Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ – บทที่ 117 ข้าไม่ต้องการเงิน!

ขุนศึกสยบสวรรค์ บทที่ 117 ข้าไม่ต้องการเงิน!

 

เยี่ยฉวนละสายตาจากหญิงปริศนาที่จ้องมองเขาอยู่เพื่อหันไปพูดกับหลิวหง เมื่อหันกลับมาก็พบว่านางหายไปอย่างไร้ร่องรอย ดูเหมือนว่าหญิงผู้นั้นจะแฝงกายในความมืดและจากตลาดใต้ดินแห่งนี้ไปแล้ว

 

“คุณชายเยี่ย ดูนี่สิ นี่คืออะไร? อย่าบอกนะว่าก้างปลาอีกแล้ว?”

 

หลิวหงหยิบบางสิ่งขึ้นมาจากแผงขายของ

 

ของชิ้นนี้แลดูเหมือนก้อนหินเรียบลื่นขนาดเล็กเท่ากําปั้น ทว่ากลับมีน้ําหนักมากกว่าหนึ่งร้อยจิน

 

“นี่มัน “

 

เยี่ยฉวนหยิบขึ้นมาดูใกล้ๆ และลูบไล้พื้นผิวของมันแผ่วเบาก่อนกล่าวออก “นี่คือชิ้นส่วนของหยกแม่เหล็ก มีน้ําหนักมากแต่ค่อนข้างเปราะบาง สามารถใช้เก็บรักษาปราณ แห่งจิตวิญญาณโลกได้ หากเจ้าต้องการขัดเกลาให้เป็นสมบัติคงยากสักหน่อย มันเป็นของหายาก ถ้าเจ้าสนใจซื้อก็ไม่เสียหายอะไร ค่อยๆเล่นกับมันไปก็ได้”

 

เยี่ยฉวนยื่นหยกแม่เหล็กคืนให้หลิวหงก่อนกวาดตาดูสินค้าที่เรียงรายอยู่บนแผงด้วยความผิดหวังเล็กน้อย

 

คนต่างถิ่นทั้งเจ็ดนําสิ่งของติดตัวมามากมายหลายประเภท น่าเสียดายที่ส่วนใหญ่เป็นเพียงสินค้าต่างแดนทั่วไป และไม่มีสมบัติที่แท้จริงอยู่เลย ถึงอย่างนั้นบรรดาศิษย์ทั้งสามสํานักต่างพากันแย่งชิงสินค้าที่พบเห็นไม่บ่อยในดินแดนนี้ และทําสงครามต่อรองราคาจนเยี่ยฉวนอดไม่ได้ที่จะนึกดูถูกขึ้นมา

 

ส่วนหลิวหงนั้นมีท่าทีสนใจและหยิบข้าวของแปลกตาขึ้นมาให้เยี่ยฉวนประเมินราคาอย่างต่อเนื่อง ทว่านางกลับไม่ทําตามคําแนะนําและแลกยาเม็ดชั้นเลิศหลายเม็ดกับ สร้อยก้อนผลึกหลากสีที่แท้จริงแล้วเป็นเพียงหินทะเลไร้ประโยชน์เพียงเพื่อสวมใส่ข้อมือ นางชื่นชมหินเหล่านี้เสียจนเยี่ยฉวนไม่รู้จะหัวเราะหรือร่ําไห้ดี

 

สตรีก็ยังเป็นสตรีอยู่วันยังค่ํา แม้จะไม่ใช่ของชั้นเลิศหาก แต่เป็นสิ่งสวยงามก็ยินดีจ่าย!

 

เยี่ยฉวนไม่สนใจหลิวหงอีกต่อไป เขาพินิจดูสินค้าบนแผง พลางหยิบบางชิ้นขึ้นมาดูใกล้ๆเป็นครั้งคราว

 

ชายหนุ่มพบชิ้นส่วนโลหะทะเลสีชาดซึ่งเป็นวัตถุดิบชั้นเลิศในการหลอมหม้อขนาดใหญ่ เคราะห์ร้ายที่ขนาดของมันเล็กเกินกว่าจะนําไปใช้ประโยชน์ได้

 

เขาพบชิ้นส่วนของต้นกฤษณาทะเลดําซึ่งสามารถใช้ในการกลั่นไม้จันทน์สงบวิญญาณ น่าเสียดายที่อายุของมันไม่เก่าแก่พออีกทั้งยังมีสิ่งเจือปนมากมาย ชิ้นส่วนนี้ไม่ได้มาจากต้นกฤษณาโบราณและมีคุณภาพต่ําเกินไป

 

เยี่ยฉวนสายศีรษะครั้งแล้วครั้งเล่า สิ่งของหลายชิ้นดูดีในแวบแรกแต่เมื่อสังเกตดูให้ดีกลับไม่เป็นเช่นนั้น

 

อดีตนักปราชญ์ผู้ซ่อนเร้นสวรรค์อย่างเยี่ยฉวนพบเห็น สมบัติโลกมานับไม่ถ้วนจึงแทบไม่มีของชิ้นใดที่สะดุดตา

 

บรรดาศิษย์จากทั้งสามสํานักแลกเปลี่ยนสิ่งของไปมากมาย หลิวหงก็เช่นกัน มีเพียงเยี่ยฉวนที่ไม่ถูกใจสิ่งใดเลย

 

หนึ่งในบรรดาคนนอกรีตทั้งเจ็ดเงยหน้าขึ้นจ้องเยี่ยฉวน ด้วยสายตาเชือดเฉือนราวใบมีด

 

เยี่ยฉวนสัมผัสได้ถึงสายตาคู่นี้ทันที พลังที่มองไม่เห็นปะทะเข้าใบหน้าจนงุนงงเมื่อสบตากับชายผู้นี้ รูม่านตาของอีกฝ่ายประหนึ่งขุมนรกไร้ก้นบึงที่พร้อมจะกลืนกินจิตวิญญาณและทุกสิ่งรอบตัว!

 

ไอ้เปี๊ยก!

 

อยากแสดงฝีมืออันน้อยนิดต่อหน้าปรมาจารย์อย่างนั้นหรือ?

 

เยี่ยฉวนผุดยิ้มเย็นเยียบก่อนโคจรยันต์กลืนกินสวรรค์ใน ร่างสายตาของเขาแปรเปลี่ยนไปเป็นเย็นยะเยือกและลึกล้ํากว่าชายต่างถิ่นผู้นี้! โลกทั้งใบก่อกําเนิดและพังทลายในรูม่านตานั้นราวกับเวลาหมุนเวียนไม่รู้จบ!

 

ชายต่างถิ่นครางแผ่วเบาในลําคอเมื่อเป็นฝ่ายเสียเปรียบในการต่อสู้ทางสายตา แววตาของเขาค่อยๆสงบลงและถูกแทนที่ด้วยความประหลาดใจผสมกับความตื่นเต้นเล็กน้อย

 

คนนอกรีตอีกหกคนสัมผัสได้เช่นกัน พวกเขาเงยหน้าขึ้นมองโดยพร้อมเพรียงกันพลางเอื้อมมือไปยังกระบี่ข้างเอวด้วยจิตสังหารพุ่งสูง

 

ทว่าหนึ่งในนั้นกลับยกมือส่งสัญญาณให้คนอื่นๆใจเย็น เขานํากล่องหยกออกมาจากอกอย่างเชื่องช้าและยื่นให้เยี่ยฉวน “คุณชาย ท่านไม่พอใจสมบัติทั้งหลายในแผง ข้าจึงเดาว่าท่านต้องเป็นปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่เป็นแน่ ลองดูสิ่งนี้สักหน่อยเป็นอย่างไร?”

 

การกระทําที่แปลกประหลาดทําให้ศิษย์ทั้งสามสํานักเข้ามามุงดูอย่างรวดเร็ว

 

“ตกลง!”

 

เยี่ยฉวนพยักหน้าโดยไม่สนสายตาของผู้อื่น เขาไม่ปฏิเสธ หากแต่รับกล่องหยกนั้นมาจากอีกฝ่ายด้วยความสงสัยใคร่รู้

 

“ระวังกลลวงละ!”

 

หลิวหงเตือนเสียงต่ําอย่างเป็นกังวล

 

ผู้ฝึกตนจากต่างแดนเหล่านี้แลดูชั่วร้าย หากภายในกล่องหยกมีพิษร้ายแรงหรือกับดักซับซ้อนคงเกิดเรื่องเป็นแน่!

 

“ไม่เป็นไร!”

 

เยี่ยฉวนตอบอย่างไม่แยแส แม้ภายนอกจะดูไร้กังวลแต่กลับลอบโคจรยันต์กลืนกินสวรรค์ในร่างแสงสลัวหมุน เวียนอยู่รอบปลายนิ้วและห่อหุ้มผิวหนังของเขา ชายหนุ่มค่อยๆ เปิดกล่องหยกนั้นออกท่ามกลางสายตาของผู้คน

 

แหวนวงหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้า

 

แหวนวงนี้ดูจืดชืดแตกต่างจากสร้อยหินทะเลของหลิวหงนักทว่าแววตาของเยี่ยฉวนกลับลุกโชน กลิ่นหอมหวานผิดปกติโชยมาแตะจมูกและซึมซาบเข้าไปถึงหัวใจ

 

แหวนอัฐิโพธิสัตว์?

 

เยี่ยฉวนมีท่าที่สงบทว่าในใจกลับสั่นระรัว

 

แหวนที่ดูธรรมดาวงนี้มีรัศมีของพระโพธิสัตว์บริสุทธิ์แผ่ออกมา ร่องรอยความอบอุ่นแล่นผ่านปลายนิ้วเมื่อสัมผัส และเกิดกระแสอุ่นจางในร่างกายทําให้รู้สึกปลอดโปร่ง อีกทั้งยังเกิดความรู้สึกเลือนรางราวกับกําลังได้ขึ้นสวรรค์และมีชีวิตอมตะ!

 

เยี่ยฉวนใช่ว่าจะไม่คุ้นเคยกับความรู้สึกนี้ ยามที่เขาเป็นนักปราชญ์ผู้ซ่อนเร้นสวรรค์และปกครองดินแดนรกร้าง ในชาติที่แล้ว จอมมารได้มอบแหวนแบบเดียวกันนี้ซึ่งจากเถ้ากระดูกของพระโพธิสัตว์เป็นบรรณาการแก่เขา

 

ในสมัยนั้นพระโพธิสัตว์โบราณได้หายสาบสูญไปแล้ว พุทธสมบัติทุกชิ้นจึงถือว่าประเมินค่าไม่ได้ การเจียระไนแหวนวงนี้จะช่วยให้จิตวิญญาณสงบลงและสิ่งชั่วร้ายไม่อาจกล้ํากรายได้ อีกทั้งยังช่วยระงับจิตใจปีศาจของเหล่าปีศาจร้าย และผู้นอกรีต ช่างเป็นสมบัติล้ําค่าสําหรับผู้ฝึกตนทุกคน!

 

ในที่สุดสมบัติที่แท้จริงก็ปรากฏขึ้นหลังตามหามาเนิ่นนาน!

 

จิตใจของเยี่ยฉวนสั่นรัวด้วยความตื่นเต้น เขามองชายตรงหน้าและเข้าประเด็นทันที “ข้าต้องการแหวนวงนี้ บอกมาเลยว่าราคาเท่าใด?”

 

“เจ้ารู้หรือว่าสิ่งนี้คืออะไร?” ชายต่างถิ่นไม่บอกราคาแต่ถามอย่างเย็นชาด้วยคิดว่าเยี่ยฉวนไม่มีปัญญาจ่าย

 

“แหวนอัฐิโพธิสัตว์ไม่ใช่หรือ?”

 

เยี่ยฉวนชะงักครู่หนึ่งก่อนกล่าวต่อ “บอกมาราคาเท่าใด?”

 

“แหวนอัฐิโพธิสัตว์? คืออะไร?”

 

“ไม่มีความงดงามเปล่งประกายใดเลย จะเป็นสมบัติที่แท้จริงไปได้อย่างไร?”

 

บรรดาศิษย์จากสามสํานักถกเถียงกันอย่างออกรสพลางส่ายศีรษะไปมา

 

ในชาติก่อนพระโพธิสัตว์โบราณได้สาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย หลายล้านปีต่อมาจึงมีผู้ล่วงรู้ถึงเรื่องราวของพระโพธิสัตว์น้อยลงเรื่อยๆ จนกระทั่งศิษย์ทั้งสามสํานักในทุกวันนี้ไม่เคยได้ยินเรื่องราวของพระโพธิสัตว์มาก่อนเลย

 

แววตาของผู้ฝึกตนจากต่างแดนทั้งเจ็ดโดยเฉพาะชายที่ดูเหมือนเป็นหัวหน้าวูบไหว ดวงตาเป็นประกายลุกโชนมองมาที่เยี่ยฉวนขณะกล่าวออกด้วยน้ําเสียงแหบทุ่ม “ข้าไม่ต้องการเงิน!”

 

“แล้วเจ้าต้องการสิ่งใด?” เยี่ยฉวนถามอีกครั้งพลางเตรียมใจเอาไว้

 

หลิวหงได้เตือนแล้วว่าคนต่างถิ่นเหล่านี้ไม่เป็นมิตรและเย็นชาอีกทั้งสินค้าของพวกเขานั้นต้องนําของมาแลกเปลี่ยน เยี่ยฉวนเพียงแค่อยากรู้ว่าพวกเขาต้องการสิ่งใดเพื่อแลกเปลี่ยนกับแหวนสารีริกธาตุนี้ ความต้องการของพวกเขาคืออะไร?

 

“ข้าต้องการสตรี สตรีจํานวนมาก มากมายที่เดียว…” ชายจากต่างแดนเหยียดนิ้วออกมาสองนิ้วและเอื้อนเอ่ยประโยคที่น่าประหลาดใจ!

 

“สองร้อยหรือ?” เยี่ยฉวนถาม

 

“ไม่ สองหมื่น”

 

คําพูดอันน่าตกใจของเขาทําให้ศิษย์ทั้งสามสํานักที่มุงดูอยู่ต่างเกรียวกราวขึ้นมา พวกเขารู้สึกว่าน่าขบขันและไร้สาระสิ้นดี แม้แต่หลิวหงผู้ใจกล้าบ้าบินและมากตัณหายังเบิกตากว้าง!

 

นางเคยพบพวกผีทะเลจอมกระหายที่ระริกระรี้เมื่อเห็นหญิงงามมามากมาย ทว่านางไม่เคยพบผู้ใดที่ต้องการสตรีตั้งแต่ครั้งแรกที่เปิดปากเช่นนี้มาก่อน ซ้ําร้ายยังเป็นสตรีจํานวนมหาศาลเสียด้วย พวกเขาเดินทางมาจากต่างแดนอันไกลแสนไกลเพื่อแสวงหาสตรีเท่านั้นหรือ? ต้องการสตรีมากมายไปเพื่อสิ่งใดกัน?

 

ตลาดมืดใต้ดินอันรกร้างและมืดมนกลับเดือดพล่านขึ้นมาทันใด!

 

Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์

Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์

Storm in the Wilderness, 蛮荒风暴
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์บทนำ ณ ห้องโถงใหญ่บนยอดเขาเมฆาอินทนิล…เหล่าผู้อาวุโสทั้งห้าและบรรดาลูกศิษย์ในสำนักนับพันชีวิตต่างจ้องมองไปทางเดียวกันอย่างไม่เชื่อสายตา! ทุกคนต่างคิดว่าเขาตายไปแล้วในสุสานเทพเจ้าเมื่อสามเดือนก่อน! แม้แต่ผู้พิทักษ์ขั้นซิ่วฉือระดับห้ายังถูกลอบโจมตีจนสิ้นชีพ แล้วเหตุใดผู้ที่บรรลุเพียงขั้นอู่เจ๋อระดับที่หนึ่งเช่นเขาจึงมีชีวิตรอดจากหายนะในภารกิจครั้งนั้น?! ใช่…เขาตายไปแล้ว… ‘เยี่ยฉวน’ คนเก่าจอมขลาดเขลาและเหยียมอายคนนั้นตายไปแล้ว! บัดนี้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาคือเยี่ยฉวนคนใหม่ที่ฝึกตนจนบรรลุขั้นอู่เจ๋อระดับสี่โดยใช้เวลาเพียงชั่วข้ามคืน! เขาได้พบเคล็ดวิชาลึกลับ ‘ขัดเกลาปีศาจกลืนกินสวรรค์’ จากสุสานเทพเจ้าโดยบังเอิญ วิชานี้มีพลานุภาพมหัศจรรย์เหนือกว่าเคล็ดวิชาซ่อนเร้นสวรรค์เสียอีก! หากเขาฝึกฝนเคล็ดวิชานี้จนสำเร็จต้องมีระดับขั้นการฝึกตนที่สูงกว่าภพชาติก่อนเป็นแน่! หรือบางทีอาจบรรลุถึงขั้นผู้อมตะแห่งเต๋าที่เป็นเพียงตำนาน!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset