หลังจากได้เห็นการต่อสู้ของเนตรมารและเรจแมน หานเซิ่นก็ตกตะลึง เนื่องจากวิธีการในการเอาชนะการต่อสู้ของเนตรมาร เรจแมนรวมพลังธาตุทั้ง 5 เข้าด้วยกัน และเนตรมารก็สลายมันด้วยวิธีการที่คล้ายคลึงกับท่าตบขั้นสุดยอดของหานเซิ่น ซึ่งนอกจากเขาจะทำลายโครงสร้างลำดับวิชาของคู่ต่อสู้แล้ว เขายังสามารถสร้างมันกลับขึ้นมาใหม่ได้อีกด้วย
“พลังของเนตรมารคล้ายคลึงกับศาสตร์ตงเสวียนเป็นอย่างมาก เขาคงจะเป็นคู่ต่อสู้ที่ยากจะต่อกรด้วย” หานเซิ่นขมวดคิ้ว
แต่โดยรวมแล้วเขาก็ไม่ได้เรียนรู้อะไรจาการต่อสู้มากนัก เนื่องจากเรจแมนยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะทำให้เนตรมารแสดงความสามารถที่แท้จริงออกมา
“คงต้องรอใครบางคนที่แบบไผ่เดียวดาย ถึงจะทำให้เนตรมารแสดงฝีมือที่แท้จริงออกมาได้”
หานเซิ่นสังเกตตารางการแข่งขันดูว่าเรื่องแบบนั้นจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ แต่สุดท้ายเขาก็พบว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพราะถ้าเขาและเนตรมารยังคงชนะการต่อสู้ไปเรื่อยๆ หานเซิ่นต้องเจอกับไผ่เดียวดายก่อนหน้าเนตรมาร แบบนั้นหานเซิ่นก็ไม่สามารถเห็นไผ่เดียวดายต่อสู้กับเนตรมารได้ นอกซะจากเขาจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ต่อไผ่เดียวดาย และก่อนที่เขาจะไปเจอกับไผ่เดียวดายนั้น เขาต้องเจอกับดราก้อนเอทอีกด้วย
หานเซิ่นหันไปมองการต่อสู้ระดับอื่นและสังเกตเห็นว่าเซี่ยชิงทำผลงานได้เป็นอย่างดี แต่เขาก็สะดุ้งเล็กน้อยเมื่ออ่านชื่อของเซี่ยชิง
เซี่ยชิงเขียนชื่อลงไปในแผ่นกระดาษว่าเซี่ยชิง และเขาก็ไม่ได้เขียนเผ่าพันธุ์ของตัวเองลงไป หานเซิ่นมองรายชื่อของผู้เข้าแข่งขันในระดับเอิร์ลต่อไปเรื่อยๆ หลังจากที่เห็นชื่อของทุกคนแล้ว เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา กู่ชิงเฉิงไม่ได้เขียนชื่อของตัวเองลงไป หรือบางทีเธออาจจะไม่ได้เข้าร่วมเลย
แต่ถ้าเกิดเธอเข้าร่วมและเขียนเผ่าพันธุ์มนุษย์ลงไปล่ะก็ นั่นจะไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ
หานเซิ่นรีบติดต่อไปหาซีโร่ เขากลัวว่าการสื่อสารอาจจะถูกดักฟัง ด้วยเหตุนั้นเขาจึงไม่ได้ติดต่อไปที่ดาวอุปราคาโดยตรง เนื่องจากตอนนี้มีเรื่องมากมายเกิดขึ้น ทำให้เขาเกือบลืมเรื่องนี้ไปเลย เขาเคยบอกซีโร่ถึงการพูดคุยของเขากับเทพแห่งผลกรรม หลังจากนั้นเขาก็บอกให้ซีโร่ไปเตือนคนอื่นๆว่าอย่าได้พูดถึงเผ่าพันธุ์ของตัวเองหรือความจริงที่พวกเขาออกมาจากก็อตแซงชัวรี่
หานเซิ่นเคยพูดเรื่องนี้ไปก่อนแล้ว แต่เพื่อความปลอดภัย หานเซิ่นคิดว่าควรจะเตือนพวกเขาอีกครั้ง
ซีโร่คิดว่ามีเพียงแค่เซี่ยชิงเท่านั้นที่เข้าร่วมการต่อสู้ คนอื่นๆไม่คิดจะเข้าร่วมการต่อสู้ที่ไม่ได้ประโยชน์อะไร มีเพียงแค่เซี่ยชิงเท่านั้นที่หลงรักในการต่อสู้เลยตัดสินใจเข้าร่วม
หลังจากที่จบการต่อสู้ หานเซิ่นก็ไปหันไปดูการต่อสู้ของเซี่ยชิง เซี่ยชิงสามารถใช้อาวุธจีโนของเขาวาดคู่ต่อสู้ขึ้นมาได้ ด้วยเหตุนั้นเขาสามารถยืนอยู่เฉยๆและปล่อยให้คู่ต่อสู้ต่อสู้กับร่างเงาของตัวเอง เขาทำแบบนี้อยู่บ่อยครั้งและเมื่อไหร่ที่คู่ต่อสู้เหนื่อยล้า เขาก็จะเข้าไปจบการต่อสู้ มันถือเป็นความสามารถที่น่าตกใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาเป็นแค่เอิร์ลคนหนึ่ง
หานเซิ่นได้เห็นการต่อสู้ของอี๋ซาเช่นกัน ผู้หญิงคนนั้นหัวรุนแรงเกินไป พลังเขี้ยวของเธอทำให้แม้แต่ราชันที่แข็งแกร่งยังต้องวิ่งหนีเอาชีวิตรอด แต่จนถึงตอนนี้เธอยังไม่ได้เผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้คนไหนที่อยู่ในระดับครึ่งเทพ ซึ่งราชันธรรมดาๆไม่สามารถเอาชนะเธอได้
แต่หานเซิ่นยังไม่มีโอกาสได้เห็นเสี่ยวฮวาเลย ซึ่งยิ่งเวลาผ่านไปชื่อเสียงของเสี่ยวฮวาก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่บางทีมันอาจจะเป็นเพราะเขายังไม่ได้เจอกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง และนั่นเป็นเหตุผลที่เขายังไม่มีวี่แววว่าจะพ่ายแพ้เลยจนถึงตอนนี้
‘คู่ต่อสู้คนต่อไปของเราก็คือดราก้อนเอท หวังว่ามันจะไม่เป็นปัญหาอะไร’ หานเซิ่นไม่คิดจะยืดเยื้อการต่อสู้ เขาอยากจะจบการต่อสู้แต่ละรอบให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
การต่อสู้ระหว่างหานเซิ่นและดราก้อนเอทเป็นที่สนใจพอสมควร มันมีผู้คนไม่มากนักที่ดูการต่อสู้ก่อนหน้านี้ของหานเซิ่น แต่ครั้งนี้เขาต้องเผชิญหน้ากับดราก้อนเอทผู้โด่งดัง ด้วยเหตุนั้นการต่อสู้ในครั้งนี้จึงค่อนข้างเป็นที่จับตามอง
หานเซิ่นดึงดูดความสนใจไม่น้อย เมื่อเขามาปรากฏตัวในสนามประลอง หลายคนรู้สึกตัวว่าเขาคือคนเดียวกับที่เอาชนะข่านจากเผ่าเดม่อน
“มนุษย์ที่ชื่อดอลลาร์นี้เป็นใครมาจากไหนกันแน่? เขาดูไม่เหมือนกับหน้าใหม่คนหนึ่ง”
“ใครก็ตามที่เอาชนะข่านได้ต้องแข็งแกร่งอยู่บ้าง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ทีทางแข็งแกร่งกว่าดราก้อนเอทไปได้”
“ดราก้อนเอทคงจะชนะการต่อสู้ในครั้งนี้ แต่พวกเรามาลองดูกันสิว่าดอลลาร์จะสร้างปัญหากับเขาได้สักแค่ไหน ถ้าดอลลาร์ทำให้ดราก้อนเอทได้รับบาดเจ็บหรือเผยความสามารถที่แท้จริงออกมาได้ ดราก้อนเอทก็คงจะตกอยู่ในอันตราย เมื่อถึงรอบที่เขาต้องสู้กับไผ่เดียวดาย”
“มันไม่สำคัญว่าใครจะชนะ เพราะสุดท้ายแล้วอันดับที่หนึ่งก็เป็นของเนตรมาร”
“เนตรมารนั้นไร้เทียมทาน!”
ไม่ว่าหัวข้อของการพูดคุยจะเป็นเรื่องอะไร สุดท้ายแล้วมันก็จะถูกโยงไปหาเนตรมารอยู่ดี เนตรมารได้รับความสนใจมากกว่าราชันคนไหนๆซะอีก
เมื่อถูกเทเลพอร์ตเข้าไปในบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโน หานเซิ่นก็มองตรงไปที่ดราก้อนเอทและสังเกตเห็นว่าเขาดูแข็งแกร่งอย่างมาก เขากำลังปลดปล่อยความรู้สึกที่น่าสะพรึงกลัวออกมา พลังชีวิตของเขาดูเหมือนกับภูเขาไฟที่กำลังปะทุขึ้นมา ดราก้อนนั้นกล้าหาญและไร้ซึ่งความกลัว และถึงพวกเขาจะสวมใส่ชุดเกราะอยู่ หานเซิ่นก็สามารถบอกได้ในทันทีว่าพวกเขาคือเผ่าพันธุ์คราก้อน
หานเซิ่นเคยต่อสู้กับดราก้อนมาหลายครั้งแล้ว ดังนั้นเขาจึงรู้เกี่ยวกับพวกเขาเป็นอย่างดี แต่ดราก้อนเอทดูแตกต่างไปจากดราก้อนคนอื่น ซึ่งที่แตกต่างที่สุดก็คือเขาไม่ได้ถือหอกอยู่ในมือ
พวกเขาทั้งคู่สวมใส่ชุดเกราะสีทอง แต่ดราก้อนเอทสูงถึง 3 เมตร ขณะที่หานเซิ่นสูงแค่ 2 เมตร และหานเซิ่นก็ไม่ได้มีกล้ามเนื้อที่ใหญ่โตเหมือนกับดราก้อนเอท ทำให้รูปร่างของหานเซิ่นดูผอมบางไปเลยเมื่อเทียบกับดราก้อนเอท
และดราก้อนเอทยังมีปีกมังกรที่ดูน่าเกรงขาม ทั้งหมดนั้นทำให้ดราก้อนเอทดูจะแข็งแกร่งกว่าหานเซิ่นมากๆ
“พวกเขาทั้งคู่สวมใส่ชุดเกราะสีทองเหมือนกัน แต่ทำไมดราก้อนเอทถึงได้ดูสง่างาม ขณะที่ดอลลาร์กลับดูซอมซ่อ?”
“นี่คือดราก้อนเอทของเผ่าดราก้อน เขาเกิดมาพร้อมกับตัวตนอันสง่างาม ยอดฝีมือจากเผ่าพันธุ์เล็กๆไม่มีทางปลดปล่อยความรู้สึกที่สูงส่งแบบนั้นออกมาได้”
“ใช่แล้ว ตอนนี้มันดูเหมือนกับว่าหนึ่งในพวกเขาเป็นคนที่สูงศักดิ์ ส่วนอีกคนเป็นแค่ของลอกเลียนแบบ”
“แต่ดอลลาร์ก็ไม่ได้ดูแย่อะไร บางทีเขาอาจจะทำให้ดราก้อนเอทต้องเสียเหงื่อ และพวกเราก็จะได้รับข้อมูลมากขึ้น”
แต่ทางเผ่าดราก้อนและเดม่อนดูไม่ค่อยสู้ดีนัก พวกเขาค่อยจับตาดูดอลลาร์มาสักพักหนึ่งแล้ว ทำให้พวกเขารู้ว่าดอลลาร์เป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวแค่ไหน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งดราก้อนไนน์และคนอื่นๆ พวกเขารู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก
พวกเขาไม่ได้กังวลว่าดราก้อนเอทจะแพ้ พวกเขาแค่กังวลว่าดราก้อนเอทจะประมาทคู่ต่อสู้และถูกหลอกจนพลาดท่า