Super God Gene – ตอนที่ 2055

พลังของโลหิตชีพจร

หลังจากกลับไปถึงบ้าน หานเซิ่นก็เทเลพอร์ตเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่ หลังจากนั้นเขาก็ไปยังเมืองของจักรพรรดิมนุษย์เพื่อไปตามหาโลงศพนั่นอีกครั้ง

 

เมื่อก่อนหานเซิ่นไม่สามารถเปิดมันได้ แต่ตอนนี้เขาก็ยังไม่สามารถเปิดมันได้อยู่ดี นั่นทำให้เขาขมวดคิ้ว

 

“ถ้าจักรพรรดิมนุษย์ไปที่จักรวาลจีโนจริงๆ ทำไมมันถึงไม่มีเผ่าพันธุ์มนุษย์อยู่ในจักรวาลจีโน?” หานเซิ่นไม่เข้าใจ

 

เมื่อไม่สามารถทำอะไรได้ หานเซิ่นก็ตัดสินใจเดินทางกลับและหันไปดูดซับรอยเลือดบนมีดขนนกโลหิตต่อ

 

พลังเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด ถ้าเขายังต้องการจะหาคำตอบของคำถามพวกนั้น ซึ่งถ้าเขาเอาชนะผู้นำของเผ่าเดม่อนได้ เขาก็อาจจะได้รู้ความจริงของเรื่องทั้งหมดนี้ แต่ตอนนี้เขายังไม่มีพลังพอจะทำอะไรแบบนั้น แค่จะเอาชนะชารอน เขาก็ถูกบังคับให้ใช้โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด

 

เมื่อมีเวลาว่างหานเซิ่นก็จะพักผ่อน เขาไปดื่มกับซานตันเฟิงและเล่นวิดีโอเกมส์ด้วยกัน หานเซิ่นเข้าไปเล่นวอเฟรมในอินเตอร์เน็ตและประลองกับคนอื่นๆ มันนานมากแล้วที่เขาได้มีโอกาสใช้ชีวิตอย่างสงบสุข

 

2 เดือนผ่านไป ในที่สุดหานเซิ่นก็สามารถดูดซับเลือดออกจากมีดขนนกโลหิตได้จนหมด แต่ถึงอย่างนั้นเขาจำเป็นต้องมีแรงกระตุ้นอีกนิด ถึงจะพัฒนาไปสู่ระดับมาร์ควิสได้

 

แต่หลังจากที่รอยเลือดถูกลบจากใบมีดจนสะอาด ตัวมีดก็เจิดจรัสด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์เหมือนกับว่ามันได้เกิดใหม่อีกครั้ง แสงศักดิ์สิทธิ์นั้นแวววาวจากทุกเส้นและทุกรายละเอียดของขนนก

 

หานเซิ่นกำมีดขนนกโลหิตเอาไว้ และเมื่อเขาทำอย่างนั้น พลังที่ดูศักดิ์สิทธิ์ก็ไหลเข้าไปในตัวของเขา เขารู้สึกราวกับว่าได้รับพรจากพระเจ้า มันทำให้เขารู้สึกแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม

 

แต่เมื่อเขาปล่อยมือออกจากมีด พลังศักดิ์สิทธิ์ก็หายไป

 

“ถึงแม้มีดเล่มนี้จะไม่ใช่ระดับเทพเจ้า แต่มันต้องเป็นระดับครึ่งเทพอย่างแน่นอน” หานเซิ่นลูบผิวของมีดขนนกโลหิตด้วยความรู้สึกตื่นเต้น ด้วยมีดเล่มนี้โอกาสที่เขาจะหนีออกจากทะเลโบราณหวนคืนได้สำเร็จก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก

 

แต่หานเซิ่นยังไม่คิดจะกลับไปตอนนี้ เขาเข้าไปในห้องฝึกและนำเกล็ดกลับตาลปัตรออกมา เขาคิดจะใช้มันเพื่อวิวัฒนาการสู่ระดับมาร์ควิส

 

หานเซิ่นหยดเลือดที่ตกผนึกเหมือนกับคริสตัลลงไปบนเกล็ดและมองดูเลือดค่อยๆซึมซับเข้าไป

 

หลังจากนั้นเขาก็ถือเกล็ดเอาไว้ในมือ หมอกโลหิตของวิชาโลหิตชีพจรก็ห่อหุ้มทั้งร่างกายของเขาเอาไว้ เหมือนกับลูกแก้วสีเลือดขนาดใหญ่

 

เรื่องราวของยีน ศาสตร์ตงเสวียนและกายหยกต่างก็มีความสามารถพิเศษเป็นของตัวเอง แต่วิชาโลหิตชีพจรแสดงพลังออกมาด้วยหยดเลือดเพียงเท่านั้น ซึ่งมันไม่ได้ช่วยอะไรหานเซิ่นในสนามรบมากนัก มันแค่ทำให้แน่ใจว่าสามารถถ่ายทอดความแข็งแกร่งไปสู่ลูกๆได้

 

แต่การถ่ายทอดความแข็งแกร่งไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะถ้าเสี่ยวฮวาและหลิงเอ๋อไม่ได้ฝึกวิชาโลหิตชีพจรด้วยตัวเอง พวกเขาก็จะไม่สามารถใช้ศักยภาพของสายเลือดที่ได้รับจากหานเซิ่นได้

 

แต่ถึงเสี่ยวฮวาและหลิงเอ๋อจะฝึกวิชาโลหิตชีพจร มันก็จะมีความเสี่ยงใหญ่หลวง เพราะถ้าสายเลือดถูกสืบทอดแบบนั้นต่อไปเรื่อยๆ สุดท้ายแล้วทายาทของเขาก็อาจจะมีเลือดสีฟ้าและกลายเป็นสมาชิกของพยุหะโลหิตอย่างเต็มตัว นั่นจะทำให้พวกเขาไม่สามารถใช้พลังพิเศษอะไรได้ หานเซิ่นจึงยังลังเลว่าควรจะสอนวิชาโลหิตชีพจรให้กับพวกเขาดีไหม

 

หลังจากผ่านไป 4 วัน ลูกแก้วสีเลือดที่ห่อหุ้มหานเซิ่นก็กลับเข้าไปในร่างกายของเขา เมื่อหมอกโลหิตถูกดูดซับเข้าไปอย่างสมบูรณ์แล้ว เกล็ดกลับตาลปัตรก็หายไป แต่ทว่าร่างกายของเขาเรืองแสงสีแดงออกมา

 

หานเซิ่นตรวจเช็คข้อมูล

 

หานเซิ่น: ร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด

ร่างจีโนต่อสู้: เลือดกลายพันธุ์(มาร์ควิส), มนตรา(เอิร์ล), ตงเสวียน(เอิร์ล), กายหยก(เอิร์ล)

ระดับ: มาร์ควิส

อายุขัย: 1000 ปี

 

หานเซิ่นดีใจที่เลือดกลายพันธุ์พัฒนาเป็นระดับมาร์ควิสได้สำเร็จ แต่เลือดกลายพันธุ์นั้นเพียงแค่เพิ่มความแข็งแกร่งของหานเซิ่นเท่านั้น มันไม่ได้มีอะไรพิเศษ นั่นทำให้หานเซิ่นผิดหวังเล็กน้อย

 

‘พลังของวิชาโลหิตชีพจรจะมีผลกระทบต่อลูกหลานเท่านั้นจริงๆอย่างนั้นหรอ?’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง

 

แต่การวิวัฒนาการสู่ระดับมาร์ควิสนั้นหมายความว่าหานเซิ่นสามารถดูดซับยีนซีโน่เจเนอิคของสิ่งมีชีวิตระดับมาร์ควิสได้ หานเซิ่นนำยีนซีโน่เจเนอิคมาร์ควิสกลายพันธุ์ออกมา

 

เขาหยิบยีนซีโน่เจเนอิคกลายพันธุ์ของมังกรเสวียนเยวี๋ยน วัวหินผาปีศาจและปีศาจมังกรออกมาถือในมือ แต่เสียงประกาศที่ดังขึ้นบอกว่าเขามียีนระดับมาร์ควิสไม่เพียงพอ

 

“ดูเหมือนว่าเราจำเป็นต้องหาเริ่มหายีนระดับมาร์ควิสแล้ว”

หานเซิ่นรู้สึกหดหู่ เขามียีนซีโน่เจเนอิคระดับมาร์ควิสเก็บสะสมเอาไว้ แต่พวกมันอยู่บนเกาะของเขาในปราสาทนภา ดังนั้นเนื่องจากเขายังไม่สามารถกลับไปที่ปราสาทนภาได้ เขาก็จำเป็นต้องล่าซีโน่เจเนอิคใหม่อีกครั้ง

 

แต่ทว่าในตอนที่หานเซิ่นจะเก็บยีนซีโน่เจเนอิคกลายพันธุ์ทั้ง 3 เข้าไปในหอคอยแห่งโชคชะตานั้น เขาก็สะดุ้งขึ้นมา เขาได้ใช้วิชาโลหิตชีพจรกับหนึ่งในยีนซีโน่เจเนอิคกลายพันธุ์โดยไม่รู้ตัว

 

ลมปราณโลหิตไหลเข้าไปในลูกแก้วของมังกรเสวียนเยวี๋ยนและย้อมมันจนกลายเป็นสีแดง

 

หานเซิ่นรู้สึกดีใจที่เห็นอย่างนั้น เขาลองใช้วิชาโลหิตชีพจรเพื่อดูดซับยีนซีโน่เจเนอิคกลายพันธ์ของมังกรเสวียนเยวี๋ยนเข้าไปและพบว่ามันสามารถดูดซับเข้าไปได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร

 

ทันใดนั้นเลือดของหานเซิ่นก็เดือดขึ้นด้วยพลังที่ไม่สามารถอธิบายได้ หานเซิ่นรู้สึกได้ถึงพลังที่เพิ่มขึ้นในเลือด แต่มันแตกต่างจากพลังที่เขาได้รับจากยีนซีโน่เจเนอิคกลายพันธุ์ก่อนหน้านี้ พลังนี้ทำให้เลือดของเขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม

 

เมื่อยีนซีโน่เจเนอิคกลายพันธุ์ของมังกรเสวียนเยวี๋ยนถูกดูดซับเข้าไปจนหมด เลือดของเขาก็สงบลงและกลับไปสู่สภาพตกผลึกอีกครั้ง แต่เขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังที่ก่อนหน้านี้เลือดของเขาไม่มี

 

หานเซิ่นใช้วิชาโลหิตชีพจรเพื่อปลุกพลังของเลือด วินาทีต่อมาเขาก็พบว่ามีปีกน้อยๆคู่หนึ่งปรากฏขึ้นเหนือหูของเขา มันดูเหมือนกับปีกของมังกรเสวียนเยวี๋ยน

 

เมื่อปีกหูสีแดงขนาดพอๆกับฝ่ามือปรากฏขึ้นมา หานเซิ่นก็รู้สึกว่าร่างกายแข็งแกร่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเร็วของเขา

 

“ฮ่าๆ วิชาโลหิตชีพจรใช้แบบนี้ได้ด้วยหรือเนี่ย?” หานเซิ่นดีใจ เขานำยีนซีโน่เจเนอิคอีกอันออกมาและลองดูดซับมันเข้าไป

 

แต่ที่หานเซิ่นนำออกมาเป็นยีนซีโน่เจเนอิคระดับเอิร์ลธรรมดาๆ ไม่ใช่ยีนกลายพันธุ์ เมื่อดูดซับมันเข้าไป เขาก็พบว่าไม่ได้รับพลังของซีโน่เจเนอิค

 

หานเซิ่นนำยีนซีโน่เจเนอิคกลายพันธุ์ปีศาจมังกรออกมาเพื่อลองดูอีกครั้ง และเมื่อวิชาโลหิตชีพจรดูดซับมันเข้าไป หานเซิ่นก็ลองใช้วิชาโลหิตชีพจรเพื่อปลุกพลังในเลือด และปีกมังกรสีแดงขนาดใหญ่ก็งอกออกมาจากด้านหลังของเขา

 

เมื่อปีกมังกรกระพือ หานเซิ่นก็หายตัวไปและไปปรากฏตัวอีกครั้งในระยะที่ห่างออกไปหนึ่งร้อยเมตร

 

“นี่มันความสามารถในการวาร์ปข้ามมิติของชารอน” หานเซิ่นรู้สึกดีใจ

 

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset