บทที่ 121 บทเพลงปีศาจ
“ซุ่มโจมตี?”
ความคิดหนึ่งผุดขึ้นในหัวก่อนที่เยี่ยฉวนจะปฏิเสธความคิดนั้นอย่างรวดเร็ว
ทะเลสาบอมตะเป็นสมรภูมิที่เขาจงใจเลือกพร้อมล่อจักรพรรดิไพรทมิฬและพรรคพวกมายังที่แห่งนี้ด้วยตนเอง ผู้อื่นจึงไม่มีโอกาสดักซุ่มโจมตีล่วงหน้าได้ ด้วยเหตุนี้จึงมีคําอธิบายเพียงสองประการเท่านั้น ประการแรกคืออาจมีปรมาจารย์แฝงกายอยู่ในที่แห่งนี้อยู่แล้วและการบุกรุกของพวกเขาไปรบกวนเข้า เนื่องจากตํานานเล่าขานว่ามีผู้อมตะพํานักอย่างสันโดษอยู่ ณ ที่แห่งนี้จึงถูกขนานนามว่าทะเลสาบอมตะ หรืออีกประการคือมียอดฝีมือสะกดรอยตามพวกเขามา!
ผู้เป็นอมตะล้วนเป็นเพียงจินตนาการ มนุษย์ธรรมดาจะมองเห็นพวกเขาง่ายๆ ได้อย่างไร? ในขณะที่ตลาดมืดเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเหล่าพยัคฆ์ร้ายและปีศาจแฝงกายอยู่ อาจมีผู้ถูกตาต้องใจเมล็ดข้าวมังกรสวรรค์ในกล่องไม้และลอบตามมาก็เป็นได้
เยี่ยฉวนเคร่งเครียดขึ้นมาทันใด ความลังเลปรากฏขึ้นในจิตใจ
หมอกประหลาดนี้เกิดขึ้นเร็วเกินไปจนบดบังท้องฟ้าและดวงอาทิตย์หมดสิ้น เขาไม่อาจทําเช่นนี้ด้วยการฝึกตนขั้นซิวฉือระดับหนึ่งเป็นแน่ เห็นได้ชัดว่าผู้มาเยือนนั้นต้องเป็นยอดฝีมือ มีสมบัติอันทรงพลังในครอบครอง หรือมีเคล็ดวิชาเฉพาะตัวที่ยากจะต่อกรด้วยเมื่อเทียบกับจักรพรรดิไพรทมิฬและพรรคพวก ในยามนี้ยังมีเวลาพอให้หนี หากอยู่ที่นี่ต่อไปคงไม่เพียงแต่ไม่ได้เมล็ดข้าวมังกรสวรรค์ดังใจหวังแต่อาจต้องเอาชีวิตมาทิ้งก็เป็นได้
จิตใจของเยี่ยฉวนร้อนรน จักรพรรดิไพรทมิฬและพรรคพวกหยุดโจมตีกะทันหันเมื่อสัมผัสได้ถึงอันตรายใหญ่หลวงเช่นกัน
ม่านหมอกหนาทึบแยกทั้งสองฝ่ายที่กําลังสับสนออกจากกัน
หมอกลงหนาขึ้นเรื่อยๆ จนมองเห็นเพียงเงาเลือนรางของอีกฝ่าย บรรยากาศเต็มไปด้วยกลิ่นอายของอันตราย กระแสพลังงานแปรปรวนทําให้ขอบเขตกระแสจิตบริสุทธิ์ของพวกเขาลดลงเรื่อยๆ
นี่มัน… บทเพลงปีศาจหรือ?
สีหน้าของเยี่ยฉวนแปรเปลี่ยน เขาล่วงรู้อย่างรวดเร็วว่ารัศมีที่แผ่ซ่านไปทั่วในยามนี้คือสิ่งใด ชายหนุ่มพลันเคร่งเครียดและระแวดระวังขึ้นมาทันใด
มนุษย์อาจเทียบชั้นกับสัตว์อสุรกายได้ ทว่าอสุรกายมักมีพรสวรรค์โดยกําเนิดที่มิอาจเทียบเทียมได้ สภาพแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติมักทําให้พลังการต่อสู้ของพวกมันอยู่เหนือจินตนาการและสามารถบดขยี้คู่ต่อสู้ที่อยู่ในระดับชั้นเดียวกันอย่างง่ายดาย!
เมล็ดข้าวมังกรสวรรค์เป็นธัญพืชอันเป็นอาหารหลักของมังกรเซียนโบราณ การมีอยู่ของเมล็ดพันธุ์นี้อาจดึงดูดสัตว์อสุรกายชั้นเลิศในเทือกเขาหมอกเมฆามาก็เป็นได้!
เยี่ยฉวนสูดหายใจลึกพลางนึกถึงสภาพแวดล้อมโดยรอบเพื่อเตรียมหลบหนี ทว่าหูกลับได้ยินเสียงบางอย่าง
เสียงบทเพลงดังแว่วมาจากที่ห่างไกลซึ่งวิสัยทัศน์ของดวงตาและกระแสจิตบริสุทธิ์ไม่อาจไปถึง
เสียงเพลงนี้ดังแผ่วเบาและไม่สม่ำเสมอ บางครั้งก็ดังชัดเจนจากทิศตะวันออกจนรู้สึกราวกับกําลังใกล้เข้ามา แต่แล้วในวินาทีถัดมาก็แปรเปลี่ยนเป็นดังแว่วจากทิศตะวันตกไกลแสนไกลจนยากจะบอกว่าเสียงนี้มีอยู่จริงหรือไม่ ราวกับเสียงคนพึมพํากับตนเอง แต่ขณะเดียวกันก็คล้ายเสียงเด็กสาวร้องโหยหวนด้วยความโศกเศร้าอย่างสุดซึ้ง เป็นเสียงที่ปลุกเร้าจิตวิญญาณของผู้คนให้ลอยล่องไปตามท่วงทํานองและพัดพาเข้าสู่โลกแห่งความเคียดแค้น
เยี่ยฉวนตื่นขึ้นจากภวังค์ด้วยความรู้สึกหนาวสั่นแม้จะไม่มีลมฝนเลยก็ตาม
หมอกเริ่มหนาขึ้น ทะเลสาบที่ขนาบข้างทางเดินแคบพลันเกิดเสียงเคลื่อนไหวของสายน้ำ ไม่รู้ว่าเมื่อใดที่คลื่นสาดซัดไปมาอย่างรุนแรงและกลิ่นอายอันตรายในอากาศพลันหนาแน่นขึ้นเช่นนี้
เคล็ดวิชาชั้นยอด!
เยี่ยฉวนคว้าโคมบงกชสีครามออกมา ดวงจิตค่อยๆ สงบลงภายใต้แสงสีครามอ่อนจาง เสียงร้องเพลงไร้ตัวตนยังคงแว่วดังแต่กลับไม่มีผลกับดวงจิตของเขาอีกต่อไป
เมื่อครู่แม้แต่อดีตนักปราชญ์ผู้ซ่อนเร้นสวรรค์อย่างเขายังเกือบพ่ายแพ้ต่อเสียงเพลงนั้น ดวงจิตของเขาแทบหลุดเข้าไปในโลกแห่งความเคียดแค้น มันคือกลลวงตา เคล็ดวิชาลวงตาชั้นยอด!
เสียงลมหายใจรัวเร็วและสับสนดังขึ้นท่ามกลางม่านหมอกทึบ คนนอกรีตสี่คนติดกับเคล็ดวิชาลวงตานี้เข้าเสียแล้ว เกิดเสียง “ติ๊ง” ขึ้นก่อนที่พวกเขาจะเริ่มตะโกนลั่นอย่างกราดเกรี้ยว
จักรพรรดิไพรทมิฬตื่นขึ้นจากภาพลวงตาอันน่าสะพรึงกลัวเป็นคนถัดมา เขาตะโกนดังก้องแก้วหูแทบแตกเพื่อปลุกผู้ติดตามอีกสามคนที่เหลืออยู่ขึ้นจากภวังค์
“ภูตทะเล! นังภูตทะเลนั่น! มันตามเรามาถึงที่นี่!”
“ใช่! ภูตทะเลจริงๆ ด้วย! มันต้องการชิงกล่องไม้นี่และล้างแค้นให้เพื่อนของมัน!”
“คําสาป! นี่เป็นคําสาปของภูตทะเลในตํานาน!”
คนนอกรีตทั้งสามกรีดร้องด้วยความตื่นตระหนก เสียงของพวกเขาสั่นสะท้านด้วยความกลัวที่พลุ่งพล่านขึ้นในจิตใจ
การขโมยกล่องเมล็ดข้าวมังกรสวรรค์มานั้นไม่ง่ายเลย พวกเขาต้องร่วมมือกันสังหารภูตทะเลที่ทรงพลังและควักลูกตาของมันออกมา ซึ่งเป็นลูกตาที่หลิวหงหยิบขึ้นมาจากแผงขายของด้วยคิดว่าเป็นสมบัติบางอย่าง
นอกจากภูตทะเลที่ตายไปแล้วยังมีภูตทะเลหญิงอีกตนที่หนีรอดจากการโจมตีของจักรพรรดิไพรทมิฬและพรรคพวกไปได้ แต่พวกเขาไม่คาดคิดว่ามันจะตามมาจนถึงแผ่นดินใหญ่ สภาพแวดล้อมของทะเลสาบอมตะที่เชื่อมต่อกับทะเลสาบน้อยใหญ่ทําให้เผ่าภูตทะเลแข็งแกร่งดั่งพยัคฆ์ร้ายติดปีก!
“ไอ้พวกสวะ! ยังไม่หาโอกาสโจมตีอีกหรือ?”
จักรพรรดิไพรทมิฬตะโกนด้วยความโกรธเกรี้ยวก่อนจะพุ่งไปทางทิศที่เยี่ยฉวนยืนอยู่อย่างสะเปะสะปะ
เคล็ดวิชาลวงตาของภูตปีศาจไม่มีผู้ใดในโลกเทียบเทียมได้ เขาจึงต้องการฉวยโอกาสนี้จับเยี่ยฉวนขณะที่ยังหลงอยู่ในภวังค์และนําตัวกลับไปยังดินแดนทะเลตะวันออก หากภารกิจนี้ไม่สําเร็จลุล่วงก็เท่ากับว่าเขาเดินทางไกลมาโดยเปล่าประโยชน์
จักรพรรดิไพรทมิฬเสี่ยงลงมืออย่างบ้าบิน!
ชายนอกรีตทั้งสามฟื้นคืนสติและกระชับกระบี่มั่นก่อนจะพุ่งทะยานไปข้างหน้า ภูตทะเลที่แฝงกายอยู่ทําให้พวกเขาสั่นสะท้านด้วยความกลัวและแทบอดไม่ไหวที่จะหนีไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทําได้ แต่ด้วยคําสั่งของจักรพรรดิไพรทมิฬและศักดิ์ศรีของเผ่าพันธุ์ทําให้พวกเขาไม่มีทางเลือก!
“ไป!”
ดวงตาของเยี่ยฉวนมองไม่เห็นจักรพรรดิไพรทมิฬและพรรคพวกทว่าหูกลับได้ยินเสียงชัดเจน ทันใดนั้นฝูงปีศาจวัวนัยน์ตาอสูรที่ล้อมรอบตัวเขาอยู่พุ่งไปข้างหน้าพร้อมกันและเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ ราวกับเสียสติ เยี่ยฉวนกระโดดขึ้นไปบนหลังของราชาปีศาจวัวและพลิกตัวไปอยู่ใต้ท้องอย่างแนบเนียน
แรงจากการที่ปีศาจวัวนัยน์ตาอสูรกว่าพันตัวพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกันนั้นมหาศาลและทําให้พวกจักรพรรดิไพรทมิฬสับสน สถานการณ์กลับโกลาหลขึ้น บางคนถูกชนตกทะเลสาบแม้จะพยายามหนีอย่างรวดเร็วแล้วก็ตาม
ด้านจักรพรรดิไพรทมิฬไม่ยอมหลบแต่ยังคงรุดหน้าต่อไป เขากวัดแกว่งกระบี่ในมืออย่างบ้าคลั่งและมั่นคอปีศาจวัวทุกตัวที่ขวางหน้า ชายผู้นี้เสียสติยิ่งกว่าสัตว์อสุรกายเสียอีก! เขาสาบานว่าจะไม่มีวันหยุดยั้งจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย!
“ตึง!”
จักรพรรดิไพรทมิฬกวาดล้างทุกสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า กระบี่ของเขาฟาดฟันลงตัดคอปีศาจวัวครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เมื่อพยายามรุกคืบเพื่อตามหาเยี่ยฉวนกลับพบบางสิ่งผิดปกติ ร่างกายของปีศาจวัวตัวนี้แข็งแกร่งจนกระบี่ไม่สามารถฟาดฟันให้ขาดสะบั้นได้ อีกทั้งพังผืดระหว่างนิ้วโป้งและนิ้วชี้ของเขายังเจ็บปวดอย่างมาก
“ราชาปีศาจวัวงั้นหรือ?!”
จักรพรรดิไพรทมิฬเข้าใจสถานการณ์อย่างรวดเร็ว และก่อนที่จะได้ออกแรงฟาดกระบี่อีกครั้งก็เกิดแรงสั่นสะเทือนจนแผ่นดินสะท้านมาจากใต้เท้าจนร่างของเขาล้มลงซี่โครงหักในทันใด! แรงนี้ทรงพลังกว่าแรงปะทะกับปีศาจวัวนัยน์ตาอสูรนับสิบตัวเสียอีก! บัดนี้เขารู้สึกราวกับก้อนหินหนักอึ้งกําลังกดทับลงมาบนร่าง
เขาตกหลุมพรางของเจ้าเด็กนี้เสียแล้ว!
หัวใจของจักรพรรดิไพรทมิฬสั่นรัวพลางขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างโกรธแค้น เขายกดาบในมือขึ้นหมายจะโต้กลับแต่ถูกคว้าข้อมือเอาไว้พร้อมเสียงดังลั่นของกระดูกที่หัก กระบี่ร่วงหล่นลงบนพื้น จากนั้นปรากฏแสงวาววับจากใบมีดท่ามกลางม่านหมอก เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดตรงลําคอ หว่างคิ้ว และในอกเช่นเดียวกับจุดสําคัญอื่นๆ ผู้นําคนนอกรีตกําลังทุกข์ทรมานกับการโจมตีถึงตาย!
“อ๊าก…”
จักรพรรดิไพรทมิฬกรีดร้องอย่างน่าสยดสยอง ก่อนตายเขาสัมผัสได้ถึงมือใหญ่สองมือคลําดูหน้าอกที่ยับเยินก่อนจะหยิบกล่องไม้และกล่องแก้วที่บรรจุแหวนสารีริกธาตุออกไป สมบัติทั้งสองถูกชิงไปเสียแล้ว! และแล้วเสียงฝีเท้าวุ่นวายของฝูงปีศาจวัวนัยน์ตาอสูรก็หายไปทิ้งไว้เพียงเสียงบทเพลงแผ่วเบาของภูตทะเลเท่านั้น
“ท่านจักรพรรดิไพรทมิฬ!”
“ไม่นะ…จักรพรรดิไพรทมิฬ”
คนนอกรีตที่เหลืออยู่ทั้งสามร้องตะโกนพลางเร่งรีบมายังร่างของจักรพรรดิไพรทมิฬ พวกเขายื่นมือออกไปและพบว่าออร่าอันแข็งแกร่งของผู้นําได้หายไปแล้ว ซ้ำร้ายสมบัติในอกยังหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“ไป กลับไปบอกหัวหน้าเผ่ากัน ปล่อยเขา…”
คนนอกรีตคนหนึ่งลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก่อนที่จะพูดจบกลับรู้สึกเย็นวาบในลําคอก่อนจะกระอักเลือดออกมา เขายกมือขึ้นกุมคออย่างไม่อยากเชื่อก่อนจะล้มลงและร่วงหล่นลงไปในทะเลสาบข้างทางเดิน
ดู hentai ได้ที่ hanimeza.com
หญิงสาวสง่างามผู้หนึ่งกระโดดขึ้นมาจากทะเลสาบ คนนอกรีตที่เหลืออยู่ทั้งสองกรีดร้องและพยายามหนีทันทีที่เห็น แต่วิ่งไปได้เพียงไม่กี่ก้าวกระบี่คมกริบก็แทงทะลุหน้าอกของพวกเขาตายทันที
หญิงสาวทรุดตัวลงตรวจดูร่างของจักรพรรดิไพรทมิฬ สีหน้าของนางกลับเยือกเย็นขึ้น
“แซ่เยี่ย? ในเทือกเขาหมอกเมฆาแห่งนี้จะมีเด็กหนุ่มแซ่เยี่ยสักกี่คนกัน?”
แววตาของหญิงสาวทอประกายวูบไหว นางลุกขึ้นเตะร่างไร้วิญญาณของจักรพรรดิไพรทมิฬลงไปในทะเลสาบก่อนจากไป ไม่นานหมอกหนาทึบก็จางหายไปอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับตอนปรากฏ