Super God Gene – ตอนที่ 2091

ไนท์โกสต์

ดาวไนท์โกสต์เป็นดวงดาวใต้อาณานิคมของปราสาทนภา ประชากรส่วนใหญ่บนดวงดาวคือเผ่าพันธุ์ไนท์โกสต์ พวกเขาไม่ได้เป็นเผ่าพันธุ์ชั้นสูง แต่พวกเขาหลงรักการต่อสู้ พวกเขาจะตื่นขึ้นมาเฉพาะยามค่ำคืนเท่านั้น และถ้ามันไม่ใช่เพราะพวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่ออกหากินตอนกลางคืนล่ะก็ พวกเขาก็คงจะไปจากดวงดาวไนท์โกสต์และกลายเป็นเผ่าพันธุ์ชั้นสูงไปแล้ว

 

แต่พวกเขาไม่สามารถทนต่อแสงสว่างได้ ด้วยเหตุนั้นพวกเขาจึงติดแหง็กอยู่บนดาวไนท์โกสต์ แต่ทว่าด้วยการปกป้องของปราสาทนภา พวกเขาจึงอยู่ดีมีสุข

 

แต่ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นบนดวงดาวไนท์โกสต์ ชาวไนท์โกสต์หลายๆคนถูกฆ่าตาย ซึ่งคนร้ายยังคงลอยนวลจนถึงทุกวันนี้ และถึงจะค้นหาจนทั่วทั้งดวงดาวแล้ว มันก็ยังคงไม่สามารถหาตัวคนร้ายได้

 

ในคฤหาสน์แห่งหนึ่ง ดยุกสลีปเลสส์ผู้นำของไนท์โกสต์กำลังประชุมกับคนหนุ่ม 2 คน คนหนึ่งดูเย็นชา ขณะที่อีกคนหนึ่งยิ้มแย้มออกมา และเขากำลังอุ้มเด็กหญิงอายุราวๆ 5 ขวบที่ดูน่ารักอยู่

 

ชายหนุ่ม 2 คนนั้นก็คือไผ่เดียวดายและหานเซิ่น พวกเขามาที่นี่เพื่อสืบสวนถึงการตายปริศนา มันเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกฝนของพวกเขา

 

หานเซิ่นไม่ได้อยากจะมา แต่เขาได้รับคำสั่งจากพวกผู้อาวุโส ซึ่งเขาไม่สามารถปฏิเสธได้ ดังนั้นเขาจึงต้องมาที่นี่พร้อมกับไผ่เดียวดาย

 

หานเซิ่นกำลังมองไปที่ดยุกสลีปเลสส์ผู้นำของชาวไนท์โกสต์ เธอมีร่างกายที่เซ็กซี่โดยชุดหนังที่รัดแน่น มันเผยเห็นส่วนโค้งของเธอ ราวกับว่าเธอไม่ได้สวมใส่อะไรเลย

 

ไม่นานก่อนที่หานเซิ่นจะรู้สึกตัวว่าเธอไม่ได้สวมใส่อะไรเลยจริงๆ เสื้อผ้าหนังที่รัดแน่นนั้นไม่ใช่เสื้อผ้า แต่เป็นผิวหนังของเธอต่างหาก

 

เธอมีผมและดวงตาสีดำ ปีกสีดำด้านหลังของเธอเหมือนกับของค้างคาว และเธอก็มีหางที่ดูเหมือนกับแส้สีดำ มันทำให้เธอดูเซ็กซี่อย่างมาก

 

เธอสูง 2 เมตร ซึ่งสูงกว่าหานเซิ่นอยู่เล็กน้อย เธอดูแข็งแกร่งมากๆ

 

“นายท่านไผ่เดียวดาย ได้โปรดหาตัวคนร้ายให้พวกเราด้วย ถ้าขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไปล่ะ ไนท์โกสต์ทุกคนก็คงจะถูกฆ่าตายจนหมด” ดยุกสลีปเลสส์พูด

 

ปราสาทนภาเก็บเรื่องภายในเป็นความลับสุดยอด แม้แต่ผู้นำของดวงดาวใต้อาณานิคมอย่างดาวไนท์โกสต์ก็ไม่รู้ว่าหานเซิ่นและเป่าเอ๋อเป็นใคร พวกเขาแค่เคยได้ยินชื่อเท่านั้น แต่เรื่องราวของทั้ง 2 คนภายในปราสาทนภาเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่รู้

 

ดาวไนต์โกสต์เองก็ถูกเก็บเรื่องภายในเป็นความลับเช่นเดียวกัน

 

“ศพของพวกเขายังอยู่ไหม?” ไผ่เดียวดายถาม

 

ดยุกสลีปเลสส์ส่ายหัว “เมื่อเหยื่อถูกฆ่าตาย พวกเขาจะสลายกลายเป็นน้ำสีดำในเวลาอันสั้น มันแทบจะไม่หลงเหลือร่องรอยอะไรให้ตรวจสอบเลย”

 

“ขอข้าดูข้อมูลของไนท์โกสต์ที่เพิ่งถูกฆ่าตายเมื่อเร็วๆนี้” ไผ่เดียวดายพูด

 

“มันได้ถูกเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ข้อมูลทั้งหมดอยู่ในนี้” ดยุกสลีปเลสส์ส่งเอกสารให้กับไผ่เดียวดาย

 

“ศิษย์พี่ไผ่เดียวดาย เจ้าจัดการเรื่องนี้ได้สินะ ข้าจะขอไปยืดเส้นยืดสายกับเป่าเอ๋อสักหน่อย” หานเซิ่นโบกมือให้กับไผ่เดียวดาย หลังจากนั้นเขาก็ออกไปข้างหน้าเพื่อจะเดินเล่น

 

“นายท่าน! ทำไมนายท่านไม่ให้ข้าส่งองครักษ์ติดตามนายท่านไปล่ะ?”

ดยุกสลีปเลสส์ไม่รู้จักหานเซิ่น แต่เธอก็ยังคงยื่นขึ้นเสนอที่จะส่งคนไปคอยคุ้มกันเขา

 

“ไม่เป็นอะไร ข้าแค่จะเดินรอบๆถนนไนท์ริงสายสิบสองเท่านั้น”

หานเซิ่นเดินออกไปจากคฤหาสน์ของดยุกพร้อมกับเป่าเอ๋อ

 

ดาวไนท์โกสต์นั้นไม่มีดวงอาทิตย์ ด้วยเหตุนั้นทั้งดวงดาวจึงหนาวเย็นอย่างมาก แต่มันก็ไม่มีน้ำเช่นกัน ซึ่งทำให้มันไม่มีน้ำแข็งบนผิวดวงดาว ทั้งหมดที่หานเซิ่นมองเห็นมีแค่สิ่งก่อสร้างจากหินสีเทาที่ดูน่าเบื่อ

 

ไนท์โกสต์เป็นเผ่าพันธุ์ที่ไม่จำเป็นต้องกินอาหารหรือน้ำ พวกเขาสามารถดูดซับพลังงานจากความมืดได้ พวกเขาไม่หวาดกลัวต่ออุณหภูมิที่สูงหรือต่ำ และพวกเขาก็ไม่พึ่งออกซิเจนเช่นกัน สิ่งเดียวที่พวกเขาหวาดกลัวก็คือแสงสว่าง เพราะจะบดบังการมองเห็นของพวกมัน และถ้ามันสว่างมากๆ มันก็อาจจะทำให้พวกเขาตาบอดได้เลย

 

ชาวไนท์โกสต์ทุกคนเป็นซีโน่เจเนอิค และพวกเขาก็เป็นระดับบารอนตั้งแต่เกิด สายเลือดของพวกเขาถือว่าดีมากๆ แม้แต่เผ่าพันธุ์ชั้นสูงหลายเผ่าพันธุ์ก็ไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับพวกเขา

 

แต่เนื่องจากพวกเขามีจุดอ่อนที่ร้ายแรงและทรัพยากรที่ขาดแคลน ด้วยเหตุนั้นสมาชิกที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาจึงเป็นแค่ระดับดยุกเท่านั้น พวกเขาไม่มีระดับราชันอยู่เลยแม้แต่คนเดียว

 

ทั้งดวงดาวมืดสนิท และมีเพียงแค่แสงของดวงดาวที่ส่องลงมาตามสิ่งก่อสร้าง ขณะที่หานเซิ่นเดินไปถนน เขาก็สัมผัสได้ว่ามีอะไรบางอย่างซ่อนตัวอยู่ในความมืด

 

ไนท์โกสต์ถนัดต่อสู้ในความมืด แต่ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา พวกเขามากกว่า 20 คนถูกฆ่าตายไป และผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ก็เป็นถึงระดับมาร์ควิส

 

ไนท์โกสต์ได้พยายามใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อค้นหาตัวคนร้าย แต่พวกเขาก็ไม่เจอร่องรอยอะไร

 

2 วันก่อนในตอนที่มาร์ควิสอีกคนถูกฆ่าตาย เขากำลังเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารเย็นของดยุกสลีปเลสส์ ซึ่งยอดฝีมือชาวไนท์โกสต์ส่วนใหญ่ก็อยู่ที่นั่นเกือบทั้งหมด แต่มาร์ควิสคนนั้นก็ยังถูกฆ่าตายอย่างเงียบๆบนระเบียง ไม่มีใครที่นั้นรวมถึงดยุกสลีปเลสส์รู้เลยว่าเขาถูกฆ่าตายได้ยังไง และในตอนที่ร่างกายของเขาถูกพบบนระเบียง ร่างของเขาก็ได้สลายกลายเป็นน้ำสีดำแล้ว

 

หานเซิ่นเดินอยู่บนถนนไนท์ริงเส้นสิบสอง พร้อมกับเปิดใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียนเพื่อจับตาดูทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆตัว เขาสามารถเห็นชาวไนท์โกสต์หลายคนที่กำลังมองดูเขาจากมุมมืด

 

พวกเขามองมาที่หานเซิ่นด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขามุ่งร้ายอะไรต่อหานเซิ่น นั่นเป็นแค่นิสัยของพวกเขาเท่านั้น พวกเขาไม่ชอบคนนอกและไม่คิดจะพูดคุยอะไรด้วย หลายพันปีก่อนบนดวงดาวนี้มีเผ่าพันธุ์อื่นอาศัยอยู่ด้วยเช่นกัน แต่ชาวไนท์โกสต์ได้ฆ่าพวกเขาไปจนหมด

 

เผ่าพันธุ์เดียวที่พวกเขาเชื่อฟังก็คือเผ่าพันธุ์นภา

 

หานเซิ่นถูกส่งมาโดยปราสาทนภาก็จริง แต่ชาวไนท์โกสต์สามารถสัมผัสได้ว่าเขาไม่ใช่คนเผ่านภา บนถนนอันมืดมิด ผู้หญิงชาวไนท์โกสต์คนหนึ่งเข้ามาขวางทางหานเซิ่นเอาไว้

 

“ปราสาทนภาส่งเจ้ามาที่นี่?”

 

“ใช่แล้ว” หานเซิ่นพยักหน้า

 

“แล้วทำไมตัวเจ้าถึงไม่ใช่ชาวนภา? เรื่องแบบนี้ควรจะถูกแก้ไขโดยชาวนภาที่แท้จริง” ไนท์โกสต์หญิงขมวดคิ้ว

 

หานเซิ่นยักไหล่ “ศิษย์ของปราสาทนภาตัวจริงตอนนี้อยู่ในคฤหาสน์ของดยุก เขาเป็นชาวนภาเลือดบริสุทธิ์ ข้าเป็นแค่ผู้ช่วยของเขาเท่านั้น”

 

“แบบนี้นี่เอง” ไนท์โกสต์หญิงดูโล่งใจขึ้นมา การได้รู้ว่าชาวนภามาที่นี่ดูเหมือนจะทำให้เธอรู้สึกมั่นใจว่าปัญหาจะถูกแก้ไขโดยเร็ว

 

“เจ้าชื่ออะไร?” หานเซิ่นถาม

 

“ลี่ตั่ว” ไนท์โกสต์หญิงพูด

 

“ข้าเป็นตัวแทนออกมาตรวจสอบแทนศิษย์พี่ชาวนภา เจ้าจะพาข้าเดินดูรอบๆหน่อยได้ไหม?” หานเซิ่นยิ้ม

 

“เจ้าอยากจะไปที่ไหน?” ลี่ตั่วถาม บางทีมันอาจจะเป็นเพราะหานเซิ่นพูดถึงความเกี่ยวข้องของเขากับเผ่าพันธุ์นภา เธอจึงไม่ได้ปฏิเสธเขา

 

“พาข้าไปในสถานที่ที่ไนท์โกสต์ถูกฆ่าตาย” หานเซิ่นพูด

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset