Super God Gene – ตอนที่ 2098

ดยุกสลีปเลสส์แผดเสียงร้องขึ้นท้องฟ้าด้วยความโกรธ และเหล่าไนท์โกสต์คนอื่นๆก็กรีดร้องตาม พวกเขาล้มเลิกการโจมตีใส่โล่ป้องกันของหานเซิ่น และหันมาใช้กงเล็บตัดร่างกายของตัวเองแทน เลือดมากมายไหลลงมาราวกับสายฝน

 

ดยุกสลีปเลสส์แกว่งหอกเลือดปีศาจในมือเป็นรูปเสี้ยวพระจันทร์อย่างช้าๆ ลวดลายสีแดงของมันเริ่มจะเรืองแสงขึ้นมาและเลือดก็ถูกดูดเข้าไปหามัน

 

ดูเหมือนกับว่าเลือดจะถูกดูดไปรวมกันที่ผิวโลหะของหอก แต่ไม่ว่าเลือดจะหยดลงมาบนหอกมากสักแค่ไหน มันก็ไม่มีเลือดแม้แต่หยุดเดียวที่สูญเสียไป แสงสีแดงเริ่มจะสว่างไสวออกมาจากหอกขึ้นเรื่อยๆ และปลายหอกก็ส่องแสงสีเลือดออกมา

 

แสงสีเลือดดูเหมือนกับว่าสามารถทำลายทั้งดวงดาวได้เลย

 

ดยุกสลีปเลสส์ร้องคำราม เธอกระพือปีกและพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าราวกับน้ำพุ เธอดูเหมือนกับดาวหางสีแดงที่กำลังบินข้ามท้องฟ้าไปชนเข้ากับโล่โปร่งใสสีฟ้า แสงสีแดงบนปลายหอกระเบิดออก แต่ทว่าโล่ป้องกันสีฟ้ายังไม่แตกสลาย

 

“มันยังมีพลังในหอกไม่มากพอ! ถ้าเจ้ารีบโจมตีเร็วเกินไป เลือดที่เจ้ารวบรวมมาก็จะสูญเสียเปล่า เจ้าเห็นลูกแก้วเลือดปีศาจที่หอกใช่ไหม? มันจะเริ่มเรืองแสงออกมาก็ต่อเมื่อพลังเข้าไปในหอกจนเต็มแล้ว เจ้าต้องจู่โจมในตอนที่มันสว่างขึ้นมา แบบนั้นหานเซิ่นและคนอื่นจะถูกทำลายในการโจมตีเพียงครั้งเดียว” ข่านพูด

 

ดยุกสลีปเลสส์ไม่มีทางเลือกอื่น ดังนั้นเธอจึงร้องเรียกไนท์โกสต์คนอื่นอีกครั้ง เมื่อพวกโกสต์ไนท์ได้ยินเสียงกรีดร้องของเธอ พวกเขาก็เริ่มจะฉีกร่างกายตัวเองอีกครั้ง

 

หอกเลือดปีศาจสว่างไสวขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่เลือดไหนลงมาราวกับห่าฝน พลังของหอกเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่พวกไนท์โกสต์ก็เริ่มจะอ่อนแรงลงไปเช่นกัน หลายคนสูญเสียเลือดมากเกินไปจนร่วงลงมาบนพื้น

 

“ทำไมลูกแก้วถึงยังไม่เรืองแสงขึ้นมาอีก?” ดยุกสลีปเลสส์ตะโกนใส่ข่าน

 

“นี่เป็นอาวุธระดับราชัน มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเปิดใช้งานพลังเต็มที่ อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของไนท์โกสต์จำเป็นต้องตายเพื่อกระตุ้นพลังของมันให้ตื่นขึ้นมา” ข่านพูด

 

“ข้าจะปล่อยให้พวกเขาตายไม่ได้” ดยุกสลีปเลสส์พูด

 

“มันไม่มีหนทางให้ถอยกลับอีกแล้ว พวกเราต้องฆ่าหานเซิ่นในตอนนี้ ถ้าพวกเขาหนีไปจากดาวดวงนี้ได้ พวกเขาก็จะติดต่อกับทางปราสาทนภา หลังจากนั้นพวกเราทั้งหมดก็จะถูกฆ่า” ข่านพูดอย่างใจเย็น

 

ดยุกสลีปเลสส์กำหอกเลือดปีศาจเอาไว้แน่น เธอรู้สึกเจ็บปวด ขณะที่เห็นไนท์โกสต์หลายคนร่วงลงไปนอนกองอยู่กับพื้น

 

ไนท์โกสต์เหล่านั้นกินสิ่งมีชีวิตเข้าไป ด้วยเหตุนั้นจิตใจของพวกเขาจึงไม่ปกติ แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังคงเชื่อฟังคำสั่งของดยุกสลีปเลสส์

 

“ข้าจะฆ่าพวกเจ้าให้ได้ มันเป็นเพราะพวกเจ้าที่ทำให้พวกข้าต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้” ดยุกสลีปเลสส์บินมาอยู่ตรงหน้าโล่สีฟ้าและคำรามใส่หานเซิ่นด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยว

 

“ดยุกสลีปเลสส์ เจ้าเป็นคนทำให้เรื่องทั้งหมดเป็นแบบนี้เอง” หานเซิ่นยิ้ม

 

คำพูดของหานเซิ่นทำให้เธอโกรธยิ่งกว่าเดิม เธอกรีดร้องเพื่อเร่งให้เหล่าไนท์โกสต์สังเวยเลือดมากขึ้นอีก

 

“เร็วๆเข้า เรืองแสงออกมาสักที” ดยุกสลีปเลสส์มองไปที่ลูกแก้วเลือดปีศาจโดยหวังว่ามันจะเรืองแสงออกมาในเร็วๆนี้

 

“หานเซิ่น! โล่ของเจ้าจะป้องกันมันได้ไหม? พลังของหอกนั่นดูเหมือนจะเป็นระดับราชัน” ชายที่ได้รับบาดเจ็บพูดกับหานเซิ่น

 

โล่ป้องกันของหานเซิ่นแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ แต่มันดูเหมือนกับแก้วบางๆเท่านั้น เขาจึงไม่คิดว่ามันจะป้องกันการโจมตีของพลังระดับราชันได้

 

“มันควรจะไม่เป็นไร” หานเซิ่นพูด ความจริงแล้วหานเซิ่นเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน

 

ใบเสมาของราชาแมลงปีศาจเป็นวิญญาณอสูรราชันกลายพันธุ์ นั่นหมายความว่าพลังของมันอยู่ในระดับเดียวกับครึ่งเทพ ซึ่งมันสูงกว่าหอกระดับราชันของดยุกสลีปเลสส์ ดังนั้นมันควรจะป้องกันได้

 

แต่ทั้งหมดก็เป็นแค่ทฤษฎีเท่านั้น หานเซิ่นไม่เคยได้ทดสอบพลังป้องกันของใบเสมามาก่อน ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่ามันจะรับการโจมตีได้มากขนาดไหน

 

“นั่นหมายความว่ายังไง?” ดวงตาของชายที่ได้รับบาดเจ็บเบิกกว้าง ขณะมองไปที่หานเซิ่น

 

“หมายความว่ามันน่าจะป้องกันได้ไง” หานเซิ่นหัวเราะออกมา

 

“นี่เจ้าต้องล้อเล่นแน่ๆ” ชายคนนั้นกุมขมับตัวเอง เขาดูหดหู่ขณะที่พูดออกมา

“ข้ามักจะโชคร้ายอยู่เสมอ ดังนั้นอย่าได้หวังพึ่งโชค”

 

“แต่ทางเลือกเดียวของเราในตอนนี้ก็คือลองเสี่ยงกับมันดู หรือว่าเจ้ามีความคิดอะไรที่ดีกว่าอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นยังคงหัวเราะ

 

“โอ้ไม่นะ! ดูเหมือนว่าข้าคนนี้ต้องมาตายอยู่ที่นี่” ชายที่ได้รับบาดเจ็บพูด

 

“เจ้าชื่ออะไร?” จู่ๆหานเซิ่นก็ถามขึ้นมา

 

“ชื่อของข้าคือซีเหมินยง ในเวลาแบบนี้เจ้ายังมีเวลามาถามชื่อของข้าอีกอย่างนั้นหรอ? ทำไมเจ้าไม่เอาเวลาไปคิดหาหนทางที่จะหลบหลีกพลังที่น่ากลัวนั่น?” ซีเหมินยงพูด

 

ในตอนนี้ดูเหมือนกับว่าทั้งดวงดาวไนท์โกสต์นั้นท่วมไปด้วยเลือด กลิ่นของมันปกคลุมไปทั่วทุกหนทุกแห่ง แม้แต่ท้องฟ้าก็ถูกปกคลุมด้วยเมฆสีแดง

 

ครึ่งหนึ่งของพวกไนท์โกสต์ได้ตายไป มันถือเป็นราคาที่สูงเกินไปเพียงเพื่อจะแลกกับพลังระดับราชัน

 

ใบหน้าของดยุกสลีปเลสส์เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ขณะที่เธอจ้องมองไปที่หานเซิ่น

 

ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับขุมนรก พื้นดินเต็มไปด้วยร่างของไนท์โกสต์จำนวนมากที่ตายจากการเสียเลือด ขณะที่ไนท์โกสต์ทุกตัวบนท้องฟ้าก็สั่นไหวราวกับว่าพวกเขาสามารถขาดใจตายได้ทุกเมื่อ

 

ดยุกสลีปเลสส์อยากจะร้องไห้ออกมาเป็นสายเลือด แต่เธอก็ไม่ทางเลือกอื่นอีกแล้ว

 

ตูม!

 

ในที่สุดลูกแก้วก็เรืองแสงขึ้นมา แสงสีแดงส่องสว่างขึ้นทั่วทั้งหอกเลือดปีศาจ ทำให้ดูเหมือนกับว่าดยุกสลีปเลสส์กำลังถือเลเซอร์สีแดงอยู่ในมือ

 

“ไปลงนรกซะ!” ดยุกสลีปเลสส์แทงหอกเข้าใส่โล่โปร่งใสสีฟ้า แสงสีแดงที่น่าตกใจพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า

 

หานเซิ่นพยายามจะหลบ แต่แสงสีแดงนั้นน่ากลัวเกินไป และดูเหมือนกับว่ามันล็อคเป้ามาที่เขา แสงสีแดงเป็นเหมือนกับภูเขาไฟที่เพิ่งจะปะทุขึ้นมา มันไม่มีที่ไหนให้พวกหานเซิ่นหนีไปได้ แม้แต่ชั้นบรรยากาศก็ถูกฉีกขาดด้วยแสงสีแดงนั่น

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset