Super God Gene – ตอนที่ 1957

เห็นได้ชัดว่าราชาแบทเทิลและราชาเคลียร์ซีกำลังหมายตาเจ็ดน้อยอยู่ หานเซิ่นจึงลังเลว่าควรจะกลับไปตอนนี้เลยดีไหม แต่ทันใดนั้นก็มีใครบางคนเดินออกมา มันคือสปีชเลสส์และบุดด้าคนอื่นๆ

 

หานเซิ่นไม่ได้เห็นราชาเคลียร์ซีออกมาด้วย มันมีแค่บุดด้าหนุ่มสาวเท่านั้นที่เดินออกมา

 

หานเซิ่นเดินตามพวกเขาไปโดยสวมใส่ชุดเกราะตงเสวียนเอาไว้ เขาไม่ได้ใช้ความพยายามในการซ่อนตัวอะไรมากนัก เพราะสปีชเลสส์และคนอื่นๆดูเหมือนจะไม่ได้ระมัดระวังอะไรมาก พวกเขาแค่เดินไปรอบๆและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

 

หานเซิ่นติดตามพวกเขาอยู่ครั้งวัน แต่ก็ไม่ได้รู้อะไรที่มีประโยชน์เลย พวกเขาพูดคุยกันแค่เรื่องทั่วๆไป แต่ในตอนที่หานเซิ่นกำลังจะยอมแพ้ บุดด้าหนุ่มคนหนึ่งก็พูดขึ้นมา

“ท่านราชากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่? ทำไมเขาถึงต้องการจะแลกทรายดาราจักรกับทารกของมีก้าด้วย?”

 

หานเซิ่นประหลาดใจที่ได้ยินอย่างนั้น เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับทรายดาราจักรมาก่อน มันเป็นสมบัติที่มีชื่อเสียงมากของบุดด้า

 

ทรายดาราจักรไม่ใช่ทรายจริงๆ แต่พวกมันเป็นน้ำตาของซีโน่เจเนอิคระดับราชันที่มีชื่อว่ามังกรดาราจักร หยดน้ำตาแต่ละหยดของมันจะกลายเป็นทรายดาราจักร ซึ่งมันเป็นสมบัติที่หาได้ยาก

 

ทรายดาราจักรกักเก็บพลังงานมหาศาลเอาไว้ ถ้าสิ่งมีชีวิตระดับราชันสกัดทรายดาราจักร พวกเขาก็จะได้รับประโยชน์มากมาย ส่วนสิ่งมีชีวิตระดับต่ำสามารถจะใช้มันเพิ่มระดับขึ้นได้ในทันที

 

การที่ราชาเคลียร์ซียอมแลกเปลี่ยนมันกับมีก้าเด็กๆถือเป็นอะไรที่น่าตกใจ ดังนั้นเขาจะต้องวางแผนอะไรบางอย่างอยู่แน่

 

“ชู่ว์” บุดด้าอีกคนทำท่าทางบอกให้เขาเงียบๆ หลังจากนั้นเขาก็พูด

“อย่าได้พูดเกี่ยวกับมัน ที่นี่คือดาวของมีก้า พวกเราจะปล่อยให้พวกเขารู้เกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนไม่ได้”

 

“มีอะไรต้องกลัว? ที่นี่คือเขตแดนของราชาแบทเทิล เขาคือคนที่ขายมีก้าเด็กๆให้กับพวกเราเอง คนอื่นๆจะพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้?”

ถึงเขาจะพูดแบบนั้น แต่ดูเหมือนว่าเขาไม่คิดจะพูดอะไรไปมากกว่านี้

 

สปีชเลสส์ขมวดคิ้วและพูด “ยังไงพวกเราก็ควรระวังตัวเอาไว้ เลิกพูดถึงเรื่องนี้เถอะ”

 

สปีชเลสส์และคนอื่นเดินดูรอบๆต่อไป หานเซิ่นไม่คิดว่าจะได้รู้อะไรที่มีประโยชน์มากไปกว่านั้น แต่ทันใดนั้นสปีชเลสส์ก็ได้รับข้อความ หลังจากนั้นเธอก็พูดกับบุดด้าคนอื่นๆ “ท่านราชาเรียกให้ข้าไปพบ พวกเจ้าไปกันต่อเถอะ ข้าจะกลับไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น”

 

“ทำไมพวกเราไม่กลับไปพร้อมกับล่ะ?” บุดด้าคนหนึ่งพูด

 

“ไม่เป็นไร” สปีชเลสส์ส่ายหัวและออกจากกลุ่มไป

 

หานเซิ่นติดตามเธอไป ถึงเขาจะไม่สามารถต่อกรกับราชาเคลียร์ซีได้ แต่สปีชเลสส์เป็นเพียงแค่ไวเคานต์ และถ้าจำเป็นจริงๆ เขาก็สามารถพาตัวเธอไปได้

 

หานเซิ่นมีแผนจะจับตัวเธอเพื่อถามว่าทำไมราชาเคลียร์ซีถึงต้องการตัวเด็กๆของมีก้า

 

สปีชเลสส์เดินกลับไปที่บ้านของราชาแบทเทิลตามลำพัง แต่ทว่าเมื่อเธอเลี้ยวที่หัวมุมหนึ่ง เธอก็ขมวดคิ้วขึ้นมา มีชายคนหนึ่งที่สวมชุดเกราะสีทองปรากฏตัวตรงหน้าเธอ มันมีบางอย่างแปลกๆเกี่ยวกับเขา แต่เธอไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร

 

“ข้าคือสปีลเลสส์จากบุดด้า เจ้าคือใคร? ทำไมเจ้าถึงได้มาขวางทางข้า?” สปีชเลสส์ดูระมัดระวัง เธอสังเกตชายคนนั้นอย่างละเอียดขณะที่พูดออกมา

 

เธอจดจำชุดเกราะของหานเซิ่นได้ เธอจึงรู้ว่าเขาก็คือเจ้าของของเจ็ดน้อย

 

หานเซิ่นไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงแค่ยื่นมือออกไปข้างหน้าเพื่อจะจับตัวเธอ

 

สปีชเลสส์เห็นมือใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ มันเหมือนกับว่าฝ่ามือกำลังกลืนกินทั้งอวกาศเข้าไป เธอรู้สึกราวกับว่ามันไม่มีที่ไหนให้เธอหนีไปได้

 

แสงบุดด้าระเบิดออกมาจากตัวของสปีชเลสส์ เธอเรียกดาบออกมาและใช้มันฟันเข้าใส่หานเซิ่น พร้อมกับพูดเพื่อปล่อยพลังเสียงออกมา

 

บ้านของราชาแบทเทิลอยู่ห่างออกไป 2 กิโลเมตร ดังนั้นเสียงร้องของเธอจะไปถึงราชาเคลียร์ซี และด้วยพลังของเขา เขาจะต้องมาช่วยเหลือเธอได้ทันแน่นอน

 

แต่เมื่อเธอเปิดปากเพื่อปลดปล่อยพลังเสียงออกมา พลังที่ออกมากลับไร้ซึ่งเสียง มันเป็นพลังเสียงที่ว่างเปล่า

 

สีหน้าของสปีชเลสส์เปลี่ยนไป และก่อนที่เธอจะตอบสนองอะไรได้ หานเซิ่นก็จับดาบของเธอเอาไว้ ขณะที่มืออีกข้างดีดเหรียญเข้าไปที่อกของเธอ

 

ทันใดนั้นสปีชเลสส์ก็รู้สึกหนักอึ้งขึ้นมา เธอทรุดตัวลงไปกับพื้น แต่เธอพยายามจะยันตัวเองเอาไว้ด้วยมือทั้ง 2 ข้าง ดังนั้นเธอจึงยังไม่ได้ล้มลงไป

 

หานเซิ่นใช้ดาบจี้ไปที่คอของสปีชเลสส์และพูด “เจ้าต้องตอบคำถามของข้ามาตามตรง ไม่อย่างนั้นข้าจะตัดหัวของเจ้า”

 

สปีชเลสส์ใช้พลังทั้งหมดค้ำตัวเองเอาไว้ไม่ให้ล้มลงไป แต่พลังที่น่ากลัวของเหรียญ ทำให้เธอรู้สึกราวกับว่าหน้าอกกำลังจะระเบิดออกมา ความเจ็บปวดแพร่กระจายไปทั่วร่างของเธอ

 

“เจ้าเป็นใครกัน? เจ้าไม่รู้หรือว่าราชาเคลียร์ซีของบุดด้าและราชาแบทเทิลของมีก้าอยู่ใกล้ๆนี่ ถ้าเจ้าฆ่าข้าล่ะก็ เจ้าก็ต้องตายตามข้าไปในไม่ช้า” สปีชเลสส์พูดขณะที่พยายามยันพื้นเอาไว้

 

“ข้าไม่รู้ว่าตัวเองจะตายหรือเปล่า แต่เจ้าจะตายแน่ๆ ถ้าไม่ยอมตอบคำถามของข้า ทำไมพวกเจ้าถึงได้ซื้อตัวเด็กๆของมีก้า?” หานเซิ่นถาม

 

สปีชเลสส์ไม่พูดอะไร ดูเหมือนว่าเธอยินดีจะเก็บความลับลงสุสานไปพร้อมกับเธอ

 

หานเซิ่นใช้ดาบฟันใส่ชุดเกราะของสปีชเลสส์ ทำให้ผิวของเธอเปิดเผยออกมา

 

“เจ้ากำลังจะทำอะไร?” สีหน้าของสปีชเลสส์เปลี่ยนไป

 

“อย่าได้กังวล ข้าไม่สนใจผู้หญิงอย่างเจ้า แต่ถ้าเจ้าไม่ยอมตอบคำถามของข้าล่ะก็ ข้าจะจับเจ้าแก้ผ้าซะ และเจ้าจะได้เดินไปบนถนนอย่างเปลือยเปล่า หลังจากนั้นข้าก็ค่อยตัดหัวของเจ้า”

 

หลังจากนั้นหานเซิ่นพูดก็ต่อ “ข้าเป็นผู้ชายใจร้อน ดังนั้นข้าจะขอถามเจ้าอีกเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ทำไมพวกเจ้าถึงซื้อตัวพวกเด็กๆของมีก้า?”

 

สปีชเลสส์ยังคงปิดปากเงียบ เมื่อเห็นว่าเธอไม่พูดอะไร หานเซิ่นก็ตัดส่วนล่างของชุดเกราะเธอออก หลังจากนั้นเขาก็เริ่มจะลากตัวเธอไป

 

“พวกเราซื้อตัวมีก้าไปก็เพื่อซ่อมแซมอาวุธระดับเทพเจ้า!” สปีชเลสส์รีบพูดออกมา

 

“อาวุธอะไร? มันจะถูกซ่อมแซมได้ยังไง?” หานซ่นถาม

 

“ข้าไม่รู้! ข้าเพียงแค่ได้ยินมานิดหน่อยเท่านั้น แต่ข้ารู้ว่ามันเป็นมีดเล่มหนึ่ง มีเพียงแค่ราชาเคลียร์ซีเท่านั้นที่รู้รายละเอียด” สปีชเลสส์รีบพูด

 

“เจ้าไม่รู้อะไรอย่างนั้นหรอ ดูเหมือนข้าไม่จำเป็นต้องใช้เจ้าอีกแล้วสินะ” หานเซิ่นมองสปีชเลสส์อย่างไร้ซึ่งความปราณี

 

“ถ้าเจ้ายอมปล่อยข้าไป ข้าจะบอกทุกอย่างที่เจ้าอยากรู้! ถ้าเจ้าปล่อยให้ข้าได้ไปรวบรวมข้อมูล ข้าแน่ใจว่าจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวัง!” สปีชเลสส์พูด

 

“ข้าจะมอบโอกาสสุดท้ายให้กับเจ้า ถ้าเจ้าไม่ตอบข้ามาตอนนี้ ก็เชิญมีความสุขกับการแสดงบนถนนเถอะ”

หานเซิ่นไม่สนใจคำขอร้องของเธอและพูดต่อ “ทรายดาราจักรที่จะใช้ซื้อตัวเด็กของมีก้าถูกเก็บเอาไว้ที่ไหน? อย่าบอกข้านะว่ามันอยู่ในกระเป๋าของราชาเคลียร์ซี!”

 

“แต่มันอยู่กับเขาจริงๆ…” ก่อนที่สปีชเลสส์จะพูดจบ หานเซิ่นก็ดึงผมของเธอและลากตัวเธอออกไปบนถนนอีกครั้ง สีหน้าของสปีชเลสส์เปลี่ยนไป เธอรีบพูดขึ้นมา “มันอยู่กับเขาจริงๆ แต่ข้ามีหนทางที่จะเอามันมาให้เจ้า”

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset