Super God Gene – ตอนที่ 2027

แมลงประหลาดที่น่ากลัว

ร่างกายของหานเซิ่นยังคงถูกจำกัดการเคลื่อนไหวจากทั้งกุญแจหัวใจนภาและซีโน่เจเนอิคสเปชเทพโบราณ ความเร็วในการเคลื่อนไหวของเขาจึงช้าลงอย่างมาก แต่โชคดีที่รองเท้าเขี้ยวกระต่ายไม่ได้รับผลกระทบอะไร ทำให้เขายังสามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยความเร็วของดยุก

 

ในจังหวะที่หานเซิ่นหลบลำแสงสีเงินนั้น ลวดลายสีทองของมดก็ปรากฏขึ้นบนตัวของเขา จากนั้นเขาก็ฟันเข้าใส่แมลงสีเงินที่ดูเหมือนกับแก้ว

 

เคร๊ง!

หานเซิ่นใช้พลังของมีดและดาบฟันเข้าใส่แมลงแก้วเงินที่เข้ามา แต่ทันใดนั้นม่านพลังโปร่งใส่สีเงินก็ปรากฏขึ้น ทำให้การโจมตีของเขาไม่สามารถไปถึงตัวของมันได้

 

หานเซิ่นตกตะลึง ร่างกายของเขาเทียบได้กับมาร์ควิสคนหนึ่ง และเขาก็ยังถูกเสริมพลังด้วยเครื่องหมายมดราชินี มันจึงไม่ควรจะเป็นเรื่องยากอะไรในการจัดการกับซีโน่เจเนอิคระดับมาร์ควิสตัวหนึ่ง แต่การโจมตีอย่างเต็มกำลังของเขากลับไม่สามารถทำลายโล่ป้องกันของแมลงแก้วเงินได้ มันเป็นอะไรที่น่าตกใจ

 

หานเซิ่นใช้ความเร็วของรองเท้าเขี้ยวกระจ่ายเพื่อต่อสู้กับแมลงแก้วเงิน เขาฟันใส่โล่ป้องกันของมันซ้ำๆหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีครั้งไหนที่ได้ผล ม่านพลังของมันทนทานเกินไป แม้แต่พลังของมีดและดาบรวมกันก็ไม่สามารถเจาะทะลวงมันได้

 

หานเซิ่นตกเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบ

 

ถึงความเร็วของเขาจะได้รับความช่วยเหลือจากรองเท้าเขี้ยวกระต่าย แต่กุญแจหัวใจนภาและซีโนเจเนอิคสเปชเทพโบราณก็ยังส่งผลต่อตัวเขา ทำให้การต่อสู้เป็นไปอย่างยากลำบาก และเขาก็เริ่มที่จะรู้สึกเหนื่อยล้า ร่างกายของเขาปวดไปทั้งตัว เขารู้สึกแย่มากๆ

 

หานเซิ่นต้องการจะหนีไปจากที่นี่ ขณะที่เขาตัดสินใจได้แล้ว เขาก็สังเกตว่าไห่เอ๋อร์หนีไปเรียบร้อยแล้ว

 

แมลงแก้วเงินไม่เชื่องช้าเลยสักนิดเดียว มันไล่ตามหานเซิ่นจากด้านหลังพร้อมกับปล่อยลำแสงสีเงินออกมา

 

หานเซิ่นกัดฟันและวิ่งกลับไปทางน้ำตก มันมีเส้นทางเดียวให้กลับ ซึ่งเป็นเส้นทางที่แคบและไม่มีที่ให้ซ่อนตัวได้ ดังนั้นหานเซิ่นจึงเลือกที่จะเอาตัวรอดในพื้นที่ที่กว้าง

 

แมลงแก้วเงินกำลังบินอยู่ ดังนั้นหานเซิ่นจึงบินขึ้นเหมือนกับนกฟินิกซ์และฟันใส่ด้านหลังของมัน แต่พลังของมีดและดาบยังคงไม่พอที่จะทำลายโล่สีเงิน

 

นี่เป็นครั้งแรกที่หานเซิ่นต้องเผชิญหน้ากับซีโน่เจเนอิคที่มีพลังป้องกันสูงถึงขนาดนี้ เขาเชื่อว่ามันต้องเป็นซีโน่เจเนอิคระดับมาร์ควิสกลายพันธุ์ที่โดดเด่นในด้านพลังป้องกัน

 

หานเซิ่นต่อสู้กับมันไปเรื่อยๆพร้อมกับคอยๆถอยไปหารูปปั้นสีเงิน ถ้าเขาต้องหนีไป เขาก็ไม่คิดจะหนีไปมือเปล่า เขาต้องการจะหาจุดเริ่มต้นแห่งเทพโบราณของรูปปั้นสีเงินนี้ เพราะถ้าไหนๆไม่สามารถฆ่าแมลงตัวนี้ได้แล้ว อย่างน้อยเขาก็จะเอาจุดเริ่มต้นแห่งเทพโบราณกลับไปด้วย

 

โชคดีที่ภายในรูปปั้นมีหลายเส้นทางให้เขาใช้ ดังนั้นเขาจึงใช้สภาพแวดล้อมเพื่อหลบแมลงแก้วเงินไปเรื่อยๆ แต่มันก็ใช้พลังงานจำนวนมาก และยิ่งเวลาผ่านไปเขาก็เริ่มจะช้าลงเรื่อยๆ

 

เนื่องจากไม่มีใครอยู่รอบๆ หานเซิ่นจึงเรียกชุดเกราะตงเสวียนออกมา ชุดเกราะตรงเสวียนเริ่มที่จะดูดซับพลังงานจากสภาพแวดล้อมเพื่อเติมพลังให้กับหานเซิ่น แบบนั้นเขาก็จะสามารถต่อสู้ได้เรื่อยๆโดยไม่หมดสติไปจากความเหนื่อยล้า

 

มันดูเหมือนว่าซีโน่เจเนอิคด้วงเงินที่เขาเจอก่อนหน้านี้คือพวกมันทั้งหมดแล้ว และหลังจากที่เขาฆ่าพวกมันที่อยู่ข้างนอกไป มันก็ไม่มีด้วงสีเงินตัวไหนหลงเหลืออยู่ภายในรูปปั้น

 

หานเซิ่นวิ่งลึกเข้าไปในอุโมงค์เรื่อยๆ และหลังจากที่ผ่านไป 2 ชั่วโมง เขาก็พบจุดเริ่มต้นแห่งเทพโบราณตรึงอยู่กับกำแพง มันมีสัญลักษณ์ของด้วงไทรโลไบต์อยู่บนแผ่นศิลาพร้อมกับส่องแสงสีเงินออกมา

 

หานเซิ่นรู้สึกดีใจที่หามันได้พบ เขารีบวิ่งเข้าไปคว้ามันมา

 

แมลงแก้วเงินโกรธจัด ตอนนี้มันยิ่งอยากจะฆ่าหานเซิ่นมากกว่าเดิม

 

แมลงและมนุษย์ต่อสู้กันอยู่เป็นเวลานาน แต่หานเซิ่นก็ยังไม่สามารถเจาะทะลวงโล่ป้องกันของมันได้ และเขาก็ถูกลำแสงสีเงินหลายครั้ง ทำให้ชุดเกราะตงเสวียนเริ่มจะได้รับความเสียหาย

 

หานเซิ่นมีแผนที่จะต่อสู้ จนกระทั่งแมลงแก้วเงินใช้พลังจนหมด แบบนั้นบางทีม่านพลังของมันอาจจะหายไป แต่หลังจากที่ต่อสู้กว่า 10 ชั่วโมง หานเซิ่นก็ใกล้ที่จะหมดแรงเต็มที แต่ม่านพลังของแมลงแก้วเงินยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

 

มันสายเกินไปที่หานเซิ่นจะหลบการโจมตีครั้งต่อไป และลำแสงสีเงินของแมลงก็พุ่งทะลุตัวของเขาไป

 

ร่างกายของหานเซิ่นระเบิดออกมาเหมือนกับลูกโป่งน้ำ แต่นั่นเป็นแค่ร่างโคลนที่เขาสร้างขึ้นมาด้วยวิชาจันทรา

 

และในขณะที่เจ้าแมลงมัวสนใจอยู่กับร่างโคลน หานเซิ่นก็วิ่งหนีออกไปตามเส้นทางที่แคบ และเมื่อพ้นจากสายตาของเจ้าแมลงแล้ว เขาก็ใช้ศาสตร์ตงเสวียนเพื่อซ่อนพลังชีวิตของตัวเองและหยุดเคลื่อนไหว

 

แมลงแก้วเงินบินไปมารอบๆถ้ำด้วยความโกรธ พร้อมกับส่งเสียงกรีดร้องออกมา

 

หลังจากผ่านไปสักพัก แมลงแก้วเงินก็บินกลับเข้าไปในรูปปั้น เมื่อเห็นอย่างนั้นหานเซิ่นก็เผยตัวเองออกมาและรีบเดินทางออกมาที่นั่น

 

แมลงแก้วเงินแข็งแกร่งเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งโล่ป้องกันของมัน นอกซะจากจะใช้ท่าตบขั้นสุดยอด เขาก็ไม่คิดว่าจะสามารถทำลายมันได้

 

พลังของท่าตบขั้นสุดยอดอาจจะทำลายโล่ป้องกันของมันได้ก็จริง แต่มันก็อาจจะทำลายร่างกายของเจ้าแมลงไปด้วย แบบนั้นเขาก็จะไม่ได้รับผลประโยชน์อะไร ซึ่งถ้ามันเป็นอะไรที่ไม่มีประโยชน์ เขาก็ไม่คิดจะทำมัน

 

หานเซิ่นออกมาจากรอยแยก และเขาก็พบไห่เอ๋อร์ยืนอยู่ด้านนอก เขาจึงเรียบเปลี่ยนเป็นชุดเกราะมนตรา

 

“เจ้าวิ่งได้เร็วหนิ” หานเซิ่นมองไห่เอ๋อร์และยิ้มออกมา

 

ไห่เอ๋อร์ยิ้มและพูด “ข้าเป็นแค่โจรสลัด ข้าไม่ได้เก่งในเรื่องไหนๆ ข้าแค่วิ่งหนีเอาตัวรอดได้อย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่ข้าเชื่อในตัวเจ้า ข้ารู้ว่าเจ้าจะรอดชีวิตกลับมาได้”

 

หานเซิ่นนั่งลงกับพื้น เขารู้สึกเหนื่อยล้ามากๆ น้ำหนักของกุญแจหัวใจนภาและพลังของซีโน่เจเนอิคสเปชเทพโบราณทำให้เขาต้องใช้แรงมากกว่าปกติ เขาใช้เรี่ยวแรงเกือบจะทั้งหมดกว่าที่จะรอดออกมาได้

 

“เจ้าจะไปไหนต่อ?” ไห่เอ๋อร์ถามหานเซิ่น ขณะที่นั่งลงตรงกันข้ามกับเขา

 

“ข้าคิดว่าการร่วมมือของเราควรจะจบลงเท่านี้ หลังจากนี้ไปพวกเราจะแยกทางกัน” หานเซิ่นพูด

 

“เจ้าโหดร้ายเกินไปแล้ว! นี่พวกเราเพิ่งจะเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมาด้วยกัน” ไห่เอ๋อร์พูด

 

“เดี๋ยวก่อนนะ เจ้าเพิ่งจะปล่อยให้ข้าตายอยู่หยกๆ อย่าได้พยายามพูดแก้ตัวเลย” หานเซิ่นพูดขึ้นมา

 

ไห่เอ๋อร์กรอกตาและพูดต่อ “เอาแบบนี้เป็นยังไงข้าจะขอจ้างเจ้าเพื่อไปล่าซีโนเจเนอิค?”

 

“ข้าไม่สนใจ” หานเซิ่นนอนลงกับพื้นและหลับตา เขารู้สึกปวดกล้ามเนื้อไปหมด

 

“มีใครบางคนมาที่นี่” จู่ๆไห่เอ๋อร์ก็พูดขึ้นมา

 

หานเซิ่นรีบลุกขึ้นนั่งและมองไปในทิศทางที่ไห่เอ๋อร์บอก มีคนบางคนกำลังมาทางนี้จริงๆ

 

“บุดด้า!” หานเซิ่นตกตะลึง

 

“ไว้พวกเราค่อยพบกันใหม่” ไห่เอ๋อร์หันหลังกลับและวิ่งออกไป เธอลืมเรื่องเกี่ยวกับการร่วมมือกันไปจนหมดสิ้น

 

“เจ้านี้วิ่งหนีเก่งจริงๆ” หานเซิ่นรู้สึกแย่ เขาเองก็ต้องการจะหนีเช่นกัน แต่เขาเหนื่อยล้าเกินไป เขาเลือกที่จะเก็บแรงเอาไว้เพื่อต่อสู้ดีกว่าพยายามวิ่งหนีไป

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset