Super God Gene – ตอนที่ 2078

ฝ่ามือ

เมื่อกลับถึงดาวอุปราคา หานเซิ่นก็เปิดกล่องออกและเห็นการ์ดสำหรับเก็บข้อมูล

 

หานเซิ่นเสียบมันเข้าไปในคอมพิวเตอร์เพื่อดูข้อมูลที่อยู่ข้างใน และเขาก็ได้พบว่าไฟล์ทั้งหมดเป็นข้อมูลของวิชาที่ชื่อแสงจันทร์ ในไฟล์อธิบายเอาไว้ว่าวิชากงล้อจันทราที่หานเซิ่นได้เรียนรู้ไปแล้ว นั้นเป็นส่วนหนึ่งของวิชาแสงจันทร์ ราชากงล้อจันทราเขียนคำอธิบายเอาไว้อย่างละเอียด และเขายังอ้างอิงวิชาต่างๆและประสบการณ์ประกอบไปด้วย

 

จนถึงตอนนี้หานเซิ่นยังไม่สามารถประยุกต์ใช้วิชากงล้อจันทราได้ นั่นเป็นเพราะเขาได้เรียนรู้เพียงแค่ระดับพื้นฐานของวิชาเท่านั้น ซึ่งต่างจากวิชาจันทราที่เขาสามารถใช้ได้อย่างคล่องแคล่ว ดังนั้นข้อมูลนี้จึงเป็นอะไรที่มีค่าสำหรับเขามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันเป็นอะไรที่มีประโยชน์ที่ได้รู้เกี่ยวกับประสบการณ์และเทคนิคของราชากงล้อจันทรา

 

ข้อมูลส่วนสุดท้ายคือคำอธิบายเกี่ยวกับวิชาจันทราของราชากงล้อจันทรา ซึ่งนั่นทำให้มันมีความหมายต่อหานเซิ่นมากยิ่งขึ้นไปอีก

 

“นี่เป็นของขวัญที่มีค่าอย่างยิ่งจากราชากงล้อจันทรา”

หานเซิ่นรู้ว่าของขวัญแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่รีเบคก้าและน้องสาวจะมอบให้ใครก็ได้ ราชากงล้อจันทราต้องเห็นชอบด้วยอย่างแน่นอน

 

หานเซิ่นอยู่บนดาวอุปราคาต่ออีก 2 วัน เป่าเอ๋อควรจะกลับมาหาเขาตั้งแต่ 2 วันก่อน แต่อี๋ซาถูกใจในตัวเป่าเอ๋อและต้องการให้เธออยู่ที่ปราสาทต่ออีกสัก 2-3 วัน

 

หานเซิ่นไม่รู้ว่าอี๋ซาชอบเป่าเอ๋อจริงๆ หรือว่าเธอค้นพบความจริงอะไรบางอย่างกันแน่ แต่ถึงยังไงมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้น เขาแค่ต้องรอให้เธอกลับมา

 

เมื่อราชาชาโดว์กลับมา แนร์โรว์มูนก็กลายเป็นจุดสนใจของหลายๆฝ่าย ราชาชาโดว์ ราชาไนท์ริเวอร์ ราชากงล้อจันทราและราชินีแห่งมีดเพิ่งจะไปสำรวจสถานโบราณของเผ่าพันธุ์ชั้นสูง

 

ในระหว่างการสำรวจ ของสำคัญชิ้นหนึ่งถูกขุดขึ้นมา และเมื่อมันถูกเปิดเผยออกมา ผู้คนทั่วทั้งแนร์โรว์มูนต่างก็รู้สึกตื่นเต้น

 

โบราณสถานแห่งนั้นเป็นที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าในสมัยโบราณ มันมีสิ่งของมีค่าอยู่มากมาย รวมถึงวิชาจีโนที่ทรงพลังด้วย

 

แต่เนื่องจากเผ่าพันธุ์ที่แตกต่างกัน ดังนั้นวิชาจีโนจึงถูกส่งไปยังสถานวิจัยของแนร์โรว์มูนที่เทียบได้กับสวนวิถีนภา

 

สิ่งที่พวกเขานำกลับมาเป็นกำแพงโลหะขนาดใหญ่ นักวิจัยของรีเบทคาดเดาว่ายอดฝีมือระดับเทพเจ้าในอดีตได้ฝึกวิชาจีโนกับกำแพงนี้ โดยใช้มันเป็นเหมือนกับกระสอบทราย

 

มันอาจจะฟังดูเหมือนเป็นเครื่องมือธรรมดาๆ แต่กำแพงไหนที่สามารถทนต่อพลังระดับเทพเจ้าได้โดยไม่ถูกทำลายถือเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ มันต้องถูกสร้างขึ้นมาจากวัตถุหายาก ด้วยเหตุนั้นทางรีเบทจึงเชื่อว่ามันเป็นสมบัติล้ำค่าชิ้นหนึ่ง

 

มันมีรอยบุบรูปฝ่ามืออยู่บนกำแพงมากมาย ซึ่งพวกเขาเชื่อว่ามันเป็นผลจากวิชาจีโนของสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้า มันเป็นวิชาจีโนที่น่ากลัวและรอยฝ่ามือยังคงแฝงจิตวิญญาณของยอดฝีมือระดับเทพเจ้ามาถึงทุกวันนี้ ผู้คนมากมายในแนร์โรว์มูนต่างก็ไปดูมัน และหลายๆคนก็ได้เรียนรู้อะไรบางอย่างจากมัน

 

หานเซิ่นไม่มีอะไรทำบนดาวอุปราคา เขาจึงเริ่มรู้สึกเบื่อ ถ้าอี๋ซาไม่ได้ต้องการให้เป่าเอ๋ออยู่ที่ปราสาทต่อล่ะก็ ปานนี้เขาคงจะพาเป่าเอ๋อไปที่ปราสาทนภาแล้ว หานเซิ่นอยากจะรีบกลับไปจับวิญญาณหยกในสถานหยกขาวต่อ

 

หานเซิ่นพานางฟ้า หานเมิ่งเอ๋อและซีโร่ไปดูกำแพงโลหะนั่น เมื่อไปถึงหานเซิ่นก็ได้รู้ว่าทำไมทางรีเบทถึงไม่ปกปิดการมีอยู่ของมัน

 

มันเป็นลูกบาศก์โลหะสีฟ้าที่ยาวกว่าหนึ่งพันเมตร เมื่อหานเซิ่นไปยืนอยู่ใกล้ๆมัน มันก็ดูใหญ่โตราวกับภูเขา การจะซ่อนสิ่งที่ใหญ่โตแบบนี้เป็นเรื่องยาก

 

บนผิวของลูกบาศก์โลหะสีฟ้ามีรอยฝ่ามืออยู่ทั่วไปหมด บางรอยตื้น บางรอยลึก ซึ่งฝ่ามือแต่ละรอยมีทั้งหมด 5 นิ้วเหมือนกับของมนุษย์ แต่พวกมันมีขนาดใหญ่กว่า

 

“นี่น่ะหรอโบราณวัตถุที่ถูกค้นพบ?” หานเซิ่นพูดขณะที่ตรวจสอบรอยฝ่ามือ

 

“ใช่แล้ว สิ่งนี้ถูกค้นพบในโบราณสถานของเผ่าลิกุ เมื่อตัดสินจากกระดูกของพวกเขา พวกเขาน่าจะสูงถึง 100 เมตร”

รีเบคก้าเดินเข้ามาพร้อมกับตู้ลี่เส่อและคนอื่นๆ

 

แซดไนท์เองก็อยู่ในกลุ่มด้วยเช่นกัน เขามองหานเซิ่นด้วยความดูถูก

 

“อย่างนี้นี่เอง” หานเซิ่นพยักหน้า เขามองไปที่รอยฝ่ามือและรู้สึกได้ถึงสัมผัสประหลาด

 

ขณะที่หานเซิ่นมองไปที่รอยฝ่ามือ เขาก็รู้สึกราวกับว่าฝ่ามือพวกนั้นสามารถทำลายล้างทั้งกาแล็คซี่ได้เลย

 

“ลิกุระดับเทพเจ้าทรงพลังอย่างมาก ไม่รู้ว่าลูกบาศก์โลหะสีฟ้านี้อยู่มานานแค่ไหนแล้ว แต่จิตวิญญาณที่ใส่เข้าไปในฝ่ามือพวกนี้เป็นอะไรที่น่าตกใจ” หานเซิ่นพูด

 

“หานเซิ่น ถ้าเจ้าค้นพบอะไรบางอย่าง ทำไมเจ้าไม่แบ่งปันมันให้พวกเราได้เรียนรู้ไปด้วยล่ะ?” ตู้ลี่เส่อถามพร้อมกับกระพริบตา

 

หานเซิ่นส่ายหัว “ข้าไม่ได้ศึกษารอยฝ่ามือพวกนี้ ข้าแค่รู้สึกได้ถึงความหมายที่แฝงอยู่เท่านั้น”

 

หลังจากที่หานเซิ่นพูดแบบนั้น ก็มีเสียงใครบางคนพูดขึ้นมา

“หานเซิ่น เจ้าจะถ่อมตัวเกินไปแล้ว อัจฉริยะอย่างเจ้าแค่จำเป็นต้องมองเท่านั้น เจ้าต้องรู้อะไรมากกว่านั้นสิ”

 

หานเซิ่นหันหาคนที่พูดและเห็นว่าเขาคือแซดไนท์ที่เป็นลูกชายของราชาไนท์ริเวอร์

 

แซดไนท์ถูกอัดโดยเซี่ยชิง ดังนั้นเป็นไปได้สูงที่เขาจะยังเกลียดชังหานเซิ่นกับเซี่ยชิง แต่หานเซิ่นก็ไม่ได้สนใจอะไรการสบประมาทของเขา

 

“ข้าโง่เขลา ข้ามองไม่เห็นอะไร ถ้าเจ้าเห็นอะไรบางอย่างล่ะก็ บางทีเจ้าก็ควรจะบอกพวกเรา?” หานเซิ่นพูดด้วยรอยยิ้ม

 

ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่แซดไนท์ต้องการ เขาพูด “ข้าได้ดูคร่าวๆแล้ว ข้าจึงมีความคิดเห็นที่จะแบ่งปันให้กับเจ้า”

 

รีเบคก้าและคนอื่นๆดูประหลาดใจ แซดไนท์เป็นคนที่มีพรสวรรค์และชาญฉลาด แต่พวกเขาไม่เชื่อว่าแซดไนท์จะเหนือไปกว่าหานเซิ่น มันไม่มีทางที่เขาจะเห็นถึงสิ่งที่หานเซิ่นไม่เห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาแค่มองดูคร่าวๆ

 

แซดไนท์สามารถบอกได้ว่าคนอื่นดูไม่เชื่อเขา ซึ่งนั่นทำให้เขารู้สึกไม่พอใจหานเซิ่นยิ่งกว่าเดิม นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นรอยฝ่ามือนี้เช่นเดียวกับคนอื่น แต่เขามีความรู้เกี่ยวกับพวกมัน มันไม่ใช่สิ่งที่เขาเรียนรู้ด้วยตัวเอง แต่ตราบใดที่เขาทำให้หานเซิ่นอับอายได้ เรื่องอื่นไม่สำคัญ

 

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset