Super God Gene – ตอนที่ 2094

คริสตัลไลเซอร์เลือดฟ้า

“นายท่านไผ่เดียวดาย ข้าได้ยินว่าท่านต้องการพบข้า ท่านมีเรื่องอะไรอย่างนั้นหรอ?” ดยุกสลีปเลสส์ถามไผ่เดียวดาย

 

“ข่านส่งสินค้าบางอย่างให้กับเจ้า ข้าอยากรู้ว่าพวกมันคืออะไร” ไผ่เดียวดายถามตรงๆ

 

ดยุกสลีปเลสส์ถอนหายใจและพูด “มันคงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะปิดบังต่อไปสินะ สินค้าที่ข่านส่งให้กับข้าคือกลุ่มสิ่งมีชีวิต”

 

“ทำไมเจ้าถึงทำอะไรแบบนั้น?” ไผ่เดียวดายถาม

 

“ท่านคงจะรู้สินะว่าหลังจากที่พวกเรากินสิ่งมีชีวิต จิตใจของพวกเราอาจจะเกิดปัญหาขึ้นมา” ดยุกสลีปเลสส์พูด

“การกินพวกมันถือเป็นอันตรายอย่างมากสำหรับพวกเรา”

 

“ถ้าอย่างนั้นทำไมเจ้าถึงซื้อพวกมัน?” หานเซิ่นถาม

 

“เหตุผลมันง่ายๆ ถ้าข้าไม่กินสิ่งมีชีวิต ข้าก็จะไม่มีวันพัฒนา ข้าเป็นดยุกคนหนึ่ง และถ้าข้าไม่กินสิ่งมีชีวิต ข้าก็จะไม่มีวันได้กลายเป็นราชัน นั่นเป็นเป้าหมายของพวกเราทุกคนไม่ใช่หรอ? ซึ่งการกินสิ่งมีชีวิตเป็นหนทางเดียวที่ข้าจะได้กลายเป็นราชัน” ดยุกสลีปเลสส์พูดด้วยเสียงที่โศกเศร้า

 

“ต้นเหตุของการฆาตกรรมคือเจ้าหรือหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่ถูกส่งมากัน?” ไผ่เดียวดายพูด

 

“หนึ่งในสิ่งมีชีวิตหนีออกไปได้ ข้ากลัวว่าทางปราสาทนภาจะรู้ความจริงเรื่องนี้เข้า ข้าจึงไม่ได้รายงานมัน” ดยุกสลีปเลสส์ยิ้มแห้งๆออกมา

“ข้าไม่ได้คาดคิดว่าเหตุการณ์จะบานปลายถึงขนาดนี้ ในตอนแรกข้าคิดว่าจะฆ่ามันได้ในเวลาอันสั้น แต่ข้าหาตัวมันไม่เจอ ด้วยเหตุนั้นผู้บริสุทธิ์หลายคนจึงถูกฆ่าตายไป”

 

“สิ่งมีชีวิตแบบไหนกันที่หนีไป?” หานเซิ่นถามดยุกสลีปเลสส์

 

“ข้าไม่รู้” ดยุกสลีปเลสส์ส่ายหัว

 

หานเซิ่นขึ้นเสียง “เจ้าจะไม่รู้ได้ยังไง? เจ้าเป็นคนที่ซื้อพวกมัน!”

 

ใบหน้าของดยุกสลีปเลสส์ดูขมขื่น “ข้าต้องการสิ่งมีชีวิตระดับสูง แต่ข้าซื้อบางสิ่งที่ใหญ่โตเกินไปไม่ได้ เพราะมันอาจจะทำให้คนอื่นรู้ความจริงเข้า ด้วยเหตุนั้นมันจึงมีสิ่งมีชีวิตไม่มากนักที่เหมาะสม ข้าขอสิ่งมีชีวิตอะไรก็ได้ที่เป็นระดับดยุก แต่เมื่อข้าตรวจสอบใบเสร็จรับของ หนึ่งในพวกมันเป็นคริสตัลไลเซอร์”

 

“คริสตัลไลเซอร์?” หานเซิ่นขมวดคิ้ว เขาไม่ได้คาดคิดว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับคริสตัลไลเซอร์

 

ดยุกสลีปเลสส์พูดต่อ “แต่คริสตัลไลเซอร์คนหนึ่งไม่มีทางหนีออกจากกรงขังและฆ่าโกสต์บีสต์หลายคนโดยไม่ทิ้งร่องรอยอะไรเอาไว้ ด้วยเหตุนั้นข้าจึงคิดว่าเขาเป็นแค่เผ่าพันธุ์ที่ดูคล้ายคลึงกับคริสตัลไลเซอร์เท่านั้น ข้าได้ลองยืนยันเรื่องนี้กับข่าน แต่เขาบอกว่ามันเป็นแค่คริสตัลไลเซอร์ระดับดยุก เขาไม่รู้อะไรไปมากกว่านั้น”

 

ดยุกสลีปเลสส์กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่หลังจากนั้นเธอก็เกิดลังเลขึ้นมา

 

“พูดออกมา” ไผ่เดียวดายสั่ง

 

ดยุกสลีปเลสส์ยังคงลังเล แต่สุดท้ายเธอก็พูดออกมา “มันหาได้ยากที่จะได้เห็นคริสตัลไลเซอร์คนหนึ่งในจักรวาลจีโน ข้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพวกเขามากนัก หลังจากที่การฆาตกรรมเริ่มต้นขึ้น ข้าก็พยายามจะหาข้อมูลเกี่ยวกับพวกเขา แต่มันไม่มีข้อมูลอะไรมากนัก ถึงอย่างนั้นมันก็มีอยู่เรื่องหนึ่งที่แปลกประหลาด เลือดของคริสตัลไลเซอร์ควรจะเป็นสีแดง แต่ทว่าเขากลับมีเลือดสีฟ้า”

 

“เลือดสีฟ้า?” หานเซิ่นสะดุ้ง

 

“ใช่แล้ว เลือดสีฟ้า ในตอนที่เขาถูกส่งมาที่นี่ เขากำลังได้รับบาดเจ็บ และด้วยเหตุนั้นข้าจึงมีแผนที่จะกินเขาก่อน ข้าปลดพลังที่อยู่บนตัวของเขาออกมา และข้าก็ขังเขาเอาไว้ในห้องขัง แต่เมื่อข้ากลับไปที่นี่อีกครั้ง เขาก็หายตัวไปแล้ว มันไม่มีอะไรในห้องที่ได้รับความเสียหายหรือผิดปกติ มันเหมือนกับว่าเขาหายตัวไปจากโลกใบนี้”

 

“พาพวกเราไปที่ห้องนั้น” หานเซิ่นพูด

 

เลือดสีฟ้าฟังดูเหมือนกับสมาชิกของพยุหะโลหิตไม่มีผิด พวกเขาดูเหมือนกับเผ่าพันธุ์คริสตัลไลเซอร์ ดังนั้นคนในจักรวาลจีโนจึงสันนิษฐานว่าพวกเขาเป็นคริสตัลไลเซอร์ นอกจากนั้นเลือดสีฟ้ายังเป็นลักษณะเฉพาะของสมาชิกของพยุหะโลหิต คริสตัลไลเซอร์และมนุษย์ควรจะมีเลือดสีแดง

 

ดยุกสลีปเลสส์พาหานเซิ่นและไผ่เดียวดายไปที่ห้องขัง หานเซิ่นใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียนสแกนบริเวณโดยรอบ แต่เขาไม่เจอร่องรอยของสิ่งมีชีวิตอื่นเลย นอกเหนือจากดยุกสลีปเลสส์

 

“เจ้าขังเขาไว้ที่นี้จริงๆอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นหันไปถามดยุกสลีปเลสส์ สิ่งมีชีวิตที่บาดเจ็บต้องทิ้งสสารอะไรบางอย่างเอาไว้ หรืออย่างน้อยๆมันก็ควรจะมีหยดเลือดหลงเหลืออยู่บ้าง

 

“ใช่แล้ว เขาทิ้งเลือดเอาไว้บางส่วน แต่ข้าได้เก็บกวาดไปแล้ว”

ดยุกสลีปเลสส์พูดและนำกล่องๆหนึ่งออกมา

 

ไผ่เดียวดายขมวดคิ้วเมื่อได้เห็นมัน “นี่คือเลือดของเขาใช่ไหม?”

 

หานเซิ่นตกใจ สิ่งที่อยู่ในกล่องคือผลึกคริสตัลสีฟ้า ซึ่งมันดูเหมือนกับเลือดที่ตกผลึกของเขา

 

“ข้ารู้สึกว่ามันแปลกๆที่เลือดของเขาเปลี่ยนเป็นคริสตัล เขาเป็นคริสตัลไลเซอร์ แต่เขาไม่ควรจะมีความสามารถแบบนี้ มันทำให้ข้าคิดว่าเขาอาจจะไม่ใช่คริสตัลไลเซอร์” ดยุกสลีปเลสส์พูด

 

หานเซิ่นหยิบคริสตัลสีฟ้าออกมาจากกล่องและพบว่ามันเป็นเลือดสีฟ้าที่ตกผลึกจริงๆ ด้วยเหตุนั้นมันจึงไม่มีโมเลกุลใดๆถูกทิ้งเอาไว้แม้แต่น้อย และนั่นเป็นเหตุผลที่เขาไม่สามารถหาร่องรอยอะไรได้

 

‘ดูเหมือนคนที่ข่านส่งมาจะเป็นสมาชิกของพยุหะโลหิต’ หานเซิ่นคาดเดากับตัวเอง

 

“เรื่องที่ข้าบอกพวกท่านทั้งหมดเป็นความจริง ถ้าพวกท่านต้องการจะลงโทษใครบางคน ก็ลงโทษข้าคนเดียว เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคนของข้า ดังนั้นได้โปรดช่วยเหลือพวกเขาตามหาตัวฆาตกรรมด้วย ข้าไม่อยากให้มีใครตายไปมากกว่านี้” ดยุกสลีปเลสส์ขอร้อง

 

“เจ้าตามพวกเราไปพูดกับข่าน พวกเราต้องหาความจริงว่าเขาได้คริสตัลไลเซอร์ดยุกคนนั้นมาจากที่ไหน” หานเซิ่นพูดกับดยุกสลีปเลสส์

 

“ทราบแล้ว ข้าจะติดตามพวกท่านไป” ดยุกสลีปเลสส์ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่

 

หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินทางไปที่ฐานของทอรัส แต่เมื่อพวกเขาไปถึง ประตูทางเข้าก็เปิดอยู่ก่อนแล้ว พวกเขาจึงรีบวิ่งเข้าไปข้างในและพบน้ำสีดำที่กระจัดกระจายไปทั่วพร้อมกับมีชุดเกราะของทอรัสอยู่ด้วย

 

พวกเขาสำรวจรอบๆและสังเกตเห็นว่าไม่มีทอรัสคนไหนที่รอดชีวิตอยู่เลย

 

ปัง!

 

มีเสียงบางอย่างดังมาจากห้องที่อยู่ไม่ไกล

 

“เสียงนั่นดังมาจากที่ไหน?” หานเซิ่นถามดยุดสลีปเลสส์

 

“ดูเหมือนจะดังมาจากโกดังเก็บของของพวกเขา” สลีปเลสส์ดยุกพูด

 

ทั้ง 3 คนรีบเดินไปทางที่เสียงดังมา และพวกเขาก็ได้เห็นข่านกำลังต่อสู้อยู่กับคนๆหนึ่ง

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset