ขุนศึกสยบสวรรค์ บทที่ 157 ค้างคาวดํา
เหตุการณ์ ณ เครื่องเคลื่อนย้ายทําให้กองกําลังของอาวุโสไป๋เยี่ยนหูเร่งรุดมาถึงอย่างรวดเร็ว กองกําลังกบฏระลอกแล้วระลอกเล่าพุ่งเข้าใส่เครื่องเคลื่อนย้าย แม้ในหมู่กบฏจะมีคนแปลกหน้าแต่ก็มีศิษย์สํานักหมอกเมฆาจํานวนมากและหลายคนเป็นศิษย์ที่มีชื่อเสียง ยิ่งใบหน้าคุ้นเคยมากเท่าใดยิ่งโจมตีอย่างดุดันมากเท่านั้นเพื่อสร้างความดีความชอบและไต่เต้าตําแหน่งในอนาคต
อาวุโสลําดับสามได้วางแผนรวบรวมศิษย์ในสํานักมาหลายปีแล้ว เขาทําร้ายอาวุโสลําดับสองจนสาหัสหลังการก่อกบฏและก้าวขึ้นเป็นเจ้าสํานัก ผู้คนมากมายต้องยอมสวามิภักดิ์เพื่อรักษาชีวิตและเพื่อผลประโยชน์
การประจันหน้าครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด!
เยี่ยฉวนเป็นห่วงอาวุโสลําดับสองและจูซื้อเจียจึงนําทัพปีศาจวัวนัยน์ตาอสูรเข้าปะทะกับกองกบฏที่ขวางทางไว้ มีเพียงคําสั่งเดียวคือฆ่าให้หมดเท่านั้น!
ปีศาจวัวนัยน์ตาอสูรนับพันตัวจัดกระบวนทัพวิ่งไปยังห้องโถงใหญ่แห่งสํานักหมอกเมฆาอย่างบ้าคลังและสังหารกบฎทุกคนที่ขวางหน้า! เยี่ยฉวนจะจัดการด้วยตนเอง เมื่อเจอเข้ากับกองกบฏยอดฝีมือระหว่างทางปีศาจวัวนัยน์ ตาอสูรคํารามกึกก้องพร้อมพุ่งทะยานไปข้างหน้าตามคําสั่งของเยี่ยฉวนจนกองกําลังกบฏล้มตายตั้งแต่การปะทะครั้งแรก!
กองกบฏอีกกลุ่มพุ่งลงมาจากยอดเขาทันทีที่กองทัพของเยี่ยฉวนไปถึงตีนเขาสูงชัน พวกเขามีจํานวนราวห้าร้อยคนและสวมชุดคลุมของสํานักหมอกเมฆา มองเพียงปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นอดีตศิษย์ชั้นเลิศที่มีระดับการฝึกตนอย่างน้อยขั้นซิวฉือระดับหนึ่งขึ้นไป จิตสังหารของพวกเขาแทบกวาดล้างทุกสิ่งเมื่อมารวมตัวกันกว่าห้าร้อยคนเช่นนี้
“เร่งฝีเท้าไปข้างหน้า! ฆ่ามันให้หมด!”
เยี่ยฉวนรุ่มร้อนไปด้วยความกระวนกระวายอยากบินไปยังห้องโถงใหญ่แห่งสํานักหมอกเมฆาเสียเดี๋ยวนี้ กองทัพปีศาจวัวนัยน์ตาอสูรเร่งฝีเท้าไปข้างหน้าตามคําสั่งและเปิดฉากการโจมตีระลอกแล้วระลอกเล่าเมื่ออยู่ห่างจากเป้าหมายราวร้อยเมตร ลําแสงสีฟ้านับไม่ถ้วนพาดผ่านท้องฟ้าก่อนเหล่ากบฏจะล้มระเนระนาด ทว่าคนที่เหลืออยู่กลับตอบสนองอย่างรวดเร็วด้วยการกระจายไปซ่อนตัวอยู่หลังพุ่มไม้และก้อนหินก่อนโจมตีกลับ บ้างใช้หน้าไม้ บ้างใช้กระบี่บิน แต่ทั้งหมดโจมตีอย่างบ้าคลั่งสุดกําลังจนเหล่าปีศาจวัวนัยน์ตาอสูรเริ่มบาดเจ็บล้มตาย บางตัวส่งเสียงร้องอย่างน่าหดหูขณะล้มลงบนพื้น
“โจมตี! ฆ่ามัน! หัวของไอ้เด็กเวรแซ่เยี่ยเป็นของขวัญที่ดีที่สุดแด่เจ้าสํานักของเรา!”
ชายร่างท้วมวัยกลางคนในเสื้อคลุมสีดําพุ่งออกมาจากกองกําลังกบฏและกางแขนบินต่ำราวกับค้างคาวพร้อมมีดสั้นในมือ ปีศาจวัวนัยน์ตาอสูรล้มลงที่ละตัวทุกครั้งที่แสงจากใบมีดสว่างวาบ เขาบินร่อนซ้ายขวาหลบหลีกลําแสงสีฟ้าอย่างชํานาญขณะนํากองกําลังกบฏโต้กลับรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และยื้อกองทัพปีศาจวัวของเยี่ยฉวนเอาไว้
“นี่คือค้างคาวดําผู้ใต้บังคับบัญชาอีกคนของไป๋เยี่ยนหู ขึ้นชื่อว่ามีฝีเท้าว่องไวเป็นเลิศขอรับ เขาทั้งร้ายกาจ โหดเหี้ยม และเลือดเย็น”
ผู้พิทักษ์หยางกล่าวเตือนเยี่ยฉวน เพียงแค่ได้ยินเสียงก็จําชายผู้นี้ได้ทันที ร่องรอยความสะพรึงกลัวฉายชัดบนใบหน้าคล้ายว่าผู้พิทักษ์หยางจะเคยเผชิญหน้ากับชายร่างอ้วนและประสบกับความโหดเหี้ยมของอีกฝ่ายมาก่อน
“ฮ่าๆๆ ใช่ ข้าคือค้างคาวดํา! หยางเทียนกวงเกิดอะไรขึ้นกับดวงตาของเจ้า? อาวุโสลําดับสามขึ้นเป็นเจ้าสํานัก แต่เจ้ายังไม่ยอมจํานนและแสดงความภักดี ยังยืนกรานจะกระทําผิดเช่นนี้อยู่อีกหรือ? บัดนี้ทั้งสํานักคือโลกของพวกข้า พวกเจ้าถูกลิขิตให้หนีไม่พ้นแล้ว หากไม่ยอมก้มหัวเสียตอนนี้ระวังจะสายเกินไป! มีดสั้นขาได้เชือดคอเจ้าแน่! ฮ่าๆๆ…”
ค้างคาวดําระเบิดหัวเราะพลางตวัด มีดสั้นในมือก่อนปีศาจวัวอีกตัวจะล้มลง
“จะค้างคาวดําอะไรก็ช่าง! ฆ่าให้หมด!”
เยี่ยฉวนตะโกนลั่นพร้อมพุ่งทะยานขึ้นไปบนฟ้าก่อนหายวับไป อากาศรอบค้างคาวดําพลันบิดเบี้ยว
“เคล็ดวิชาวายุวิถีงั้นหรือ?!”
ค้างคาวดําผู้มากประสบการณ์ร้องออกมาอย่างหวาดกลัว เมื่อรู้ว่านี่ไม่ใช่เคล็ดวิชาวายุวิถีธรรมดา การโจมตีของเยี่ยฉวนคาดเดาได้ยากยิ่งต่อให้เทียบกับปรมาจารย์สํานักเบญจลักษณ์ที่เชี่ยวชาญเคล็ดวิชาวิถีก็ตาม อากาศโดยรอบสั่นกระเพื่อมเป็นระลอกประหนึ่งยอดฝีมือแห่งสํานักเบญจลักษณ์โจมตีพร้อมกัน การเคลื่อนไหวของเยี่ยฉวนเป็นสิ่งที่เขาไม่อาจคาดเดาได้!
ค้างคาวดําเก่งกาจและพิสูจน์ตนเองจนได้เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ไป๋เยี่ยนหูไว้วางใจ เขาสงบสติอารมณ์ในสถานการณ์คับขันและไม่หลบอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า ชายร่างท้วมพลิกตัวกลับก่อนแสงใบมีดจะลอยหรือผ่านไป!
ค้างคาวดําถอยออกมาด้วยความพึงพอใจที่สามารถหลบใบมีดบางเฉียบได้อย่างเฉียดฉิว แต่โล่งใจได้ไม่นานสายลมกระโชกแรงก็พัดมาจากด้านหลัง เมื่อหันไปมองจึงเห็นใบมีดที่ลักษณะเหมือนเล่มก่อนหน้าปรากฏตรงหน้า รูม่านตาและใหญ่ขึ้นทุกขณะ!
“ฉัวะ!”
ค้างคาวดําหมุนตัว ใบมีดเล่มที่สองถากศีรษะจนเส้นผมยาวหลุดติดไป เขาหลบหลีกได้สําเร็จแม้ต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีอย่างกะทันหันแสดงให้เห็นว่าชื่อเสียงของเขาไม่ได้มาเล่นๆ
ใบมีดเล่มที่สามตามมาติดๆ ต่อด้วยเล่มที่สี่…เล่มที่ห้า…
สายตาของยอดฝีมืออย่างค้างคาวดํามองเห็นใบมีดพุ่งเข้ามาที่ละเล่ม ทว่าในสายตาของศิษย์สามัญกลับเห็นใบมีดเจ็ดแปดเล่มปรากฏขึ้นพร้อมกันบนฟ้าโดยมุ่งเป้าไปที่หว่างคิ้ว ลําคอ จุดตันเถียน และจุดสําคัญอื่นๆ ของเขา
ค้างคาวดําผู้ขึ้นชื่อเรื่องความว่องไวกรีดร้องอย่างน่าสยดสยองหลังใบมีดเล่มที่เจ็ดสว่างวาบ ก่อนเล่มที่แปดจะตรึงเขาไว้กับต้นไม้ข้างๆ อย่างแน่นหนา… เขาตายตกไปด้วยความคับข้องใจและดวงตาเบิกกว้าง เยี่ยฉวนปรากฏกายขึ้นจากหลังต้นไม้ เคล็ดวิชาวิถีอันไร้เทียมทานผสานกับเคล็ดวิชาคืบอรุณทําให้การโจมตีของเยี่ยฉวนน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่ามือสังหารชั้นเลิศเสียอีก!
“ฆ่ามัน! หยุดพวกมันไว้! ท่านเจ้าสํานักจะมาถึงในไม่ช้าแล้ว!”
“ใช้หน้าไม้และกระบี่บินหยุดพวกมันไว้ให้ได้”
ผิดคาดที่การตายของค้างคาวดําไม่ได้ทําให้กองกําลังกบฏแตกพ่าย หากแต่ยังคงบุกโจมตีกองทัพปีศาจวัวนัยน์ตาอสูรอย่างบ้าคลั่ง บางคนถึงกับสละกระบี่บินเพื่อรวมพลังโจมตีเยี่ยฉวน ยิ่งเข้าใกล้ห้องโถงใหญ่มากเท่าใดกองกําลังกบฏก็ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่านั้น ดูเหมือนว่าเยี่ยฉวนเจอกับกองกําลังหลักของอาวุโสลําดับสามเข้าแล้ว ความเร็วของกองทัพปีศาจวัวนัยน์ตาอสูรช้าลงและบาดเจ็บล้มตายมากขึ้นจนเสียรูปขบวน
ฉับพลันเสียงคํารามแสบแก้วหูดังมาจากภูเขาใกล้เคียงพร้อมกระแสพลังงานมหาศาล
ทรงพลังยิ่ง!
ยอดฝีมือขั้นปรมาจารย์แห่งเต่าระดับสี่? ไม่สิ… ระดับห้า?
เยี่ยฉวนตื่นตกใจเมื่อแรงกดดันเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ลำฟังจอมยุทธ์ขั้นซิวฉือธรรมดาคงไม่อาจทําอันตรายกองทัพปีศาจวัวและร่างกายที่อ่อนล้าของเขาได้ ทว่าหากเป็นยอดฝีมือขั้นปรมาจารย์แห่งเฝ้าระดับห้าคงเกิดปัญหาใหญ่แน่! อย่าว่าแต่การช่วยอาวุโสลําดับสองและจูซื้อเจียเลย…หากเขาไม่ระวังอาจถูกฝังกลบอยู่ที่นี่ได้!
แต่ถึงอย่างไรเขาต้องฆ่าอาวุโสลําดับสามผู้ฉวยโอกาสยึดอํานาจในสํานักหมอกเมฆาให้จงได้!
“คุณชายเยี่ย พวกเรามาแล้ว!”
เสียงผิวปากดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ร่างสูงใหญ่ที่มีหนวดเคราสีแดงอมม่วงและผิวกายแตกระแหงราวเปลือกไม้ปรากฏกายขึ้น เบื้องหลังมีศิษย์สํานักหมอกเมฆาหลายชีวิตที่เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตสังหารแรงกล้า!
“ปีศาจเพลิง นั่นเจ้าหรือ?”
เจ้าอ้วนตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น ปีศาจเพลิงได้กลายมาเป็นบริวารโอสถภายใต้ การปกครองของเยี่ยฉวนและปลูกสมุนไพรบนภูเขาอย่างสงบ แต่ต่อให้กลายเป็นเถ้าถ่านเจ้าอ้วนก็ไม่อาจลืมว่าครั้งหนึ่งเขาคือจอมปีศาจผู้ยิ่งใหญ่แห่งตลาดมืด ผู้ใดจะกล้าขวางจอมปีศาจผู้ยิ่งใหญ่เช่นนี้?
จ้าวต้าจ๋อตื่นเต้นสุดขีดเมื่อกองกําลังกบฏที่ข่มเหงพวกเขาค่อยๆ แตกกระเจิงไปที่ละคน