คุนอยู่ไกลจากหานเซิ่น ดังนั้นเมื่อแมลงจิ๋วทั้งหมดถูกบดขยี้ วิสัยทัศน์ของเธอก็หายไปด้วย ตอนนี้เธอไม่สามารถจับตามองหานเซิ่นได้อีก
คุนตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่สิ่งแรกที่เธอทำก็คือสร้างแมลงจิ๋วฝูงใหม่ออกมา พวกมันเริ่มบินออกไปเพื่อค้นหาตัวหานเซิ่น
แต่ก่อนที่พวกแมลงจะหาหานเซิ่นเจอ ภายในป่าก็ถูกปกคลุมด้วยแสงสีทอง เหรียญจำนวนนับไม่ถ้วนร่วงลงมาจากท้องฟ้าและบดขยี้แมลงทุกตัวอีกครั้ง
คุนตกตะลึง เธอสร้างฝูงแมลงจิ๋วขึ้นมาอีก ขณะที่เธอค่อยๆถอยห่างออกไปจากบริเวณนั้น
ตอนนี้คุนรู้สึกเสียใจที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้ถอยห่างไปจากหานเซิ่นมากกว่านี้ และหลังจากที่เธอวิ่งหนีไปได้ไม่นาน เงาสีทองก็ปรากฏขึ้นเหนือหัวของเธอ
คุนกรีดร้องและกระพือปีกด้วยความตื่นตระหนก ฝูงแมลงออกมาจากตัวของเธอราวกับหมอกหนา พวกมันพุ่งเข้าใส่หานเซิ่นเพื่อดึงความสนใจ ขณะที่เธอพยายามหนีเอาตัวรอด
หานเซิ่นเผาผลาญฝูงแมลงที่เข้ามาด้วยไฟที่ร้อนแรง ร่างกายของเขาลุกเป็นไฟขณะที่พุ่งผ่านฝูงแมลงไปปรากฏตัวต่อหน้าคุน
คุนต้องการจะโจมตีสวนกลับไป แต่ในตอนที่เธอพยายามจะทำอย่างนั้น เธอก็สูญเสียการควบคุมและทุกสิ่งทุกอย่างก็เริ่มหมุน มันเหมือนกับว่าโลกทั้งใบหมุนวนรอบตัวเธอ เธอไม่สามารถบอกซ้ายขวาหน้าหลังได้ ไม่นานหลังจากนั้นเธอก็ล้มลงไปกับพื้นและมองเห็นร่างกายไร้หัวของตัวเองอยู่ข้างๆ
เมื่อหานเซิ่นตัดหัวของคุน ไห่เอ๋อร์ก็รู้สึกโกรธอย่างมาก
แต่หลังจากที่คุนถูกตัดหัว กระดาษของเธอไม่ได้ถูกฉีกขาด ซึ่งเหตุผลของมันก็ถูกเปิดเผยไม่นานหลังจากนั้นเมื่อแมลงตัวหนึ่งบินออกมาจากสมองของหัวที่ขาด แมลงตัวนั้นบินเข้าไปฉีกกระดาษและค่อยๆหายลับไปจากสายตา
“ดูเหมือนคุนไม่เก่งกาจพอที่จะก้าวข้ามพลังของเหรียญได้ พวกเราจำเป็นต้องพึ่งคนที่มีพลังที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง ถึงจะเผชิญกับดอลลาร์ได้แบบตรงๆ”
“ข้ากลัวว่ามันคงจะมีแค่ไผ่เดียวดายที่ทำแบบนั้นได้”
“คุนนั้นแข็งแกร่งมากๆ แต่ดอลลาร์ก็ไม่ใช่ธรรมดาๆ เขาใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนของนาง”
ผู้ชมต้องการเห็นมากกว่านี้ ถึงแม้คุนจะมีพลังประหลาดที่สามารถสร้างปัญหาให้กับดอลลาร์ได้ แต่การต่อสู้ของเธอไม่ใช่อะไรที่น่าสนใจนัก ด้วยเหตุนั้นผู้ชมจึงไปคาดหวังกับการต่อสู้ระหว่างดอลลาร์และไผ่เดียวดายแทน
การต่อสู้ระหว่างอัจฉริยะจากปราสาทนภากับดอลลาร์ผู้ลึกลับ ตั้งแต่ก่อนการต่อสู้ไม่เริ่มขึ้น ผู้คนต่างก็พูดถึงมันอย่างแพร่หลาย หลายคนเชื่อว่าดอลลาร์จะชนะ แต่อีกหลายคนก็คิดว่าไผ่เดียวดายจะเอาชนะได้ ทั้ง 2 ฝ่ายต่างยืนกรานในความเชื่อของพวกเขา และการจะโน้มน้าวฝ่ายตรงข้ามดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
องค์กรเกี่ยวกับการพนันมากมายได้วางอัตราต่อรองไปคนละทิศละทาง ซึ่งบ่งบอกว่าแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ไม่สามารถบอกได้ว่าใครกันแน่ที่จะเป็นฝ่ายชนะ
หานเซิ่นรู้ว่าต้องสู้กับไผ่เดียวดายเป็นคนต่อไป และถึงเขาต้องการจะชนะ แต่เขาเองก็ไม่แน่ใจว่าจะเอาชนะไผ่เดียวดายได้
หานเซิ่นเคยต่อสู้กับไผ่เดียวดายมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่มันไม่มีฝ่ายไหนที่เอาชนะอีกฝ่ายได้ การต่อสู้ของพวกเขาจึงจบลงด้วยผลเสมอ เนื่องจากไผ่เดียวดายประสบกับอารมณ์ที่เลวร้ายและสุดท้ายเขาก็ตัดสินใจที่จะขอยอมแพ้
“ไผ่เดียวดายจะแข็งแกร่งขึ้นขนาดไหนแล้วนะตั้งแต่ตอนนั้น เขาจะยังคงสูญเสียการควบคุมต่ออารมณ์ที่เลวร้ายอีกไหม?”
หานเซิ่นไม่อยากจะเผชิญหน้ากับไผ่เดียวดาย แต่เขาก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างไม่สามารถปฏิเสธได้
ดราก้อนเอทมีพละกำลังทางกายภาพที่เหนือกว่าไผ่เดียวดาย แต่ในขณะที่ดราก้อนเอทเป็นเหมือนกับเครื่องจักรสังหารที่สมบูรณ์แบบ ไผ่เดียวดายก็เป็นเหมือนกับศิลปะชิ้นเลิศ
เครื่องจักรสังหารสมบูรณ์แบบในด้านพลังทำลายล้างและความดุดัน แต่จุดอ่อนที่ร้ายแรงที่สุดของพวกมันก็คือความยืดหยุ่นของวิชา โดยส่วนใหญ่แล้วเครื่องจักรสังหารจะขาดความหลากหลายของวิชา พวกมันจึงไม่สามารถปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ได้
ขณะที่ศักยภาพของไผ่เดียวดายนั้นน่าทึ่งอยู่เสมอ ถึงแม้พละกำลังของเขาจะไม่ได้เท่ากับดราก้อนเอท แต่วิชาการต่อสู้ของเขางดงามและมักจะทำผู้คนประหลาดใจอยู่เสมอๆ
ถ้าหานเซิ่นต้องเลือกคู่ต่อสู้คนหนึ่งไปชั่วชีวิต เขาก็จะขอเลือกไผ่เดียวดาย ดราก้อนเอทเป็นคู่ต่อสู้ที่อันตรายก็จริง แต่หานเซิ่นเข้าใจเขาเรียบร้อยแล้ว เขาคาดการณ์ได้ว่าคนอย่างดราก้อนเอทจะทำอะไรต่อไป แต่ไผ่เดียวดายจะมีไพ่ตายซ่อนอยู่เสมอ
หานเซิ่นเข้าร่วมบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโนก็เพื่อดึงความสนใจของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าเทพเจ้านั่น ซึ่งตอนนี้เป้าหมายของเขาก็สำเร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ชื่อของดอลลาร์เผ่ามนุษย์แพร่สะพัดออกไปอย่างกว้างขวาง ดังนั้นมันจึงไม่สำคัญอีกต่อไปว่าเขาจะชนะหรือแพ้
แต่ถึงอย่างนั้นหานเซิ่นก็อยากจะชนะการต่อสู้กับไผ่เดียวดาย
ภายในปราสาทนภา ไผ่เดียวดายกำลังนั่งอยู่ภายในศาลาหิน มันมีถ้วยชาวางอยู่ข้างๆเขา แต่เขาไม่ได้แตะต้องมัน เขาเพียงแค่เงยหน้าขึ้นไปมองพระจันทร์ในอวกาศ
“เจ้าคิดยังไงกับดอลลาร์?” จู่ๆผู้นำของปราสาทนภาก็ปรากฏตัวภายในศาลาหินนั้น
“เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งมากๆ” ไผ่เดียวดายตอบ
“เจ้ารู้ได้ยังไง?” ผู้นำปราสาทนภาถามด้วยรอยยิ้ม
“แค่รู้สึกว่าอย่างนั้น” ไผ่เดียวดายตอบ
“แค่รู้สึก?” ผู้นำของปราสาทนภายกคิ้วด้วยความประหลาดใจ
ไผ่เดียวดายดูจริงจังขึ้นมา “ร่างกายของเขาแข็งแกร่งพอๆกับยอดฝีมือของเผ่าดราก้อน เหรียญของเขากำราบคนอย่างดราก้อนเอทได้ และเขายังใช้มันได้จำนวนมากในคราวเดียว แต่สำหรับศิษย์แล้ว นั่นไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวที่สุด สิ่งน่าที่หวาดกลัวที่สุดสำหรับศิษย์คือสิ่งที่ศิษย์รู้สึกเมื่อศิษย์มองดูการต่อสู้ของเขา”
“ความรู้สึกแบบไหนกัน?” ผู้นำของปราสาทนภาถาม
“เขาทำให้ศิษย์คิดว่าเขาไร้เทียมทาน” ไผ่เดียวดายพูดด้วยโทนเสียงที่มีน้ำหนัก
ผู้นำของปราสาทนภาพยักหน้าและถามต่อ “เจ้ามีแผนจะทำยังไง?”
ไผ่เดียวดายยืนขึ้นและพูดอย่างจริงจัง “ศิษย์มีแผนที่จะเอาชนะ”
“ดีมาก” ผู้นำปราสาทนภาตบไหล่ของเขาและไม่ได้พูดอะไรอีก
หลังจากที่ไผ่เดียวดายออกจากศาลาหินไป ผู้หญิงสวมหน้ากากสีดำก็ปรากฏตัวขึ้นข้างๆผู้นำของปราสาทนภา เธอพูดขึ้นมา
“เจ้าคิดว่าไผ่เดียวดายจะเอาชนะได้อย่างนั้นหรอ?”
“ข้าไม่มีความสงสัยใดๆในความสามารถของไผ่เดียวดาย” ผู้นำของปราสาทนภาพูด
“ข้าไม่ได้ถามเรื่องนั้น ข้าถามเจ้าว่าเจ้าคิดจริงๆว่าเขาจะเอาชนะได้?” ผู้หญิงหน้ากากสีดำจ้องไปที่ผู้นำของปราสาทนภา
ผู้นำของปราสาทนภาแบมือออกและพูด “เจ้าก็เห็นพลังของดอลลาร์คนนั้น ถึงพวกเราจะไม่ได้รู้เกี่ยวกับเขามากนัก แต่ข้าก็บอกได้เลยว่าเขาเป็นคนที่น่ากลัว พวกเราทำได้แค่รอดูว่าไผ่เดียวดายจะชนะได้หรือเปล่า ซึ่งเขาไม่เคยทำให้ข้าผิดหวังมาก่อน”
ไผ่เดียวดายกลับไปที่เกาะส่วนตัวของเขา และเมื่อเขาเปิดประตูเข้าไปในบ้านไม้ไผ่ เขาก็หยุดชะงักไปชั่วขณะ
ในบ้านของเขามีเด็กหญิงคนหนึ่งกำลังโดดไปมา และที่ด้านหลังของเธอก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งอยู่
“พวกเจ้าเป็นใครกัน?” ไผ่เดียวดายถามชายหนุ่มคนนั้น
เขาสามารถบอกได้ว่าชายหนุ่มคนนั้นเป็นชาวภนา แต่เขาไม่เคยเห็นคนหนุ่มชาวนภาที่แข็งแกร่งถึงขนาดนี้มาก่อน ตัวตนของชายหนุ่มคนนี้ให้ความรู้สึกเช่นเดียวกับอสูรที่น่าสะพรึงกลัว และถึงแม้ชายหนุ่มจะอยู่ตรงหน้า แต่ประสาทสัมผัสของไผ่เดียวดายก็ไม่สามารถบอกอะไรเกี่ยวกับชายหนุ่มคนนี้ได้เลย
“เนตรมาร” ชายหนุ่มยิ้มออกมา
ไผ่เดียวดายขมวดคิ้ว เขารู้จักชื่อนั้น แต่เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเนตรมารจะมาเกิดใหม่เป็นคนเผ่านภา นอกจากนั้นเขายังนำเด็กสาวคนหนึ่งเข้ามาในปราสาทนภาอย่างลับๆอีก
“เจ้ามาทำอะไรที่นี่?” ไผ่เดียวดายถาม
เนตรมารยักไหล่ของเขา “ข้ามาที่นี่ก็เพื่อพบกับเจ้า เจ้าและดอลลาร์เป็นคนที่น่าสนใจ ข้าต้องการจะต่อสู้กับพวกเจ้าทั้งคู่ แต่พวกเจ้าทั้งคู่ถูกกำหนดให้พบกันซะก่อน เพื่อทำให้แน่ใจว่าข้าจะไม่พลาดอะไรไป ข้าจึงตัดสินใจมาพบเจ้าที่นี่”
“ที่จริงแล้วพวกเรากำลังตามหาดอลลาร์ แต่พวกเราไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน ด้วยเหตุนั้นพวกเราจึงมาหาเจ้าก่อน” เด็กหญิงพูดด้วยความจริงจัง