บทที่ 163 อย่าบังอาจเทียบผู้หนุนหลังกับข้า!
“ฮ่าๆๆ ยินดีด้วยท่านเจ้าสํานักไป ขอแสดงความยินดีกับการขึ้นครองตําแหน่งเจ้าสํานักอย่างราบรื่น สํานักหมอกเม ฆาและสํานักเครื่องนิลถือเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันคั่ง พี่น้องร่วมสายโลหิตนับแต่นี้ไป”
เสียงทุ้มลึกและแหบพร่าดังขึ้น ยังไม่ทันสิ้นเสียงร่างสูงใหญ่เกือบสองเมตรก็ปรากฏกายต่อหน้าทุกคนบนยอดเขาตามด้วยศิษย์สํานักเครื่องนิลจํานวนมากชายผู้มีร่างกายกํา ยําและใบหน้าปกคลุมไปด้วยหนวดเครานี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเจ้าสํานักเครื่องนิลโท่วปาเซียงผู้ปกครองฝั่งหนึ่งของ เทือกเขาหมอกเมฆาเยี่ยฉวนคาดเดาไม่ผิดจริงๆ
“เจ้าจะยกยอข้าเกินไปแล้ว ยังมีปัญหาที่ต้องรอความช่วยเหลือจากศิษย์น้องโท่วปาอีกมาก ช่างน่าละอายจ ริงๆ…. ต่อจากนี้สํานักของเราจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันคั่งพี่น้องร่วมสายโลหิตและกลายเป็นสํานักสัมฤทธิ์เมฆา!” ไปเยี่ยนหูต้อนรับโท่วปาเชียงด้วยรอยยิ้มและเรียกอีกฝ่ายว่าศิษย์น้อง”ต่อหน้าฝูงชน
“ฮ่าๆๆ เราอยู่ข้างเดียวกันแล้ว ไม่จําเป็นต้องมีพิธี รีตองให้มากความรอจนกว่าพวกเรารวมพลังกําราบสํานักเบญจลักษณ์และรวมสามสํานักอย่างเป็นทางการเสียก่อนแล้วค่อยตั้งชื่อร่วมกันว่าสํานักสัมฤทธิ์เมฆา ฮ่าๆๆ” โทวปาเซียงหัวเราะลั่นอย่างดื่มในความสําเร็จ
เขาวางแผนมาเป็นเวลาหลายปีเพื่อขึ้นเป็นผู้มีอํานาจเหนือเทือกเขาหมอกเมฆาเพียงหนึ่งเดียวและแล้วโอกาสก็มาอยู่ตรงหน้าในที่สุด!
ไปเยี่ยนหูต้องการกําลังเสริมเพื่อสยบผู้ต่อต้านและยึดอํานาจปกครองสํานักหมอกเมฆาจึงต้องยอมโอนอ่อนตามสํานักเครื่องนิลเป็นการแลกเปลี่ยน เมื่อสองสํา นักรวมกันเป็นหนึ่งและยึดครองสํานักเบญจลักษณ์ได้แล้วการขึ้นเป็นผู้มีอํานาจเหนือเทือกเขาสํานักหมอกเมฆาก็ไม่ใช่เรื่องยากเมื่อถึงเวลานั้นเขาจะสามารถก่อตั้งจักรวรร ดิหมอกเมฆาและล้มล้างจักรวรรดิต้าฉินได้!
แม้จักรวรรดิต้าฉันจะยิ่งใหญ่และทรงอํานาจเพียงใด ทว่ายังมีแม่ทัพใต้บังคับบัญชาบางกลุ่มที่เห็นต่างจากองค์จักรพรรดิคลื่นใต้น้ํากําลังก่อตัวทั่วแผ่นดินใหญ่ กองทัพ อันแข็งแกร่งกําลังรวบรวมกําลังพลอย่างลับๆและโท่วป่าเซียงเองก็ไม่อยู่เฉยเช่นกัน
ณ ทางเข้าห้องโถงใหญ่สํานักหมอกเมฆา ศิษย์ในสํา นักต่างพากันโกรธเกรี้ยว!
นอกจากผู้ใต้บังคับบัญชาที่ไปเยี่ยนหูเชื่อใจเพียงหยิบมือแล้ว ศิษย์สํานักหมอกเมฆาที่ยอมสวามิภักดิ์แทบทั้งหมดเพิ่งเคยได้ยินเรื่องการรวมตัวกับสํานักเครื่องนี้ ลเป็นครั้งแรก
ช่างเป็นสุนัขเฒ่าที่ไร้ยางอายเสียจริง! นอกจากสังหารหมู่ศิษย์ในสํานักเพื่อยึดอํานาจและสมรู้ร่วมคิดกับโท่วปาเซียงเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนแล้วยังต้องการเข้าร่วมกับสํา นักเครื่องนิลและเปลี่ยนชื่อเป็นสํานักสัมฤทธิ์เมฆาอีกด้วย!
เยี่ยฉวนทั้งประหลาดใจและโกรธจัด เขารู้ดีว่าสุนัขเฒ่าอย่างไปเยี่ยนหูชั่วช้าและน่ารังเกียจเพียงใดทว่าเขากลับประเมินความไร้ยางอายของเดรัจฉานตัวนี้ต่ําเกินไป
“เยี่ยฉวน พบกันอีกแล้ว ข้าไม่คิดเลยจริงๆว่าจะได้กลับมาเหยียบห้องโถงใหญ่แห่งสํานักหมอกเมฆาอีกครั้ง”
โท่วปาเซียงหันมาส่งยิ้มเย็นเยียบน่าสยดสยองให้เยี่ยฉวน
ก่อนการประลองครั้งยิ่งใหญ่ เขาให้เกียรติมาเยือนสํานักหมอกเมฆาเพื่อดูท่าที่เยี่ยฉวนและเจรจาเรื่องการแต่งงานเพราะต้องการสร้างความอัปยศแก่สํานักหมอกเมฆา แต่สุดท้ายกลับเป็นฝ่ายขายหน้าเสียเองโท่วปาเซียงผู้หยิ่ง ผยองในตนเองต้องกลับไปด้วยความอับอายเขาต้องเผชิญกับสถานการณ์กระอักกระอ่วนเกินบรรยายและกลายเป็น เรื่องขบขันของผู้คนทว่าครั้งนี้อาวุโสสูงสุดไม่อยู่ที่นี่อีกทั้ง สํานักหมอกเมฆายังตกอยู่ในเงื้อมมือของคนชั่วแล้วเยี่ยฉวนจะพลิกสถานการณ์ได้อย่างไร?
โท่วปาเซียงปีติยินดีเกินบรรยายเมื่อได้เห็นเยี่ยฉวนในสภาพโดดเดี่ยวไร้ทางสู้ ครั้งนี้เขาจะสะสางความแค้นในอดีตให้หมดสิ้นหากไม่อาจทรมานเยี่ยฉวนปางตายได้ก็อย่า เรียกเขาว่าโท่วปาเซียงอีกเลย!
ประตูทางเข้าสํานักหมอกเมฆาเปิดกว้างให้กองทัพสํานักเครื่องนิลเข้าออกได้อย่างอิสระตามคําสั่งของไปเยี่ยนหูยอดฝีมือสํานักเครื่องนิลจึงตามมาสมทบมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงโท่วปาเซียงเนียวผู้บอบบาง แต่นางกลับไม่มีท่าทีก้าวร้าว เช่นศิษย์คนอื่น ดวงตาคู่สวยทอดมองเยียฉวนอย่างเห็นอกเห็นใจราวกับรู้เรื่องราวเบื้องหลังและไม่อาจทนดูจุดจบอัน น่าเศร้าของเขาได้
ศิษย์สํานักหมอกเมฆาที่ยืนอยู่ฝั่งไปเยี่ยนหูเผยสีหน้ากระ อักกระอ่วน
พวกเขาไม่มีปัญหากับการก่อกบฏของไปเยี่ยนหูเพราะเป็นเพียงเรื่องภายในเท่านั้น แต่การยอมจํานนต่ออํานาจของสํานักเครื่องนิลอย่างไร้เกียรติและเปลี่ยนชื่อสํา นักนั้นมากเกินไปความสัมพันธ์ระหว่างสํานักตลอดหลายปี ที่ผ่านมาเปรียบเหมือนน้ํากับไฟ ศิษย์จากทั้งสองสํานักน้ํานั่นกันมาโดยตลอดทั้งประลองซึ่งหน้าและวางอุบายอ ย่างลับๆจนถึงขั้นเสียเลือดเสียเนื้อแต่บัดนี้กลับต้อง การรวมสํานักเป็นหนึ่งและนับเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดกันจะมีผู้ใดเต็มใจทําได้ลง?
ศิษย์สํานักหมอกเมฆาเต็มเปี่ยมไปด้วยความเกลียดชังและขมขื่น ทว่าแรงกดดันจากโท่วปาเซียงและไปเยี่ยนหูทําให้พวกเขาต้องข่มมันไว้เพียงในใจ เพราะกองทัพสํา นักเครื่องนิลได้กระจายตัวล้อมศิษย์สํานักหมอกเมฆาทั้งหมดเอาไว้ ผู้ใดที่ยืนหยัดต่อต้านย่อมถูกสังหารอย่างไม่ต้องสงสัย!
“ฮ่าๆๆ เจ้าไม่คาดคิดสิ่งนี้มาก่อนสินะไอ้หนู! ยอมรับชะตากรรมเสียเถอะ เจ้ายังอ่อนหัดเกินจะต่อกรกับข้า”ไปเยี่ยนหูแผดเสียงหัวเราะอย่างลําพองในความสําเร็จขอ งตน
เขาจะบาดเจ็บสาหัสก็ช่างปะไร! ถึงอย่างไรสํานักหมอกเมฆาก็เป็นของไปเยี่ยนหูผู้นี้ ต่อให้เยี่ยฉวนจะทรงพลังเพียงใดก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้! เขาวางแผนครอบครองสํานักหมอกเมฆามาเป็นเวลานานและคิดค้นกลอุบายหลา ยต่อหลายครั้ง แม้แต่อาวุโสสูงสุดและอาวุโสลําดับสองก็รวมอยู่ในการคาดการณ์ของเขาทั้งสิ้นเยี่ยฉวนจะมี ปัญญาทําลายแผนการอันแยบยลนี้ได้อย่างไร?
“ใช่ ข้าไม่คาดคิดมาก่อนก็จริง แต่เป็นพวกเจ้าต่างหากที่อ่อนหัดนัก คิดว่ารวมหัวกันแล้วจะทําอะไรได้ตามอําเภอใจได้งั้นหรือ? ไอ้หมาไปเจ้าคิดว่าเจ้ามีผู้สนับสนุนมั่นคง เพียงเพราะทรยศสํานักเราไปพึ่งพาสํานักเครื่องนิลจริงๆ น่ะหรือ?ดูนี้ให้เต็มตาซะ!” เยี่ยฉวนมองไปเยี่ยนหูอย่างเย็นชาก่อนเผยเคล็ดวิชา
“ปิ้ว!” แสงสีแดงพุ่งออกจากร่างพร้อมอุณหภูมิบนยอดเขาที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เตาหลอมที่ห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิงปรากฏแก่สายตาของทุกคน ออร่า เก่าแก่อันทรงพลังปกคลุมไปทั่วบริเวณ
“นั่นมัน…. เตาหลอมระดับสวรรค์งั้นหรือ?! เยี่ยฉวนเขา…. เขายืมสมบัติล้ําค่าแห่งสํานักอสูรเมฆามาได้จริงหรือ?!”
“เป็นไปไม่ได้! เตาหลอมระดับสวรรค์นี่ยับยั้งชะตากรรมของสํานักอสูรเมฆาเอาไว้ จะเป็นไปได้อย่างไร?”
ทุกคนไม่ว่าจะเป็นศิษย์สํานักใดต่างพร้อมใจกันกรีดร้องและถอยร่นออกมาเพื่อหล บคลื่นความร้อนจากเตาหลอมระดับสวรรค์!
ข่าวที่ว่าเยี่ยฉวนได้รับคําสั่งให้เสี่ยงชีวิตไปยังสํานักอสูรเมฆาเพื่อขอยืมเตาหลอมระดับสวรรค์แพร่กระจายเป็นวงกว้างแต่ไม่มีผู้ใดเชื่อว่าเขาจะทําภารกิจได้สําเร็จ ทั้งยังคิดว่าแค่เยี่ยฉวนเอาชีวิตรอดกลับมาได้โดยไร้รอยขีดข่วนก็นับเป็น โชคอันใหญ่หลวงแล้ว เยี่ยฉวนได้ต่อสู้กับกองกําลังกบฏและมุ่งหน้ามายังห้องโถงใหญ่แห่งสํานักหมอกเมฆาทันที่ที่มาถึงก่อนเผยเตาหลอมระดับสวรรค์ในวินาทีสุดท้ายทําให้ผู้คนต กตะลึงยิ่ง!
ไปเยี่ยนหูแทบไม่เชื่อสายตาตนเองการยืมเตาหลอมระดับสวรรค์จากสํานักอสูรเมฆาเป็นเพียงกับดักที่เขาวางไว้เพื่อฆ่าเยี่ยฉวนทว่าเขาไม่เพียงรอดพ้นจากสํานักอสูรเม ฆามาได้อย่างปลอดภัยแต่ยังนําเตาหลอมอันล้ําค่ากลับมาอีกด้วย!
ทุกคนพากันขยี้ตาด้วยหัวใจสั่นระรัว
สํานักอสูรเมฆาขึ้นชื่อว่าเป็นสํานักอันไร้เทียมทานที่มียอดปรมาจารย์มากมายนับไม่ถ้วน พวกเขาสามารถ กวาดล้างสํานักหมอกเมฆาสํานักเครื่องนิลและสํานักเล็กอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย แม้แต่จักรพรรดิต้าฉันก็ยังไม่กล้าปริปากเอ่ยคําเมื่อต้องเผชิญหน้า!
สํานักหมอกเมฆาและสํานักอสูรเมฆามีสนธิสัญญาพันธมิตรตั้งแต่สมัยโบราณกาล แล้วการที่เยี่ยฉวนยืมเตาหลอมระดับสวรรค์มาได้สําเร็จหมายความว่าอย่างไร?! นั่นหมายความว่าสํานักอสูรเมฆายังคงไว้ซึ่งสัมพันธไมตรีกับสํานักหมอกเมฆาแม้ในยามนี้พวกเขาจะเป็นเลิศที่สุดในใต้หล้าซึ่งเป็นเรื่องร้ายแรงสําหรับไปเยี่ยนหูและโท่วปาเซียงแม้ในยามนี้เยียฉวนจะตัวคนเดียวและอ่อนแอแต่ผู้หนุนหลังของเขาช่างน่าเกรงขามนัก!
สีหน้าของโท่วปาเซียงที่ดื่มกับความสําเร็จและกําลังคิดหาวิธีทรมานเยี่ยฉวนให้เจ็บปวดเจียนตายอยู่เมื่อครูกลับแปรเปลี่ยนเป็นมืดมนทันใด!