Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ – บทที่ 125 นกชื่อบื้อ

 

ขุนศึกสยบสวรรค์ บทที่ 125 นกชื่อบื้อ

 

ผู้อาวุโสลําดับสามขมวดคิ้วด้วยความโกรธ

 

กลางดึก ยอดเขาทั้งหมดในสํานักหมอกเมฆาตกอยู่ในความเงียบสงัด ทว่าอาวุโสลําดับสามไป๋เยี่ยนหูกําลังหน้านิ่ว คิ้วขมวดขณะเดินกลับไปกลับมาในหอพยัคฆ์ขาวอันโอ่อ่า 

 

สามวันผ่านไปนับตั้งแต่ได้ยินข่าวว่าเยี่ยฉวนย้ายไปยังภู ขาเบื้องหลังนามยอดเขามังกรสวรรค์ แต่ชายชรายังคงรู้สึกกระสับกระส่ายมาโดยตลอด เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้ไม่ชอบมาพากลจึงทําให้เขารู้สึกไม่สบายใจ

 

เยี่ยฉวนย้ายจากยอดเขาเมฆาอินทนิลที่มีปราณแห่งจิตวิญญาณโลกหนาแน่นไปยังยอดเขาเบื้องหลังที่แม้แต่นกยังไม่อยากบินเฉียด ซ้ําร้ายยังฝึกตนข้างหุบเขามังกรปีศาจ นี่เขาเสียสติไปแล้วหรือแค่โง่กันแน่?

 

‘ไม่สิ! ไอ้เด็กเวรนั่นไม่โง่ทั้งยังเจ้าเล่ห์นัก!’ ไป๋เยี่ยนหูรู้ดี จากฝีมือของเยี่ยฉวนในการประลองครั้งยิ่งใหญ่ที่ผ่านมา แม้แต่เจ้าสํานักเครื่องนิลโท่วปาเชียงยังไม่อาจหาข้อได้เปรียบใดๆ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเยี่ยฉวน เขาพอจะจินตนาการถึงความฉลาดแกมโกงของเด็กนั้นได้

 

เยี่ยฉวนแลดูเป็นคนตรงไปตรงมาเมื่อมองจากภายนอก แต่แท้จริงนั้นเจ้าเล่ห์อย่างหาที่เปรียบมิได้ เหตุใดเขาจึงย้ายไปยังภูเขาเบื้องหลังกะทันหันเช่นนี้? คิดจะทําสิ่งใดกันแน่?

 

อาวุโสลําดับสามมีสีหน้ากลัดกลุ้มเมื่อยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกแปลก

 

สองวันที่ผ่านมาเขาส่งบริวารที่เชื่อถือได้หลายคนไปสอด แนมยอดเขามังกรสวรรค์ แต่ทั้งหมดกลับหายไปโดยไร้การติดต่อกลับใดๆ ราวกับหายวับไปในอากาศหรือร่วงหล่นลงไปในหุบเขามังกรปีศาจ บัดนี้ภูเขาเบื้องหลังอันรกร้างอันตรายกว่าในกาลก่อนเป็นร้อยเท่า แต่น่าแปลกที่บรรดาศิษย์สามัญสามารถเดินเล่นโดยรอบและกลับมาโดยสวัสดิภาพ ทั้งหมดยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่มีสิ่งใดผิดปกติบนยอดเขา นอกจากกระท่อมไม้ซุงธรรมดาๆ

 

เยี่ยฉวนโยกย้ายอย่างยิ่งใหญ่เพียงเพื่อสร้างกระท่อมไม้ซุงข้างหุบเขามังกรปีศาจอย่างนั้นหรือ? จะเป็นไปได้อย่างไร?

 

อาวุโสลําดับสามไม่อยากเชื่อ ยิ่งผู้คนพูดกันว่ายอดเขามังกรปีศาจไม่มีสิ่งผิดปกติมากเท่าใดยิ่งทําให้เขาไม่สบายใจมากเท่านั้น

 

ยามราตรีมืดมิดลงเรื่อยๆ ผ่านไปค่อนคืน ก้อนเมฆหนาทึบปกคลุมท้องฟ้าจนแสงจันทร์ส่องสลัว

 

ผู้อาวุโสลําดับสามผู้กระสับกระส่ายมองดูท้องฟ้าก่อนจะสวมหมวกไม้ไผ่และบินออกไป

 

หลังคิดใคร่ครวญซ้ําแล้วซ้ําเล่าก็ยังรู้สึกไม่สบายใจ เขาจึงฉวยโอกาสยามราตรีที่ฟ้ามีดและลมแรงเช่นนี้ออก เดินทางไปดูว่าเยี่ยฉวนวางกลอุบายอันใดไว้บนยอดเขามัง กรปีศาจด้วยตาตนเอง!

 

ยอดเขามังกรปีศาจถูกรวมเข้าในอาณาเขตของสํานักหมอกเมฆาอย่างเป็นทางการจึงมีบรรดาศิษย์เดินลาด ตระเวนอยู่บนภูเขา ดึกดื่นเช่นนี้ยังมีบางคนถือคบเพลิงเดิน เตร่ไปมา แม้จะได้รับการอารักขาอย่างเข้มงวดทว่ายังไม่ แน่นหนาพอที่จะหยุดจอมยุทธ์ขันปรมาจารย์แห่งเต๋เช่นเขาได้

 

ไป๋เยี่ยนหูนั้นปราดเปรียวสมชื่อพยัคฆ์ขาว แม้ร่างกายจะผอมบางแต่กลับลงเขารวดเร็วราวสายลม ชายชราผ่าแนวป้องกันบริเวณตีนเขาไปอย่างง่ายดายก่อนจะมองดูยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยแสงจันทร์สลัวและรุดหน้าต่อไป แต่เดินไปเพียงไม่กี่ก้าวก็ต้องชะงักฝีเท้าลง แววตาวูบไหวจ้องมองพุ่มไม้ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก

 

เมี้ยว!

 

แมวขาวตัวใหญ่กระโจนออกจากพุ่มไม้และหายไปในความมืด

 

ไป๋เยี่ยนหูผ่อนคลายลงและเดินหน้าต่อไป

 

เมื่อครู่เขาคิดว่าตนได้พบกับผู้อารักขาที่ทรงพลัง ทว่ากลับเป็นเพียงแมวจรจัดตัวหนึ่งเท่านั้น ดูเหมือนว่าตอนนี้ เขากําลังกังวลอย่างไร้เหตุผล

 

ไป๋เยี่ยนหูเร่งฝีเท้าขึ้นอีก แต่แล้วกลับต้องหยุดชะงักอีกครั้งขณะที่เท้าซ้ายอยู่บนพื้นและเท้าขวายังก้าวค้างในอากาศ ชายชราตึงเครียดเสียจนไม่กล้าแม้แต่จะก้าวต่อไป เขาปลดปล่อยจิตสังหารออกมาอย่างบ้าคลั่ง

 

หนูขนดกโผล่ออกมาจากกองใบไม้แห้งใต้เท้าขวาพร้อมเสียงกรอบแกรบ แม้จะยังไม่ตื่นตัวเต็มที่แต่มันก็แสดงท่าทีหวาดกลัวต่อจิตสังหารที่มองไม่เห็นเป็นอย่างมาก มันมองไปรอบๆ อย่างนุ่มง่ามอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะมุดหายไปใต้กองใบไม้แห้งอีกครั้ง

 

“ไอ้หนูโง่!”

 

ไป๋เยี่ยนหูโมโหขึ้นมา เขาเคยเจอหนูมาหลายตัวแต่ไม่เคยมีการเผชิญหน้าครั้งใดที่โง่เง่าเช่นนี้มาก่อน เขาข่มความรู้สึกอยากกระทืบมันให้ตายด้วยความยากลําบากก่อนจะเดินหน้าต่อไป ชายชราเร่งรุดไปข้างหน้าอย่างมุ่งมั่นแม้จิตใจจะร้อนรนมากขึ้นเมื่อต้องเจอกับลางบอกเหตุที่ผิดพลาดถึงสองครั้ง โชคดีที่ครั้งนี้ไม่มีสิ่งใดมากีดขวางอีกต่อไปและมาถึงครึ่งทางในชั่วอึดใจเดียว

 

“ตาเฒ่า หยุด!”

 

ฉับพลันเสียงแหบพร่าดังขึ้นในความมืดขณะที่ไป๋เยี่ยนหู กําลังพุ่งตรงไปยังยอดเขาด้วยความเร็วสูงสุด!

 

“นั่นใคร?”

 

ไป๋เยี่ยนหูชะงักฝีเท้าและเคร่งเครียดขึ้นทันใด แสงสีดําหมุนวนอยู่ที่ปลายนิ้วเพื่อเตรียมพร้อมการโจมตีถึงตาย!

 

เขาบรรลุความสมบูรณ์แบบขั้นสูงสุดของเคล็ดวิชาหัตถ์ลมปีศาจแล้ว หากเขาโจมตีสุดกําลังแม้แต่อาวุโสสูงสุดก็ไม่กล้าเผชิญหน้าโดยตรง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมั่นใจในการเอาชนะคู่ต่อสู้ในระดับชั้นเดียวกันอีกด้วย

 

“ตาเฒ่า! เจ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือ?” เสียงแหบพร่าดังขึ้นอีกครั้ง

 

สีหน้าของไป๋เยี่ยนหูแปรเปลี่ยน เขาส่งกระแสจิตบริสุท ธิ์ออกไปทว่ากลับไม่พบแม้แต่ร่องรอยของศัตรู!

 

ปรมาจารย์!

 

ยอดฝีมือขั้นปรมาจารย์แห่งเต๋ระดับสูง!

 

ไป๋เยี่ยนหูเหงื่อไหลโซมกายและหัวใจสั่นระรัว บัดนี้เขาไม่อาจข่มความกระวนกระวายที่พุ่งสูงเอาไว้ได้

 

หากศัตรูมีระดับขั้นสูงกว่าเขาเพียงหนึ่งถึงสองระดับคงไม่อาจซ่อนตัวมิดชิดเช่นนี้ได้ เห็นได้ชัดว่าไป๋เยี่ยนหูกําลังเผชิญ หน้ากับปรมาจารย์ระดับสูงที่ทรงพลังยิ่ง! อาจเป็นยอดฝีมือที่เยี่ยฉวนขอให้ช่วยหรืออาจเป็นผู้หนุนหลังของเขาอย่างราชาอีกาปีศาจในตํานานก็เป็นได้!

 

อาวุโสลําดับสามใบหน้าซีดเผือดเมื่อนึกถึงจดหมายตอบรับจากปีศาจฝน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพฤติกรรมแปลกประหลาดของเยี่ยฉวนจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

 

ไม่น่าแปลกใจว่าเหตุใดเยี่ยฉวนผู้เจียมตัวและสงบปากสงบคําจนยอมให้ผู้คนรังแกในกาลก่อนถึงได้แสดงฝีมือชั้นยอดออกมาในช่วงหลัง นั่นเป็นเพราะเขาได้ขอความช่วยเหลือจากราชาปีศาจผู้ยิ่งใหญ่อย่างลับๆ! การย้ายไปยังภูเขาด้านหลังกะทันหันก็เพื่อให้ทุกสิ่งสะดวกสบายสําหรับราชาอีกาปีศาจและหลีกเลี่ยงหูตาของผู้คน!

 

ไป๋เยี่ยนหูพบทางสว่างเมื่อเข้าใจเหตุผลเบื้องหลังการโยกย้ายที่แท้จริง ด้วยความช่วยเหลือของราชาปีศาจแล้วไม่น่าแปลกใจว่าเหตุใดแผนการของเขาจึงล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่าทั้งยังต้องสูญเสียอี้ตั๋วและจินจือคุนไป!

 

ไป๋เยี่ยนหูปิดปากแน่นหลังจากเข้าใจสถานการณ์บนภูเขาลูกนี้ เขาหันหลังอย่างต้องการหลบหนี!

 

ราชาอีกาปีศาจเป็นที่เลื่องลือเรื่องความโหดเหี้ยมอํามหิต เขาเป็นผู้นําที่ยิ่งใหญ่ของผู้ฝึกมารทั้งหมดในทวีปไร้แสงจันทร์ ตํานานเล่าขานว่าการฝึกตนของเขาใกล้เคียงกับขั้นนักปราชญ์! เมื่อต้องเผชิญหน้ากับราชาปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ ไป๋เยี่ยนหูผู้มั่นใจในการสังหารศัตรูที่อยู่ในระดับชั้นเดียวกันยังแทบไม่คิดสู้หากแต่รีบหนีทันที!

 

ไป๋เยี่ยนหูสามารถเดินยืดอกอย่างไม่หวั่นเกรงผู้ใดในเทือกเขาหมอกเมฆานี้ได้ด้วยขั้นปรมาจารย์แห่งเต๋ระดับสาม แต่เมื่ออยู่เบื้องหน้าราชาอีกาปีศาจแล้วเขาไม่อาจเทียบได้ แม้แต่ปลายเล็บ! แม้แต่ปีศาจฝนที่บรรลุขั้นปรมาจารย์แห่งเตระดับหกยังไม่อาจต่อกร ไม่ต้องสงสัยว่าศัตรูผู้นี้จะแข็งแกร่งมากเพียงใด!

 

“ไอ้แก่ เจ้าจะหนีไปไหน?!”

 

เสียงแหบหุ้มดังขึ้นในความมืดอีกครั้งประหนึ่งเงาตามตัว

 

ไป๋เยี่ยนหูซีดเผือดราวกับตายไปแล้วครึ่งหนึ่งด้วยความสะพรึงกลัว เขาล้มลุกคลุกคลานลงจากเขาโดยไม่หันกลับไปมอง ก่อนเดินทางมาเขาได้วางแผนมาแล้วอย่างถี่ถ้วน ทว่าบัดนี้กลับตื่นกลัวจนสติกระเจิงไม่หลงเหลือคราบอาวุโส ชายชราหนีลงมาจนถึงตีนเขาและสงบสติอารมณ์ลงได้เล็กน้อยเมื่อเห็นคบเพลิงของหน่วยลาดตระเวน

 

ไกลออกไปครึ่งทางบนภูเขา เยี่ยฉวนปรากฏกายออกมาจากความมืดพร้อมรอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้าเมื่อมองดูแผ่นหลังอันน่าสังเวชของอาวุโสลําดับสาม เขาผิวปากก่อนนกแก้วจะงอยปากแดงจะบินจากยอดไม้ลงมาเกาะบนไหล่

 

“ตาแก่ หยุดก่อน!”

 

“ตาแก่ เจ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือ?”

 

“ตาแก่ จะหนีไปไหน?”

 

นกแก้วปากแดงร้องออกมาไม่หยุดด้วยเสียงแหบพร่าแฝง ความเย็นชาเล็กน้อย เมื่อเยี่ยฉวนให้ชิ้นเนื้อกับมันจึงได้เงียบเสียงลง

 

ไป๋เยี่ยนหูนั้นแข็งแกร่งนักด้วยฐานะผู้อาวุโส แต่เขากลับคิดว่าศัตรูของเขาคือราชาอีกาปีศาจในตํานานและหนีไป ด้วยความกลัวเมื่อไม่อาจสัมผัสถึงร่องรอยของอีกฝ่าย โดยไม่ได้ฉุกคิดเลยว่าเสียงแหบพร่านั้นเป็นเสียงของนกและมอง ข้ามนกแก้วปากแดงที่เกาะอยู่บนยอดไม้ไป หากชายชรารู้ว่าในค่ําคืนนี้เขาต้องหนีหัวซุกหัวซุนเพียงเพราะนกตัวเดียวจะขุ่นเคืองใจเพียงใดกัน!

 

“เจ้านกชื่อบื้อ!”

 

เยี่ยฉวนยิ้มหยันก่อนจะหายไปในความมืด

 

Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์

Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์

Storm in the Wilderness, 蛮荒风暴
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์บทนำ ณ ห้องโถงใหญ่บนยอดเขาเมฆาอินทนิล…เหล่าผู้อาวุโสทั้งห้าและบรรดาลูกศิษย์ในสำนักนับพันชีวิตต่างจ้องมองไปทางเดียวกันอย่างไม่เชื่อสายตา! ทุกคนต่างคิดว่าเขาตายไปแล้วในสุสานเทพเจ้าเมื่อสามเดือนก่อน! แม้แต่ผู้พิทักษ์ขั้นซิ่วฉือระดับห้ายังถูกลอบโจมตีจนสิ้นชีพ แล้วเหตุใดผู้ที่บรรลุเพียงขั้นอู่เจ๋อระดับที่หนึ่งเช่นเขาจึงมีชีวิตรอดจากหายนะในภารกิจครั้งนั้น?! ใช่…เขาตายไปแล้ว… ‘เยี่ยฉวน’ คนเก่าจอมขลาดเขลาและเหยียมอายคนนั้นตายไปแล้ว! บัดนี้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาคือเยี่ยฉวนคนใหม่ที่ฝึกตนจนบรรลุขั้นอู่เจ๋อระดับสี่โดยใช้เวลาเพียงชั่วข้ามคืน! เขาได้พบเคล็ดวิชาลึกลับ ‘ขัดเกลาปีศาจกลืนกินสวรรค์’ จากสุสานเทพเจ้าโดยบังเอิญ วิชานี้มีพลานุภาพมหัศจรรย์เหนือกว่าเคล็ดวิชาซ่อนเร้นสวรรค์เสียอีก! หากเขาฝึกฝนเคล็ดวิชานี้จนสำเร็จต้องมีระดับขั้นการฝึกตนที่สูงกว่าภพชาติก่อนเป็นแน่! หรือบางทีอาจบรรลุถึงขั้นผู้อมตะแห่งเต๋าที่เป็นเพียงตำนาน!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset