มังกรเสวียนเยวี๋ยน
เกล็ดของมังกรเสวียนเยวี๋ยนนั้นดำสนิทเหมือนกับหมึก หัวของมันไม่มีเขา แต่หูของมันกางออกเหมือนกับปีกสีดำ ท้องของมันมีกรงเล็บที่เหมือนกับนกอินทรี มันกำลังมุ่งหน้ามาทางพวกเขา พร้อมกับควันสีดำรอบๆตัว มันดูน่ากลัวอย่างมาก
มังกรเสวียนเยวี๋ยนรวดเร็วเกินไป และมันยังมีอสูรกรงเล็บภูติหยกเข้ามาก่อกวนอีก แต่ถึงจะไม่มีอสูรกรงเล็บภูติหยกอยู่ กลุ่มของหานเซิ่นก็ไม่สามารถหนีมันได้ทันอยู่ดี
ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที มังกรเสวียนเยวี๋ยนก็อยู่ห่างจากพวกเขาเพียงแค่ 20 เมตรเท่านั้น มันอ้าปากและพ่นควันสีดำมาทางพวกเขา ทำให้บริเวณโดยรอบพวกเขาถูกปกคลุมด้วยควันสีดำ
“ลมหายใจของมังกรเสวียนเยวี๋ยนมีพิษ อย่าได้สูดมันเข้าไป!”
กระเรียนพันขนตะโกน หลังจากนั้นก้อนเมฆก็ระเบิดออกมาจากร่างกายของเขา ดวงตาบนหน้าผากของเขาเปิดออกและส่องแสงออกมา
“ท้องฟ้าและเมฆนั้นไร้เทียบทาน! เพลงดาบสังหารนภา!”
กระเรียนพันขนตะโกน เมื่อมีลมปราณสีขาวออกมาห่อหุ้มดาบของเขา เขาก็ฟันมันออกไป
ดาบสายลมสีขาวตัดผ่านควันพิษสีดำ และมันก็ยังคงพุ่งต่อไปที่หัวของมังกร
“พวกเจ้ารีบหนีไปซะตอนนี้” กระเรียนพันขนกำดาบของเขาเอาไว้แน่นขณะที่วิ่งเข้าไปหามังกร
“พาซู่อีหนีไป” ยวิ๋นซู่ซางผลักยวิ๋นซู่อีไปให้กับเฟิร์สเดย์ หลังจากนั้นดวงตาบนหน้าผากของเธอก็เปิดออก ลมปราณสีขาวห่อหุ้มดาบของเธอเช่นเดียวกัน และเธอก็เข้าไปต่อสู้เคียงข้างกระเรียนพันขน
พวกเขาโจมตีกันอย่างพร้อมเพรียงเพื่อทำลายลมหายใจของมังกรเสวียนเยวี๋ยน พวกเขาพยายามอย่างหนักเพื่อหยุดมังกรเสวียนเยวี๋ยนเอาไว้
“นี่สินะคือพลังของคนเผ่านภา เมื่อดวงตาที่ 3 ของพวกเขาเปิดออก พวกเขาก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก” หานเซิ่นมองดูอย่างตกตะลึง
พลังของกระเรียนพันขนและยวิ๋นซู่ซางสามารถต่อกรกับซีโน่เจเนอิคระดับมาร์ควิสได้ และมันก็ดูเหมือนกับว่าพวกเขามีความสามารถพอที่จะฆ่าซีโน่เจเนอิคระดับมาร์ควิสได้เลย
แต่มังกรเสวียนเยวี๋ยนไม่ใช่ซีโน่เจเนอิคระดับมาร์ควิสธรรมดาๆ เกล็ดของมันแข็งแกร่งมากๆและพลังของมันก็สุดยอดไม่แพ้กัน ถึงแม้กระเรียนพันขนและยวิ๋นซู่ซางจะทำลายลมหายใจของมันได้ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเจาะทะลุเกล็ดของมันเข้าไปได้
ดาบลมสีขาวเหมือนกับหิมะพุ่งเข้าใส่เกล็ดสีดำของมังกรเสวียนเยวี๋ยน แต่มันก็ทำได้แค่ทิ้งรอยสีขาวบางๆเอาไว้เท่านั้น
หานเซิ่นให้มนตรายิงใส่มังกรเสวียนเยวี๋ยน แต่เมื่อกระสุนถูกเป้าหมาย พวกมันก็แตกสลายกลายเป็นฝุ่นละออง
‘แข็งแกร่งอะไรอย่างนี้!’ หานเซิ่นคิด
“มิสเตอร์หาน ได้โปรดพาซู่อีออกไปจากที่นี่”
เฟิร์สเดย์พูดขณะที่เริ่มใช้วิชามนตร์สัจธรรม เขาตบฝ่ามือลงบนพื้น หลังจากนั้นมันก็ขยายออกไปหายวิ๋นซู่ซางและกระเรียนพันขนเพื่อช่วยเสริมพลังและความเร็วให้กับพวกเขา
ตอนนี้ยอดฝีมือทั้ง 3 กำลังต่อสู้กับมังกรเสวียนเยวี๋ยน แต่นั่นดูเหมือนจะทำให้มันโกรธยิ่งกว่าเดิม แสงสีดำส่องสว่างออกมาจากตัวของมันและกลายเป็นปีกของมังกร ทำให้มันเร็วขึ้นกว่าเดิม
มังกรเสวียนเยวี๋ยนกระพือปีกของมันเพื่อพุ่งเข้าไปหายวิ๋นซู่ซาง
ยวิ๋นซู่ซางไม่สามารถหลบได้ทัน และมังกรก็กัดดาบของเธอจนหัก
ขณะเดียวกันมังกรก็ฟาดหางไปใส่เฟิร์สเดย์ ร่างกายของเฟิร์สเดย์ส่องสว่างด้วยแสงสีขาว วิชามนตร์สัจธรรมสร้างโล่ฟองสบู่ขึ้นรอบๆตัวเขา แต่หางของมังกรก็ฟาดโล่นั้นแตกกระจายในครั้งเดียวและส่งร่างของเขากระเด็นออกไปชนเข้ากับกำแพงของถ้ำ เฟิร์สเดย์กระอักเลือดออกมาขณะที่ร่างของเขาชนเข้ากับกำแพง
“โอ้ไม่นะ มันเป็นซีโน่เจเนอิคกลายพันธุ์”
กระเรียนพันขนเคลื่อนไหวราวกับเมฆ เขาอุ้มยวิ๋นซู่ซางขึ้นมาพร้อมกับฟันดาบสายลมออกไปข้างหน้าเพื่อทำลายควันสีดำที่มังกรเสวียนเยวี๋ยนปล่อยออกมา
“มนตรา คอยปกป้องนางเอาไว้!” หานเซิ่นบอกกับมนตรา หลังจากนั้นเขาก็ชักมีดเขี้ยวผีสิงออกมา รองเท้าเขี้ยวกระต่ายปรากฏที่เท้าของเขา และเขาก็ถือมีดด้วยถุงมือมิงค์หมอกแดง
หานเซิ่นเคลื่อนไหวราวกับเงามืดและอ้อมไปด้านหลังของมังกรเสวียนเยวี๋ยน หลังจากนั้นเขาก็ใช้มีดฟันเข้าใส่หลังคอของมังกรเสวียนเยวี๋ยน
การโจมตีของเขาทำได้แค่สร้างรอยบางๆเอาไว้เท่านั้น แม้แต่พลังเขี้ยวของเขาก็ไม่สามารถเจาะทะลวงเกล็ดของมังกรเสวียนเยวี๋ยนได้
“มันแข็งถึงขนาดนี้เลยหรอ?” หานเซิ่นแปลกใจ
“อย่าพยายามสู้กับมัน รีบหนีไปซะ มันเป็นซีโน่เจเนอิคกลายพันธุ์ ร่างกายของมันเหนือกว่าระดับมาร์ควิส” กระเรียนพันขนฟันใส่มังกรเสวียนเยวี๋ยนเพื่อดึงความสนใจของมันขณะที่ตะโกนออกมา
แต่มังกรเสวียนเยวี๋ยนนั้นรวดเร็วเกินไป มันกระพือปีกและพุ่งเข้าใส่กระเรียนพันขน ดาบสายลมของกระเรียนพันขนถูกชนแตกสลายในทันที เมื่อเห็นว่ามันกำลังจะถึงตัวของเขา กระเรียนพันขนก็ตะโกนออกมา เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจนดูเหมือนกับว่าเขาเทเลพอร์ตหนีจากการโจมตีของมังกรไป
แต่สีหน้าของกระเรียนพันขนดูซีดเซียว มือของเขาสั่นรัว ขณะที่เขาส่งยวิ๋นซู่ซางให้กับยวิ๋นซู่อี “พวกนางหนีไปพร้อมกับเฟิร์สเดย์ หานเซิ่นกับข้าจะรับมือกับมันเอง”
หลังจากที่โจมตีพลาดเป้า มังกรเสวียนเยวี๋ยนก็หันไปหาเฟิร์สเดย์ที่กำลังลุกกลับขึ้นมาแทน
เฟิร์สเดย์กัดฟัน ขาของเขาส่องแสงออกมาราวกับว่าเขาเหยียบบนดอกบัวดอกหนึ่ง เขาใช้วิชาอย่างหนึ่งที่ทิ้งสัญลักษณ์ของดอกบัวเอาไว้ตามพื้น ซึ่งทุกสัญลักษณ์นั้นทำให้เขารวดเร็วยิ่งขึ้น
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่สามารถหลบการโจมตีของมังกรเสวียนเยวี๋ยนได้ กรงเล็บของมันพุ่งเข้ามาอยู่ตรงหน้าของเขา
เฟิร์สเดย์ส่งฝ่ามือออกไปและปล่อยแสงแห่งสัจธรรมเข้าไปปะทะกับกรงเล็บ แต่เฟิร์สเดย์ถูกส่งกระเด็นออกไปชนกับผนังของถ้ำ
มังกรที่โหดเหี้ยมบินเข้าหาเฟิร์สเดย์อีกครั้ง ดวงตาของกระเรียนพันขนส่องสว่างขึ้นมา และเขาก็ปลดปล่อยก้อนเมฆออกจากดาบ ก้อนเมฆนั้นกลายเป็นมังกรสีขาวและพุ่งเข้าใส่มังกรเสวียนเยวี๋ยน
มังกรสีดำและมังกรสีขาวเข้าปะทะกันและกัน แต่ทันใดนั้นมังกรเสวียนเยวี๋ยนก็กระพือปีกและพุ่งเข้าไปหายวิ๋นซู่ซางกับยวิ๋นซู่อีแทน
“ระวัง!” สีหน้าของกระเรียนพันขนเปลี่ยนเป็นสีดำ การโจมตีนั้นใช้พลังทั้งหมดของเขา และมันไม่มีอะไรที่เขาจะทำเพื่อช่วยพวกเธอได้
ยวิ๋นซู่ซางรู้ว่าพวกเธอไม่รวดเร็วพอที่จะหลบการโจมตี เธอเรียกดาบโบราณออกมาพร้อมกับมีแสงส่องออกมาจากดวงตาที่ 3 ของเธอ หลังจากนั้นเธอก็ฟันเข้าใส่มังกรเสวียนเยวี๋ยน
ขณะเดียวกันหานเซิ่นก็กำลังวิ่งออกไป เขาวิ่งผ่านมังกรเสวียนเยวี๋ยนไปพร้อมกับฟันใส่มันจากด้านข้าง
เคร๊ง!
เสียงทั้ง 2 ดังขึ้นพร้อมๆกัน ยวิ๋นซู่ซางกระอักเลือดและถูกส่งให้กระเด็นออกไป ขณะที่หานเซิ่นฟันไปที่ท้องของมังกร แต่มันก็ทำได้แค่ทิ้งรอยขีดข่วนเอาไว้เท่านั้น