บทที่ 72 เดิมพัน
อ่านนิยาย novelza.com
เช้าวันรุ่งขึ้น การประลองครั้งใหญ่ถูกจัดขึ้นตามกำหนดการ
บรรดาศิษย์ที่มารับชมการประลองระหว่างสามสำนักครั้งใหญ่ที่จัดขึ้นเพียงหนึ่งครั้งในระยะเวลาสามปีมีจำนวนหลายพันคน เป็นศิษย์ของสำนักเครื่องนิลและสำนักเบญจลักษณ์เสียส่วนใหญ่ ทว่าที่ไม่คาดคิดคือศิษย์จำนวนหนึ่งของสำนักหมอกเมฆาก็เดินทางมายังสนามประลองแห่งนี้เช่นกัน!
แม้พวกเขาไร้ซึ่งความหวังว่าสำนักของตนจะชนะ เพราะโอกาสที่ผลการประลองจะพลิกผันมีเพียงหนึ่งในหมื่นเท่านั้น นอกเสียจากจะเกิดปาฏิหาริย์ใดๆ ขึ้น ทว่าทุกคนยังต้องการเห็นเยี่ยฉวนและคนอื่นๆ พ่ายแพ้ด้วยตาตนเอง
บุคคลผู้หนึ่งได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้ตัดสิน ผู้อาวุโสผลัดกันอ่านกฎเกณฑ์การแข่งขันจนจบ จากนั้นการประลองครั้งใหญ่จึงเริ่มต้นขึ้น!
กติกาการแข่งขันนั้นไม่ซับซ้อน…แบ่งการประลองออกเป็นสองส่วน คือทดสอบด้านสติปัญญาและทดสอบด้านวิทยายุทธ การประลองวิทยายุทธจะเริ่มขึ้นเป็นอันดับแรก สำนักทั้งสามจะต้องส่งตัวแทนทั้งเจ็ดคนออกไป จากนั้นจึงผลัดกันจับสลากเพื่อท้าทายอีกฝ่ายให้ร่วมการต่อสู้ ผู้ที่ถูกสังหารหรือไม่ผ่านสังเวียนแห่งความเป็นตายจะถูกปรับให้พ่ายแพ้ และอีกฝ่ายเป็นผู้ชนะโดยชอบธรรม หลังประลองกันจนครบเจ็ดครั้ง…บรรดาผู้ตัดสินจะรวบรวมผลและจัดอันดับอีกครั้งเพื่อตัดสินว่าท้ายที่สุดแล้วสำนักใดมีแต้มสูงที่สุด และถือเป็นผู้ชนะ!
เนื่องจากสำนักหมอกเมฆาไม่มีผู้อาวุโสคนใดเข้าร่วม ผู้พิทักษ์หยางจึงขึ้นไปบนเวทีเพื่อดำรงตำแหน่งผู้ตัดสินแทน การจับสลากรอบแรกเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว…สำนักเครื่องนิล ประลองกับสำนักหมอกเมฆา!
“ข้าเอง!”
หงลี่ ศิษย์พี่ใหญ่แห่งสำนักเครื่องนิลเสนอตัวก่อนกระโดดเข้าไปยังสังเวียนเป็นตายด้วยพลังที่เต็มเปี่ยม! จากนั้นเขาจึงหมุนกายกลับมาพร้อมจ้องเขม็งไปยังเยี่ยฉวนด้วยสายตาเย็นเยือกก่อนกล่าวออก “ผู้แซ่เยี่ย! มาเถิด! ข้าใคร่แสดงความฉกาจของสำนักเครื่องนิลให้ฝูงชนในที่นี้ได้เห็นว่าเจ้าตายด้วยน้ำมือข้าอย่างไร! ฮ่าๆๆ เราจะใช้สิ่งใดมาเดิมพันการประลองครั้งนี้ดีเล่า?! ไม่พูดถึงทุ่นระเบิดและบรรดาอัญมณีหรอกนะ…ของเหล่านั้นน่ะน่าเบื่อเกินไป!”
หงลี่กล่าวท้าทายดังกึกก้อง บรรดาศิษย์สำนักเครื่องนิลได้ยินศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเขากล่าวเช่นนั้นจึงตะโกนโห่ร้องลั่นอย่างเห็นด้วย พลังของคนเหล่านั้นช่างแข็งแกร่งและฮึกเหิม ตรงข้ามกับกลุ่มของเยี่ยฉวน และคนอื่นๆ ที่เผยสีหน้าซีดเซียวไร้ท่าทีสง่างาม โดยเฉพาะจ้าวต้าจื่อที่ฝืนสังขารอย่างเต็มที่ให้ตนยืนอย่างมั่นคง ไม่มีผู้ใดรู้ว่าค่ำคืนที่ผ่านมาพวกเขาต้องทรมานเพียงใดกับการสลับกันไปปลดทุกข์หลายต่อหลายครั้งประหนึ่งวิ่งผลัด!
อี้สั่วไม่ได้วางยาพิษสังหารเยี่ยฉวนโดยตรง ทว่าเขาใช้หญ้าชอกช้ำและพิษอื่นๆ ผสมเป็นยาระบายลงในสุราแทน เพื่อให้พวกเขาจะได้มีสภาพอ่อนแอและทำการสังหารเป็นรายคนได้อย่างราบรื่น จากนั้นจึงยึดตำแหน่งศิษย์พี่ใหญ่แห่งสำนักหมอกเมฆาจากเยี่ยฉวนมาเป็นของตน!
“เช่นนั้นเจ้าต้องการเดิมพันด้วยสิ่งใด?” เยี่ยฉวนย้อนถามกลับด้วยท่าทางผ่อนคลาย
นอกจากหงลี่จะมีรูปลักษณ์ภายนอกเตี้ยตัน จิตใจของเขายังคับแคบตามขนาดลำตัว เขาจ้องเยี่ยฉวนเขม็งด้วยความเกลียดชังเข้ากระดูกดำก่อนกล่าวออกอย่างเย็นชา “ง่ายยิ่ง! ศิษย์พี่ใหญ่แห่งสำนักใดที่มีอันดับรั้งท้ายในการประลองทั้งเจ็ดครั้ง จะต้องถูกตัดแขนข้างหนึ่งด้วยมือของข้าเอง!”
สิ้นคำประกาศนั้นฝูงชนที่รับชมการประลองอยู่รอบสังเวียนแห่งความเป็นตายพลันเกิดความโกลาหล!
แม้บทลงโทษในการประลองระหว่างสามสำนักครั้งก่อนไม่โหดเหี้ยม ทว่าผู้แพ้จะต้องเสียทุ่นระเบิดและก้อนผลึกรวมถึงอัญมณีจำนวนมาก ดังนั้นบทลงโทษด้วยการตัดแขนหรือขาเช่นนี้จึงเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน! เห็นได้ชัดเจนว่าหงลี่พุ่งเป้าไปยังเยี่ยฉวนโดยตรง! คำท้าทายและการเดิมพันเช่นนั้นมาจากความคิดของเขาเอง แม้แต่เจ้าสำนักโท่วป่าเซียงแห่งสำนักเครื่องนิลก็ไม่เคยรับรู้มาก่อน
บรรดาศิษย์ของสำนักเบญจลักษณ์ยืนนิ่งอย่างเป็นผู้รับชมที่ดีและรอคอยจุดจบอันน่าอนาถของเยี่ยฉวนอย่างจดจ่อ ฝั่งฝูงชนของสำนักเครื่องนิลยังคงโห่ร้องตะโกนอย่างบ้าคลั่ง ส่วนศิษย์ของสำนักหมอกเมฆาเพียงไม่กี่คน พวกเขาเพียงปิดปากเงียบพร้อมลอบถอนหายใจ
ในบรรดาผู้เข้าร่วมการประลองทั้งสาม สำนักหมอกเมฆานั้นอ่อนแอที่สุด พวกเขาจะต้องพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย หากเยี่ยฉวนกล่าวตอบรับคำท้านั้น บรรดาศิษย์ก็เตรียมรับความอัปยศหลังจากการประลองจบลง…ทว่าหากเขาไม่ตอบรับคำท้า สำนักหมอกเมฆาจะยิ่งเสื่อมเสียชื่อเสียงเพราะพ่ายแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มรบ นับจากนี้พวกเขาจะไม่มีทางสู้หน้าผู้ใดในยุทธภพได้อีก
นี่เป็นภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างแท้จริง!
หงลี่หัวเราะเยาะเย้ย เขาจงใจขึ้นไปบนสังเวียนเพียงเพราะต้องการให้เยี่ยฉวนตกที่นั่งลำบากเช่นนี้!
บนอัฒจันทร์เหนือสังเวียนแห่งความเป็นตายซึ่งใช้เป็นที่ประลอง เจ้าสำนักโท่วป่าเซียงแห่งสำนักเครื่องนิลยิ้มหยันอย่างพึงใจเมื่อเห็นเยี่ยฉวนตกอยู่ในสถานการณ์น่าอึดอัดใจเช่นนั้น ก่อนหน้านี้เขาวางแผนการอย่างดีหมายให้สำนักหมอกเมฆาต้องเสื่อมเสียทว่าไม่สำเร็จ ทั้งยังถูกอีกฝ่ายซ้อนแผนจนตนเป็นฝ่ายอับอายขายหน้าเสียเอง เหตุการณ์นั้นทำให้โท่วป่าเซียงเนียวบุตรสาวผู้งดงามต่อว่าเขาไม่หยุดจนถึงปัจจุบัน เขาจึงเคียดแค้นเยี่ยฉวนยิ่งขึ้นเรื่อยๆ บัดนี้โอกาสอันดีมาถึงแล้ว! ในที่สุดคนของสำนักเครื่องนิลก็สามารถข่มขวัญคนเหล่านั้นได้อย่างโหดเหี้ยม!
โท่วป่าเซียงเนียวยืนเคียงข้างผู้เป็นบิดา นางจ้องมองเยี่ยฉวนอย่างรอคอยว่าเขาจะตอบกลับอย่างไร? ครั้นหวนนึกถึงอีกฝ่ายที่เอาแต่พร่ำว่าตนเป็นภรรยาของเขาทุกครั้งที่พบหน้า ทั้งเหตุการณ์น่าอับอายที่อ่าวกลืนน้ำในค่ำคืนนั้นยิ่งทำให้นางรู้สึกโกรธไม่น้อย!
“ศิษย์พี่ใหญ่! อย่ารับคำท้าเชียวนะ!” อ่านนิยาย novelza.com
จูซือเจียกล่าวพร้อมกระตุกชายเสื้อของเยี่ยฉวน นางกังวลเหลือเกินว่าเขาจะตอบรับโดยไม่ไตร่ตรองให้ดี
พอนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนความโกรธพลันแล่นขึ้นมาในจิตใจของนางอีกครั้ง! ตั้งแต่เยาว์วัยจนเติบใหญ่นางไม่เคยพบเจอผู้ใดที่นอกคอกเช่นนี้มาก่อน ทว่าแม้โกรธาคนนอกคอกเช่นเขาเพียงใดนางก็ยืนหยัดอยู่ข้างเขาเพื่อต่อสู้กับฝ่ายศัตรู
“ข้ารับคำท้า! ก็แค่แขนข้างหนึ่ง…ไม่ใช่ปัญหา!”
เยี่ยฉวนทำหูทวนลมต่อคำของจูซือเจียก่อนตะโกนรับคำท้าของอีกฝ่าย!
บรรดาศิษย์ของสำนักหมอกเมฆาร้องอุทานออกอย่างตระหนกยิ่ง! ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้างด้วยความตื่นตะลึงสุดขีด! หงลี่ระเบิดหัวเราะดังลั่นด้วยแววตาที่เปล่งประกายเจิดจ้า “ฮ่าๆๆ! ประเสริฐ! ประเสริฐจริงไอ้หนู! ความหยิ่งผยองของเจ้ามากล้นเสียยิ่งกว่าขั้นการฝึกตนอันต่ำต้อยของเจ้าเสียอีก! หึ! ว่าง่ายเช่นนี้ก็ดี! ภายในสิบกระบวนท่า…ข้าจะยั้งมือเก็บแขนของเจ้าไว้ข้างหนึ่งเพื่อเฉือนทิ้งในตอนสุดท้ายก็แล้วกัน! ฮ่าๆๆ!”
จิตสังหารของหงลี่พุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าขณะที่เขาตะโกนท้าทายเยี่ยฉวนต่อหน้าฝูงชน!
“เจ้าจะสู้กับข้าหรือไม่?!”
เยี่ยฉวนส่ายหน้าพลางหัวเราะก่อนกล่าวตอบ “ไม่! ไอ้หนุ่มน้อย…เจ้าไม่คู่ควรพอจะเป็นคู่ต่อสู้ของข้าหรอก! อย่างเจ้าน่ะเอาชนะศิษย์น้องของข้าให้ได้เสียก่อนเถิด เจ้าอ้วน…ไปฆ่ามันแทนข้าที!”
“ว่าอย่างไรนะ! ศิษย์พี่ใหญ่! ขะ-ข้า…”
จ้าวต้าจื่อตกตะลึงยิ่ง ด้วยเพราะไม่ได้เตรียมกายเตรียมใจมาก่อน!
หลังจากเขามีอาการท้องร่วงตลอดทั้งคืน ยามนี้แม้แต่จะยืนให้มั่นคงยังยากนัก เป็นเช่นนี้แล้วเขาจะเอาเรี่ยวแรงใดไปต่อกรกับหงลี่?! หนำซ้ำขั้นการฝึกตนของเขาไม่สามารถเทียบเท่าอีกฝ่ายได้แม้แต่เสี้ยว หากเขาประลองจริงจะไม่เป็นการโยนซาลาเปาเข้าปากสุนัขกระนั้นหรือ!?
เยี่ยฉวนยกยิ้มอย่างเจ้าแผนการก่อนเอี้ยวตัวไปกระซิบบางอย่างข้างหูจ้าวต้าจื่อ ทันใดนั้นความตกใจระคนตื่นกลัวบนใบหน้าของเจ้าอ้วนค่อยคลายลง เขาพยักหน้ารับก่อนลากสังขารของตนขึ้นไปยังสังเวียนแห่งความเป็นตายโดยใช้ไม้เท้าช่วยพยุง “ผู้แซ่หง! มาเถิด! เจ้าบังอาจนักที่คิดแย่งชิงศิษย์พี่สะใภ้โท่วป่าเซียงเนียวไปจากศิษย์พี่ใหญ่ของข้า! ครานี้แหละ…ข้าจะบดขยี้เจ้าให้ตาย!”
ศิษย์พี่สะใภ้โท่วป่าเซียงเนียวงั้นหรือ?!
ฝูงชนที่นั่งอยู่บนอัฒจันทร์ต่างตกตะลึง…เสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างอื้ออึงดังขึ้นโดยทันที! บรรดาศิษย์ของสำนักเครื่องนิลที่ได้ยินเช่นนั้นพลันแปรสีหน้าเป็นเคร่งเครียด ส่วนศิษย์ของสำนักเบญจลักษณ์เพียงรับชมเหตุการณ์โกลาหลตรงหน้าด้วยรอยยิ้มขบขัน ใบหน้าของหงลี่ซีดเผือดไร้เลือดฝาด โท่วป่าเซียงเนียวที่ยืนอยู่นอกสนามประลองเผยสีหน้าคล้ำหม่นด้วยความโกรธายิ่งจนร่างกายสั่นสะท้าน!
หลายปีที่ผ่านมานางไม่เคยใส่ใจว่ามีบุรุษกี่คนที่หมายปองและไล่ตามตน เรือนร่างงดงามยังคงบริสุทธิ์ดุจหยกใสและสะอาดหมดจดราวน้ำแข็ง ทว่าหลังนางกลับมาจากการท่องเที่ยวในยุทธภพ เยี่ยฉวนกลับเรียกนางอย่างเต็มปากว่าภรรยา! แม้แต่ศิษย์รุ่นเยาว์หลายพันคนของสำนักหมอกเมฆายังบังอาจเรียกนางว่าศิษย์พี่สะใภ้!
โท่วป่าเซียงเนียวรู้สึกเจ็บแปลบหัวใจยิ่งเมื่อนึกภาพคนเหล่านั้นกำลังวิ่งไล่ตามนางพลางตะโกนว่า ศิษย์พี่สะใภ้!
“อ๊าก! ไอ้อ้วน! ข้าจะเฉือนไขมันบนตัวเจ้าออกเป็นชิ้นๆ!” อ่านนิยาย novelza.com
หงลี่ชักกระบี่ออกจากฝักก่อนพุ่งตัวเข้าหาจ้าวต้าจื่ออย่างรวดเร็วด้วยความโกรธแค้นอันมหาศาล! แสงวาบจากกระบี่สว่างจ้าไปทั่วทั้งสังเวียนแห่งความเป็นตาย ชิ้ง! ชิ้ง! สิ้นเสียงฟาดฟันจากหงลี่ ท่อนไม้ในมือของเจ้าอ้วนถูกตัดออกเป็นสิบชิ้น!
หงลี่เงื้อกระบี่ขึ้นสูงเพียงครั้งเดียว เพื่อแสดงศักยภาพของศิษย์พี่ใหญ่แห่งสำนักเครื่องนิลให้ประจักษ์ต่อสายตาสาธารณชน! ทว่าเมื่อเงยหน้าขึ้นมองตรงหน้าเขากลับไม่พบผู้ใด…ไอ้อ้วนนั่นหายไปไหนกัน?!
บนสังเวียนแห่งความเป็นตายมีเพียงเขาที่แสดงความแข็งแกร่ง บนพื้นมีเพียงท่อนไม้และเศษไม้ที่ถูกฟันจนไม่เหลือชิ้นดี! ทว่าจ้าวต้าจื่อกลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย…หันไปอีกทีเจ้าอ้วนก็กระโดดลงจากสังเวียนไปเสียแล้ว!
ด้วยทักษะการฝึกตนของหงลี่อาจทำให้จ้าวต้าจื่อดับดิ้นได้ด้วยการฟาดฟันกระบี่เพียงครั้งเดียว! ทว่าเขาชะล่าใจเกินไปจนพลาดโอกาสสังหารอีกฝ่าย เพราะมัวแสดงกระบวนท่าเพื่อให้เจ้าอ้วนเกิดความอับอายและไม่สามารถต่อกรได้
“การประลองครั้งที่หนึ่ง…สำนักเครื่องนิลชนะ!”
ผู้ตัดสินจากสำนักเบญจลักษณ์ยืนขึ้นก่อนประกาศผลการประลองวิทยายุทธในครั้งแรก…
เยี่ยฉวนยกยิ้มด้วยสีหน้าไม่ยินดียินร้ายราวเป็นผู้รับชมเท่านั้น ขณะที่เหตุการณ์ต่างๆ ดำเนินไปตามแผนการอย่างราบรื่น หงลี่ยังยืนอยู่บนสังเวียนแห่งความเป็นตายด้วยสีหน้าอมทุกข์และโศกเศร้ายิ่ง ความเคียดแค้นชิงชังที่มีต่อเยี่ยฉวนราวหิมะบนเทือกเขาเมฆาอินทนิลที่เพิ่งละลายจนทะลักล้นเป็นเท่าทวี!