Super God Gene – ตอนที่ 2044

การหลบหนีใต้ทะเล

เต่าหนามแหลมยักษ์กำลังว่ายลึกลงไปในท้องทะเล ซึ่งหานเซิ่นก็ยังคงเกาะหลังของมันเอาไว้แน่นและใช้ร่างกายที่ใหญ่โตของมันเพื่อหลีกเลี่ยงแรงระเบิด และเมื่อออกนอกระยะของแรงสั่นสะเทือนแล้ว เขาก็ปล่อยมือออกจากหลังของเต่า เขามองไปรอบๆและสังเกตเห็นเต่าหนามแหลมหลายตัวกำลังว่ายลึกลงไปในทะเล

 

หานเซิ่นไม่กล้าจะว่ายลงไปลึกเกินไป ถึงเขาจะต้องการหลีกเลี่ยงแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้น แต่เขาก็กลัวว่าถ้าลงไปลึกมากๆ เขาอาจจะไปเจอกับซีโน่เจเนอิคที่น่ากลัวที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ทะเลลึก ดังนั้นเขาจึงไม่ดำลึกลงไปอีก

 

ในขณะที่หานเซิ่นลอยตัวอยู่ในทะเลนั้น เขาก็สังเกตเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยว่ายเข้ามา เธอก็คือซิวซือที่เป็นชาวกาน่า แต่เธอดูแตกต่างจากกาน่าที่หานเซิ่นรู้จัก

 

หานเซิ่นขมวดคิ้ว แต่เขาไม่ได้ว่ายหนีไป การไปข้างบนจะนำเขากลับไปสู่การต่อสู้ของรูปปั้นเต่าทะเลและเทพเจ้ามังกร ดังนั้นการรอคอยอยู่ที่นี่จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

 

“เจ้าชื่อว่าซานมู่สินะ?” ซิวซือว่ายเข้ามาข้างๆหานเซิ่นและถาม

 

“เจ้าต้องการอะไร?” หานเซิ่นพูดขณะที่สังเกตซิวซืออย่างระมัดระวัง

 

ซิวซือยิ้ม “มันเป็นอะไรที่หาได้ยากที่จะได้พบกับคริสตัลไลเซอร์ในที่แบบนี้ ข้าได้ยินมาว่าราชินีแห่งมีดของรีเบทมีลูกศิษย์ชาวคริสตัลไลเซอร์อยู่คนหนึ่ง ชื่อของเขาคือหานเซิ่น เจ้ารู้จักเขาไหม?”

 

หานเซิ่นตกใจเล็กน้อย แต่เขาไม่แสดงออกมาทางสีหน้า

“ข้าไม่ได้รู้จักคริสตัลไลเซอร์ทุกคน แต่ข้าคุ้นเคยกับหานเซิ่นดี เขาเป็นความภาคภูมิใจของพวกเราทุกคน แต่ข้ากลัวว่าเขาจะไม่รู้จักข้า”

 

ซิวซือถอนหายใจออกมา “หานเซิ่นเป็นบุคคลที่น่าภาคภูมิใจจริงๆนั่นแหละ เขาฆ่าดราก้อนเธอร์ทีนและชารอน นั่นเป็นอะไรที่น่าเหลือชื่อมากๆสำหรับเอิร์ลคนหนึ่ง ข้าอยากจะพบกับเขาสักครั้ง แต่น่าเสียดายที่เขาหายตัวไปภายในซีโน่เจเนอิคสเปชเทพโบราณ เจ้าพอจะรู้ไหมว่าเขาอยู่ที่ไหน?”

 

“ข้ากลัวว่าต้องทำให้เจ้าผิดหวังแล้ว เพราะข้าเป็นเพียงแค่คริสตัลไลเซอร์ธรรมดาๆ ข้าไม่รู้จักหานเซิ่นเป็นการส่วนตัว” หานเซิ่นพูด

 

สีหน้าของหานเซิ่นยังคงดูใจเย็น แต่ในใจของเขารู้สึกกังวลอย่างมาก เพราะดูเหมือนว่าความตายของดราก้อนเธอร์ทีนและชารอนจะเป็นที่รู้กันไปทั่ว ซึ่งนั่นหมายความว่าถ้าทางเผ่าดราก้อนรู้ความจริงว่าเขาเป็นใคร เขาก็คงจะถูกฆ่าอย่างแน่นอน

 

ในตอนที่ซิวซือกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ก็มีเงาของคน 2 คนว่ายเข้ามา ซึ่งพวกเขาคือดราก้อนฟิฟทีนและหลงอิ๋ง

 

พวกเขาเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าหานเซิ่นและซิวซือ

 

ดราก้อนฟิฟทีนมองไปที่หานเซิ่น หลังจากนั้นเขาก็หันไปพูดกับซิวซือ

“ซิวซือ ที่นี่อันตราย ทำไมไม่ให้หลงอิ๋งพาเจ้าไปในที่ที่ปลอดภัยล่ะ?”

 

“การต่อสู่ระดับนี้ถือเป็นภาพที่หาได้ยาก อันตรายนั้นถือเป็นราคาที่คุ้มค่าที่จะจ่าย” ซิวซือยิ้ม ดูเหมือนว่าเธอยังไม่คิดจะไปจากที่นี่

 

แทนที่จะตอบกลับ ดราก้อนฟิฟทีนกลับชกหมัดเข้าใส่หานเซิ่น

 

เขารวบรวมพลังมหาศาลไปไว้ในหมัดๆนั้น และหมัดของเขาก็เล็ดลอดผ่านน้ำราวกับเข็ม ความต้านทานของน้ำดูเหมือนจะไม่ได้ชะลอความเร็วของมันเลยแม้แต่น้อย และมันก็พุ่งตรงเข้าไปที่หานเซิ่น

 

ดราก้อนฟิฟทีนต้องการจะฆ่าหานเซิ่น ก่อนที่สัตว์ประหลาดทั้ง 2 จะต่อสู้กันเสร็จ แต่ทว่าหานเซิ่นคุ้นเคยกับพลังนี้ดี เขาไม่มีทางจะลืมพลังพิชิตมารของดราก้อนไปได้ เมื่อดราก้อนฟิฟทีนใช้พลังพิชิตมาร หานเซิ่นก็ดำลึกลงไปในทะเล

 

ดราก้อนฟิฟทีนประหลาดใจกับการเคลื่อนไหวอันรวดเร็วของหานเซิ่น

“นี่คริสตัลตัลไลเซอร์คนนั้นแกล้งทำเป็นว่าเขาไม่เชี่ยวชาญการเคลื่อนไหวในน้ำหรอเนี่ย จริงๆแล้วเขาไม่ได้แย่ไปกว่าพวกเราดราก้อนเลย ไม่สิเขาเหนือกว่าซะอีก”

 

“เป็นคนที่เจ้าเล่ห์อะไรอย่างนี้! หลงอิ๋งกำจัดเขาซะ” ดราก้อนฟิฟทีนพูด เมื่อรู้ตัวว่าหานเซิ่นแกล้งทำเป็นว่าไม่ถนัดการเคลื่อนไหวในน้ำ

 

“รับทราบ” หลงอิ๋งตอบ เธอกระพือปีกและส่งลมกระโชกไปใส่น้ำที่อยู่ด้านหลัง ขณะที่เธอพุ่งตามหานเซิ่นไป

 

หานเซิ่นเห็นความเร็วของเธอที่ไล่ตามมาและรู้ตัวว่าเธอคงจะไล่เขาได้ทัน ถ้าเขาไม่รีบทำอะไรสักอย่าง แต่หานเซิ่นก็ยังคงดำลึกลงไปเรื่อยๆ เมื่อหลงอิ๋งเข้าใกล้เขาแล้ว เธอก็ใช้หอกในมือแทงเข้าใส่หานเซิ่น

 

หานเซิ่นเคลื่อนไหวเพื่อหลบหอกพิชิตมารของหลงอิ๋ง แต่หลังจากนั้นจู่ๆหอกของเธอก็เกิดการเปลี่ยนร่างขึ้น มังกรปรากฏขึ้นบนหอกและทำให้หอกหายวับไป เมื่อมันปรากฏขึ้นอีกครั้ง มันก็เจาะทะลุเข้าไปในหัวของหานเซิ่นเรียบร้อยแล้ว

 

ปัง!

 

ร่างกายของหานเซิ่นระเบิดเหมือนกับลูกโป่งน้ำ แต่มันไม่มีเลือดออกมา

 

“ร่างโคลน?” หลงอิ๋งขมวดคิ้ว ร่างโคลนของหานเซิ่นนั้นดูเหมือนกับของจริงมาก ซึ่งแม้แต่เธอก็ยังถูกหลอก นั่นทำให้เธอรู้สึกโมโห

 

เธอมองไปรอบและรู้สึกตัวว่าหานเซิ่นหายไปแล้ว

 

เธอปลดปล่อยสัญชาตญาณของมังกรออกมาเพื่อตามหาตัวหานเซิ่น แต่หลงอิ๋งต้องขมวดคิ้วเมื่อพบว่าเธอไม่สามารถหาตำแหน่งของเขาได้ในรัศมีหนึ่งพันเมตร

 

หานเซิ่นกำลังเกาะฉลามสีฟ้าและใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียนเพื่อซ่อนพลังชีวิตของตัวเอง

 

เมื่อไปถึงก้นทะเล หานเซิ่นก็มองไปรอบๆ มันมีปะการังอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เขาไม่ได้เข้าไปในนั้น เขาเริ่มขุดลงไปในพื้นทรายแทน

 

ไม่นานหลังจากนั้นหลงอิ๋งก็มาถึงก้นทะเล เธอมองไปรอบๆพร้อมกับกวัดแกว่งหอกของเธอ หอกที่แหลมคมของเธอกวาดปะการังทั้งหมดจนขาดครึ่งในครั้งเดียว ซีโน่เจเนอิคมากมายที่อาศัยอยู่ในปะการังถูกฆ่าตายและทะเลก็ถูกย้อมเป็นสีแดง

 

“เจ้านี่หนีเก่งจริงๆ” หลงอิ๋งขมวดคิ้ว เธอมองไปรอบๆ หลังจากนั้นเธอก็มุ่งหน้าออกไปในทิศทางหนึ่ง

 

หานเซิ่นยังคงซ่อนอยู่ใต้ทรายต่อไป เขาไม่มีเจตนาจะไปจากที่นี่ในตอนนี้ หลังจากนั้นไม่กี่นาทีหลงอิ๋งก็กลับมาอีกครั้ง

 

“แปลกจริงๆ เขาหายไปไหนกัน?” หลงอิ๋งกลับมาค้นหาอีกครั้ง แต่ไม่นานเธอก็กลับไปหาดราก้อนฟิฟทีน หานเซิ่นรู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นอย่างนั้น เขาออกมาจากพื้นทรายและเข้าไปซ่อนตัวในเปลือกหอย

 

พวกหอยอยู่ภายในปะการัง แต่พวกมันถูกฆ่าตายด้วยหอกของหลงอิ๋ง หลังจากที่ซ่อนตัวแล้วหานเซิ่นก็เรียกมนตราออกมาในร่างของปืนไรเฟิล เขาต้องการจะลองดูว่าสโคปสามารถใช้งานขณะที่อยู่ใต้ท้องทะเลได้หรือเปล่า

 

ซึ่งมันยังสามารถใช้งานได้ หานเซิ่นจึงใช้มันส่องจากภายในเปลือกหอย เขาสามารถมองเห็นดราก้อนฟิฟทีน หลงอิ๋งและซิวซือได้จากระยะไกลหลายพันเมตร ถึงเขาจะไม่ได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูด แต่เขาก็ถนัดในการอ่านริมฝีปาก

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset