ในตอนนี้มันไม่มีความจำเป็นที่หานเซิ่นต้องทำอะไรอีก ควันสีม่วงเริ่มแพร่ไปทั่วร่างของมดราชินีและฉีกบาดแผลของมัน เลือดจำนวนมากไหลออกมาราวกับเขื่อนแตก
แต่หานเซิ่นขี้เกียจที่จะรอ ดังนั้นเขาจึงวิ่งเข้าไปฟันใส่มดราชินีอีกครั้งและตัดหัวของมันจนขาด
“ซีโน่เจเนอิคราชามดหยกกลายพันธุ์ระดับเอิร์ลถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกพบ”
เมื่อเสียงประกาศดังขึ้นมา มันก็ทำให้หานเซิ่นดีใจอย่างมาก “มันเป็นซีโน่เจเนอิคกลายพันธุ์จริงๆด้วย!”
พวกมดหยดไม่ได้ถอยกลับไปเพียงเพราะราชินีของพวกมันถูกฆ่าตาย พวกมันวิ่งเข้ามาหาหานเซิ่นราวกับคามิกาเซะ
หานเซิ่นให้มนตรากลับคืนร่างเดิมของเธอ หลังจากนั้นเธอก็ใช้ปืนอาร์พีจีจัดการกับพวกมดที่วิ่งเข้ามา ส่วนหานเซิ่นไปจัดการกับมดหยกระดับเอิร์ลที่เหลือรอดอยู่
หลังจากที่มดจำนวนมากถูกฆ่าตาย ในที่สุดตัวที่เหลือก็ตัดสินใจถอยกลับเข้าไปในรังของพวกมัน
หานเซิ่นไม่คิดจะทำการต่อสู้ไปมากกว่านั้น เขาเริ่มเก็บร่างของมดราชินีและมดหยกระดับเอิร์ลทั้ง 8 ขึ้นมา นอกจากนั้นเขายังได้ยีนซีโน่เจเนอิคบางส่วนของมดระดับไวเคานต์ที่ถูกระเบิดจนกลายเป็นผุยผงมาอีกด้วย
อวี้จิงมองดูหานเซิ่นเก็บยีนซีโน่เจเนอิคทั้งหมดขึ้นมาอย่างหดหู่ เขาปลอดใจตัวเอง ‘ยังโชคดีที่อย่างน้อยๆเราก็ได้แบ่งผลไม้หยกพวกนั้นครึ่งหนึ่ง เขาน่ากลัวจริงๆ เขาไม่เหมือนกับในข่าวลือเลยสักนิด เขาดูไม่เหมือนกับคนที่จำเป็นจะถูกต้องแบกเข้ามาในปราสาทนภาเลย’
มันมีผลไม้หยกอยู่ทั้งหมด 14 ลูก หานเซิ่นและอวี้จิงแบ่งกันคนละครึ่ง หานเซิ่นรับพวกมันทั้ง 7 ลูกมาและถามอวี้จิงถึงผลประโยชน์ของพวกมัน
“ศิษย์น้องหาน พวกเรามาร่วมมือกันล่าซีโน่เจเนอิคในถ้ำเสวียนเยวี๋ยนอีกไหม? ข้าจะแบ่งของที่ล่ามาได้แบบที่เจ้าได้เปรียบ 60 40 เป็นยังไง หรือไม่อย่างนั้นก็ 70 30 80 20 ก็ยังได้น่ะ เจ้าควรจะกลับไปลองคิดดูดีๆ!”
หานเซิ่นไม่ได้ล่าต่อ เขาเก็บสิ่งที่ล่ามาได้และให้นกกระเรียนไร้ขาพากลับไปส่งที่เกาะ
ตอนนี้หานเซิ่นอยากจะรู้ให้ได้ว่ายีนซีโน่เจเนอิคกลายพันธุ์นั้นทำอะไรได้กันแน่
หานเซิ่นมอบร่างของมดหยกระดับไวเคานต์ให้นกกระเรียนไร้ขา เขาไม่ได้เก็บยีนซีโน่เจเนอิคที่อยู่ในร่างของพวกมันออกมาเช่นกัน นกกระเรียนไร้ขานั้นสามารถกินพวกมันทั้งหมดเข้าไปได้
นกกระเรียนไร้ขากินพวกมันเข้าไปอย่างมีความสุข และมันก็ส่งเสียงร้องอย่างดีใจออกมาขณะที่กินเข้าไป
หานเซิ่นกลับเข้าไปในบ้านหินและนำร่างของราชินีมดออกมา เขาเริ่มผ่าร่างของมันและหยิบเอาชิ้นเนื้อที่ดูเหมือนกับหยกขึ้นมา
ชิ้นเนื้อนั้นดูโปร่งใสและมีแสงสีทองส่องออกมาจากภายใน เมื่อมองเข้าไปในแสงสีทอง หานเซิ่นก็สามารถเห็นใบหน้าของราชินีมด
“ยีนระดับเอิร์ลไม่เพียงพอ ไม่สามารถสกัดยีนซีโน่เจเนอิคกลายพันธุ์ได้”
ขณะที่หานเซิ่นหยิบยีนซีโน่เจเนอิคของมดราชินีขึ้นมา เสียงประกาศก็ดังขึ้นในหัวของเขา
“เรามียีนระดับเอิร์ลอยู่ 9 พ้อย และมีร่างของมดหยดระดับเอิร์ลอีก 8 ตัว ไม่รู้ว่านั่นจะเพียงพอหรือเปล่า’ หานเซิ่นตัดร่างของมดหยดระดับเอิร์ลทั้ง 8 ตัวและหยิบยีนซีโน่เจเนอิคออกมา
หานเซิ่นมอบร่างของมดราชินีและมดระดับเอิร์ลอีก 8 ตัวให้กับนกกระเรียนไร้ขาที่อยู่ข้างนอก ตอนนี้พวกพ้องของหานเซิ่นมีเพียงแค่บับเบิลเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าเก็บร่างของพวกมันไปให้ใคร
หานเซิ่นได้รับวิญญาณอสูรระดับเอิร์ลและไวเคานต์มา แต่เขาไม่คิดจะป้อนอาหารพวกนี้ให้กับพวกมัน การเลี้ยงวิญญาณอสูรสัตว์เลี้ยงภายในปราสาทนภาไม่ใช่สิ่งที่เขาจะปกปิดได้ง่ายๆ ถ้าคนอื่นรู้ความจริงขึ้นมา มันก็ยากจะอธิบายได้ว่าเขาไปได้มันมาจากที่ไหน
ยีนซีโน่เจเนอิคของมดหยดเป็นชิ้นเนื้อที่มีขนาดพอๆกับกำปั้น หลังจากที่หานเซิ่นย่างพวกมัน พวกมันก็เป็นเหมือนกับบาร์บีคิว และเมื่อปรุงพวกมันด้วยเกลือกับพริกไทย มันก็มีรสชาติดียิ่งกว่าเนื้อแกะย่าง
“ยีนซีโน่เจเนอิคระดับเอิร์ล +1”
หลังจากที่กินชิ้นเนื้อมดเข้าไป หานเซิ่นก็รู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมา เขารู้สึกกระปรี้กระเปร่าราวกับว่าสามารถมีเซ็กซ์เป็นสิบครั้งในคืนเดียว
หลังจากที่กินเนื้อเข้าไป 4 ชิ้น ท้องของเขาก็ป่องขึ้นมา เนื้อพวกนี้เป็นอาหารที่ทำให้อิ่มท้องอย่างมาก
แต่หานเซิ่นไม่จำเป็นต้องรอให้ท้องย่อยพวกมัน เขาเริ่มใช้วิชาคอนซูมเพื่อเร่งการย่อยเนื้อพวกนั้นทันที มันทำให้เขากินชิ้นเนื้อทั้ง 8 ชิ้นหมดได้ในเวลาอันสั้น
ตอนนี้หานเซิ่นจึงมียีนระดับเอิร์ลทั้งหมด 17 พ้อย แต่เมื่อเขาหยิบยีนกลายพันธุ์ของมดราชินีขึ้นมา มันก็ยังคงบอกว่ายีนระดับเอิร์ลของเขาไม่เพียงพอ
“เราจำเป็นต้องมียีนระดับเอิร์ลมากแค่ไหนกันแน่?” หานเซิ่นรู้สึกหดหู่ แต่มันเกือบถึงเวลาที่สถานหยกขาวจะเปิดขึ้นอีกครั้งแล้ว ดังนั้นเขาไม่มีเวลาออกไปล่าในถ้ำเสวียนเยวี๋ยนอีก
การฝึกในสถานหยกขาวคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาในตอนนี้ เขายังมีวิชาจีโนอีก 3 ตัวที่จำเป็นต้องพัฒนาไปเป็นระดับเอิร์ล ดังนั้นการเข้าไปฝึกในสถานหยกขาวจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะยังไงซะมันก็เป็นเหตุผลที่อี๋ซาส่งเขามาที่นี่
แน่นอนว่าอี๋ซาส่งเขามาที่นี่ด้วยจุดประสงค์ที่จะทำให้เขาพัฒนาเรื่องราวของยีนไปสู่ระดับเอิร์ลเท่านั้น และนั่นก็เป็นสิ่งที่เขาทำสำเร็จเรียบร้อยแล้ว
“หานเซิ่น เจ้าอยู่ข้างในไหม? สถานหยกขาวกำลังจะเปิดในวันนี้”
ใครบางคนเรียกหานเซิ่นจากด้านนอกและปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมา
เสียงนั่นเป็นของยวิ๋นซู่อี หานเซิ่นจึงรีบล้างหน้าแปลงฟันและไปเปิดประตู ยวิ๋นซู่อีสวมชุดสีขาวยืนรอเขาอยู่นอกประตู
“สถานหยกขาวเปิดอีกครั้งในวันนี้ พวกเราไปกันเถอะ” ยวิ๋นซู่อีพูด
หานเซิ่นพยักหน้าและหันไปปลุกนกกระเรียนไร้ขาที่นอนหลับอยู่ใต้ต้นไม้
“พวกเราใช้เสือปีกหยกของข้าเถอะ แบบนั้นมันจะไวกว่า” ยวิ๋นซู่อีพูด
“โอเค” หานเซิ่นพยักหน้าและปล่อยให้นกกระเรียนไร้ขานอนหลับต่อไป
หานเซิ่นขึ้นไปนั่งด้านหลังของเธอ หลังจากนั้นเสือปีกหยกก็บินออกไป
“หานเซิ่น เจ้าเป็นลูกศิษย์ของราชินีแห่งมีด ดังนั้นเจ้าคงจะรู้วิชามีดหลายอย่างสินะ ข้าเองก็ฝึกวิชามีดอยู่ แต่ข้ากลัวว่ามันจะมีอะไรบางอย่างผิดปกติ ถ้าเจ้ามีเวลาล่ะก็ เจ้าจะช่วยสอนมันให้ข้าได้ไหม?”
“ข้าจะไม่สอนให้กับเจ้า แต่พวกเราฝึกร่วมกันได้” หานเซิ่นพูด
“ถ้าอย่างนั้นหลังจากที่สถานหยกขาวปิดตัว ข้าจะพาเจ้าไปที่บ้านของข้า” ยวิ๋นซู่อียิ้ม
เมื่อหานเซิ่นและยวิ๋นซู่อีไปถึงสถานหยกขาว พวกเขาก็แยกทางกันเมื่อไปถึงชั้นที่ 4 ยวิ๋นซู่อีบอกว่าเธอจะรอหานเซิ่นอยู่ที่นั่น
ครั้งนี้หานเซิ่นไปหยุดอยู่ที่ชั้นที่ 6 เขาตัดสินใจเริ่มฝึกจากที่นั่น เขาคิดที่จะฝึกวิชาจีโนตัวอื่น แต่เขาไม่รู้ว่าร่างกายจะสามารถทนต่อลมปราณหยกของชั้นที่ 7 โดยไม่ใช้วิชากลายเป็นหินได้หรือเปล่า
แต่ชั้นที่ 6 นั้นเต็มไปด้วยศิษย์ของปราสาทนภา
“ศิษย์น้องหาน เจ้าอยู่นี่เอง!” อวี้จิงเดินเข้ามาเมื่อเห็นหานเซิ่นและนั่งลงข้างๆเขา