Super God Gene – ตอนที่ 2022

จิตใจที่เข้มแข็ง

ภายในห้องเก็บของโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง หวี่เสียวเหม่ยกำลังอยู่ในท่าทางแปลกประหลาด เธอเหงื่อท่วมตัวและผิวของเธอก็แดงไปหมด

 

“ฉันทำมันได้” หวี่เสียวเหม่ยนอนหายใจพะงาบๆอยู่บนพื้น

 

เธอรู้สึกราวกับว่ากระดูกกำลังจะแหลกสลาย กล้ามเนื้อของเธอปวดไปหมด ถ้าเธอขยับตัว เธอก็จะรู้สึกเหมือนกับว่าถูกทิ่มแทงด้วยเข็ม

 

หลังจากที่เธอเซ็นสัญญากับเป่าเอ๋อ ชีวิตที่น่าเศร้าของเธอก็เริ่มต้นขึ้น เธอต้องทำทุกอย่างที่เป่าเอ๋อบอกให้ทำ

 

เป่าเอ๋อบอกเธอว่านี่คือวิชาจีโนที่ทรงพลัง แต่เธอรู้สึกว่ามันเป็นการทรมานมากกว่า มันเป็นกระบวนการที่เจ็บปวดอย่างมาก

 

“ไม่เป็นอะไร ถ้าครูไม่ต้องการที่จะฝึกมัน เรื่องหนี้ของคุณครูนั้น”

เป่าเอ๋อกำลังนั่งอยู่บนกองไม้และโบกใบสัญญาไปมา

 

เมื่อหวี่เสียวเหม่ยเห็นกระดาษพวกนั้น เธอก็กัดฟันและทนฝึกวิชาจีโนต่อไป

 

จนถึงตอนนี้เธอเป็นหนี้มากขึ้นเรื่อยๆ และหนี้ของเธอในตอนนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่เธอจะจ่ายคืนได้ในหลายชั่วชีวิต

 

หวี่เสียวเหม่ยเกลียดตัวเองที่ไม่สามารถทนต่อสิ่งยั่วยวนที่เป่าเอ๋อเป็นคนเสนอขึ้นมา เธอถูกดึงดูดด้วยชุดและเครื่องประดับอันหรูหรา ดังนั้นเธอจึงเซ็นสัญญาไปหลายฉบับ ซึ่งพวกมันทั้งหมดต่างก็เป็นสัญญาที่ไม่ยุติธรรม

 

และเนื่องจากยังไงเธอก็ไม่สามารถจ่ายคืนได้อยู่แล้ว เธอจึงเซ็นสัญญาเพื่อติดหนี้มากขึ้น

 

“พอแค่นี้ก่อน พวกเราค่อยมาฝึกต่อในวันพรุ่งนี้”

เป่าเอ๋อสังเกตเวลา หลังจากนั้นเธอก็เดินออกจากห้องเก็บของไป

 

“เด็กเวร” หวี่เสียวเหม่ยนอนแน่นิ่งไปกับพื้น

 

ตอนนี้หานเซิ่นเองก็เศร้าใจไม่ต่างอะไรไปจากหวี่เสียวเหม่ย เขากำลังต่อสู้กับซีโน่เจเนอิคชนิดต่างๆในความฝันที่ถูกส่งเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซีโน่เจเนอิคนั้นหลั่งไหลกันเข้ามาอย่างไม่สิ้นสุด และมันก็ไม่มีสถานที่ให้เขาหลบซ่อนตัวได้เช่นเดียวกัน ทั้งหมดที่เขาทำได้ก็คือฆ่าพวกมัน

 

แต่เนื่องจากเขากำลังอยู่ในความฝัน เขาจึงเหนื่อยล้าแค่ทางจิตใจเท่านั้น ร่างกายของเขาไม่มีวันเหนื่อย และเขาก็ต่อสู้ได้อย่างไม่ต้องหยุดพัก

 

แต่ทว่าสิ่งที่เลวร้ายที่สุดก็คือกุญแจหัวในนภายังคงทำงานภายในความฝัน มันทำให้เขารู้สึกหดหู่

 

หานเซิ่นไม่รู้ว่าตัวเองต่อสู้มาเป็นเวลานานแค่ไหนแล้ว และตอนนี้เขาก็เริ่มที่จะเบื่อเต็มทน

 

พวกซีโน่เจเนอิคนั้นทอดยาวออกไปสุดลูกหูลูกตา ซึ่งหลายๆตัวหานเซิ่นไม่เคยเห็นมาก่อน และซีโน่เจเนอิคทั้งหมดยังมีพลังที่แตกต่างกันออกไป พวกมันจึงให้รู้สึกเหมือนของจริงในสายตาของหานเซิ่น ทุกอย่างดูสมจริงจนยากที่จะบอกได้ว่าเขาอยู่ในความฝันจริงๆหรือเปล่า หานเซิ่นใช้ทุกอย่างที่มีเพื่อต่อสู้กับพวกมัน และเขาก็เฉียดความตายหลายต่อหลายครั้ง

 

ดรีมบีสต์มองดูหานเซิ่นด้วยสีหน้าแปลกๆ ดรีมบีสต์บอกกับหานเซิ่นว่าเขาจะกลายเป็นผักถ้าเกิดตายในความฝัน ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องโกหก มันสามารถทำให้จิตใจของหานเซิ่นตายไปได้จริงๆถ้ามันต้องการ

 

แต่ดรีมบีสต์ไม่ได้มีแผนที่จะฆ่าหานเซิ่น มันทำแบบนั้นก็เพื่อให้หานเซิ่นต่อสู้ได้อย่างเต็มที่ มันต้องการดูว่าหานเซิ่นจะเอาตัวรอดได้นานสักแค่ไหน

 

แต่ความสามารถของหานเซิ่นเหนือกว่าที่มันคิดเอาไว้มาก ในตอนแรกมันคิดว่าหานเซิ่นคงจะเอาตัวรอดได้เพียงแค่หนึ่งเดือน แต่ตอนนี้หานเซิ่นต่อสู้อยู่ในความฝันอย่างไม่หยุดมาเป็นเวลา 4 เดือนแล้ว

 

มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่หานเซิ่นสามารถฆ่าซีโน่เจเนอิคเหล่านั้นได้ เพราะพวกมันถูกตั้งให้อยู่ในระดับเดียวกับหานเซิ่น แม้แต่ซีโน่เจเนอิคระดับสูงก็ถูกลดพลังให้ทัดเทียมกับพลังของหานเซิ่น

 

ดรีมบีสต์ทำแบบนี้ก็เพื่อให้หานเซิ่นได้เรียนรู้เกี่ยวกับซีโน่เจเนอิคชนิดต่างๆ

 

แต่ท่ามกลางการต่อสู้ที่ดุเดือด หานเซิ่นไม่พลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว จิตใจของเขาไม่เคยเสียสมาธิ ซึ่งมันยากที่จะหาเอิร์ลที่มีจิตใจเข็มแข็งแบบนั้นได้อีก

 

‘เจ้านี่ต้องมีประสบการณ์อะไรบางอย่างมาก่อนแน่ ไม่อย่างนั้นเขาจะมีจิตใจที่เทียบกับไผ่เดียวดายได้ยังไงกัน?’ ดรีมบีสต์คิด

 

แต่ทว่าจิตใจของหานเซิ่นกำลังอ่อนลงเรื่อยๆ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่ยังไม่พลาดเลยสักครั้ง ดรีมบีสต์รู้ดีว่าสถานการณ์ตอนนี้มันน่ากลัวขนาดไหน แต่หานเซิ่นก็ยังคงไม่คิดที่จะยอมแพ้

 

สำหรับดรีมบีสต์ หานเซิ่นนั้นเจิดจรัสเหมือนกับอัญมณี

 

ดรีมบีสต์ถอนหายใจออกมา หลังจากนั้นมันก็ดึงหานเซิ่นกลับออกมาจากความฝัน

 

ดรีมบีสต์ไม่ได้ต้องการจะฆ่าหานเซิ่น ถ้าเหตุการณ์แบบนั้นยังคงดำเนินต่อไป จิตวิญญาณของหานเซิ่นก็อาจจะเหนื่อยล้าจนเกินไป และถ้าเป็นอย่างนั้นหานเซิ่นก็อาจจะตายไปจริงๆไม่ใช่แค่ตายภายในความฝัน

 

หานเซิ่นร่วงลงบนพื้น เขารู้สึกราวกับว่าสมองกำลังจะระเบิด นั่นเป็นสภาพของคนที่จิตใจเหนื่อยล้ามากเกินไป

 

ดรีมบีสต์ส่งหานเซิ่นกลับไปที่เกาะของเขา และหลังจากที่พักผ่อนอยู่หลายวัน หานเซิ่นก็ค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ

 

เมื่อหานเซิ่นฟื้นตัวแล้ว จิตใจของเขาก็กระจ่างแจ้งขึ้นมา ประสาทสัมผัสของเขาเฉียบแหลมขึ้นกว่าเดิม แต่สิ่งที่ทำให้หานเซิ่นดีใจที่สุดก็คือตอนนี้เขากลับมาเป็นอิสระแล้ว

 

หานเซิ่นรู้ว่าดรีมบีสต์แค่จะช่วยเขาฝึกเท่านั้น แต่เขาก็ชื่นชอบความรู้สึกอิสรภาพมากกว่า

 

เมื่อหานเซิ่นตื่นขึ้นมา เขาก็ให้บับเบิลลอกเลียนแบบเขาและนอนลงบนเตียง หลังจากนั้นเขาก็แอบกลับเข้าไปในสหพันธ์ เขาอุ้มหลิงเอ๋อขึ้นมาและหอมแก้มของเธอ หลังจากนั้นเขาก็อุ้มจีเหยียนหรันต่อ หานเซิ่นคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา

 

ไม่มีใครมายุ่งอะไรกับหานเซิ่นอีก และเขาก็ใช้เวลาหนึ่งเดือนต่อมาไปกับการพักผ่อน เขาเกือบจะลืมไปเลยว่ากุญแจหัวใจนภายังคงล็อคร่างกายของเขาอยู่

 

วันเวลาที่มีความสุขผ่านพ้นไป แต่หลังจากที่ผ่านไปอีก 2 เดือน กระเรียนพันขนก็มาหาหานเซิ่นที่เกาะ

 

“ซีโน่เจเนอิคสเปชเทพโบราณ? นั่นคือสถานที่แบบไหนกัน?”

หานเซิ่นถามกระเรียนพันขนด้วยความสับสน เขาไม่รู้ว่าทำไมผู้นำของปราสาทนภาถึงต้องการส่งเขาไปที่นั่น

 

กระเรียนพันขนดูกังวล “ซีโน่เจเนอิคสเปชเทพโบราณคือซีโน่เจเนอิคสเปชถัดจากระดับบารอน พวกเราไม่ได้เป็นเจ้าของมัน แต่ทุกครั้งที่มันเปิด มันจะมีตำแหน่งว่างให้พวกเราหนึ่งที่ ข้าไม่คาดคิดว่าท่านผู้นำจะเลือกเจ้า”

 

“การไปที่นั่นมีประโยชน์อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถาม

 

“แน่นอนอยู่แล้ว แต่ข้าต้องขอเตือนเอาไว้ว่ามันเป็นอะไรที่อันตราย แม้แต่เอิร์ลระดับสุดยอดหรือมาร์ควิสก็อาจจะไม่รอดชีวิตออกกลับออกมา” กระเรียนพันขนพูด

 

“มันอันตรายยังไง?” หานเซิ่นรู้ว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเป็นกังวล เขาไม่ได้เกรงกลัวอันตราย และถ้าผู้นำปราสาทนภาต้องการให้เขาไปที่นั่น มันก็ไม่มีอะไรที่เขาจะทำได้

 

“ซีโน่เจเนอิคในซีโน่เจเนอิคสเปชเทพโบราณนั้นเป็นอันตราย แต่ข้าไม่ได้รู้รายละเอียดอะไรมากนัก เพราะข้าไม่เคยไปที่นั่นมาก่อน แต่อาจารย์ของข้าบอกว่ามันไม่ได้มีแค่ซีโน่เจเนอิคที่เจ้าต้องระวัง มันยังมียอดฝีมือจากเผ่าพันธุ์อื่นเข้าไปที่นั่นพร้อมกับเจ้าด้วย” กระเรียนพันขนอธิบาย

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset