Super God Gene – ตอนที่ 2053

โลงศพของชูร่า

สุสานกษัตริย์ของชูร่านั้นเหนือความคาดคิดของหานเซิ่น ตัวสุสานคือดวงดาวทั้งดวง และดวงดาวก็สามารถเปลี่ยนวงโคจรได้อีกด้วย

 

ทางชูร่าได้เคลื่อนย้ายดวงดาวไปยังระบบในอวกาศที่รกร้าง มันมีดวงดาวอื่นๆมากมายที่เหมือนกับดวงดาวดวงนี้ ซึ่งถ้าราชินีชูร่าไม่พาเขามาที่นั่นด้วยตัวเอง มันก็ไม่มีทางที่เขาจะรู้ได้เลยว่ามันเป็นสุสานกษัตริย์ของชูร่า

 

ภูเขาขนาดใหญ่บนดวงดาว เปิดออก ซึ่งมันเป็นทางเข้าของสุสาน คนที่จะเข้าไปได้จำเป็นต้องมีสิ่งของอย่างหนึ่ง ซึ่งมันเป็นสิ่งที่สืบทอดกันเฉพาะกษัตริย์ของชูร่าเท่านั้น

 

หานเซิ่นเดินเข้าไปในสุสานอย่างไม่ลังเล ทั้ง 2 ข้างของเขาเต็มไปด้วยรูปปั้นของอสูร เมื่อเขาเดินเข้าไป อสูรเฝ้าสุสานก็มีชีวิตขึ้นมา พวกมันอ้าปากและปลดปล่อยพลังวิชาจำลองนภาออกมา ซึ่งความแข็งแกร่งของพวกมันเทียบได้กับระดับเทพเจ้าของสหพันธ์ดวงดาว

 

แต่ก่อนที่พลังอันน่ากลัวจะมาถึงตัวหานเซิ่น พวกมันก็ถูกปัดออกไปเมื่อเข้ามาใกล้เกิน 3 เมตร มันเหมือนกับว่ามีม่านพลังที่มองไม่เห็นคอยปกป้องหานเซิ่นเอาไว้

 

ราชินีชูร่าและอวี้หมิงเอ๋อตกตะลึง พลังของสุสานไม่สามารถแตะต้องตัวของหานเซิ่นได้เลย มันเป็นอะไรที่ยากจะหยั่งถึงได้

 

ไม่มีกลลวงหรือกับดักอะไรในสุสานที่จะได้ผลกับหานเซิ่น เขาไม่แม้แต่จะหยุดถามพวกเธอเกี่ยวกับสุสาน เขาเพียงแค่เดินต่อไปเรื่อยๆ

 

ราชินีชูร่าหวังเอาไว้ว่าระบบการป้องกันของสุสานกษัตริย์จะลงโทษหานเซิ่น แต่ตอนนี้เธอสูญเสียความหวังทั้งหมดไป หานเซิ่นไม่ต่างอะไรไปจากเทพเจ้าอย่างแท้จริง มันไม่มีพลังอะไรสามารถทำร้ายร่างกายของเขาได้

 

“พลังแบบนี้มีอยู่ในจักรวาลแห่งนี้ได้ยังไงกัน?” อวี้หมิงเอ๋อตกตะลึง เธอไม่สามารถเชื่อในสิ่งที่เห็นได้

 

เธอรู้สึกสูญเสียความมั่นใจในตัวเองไป เธอไม่คิดว่าการฝึกฝนอย่างหนักจะมีประโยชน์อะไร เมื่ออยู่ต่อหน้าหานเซิ่นความแข็งแกร่งของเธอก็ไร้ค่า เธอด้อยยิ่งกว่ามดตัวหนึ่ง

 

“ข้ามาที่นี่เพื่อนำทาง เลิกแตะต้องกับดักได้แล้ว”

ราชินีชูร่าพูดขึ้นมาและเดินผ่านหานเซิ่นไป ถ้าเธอยังคงให้หานเซิ่นเดินนำหน้าต่อ เขาก็คงจะทำให้ระบบป้องกันถูกทำลายในที่สุด ซึ่งนั่นหมายความว่าคนอื่นจะสามารถเข้าไปข้างในได้

 

ด้วยการนำทางของราชินีชูร่า ไม่นานพวกเขาก็มาถึงส่วนลึกของสุสาน มันมีโลงศพอยู่มากมาย ซึ่งแต่ละโลงเป็นของกษัตริย์ของชูร่าแต่ละรุ่น

 

ที่ด้านหลังสุดของห้องโถงมีโลงศพรูปร่างมนุษย์อยู่ โลงศพชูร่านั้นตั้งอยู่บนแท่นบูชายัญ ตรงหน้าของมันมีสระน้ำที่แห้งเหือดไปเป็นเวลานานแล้ว มันมีขวดหลายขวดวางอยู่ข้างๆ หานเซิ่นจดจำได้ว่าพวกมันเป็นขวดจีโนฟลูอิดปริศนา

 

“เมื่อชีวิตของข้าสิ้นสุด ข้าจะมาที่นี่เพื่อหลับใหลไปตลอดการ” ราชินีชูร่าพูด

 

หานเซิ่นสังเกตรอบๆห้องโถงและพบว่ามันไม่มีแผ่นศิลาหรืออะไรที่สลักอักษรเอาไว้เลย ที่นี่เป็นเพียงแค่ห้องเปล่าที่มีโลงศพอยู่เป็นจำนวนมาก

 

“นี่มันหาได้ยากขนาดนั้นเลยหรอที่กษัตริย์ของชูร่าจะมาหลับใหลที่นี่น่ะ?” หานเซิ่นเปิดออร่าศาสตร์ตงเสวียนและสแกนรอบๆ

“บนดาวดวงนี้มีสุสานอยู่แห่งเดียว?”

 

“ใช่แล้ว มันมีแค่ที่นี่” ราชินีชูร่าตอบ

 

หานเซิ่นมองไปที่โลงศพและนับพวกมันทั้งหมดได้ 24 โลง

“แต่มันควรจะมีกษัตริย์มากกว่า 24 องค์ถูกไหม?”

 

ราชินีชูร่าส่ายหัวและพูด “ข้าไม่รู้ นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้รู้ถึงจำนวนของโลงศพ”

 

หานเซิ่นใช้จิตใจของเขาเพื่อเปิดโลงศพทั้ง 14 แต่ละโลงศพนั้นบรรจุร่างของชูร่าอยู่

 

“หานเซิ่น! ไหนเจ้าบอกไงว่าจะไม่แตะต้องบรรพบุรุษของพวกเรา!” อวี้หมิงเอ๋อตะโกนด้วยความโกรธ

 

หานเซิ่นยิ้มออกมา “นี่ไม่ใช่ร่างของกษัตริย์ชูร่า”

 

“อะไรนะ?” อวี้หมิงเอ๋ออึ้งไป

 

“ชูร่ามีกษัตริย์อยู่มากกว่า 24 องค์ ถ้านี่เป็นโลงศพของกษัตริย์ชูร่าจริงๆ มันก็ควรจะมีอยู่มากกว่า 24 โลง แถมโลงศพพวกนี้ก็ถูกใช้จนเต็มหมดแล้ว หรืออย่างน้อยๆมันก็ไม่มีโลงศพเปล่าเหลือไว้ให้กับแม่ของเธอ” หานเซิ่นหันไปมองโลงศพที่อยู่บนแท่นบูชายัญ

 

หานเซิ่นเดินเข้าไปและพยายามจะเปิดมัน เขาไม่สามารถใช้จิตใจสแกนสิ่งที่อยู่ในโลงศพนี้ได้ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกสงสัยว่าภายในมีอะไรอยู่กันแน่

 

ตัวโลงศพมีสีเขียวเข้ม และมันก็ดูเก่ามากๆ มันไม่มีการตกแต่งหรือแกะสลักอะไรเอาไว้ โลงศพนี้ดูเรียบง่ายอย่างมาก

 

เป่าเอ๋อเองก็อยากเห็นภายในโลงศพชูร่านี่เช่นกัน เธอยื่นมือออกไปสัมผัสกับมัน

 

หานเซิ่นจับโลงศพชูร่าและพยายามจะเปิดมันออก แต่เขารู้สึกว่ามันไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย ซึ่งนั่นทำให้เขารู้สึกประหลาดใจ

 

ภายในสหพันธ์ดวงดาว มันไม่ควรจะมีพลังอะไรที่หยุดยั้งเขาได้

 

หานเซิ่นรวบรวมพลังเพื่อลองเปิดมันอีกครั้ง แต่มันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง พลังของหานเซิ่นยังไม่สามารถทำให้มันขยับเขยื้อนได้

 

“ดูเหมือนว่าต้นกำเนิดของชูร่าจะมีอะไรมากกว่าที่ตาเห็น” หานเซิ่นตื่นเต้นขึ้นมา

 

“ฉันจะเปิดโลงศพนี่ได้ยังไง?” หานเซิ่นหันไปถามราชินีชูร่า

 

“นี่เป็นโลงศพผู้ก่อตั้งของพวกเรา ไม่มีใครกล้าแตะต้องมัน ซึ่งถ้าเจ้ายังเปิดมันไม่ได้ แล้วพวกเราจะเปิดมันได้ยังไง?” ราชินีชูร่าพูด

 

“ไม่ ฉันรู้ว่าเธอรู้วิธีที่จะเปิดมัน” หานเซิ่นมองราชินีชูร่าด้วยสายตาเย็นชา

“นี่ไม่ใช่สุสาน ถ้าฉันเดาไม่ผิด กษัตริย์ของชูร่าไม่ได้มาตายที่นี่ เรื่องราวที่ชูร่ามาที่นี่เพื่อรอความตายเป็นแค่เรื่องโกหก พวกเขาคงจะเข้าไปในโลงศพนี้ แต่วิธีที่จะเปิดมันออกเป็นสิ่งที่มีแต่กษัตริย์ของชูร่าเท่านั้นที่รู้ ซึ่งในสถานการณ์นี้มันก็หมายถึงเธอ” หานเซิ่นพูด

 

สีหน้าของราชินีชูร่าดูซีดไป เธอรู้ว่าไม่สามารถปกปิดอะไรจากหานเซิ่นได้

 

ชูร่าพูดอย่างจำใจ “เจ้าพูดถูก กษัตริย์ของชูร่าเมื่อใกล้ถึงเวลาสิ้นอายุขัย พวกเขาจะเข้าไปในโลงศพนี่ นี่คือสิ่งที่ผู้ก่อตั้งสอนพวกเราเอาไว้ มันคือความหวังและความต้องการของกษัตริย์ทุกองค์”

 

“ความหวังอะไร?” หานเซิ่นถาม

 

“ความหวังในการดำเนินชีวิตต่อไป” ราชินีชูร่าพูดด้วยท่าทางลังเล

 

“มันมีคำพูดถูกเขียนไว้บนประกาศิตที่สืบทอดต่อกันในหมู่กษัตริย์ มันเขียนเอาไว้ว่าเมื่อชีวิตกำลังจะถึงจุดจบ พวกเราต้องมาที่โลกศพชูร่านี้ และโลงศพนี้จะต่ออายุขัยของพวกเราได้ มันอนุญาตให้พวกเราได้เกิดใหม่อีกครั้ง แต่ทว่าถ้าพวกเราเปิดมันก่อนถึงเวลา มันก็จะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น”

 

หานเซิ่นรู้ว่าเธอหมายถึงอะไร เขาพูดอย่างเย็นชา “เธอต้องเลือกระหว่างการเปิดโลงศพนี้ กับการเห็นทั้งเผ่าพันธุ์ชูร่าถูกทำลาย”

 

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset