงัดลูกเล่นอะไรมาต่อกรกับข้าอีก?!”

 

ยอดฝีมือสิบสามคนจากสํานักเครื่องนิลถอยกรูดออกไปก่อนล้อมรอบเยี่ยฉวนอีกครั้งพร้อมแผ่จิตสังหารเย็นเยือก! ด้วยจํานวนคนที่มากกว่าอย่างไรเสียพวกเขาก็ได้เปรียบ! ต่อให้เยี่ยฉวนหลบหลีกเก่งกาจเพียงใดอย่างน้อยก็ต้องมีสักครั้งที่เขาจะเพลี่ยงพล้ำ!

 

“จบสิ้นแล้ว เจ้าบังคับให้ข้าต้องทําเช่นนี้เอง! ชีวิตเจ้าจบเห่แล้วล่ะ!”

 

เยี่ยฉวนยกยิ้มมุมปากอย่างไม่สะทกสะท้านต่อคําขู่และแรงกดดันมหาศาลของอีกฝ่าย ทันใดนั้นเอง แสงสีฟ้าสว่างวาบขึ้นจากเบื้องหลัง ปีศาจวัวนัยน์ตาอสูรพลันปรากฏตัวขึ้นพร้อมเบี่ยงหัวไปด้านข้างเพื่อสํารวจศัตรู จากนั้นจึงถอยกรูดด้วยท่าทางขี้ขลาด!

 

หงลี่และคนอื่นๆ หยุดชะงักชั่วครู่ด้วยความประหลาดใจ ครั้นเห็นเช่นนั้นจึงระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นพร้อมกัน!

 

ปีศาจวัวนัยน์ตาอสูรเป็นสัตว์อสูรชั้นต่ำที่มีนิสัยดื้อรั้นและโง่เขลาโดยสัญชาตญาณ แม้แต่นายพรานทั่วไปที่ไม่ใช่ผู้ฝึกตนวรยุทธ์สูงส่งยังสามารถสังหารพวกมันได้อย่างง่ายดาย! เยี่ยฉวนคงเสียสติไปแล้วเป็นแน่จึงใช้ปีศาจวัวมาต่อสู้กับยอดฝีมือผู้บรรลุขั้นซิวฉือจํานวนมากกว่าสิบคนเช่นนี้! 

 

“ฮ่าๆๆ! ไอ้สารเลว! นี่น่ะหรือไม้ตายขั้นร้ายแรงของเจ้า?!”

 

หงลี่ระเบิดเสียงหัวเราะขบขันอย่างต่อเนื่อง!

 

การที่เยี่ยฉวนถูกปิดล้อมด้วยกระบวนทัพทหารม้านับพันนาย ทั้งยังถูกยอดฝีมือโจมตีพร้อมกันในคราวเดียว ทําให้เขาจนตรอกถึงขั้นเรียกสัตว์อสูรชั้นต่ำอย่างปีศาจวัวเพื่อมาต่อกรกับพวกตนเช่นนี้ หงลี่มองไม่เห็นเลยว่าอีกฝ่ายจะมีชีวิตรอดจากเงื้อมมือเขาไปได้อย่างไร!?

 

“รีบร้อนอะไรกัน? ข้าเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น!”

 

เยี่ยฉวนยกยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ ทันใดนั้นแสงสีฟ้าสว่างวาบขึ้นอีกครั้ง ปีศาจวัวนัยน์ตาอสูรอีกตัวปรากฏขึ้นและทําท่าทางเช่นเดียวกับเพื่อนของมัน เสียงอื้ออึงโดยรอบจึงเงียบลงอีกครั้ง

 

“ฮ่าๆๆ! ปีศาจวัวอีกแล้วรี?! ไม่มีอย่างอื่นที่น่ากลัวกว่านี้แล้วหรืออย่างไร?! ต่อให้เจ้าเรียกพวกมันมาเพิ่มอีกหนึ่งตัวสิบตัว หรือมากกว่านั้นก็ทําอะไรพวกเข้าไม่ได้หรอก!” หงลี่หัวเราะอย่างเย้ยหยันและรอคอยสีหน้าแสดงความอับอายขายหน้าจากอีกฝ่ายอย่างจดจ่อ

 

แต่แล้วเยี่ยฉวนกลับทําบางสิ่งจนเขาถึงขั้นหัวเราะไม่ออก…

 

ด้านหลังของเยี่ยฉวนปรากฏแสงสีฟ้าสว่างวาบและกะพริบอย่างต่อเนื่อง ปีศาจวัวนัยน์ตาอสูรเพิ่มจํานวนมากขึ้นเรื่อยๆ จากสิบ เป็นยี่สิบ..เป็นหนึ่งร้อย และมากกว่านั้นเป็นเท่าตัว! ปีศาจวัวจํานวนหนึ่งพันตัวยืนปรากฏตัวขึ้นโดยจัดเรียงแถวเป็นระเบียบอย่างน่าทึ่ง! พวกมันอยู่ในรูปแบบกระบวนทัพพร้อมทําสงคราม!

แฟนเพจ : novelza

Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์

Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์

Storm in the Wilderness, 蛮荒风暴
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์บทนำ ณ ห้องโถงใหญ่บนยอดเขาเมฆาอินทนิล…เหล่าผู้อาวุโสทั้งห้าและบรรดาลูกศิษย์ในสำนักนับพันชีวิตต่างจ้องมองไปทางเดียวกันอย่างไม่เชื่อสายตา! ทุกคนต่างคิดว่าเขาตายไปแล้วในสุสานเทพเจ้าเมื่อสามเดือนก่อน! แม้แต่ผู้พิทักษ์ขั้นซิ่วฉือระดับห้ายังถูกลอบโจมตีจนสิ้นชีพ แล้วเหตุใดผู้ที่บรรลุเพียงขั้นอู่เจ๋อระดับที่หนึ่งเช่นเขาจึงมีชีวิตรอดจากหายนะในภารกิจครั้งนั้น?! ใช่…เขาตายไปแล้ว… ‘เยี่ยฉวน’ คนเก่าจอมขลาดเขลาและเหยียมอายคนนั้นตายไปแล้ว! บัดนี้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาคือเยี่ยฉวนคนใหม่ที่ฝึกตนจนบรรลุขั้นอู่เจ๋อระดับสี่โดยใช้เวลาเพียงชั่วข้ามคืน! เขาได้พบเคล็ดวิชาลึกลับ ‘ขัดเกลาปีศาจกลืนกินสวรรค์’ จากสุสานเทพเจ้าโดยบังเอิญ วิชานี้มีพลานุภาพมหัศจรรย์เหนือกว่าเคล็ดวิชาซ่อนเร้นสวรรค์เสียอีก! หากเขาฝึกฝนเคล็ดวิชานี้จนสำเร็จต้องมีระดับขั้นการฝึกตนที่สูงกว่าภพชาติก่อนเป็นแน่! หรือบางทีอาจบรรลุถึงขั้นผู้อมตะแห่งเต๋าที่เป็นเพียงตำนาน!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset