เซี่ยชิงบาดเจ็บและเหนื่อยล้าเกินกว่าที่จะเข้าร่วมการแข่งขันรอบต่อไปได้ ดังนั้นสุดท้ายเขาจึงติดอันดับท๊อป 8 เท่านั้น แต่ทว่าผู้คนที่ได้ดูการต่อสู้ของเขากับโอโดก้าเชื่อว่าหนึ่งในพวกเขาควรจะได้รับอันดับที่หนึ่ง แต่โชคร้ายที่พวกเขาทั้งคู่ต้องมาเจอกันเร็วเกินไป ซึ่งไม่ว่าฝ่ายไหนจะพ่ายแพ้หรือชนะ พวกเขาทั้งคู่ก็ไม่สามารถต่อสู้ในรอบต่อไปได้
การต่อสู้จัดอันดับดำเนินต่อไปด้วยผลลัพธ์ที่น่าประหลาดใจ ในการต่อสู้รอบ 4 คนสุดท้ายของระดับราชัน อี๋ซาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ซึ่งนั่นทำให้หลายคนต่างประหลาดใจ ด้วยเหตุนั้นเธอจึงแค่ติดท๊อป 4 เท่านั้น
หานเซิ่นไม่มีโอกาสได้เห็นมัน ดังนั้นเขาไม่แน่ใจว่าอะไรทำให้เธอแพ้ แต่ถึงจะพูดแบบนั้น เขาก็ได้ยินมาว่ามันมีเรื่องประหลาดบางอย่างเกิดขึ้นในระหว่างการประลอง
เสี่ยวฮวาผ่านเข้าไปสู่รอบสุดท้ายได้อย่างง่ายดาย พลังเซเคร็ดทำให้เขาสามารถควบคุมอวกาศและกาลเวลาได้ ซึ่งมันไม่มีไวเคานต์คนไหนสามารถเอาชนะเทคนิคแบบนั้นในสนามประลองได้
ไม่มีใครในระดับไวเคานต์ที่แข็งแกร่งไปกว่าเสี่ยวฮวา ดังนั้นมันเป็นไปได้สูงที่เขาจะได้อันดับที่หนึ่ง
ถ้าไม่ใช่เพราะเนตรมาร หานเซิ่นก็คงจะได้รับชัยชนะในการต่อสู้ระดับมาร์ควิสง่ายๆเช่นกัน แต่สุดท้ายแล้วมันไม่ได้เป็นแบบนั้น เนตรมารยังอยู่ที่นี่และมันก็ไม่มีอะไรมารับประกันว่าหานเซิ่นจะเป็นฝ่ายชนะ
หานเซิ่นได้ดูการต่อสู้ของเนตรมารอย่างใกล้ชิด ชายคนนั้นน่าสะพรึงกลัวจริงๆ หานเซิ่นคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับเนตรมาร แต่มันคืออะไรนั้นหานเซิ่นก็ไม่สามารถบอกได้
หานเซิ่นโทรไปหาอี๋ซาเพื่อปรึกษาถึงความกังวลของเขา และเขาก็ยังต้องการปลอบเธอหลังจากความพ่ายแพ้ด้วย
“ท่านราชินี ข้าจะกลับไปที่แนร์โรว์มูนในอีกไม่กี่วัน”
อี๋ซานั่งไคว้ขาอยู่บนบัลลังก์อย่างสบายๆ เธอมองหานเซิ่นผ่านวิดีโอด้วยรอยยิ้มและพูด
“เจ้าจะกลับมาเพื่อปลอบใจข้าอย่างนั้นหรอ?”
“ไม่ใช่อย่างนั้น ท่านราชินีเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่สุด ข้าแค่รู้สึกคิดถึงท่านเท่านั้น” หานเซิ่นรู้สึกว่าตัวเองยังขาดทักษะในการปลอบโยน
อี๋ซายังคงยิ้มและมองไปที่หานเซิ่น “มีก้าได้มอบข้อเสนอที่ใจกว้างเพื่อแลกเปลี่ยนกับชัยชนะของพวกเขา ตอนนี้พวกเราจึงทำในสิ่งที่จำเป็น เจ้าคิดจริงๆหรือว่าข้าจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้?”
หานเซิ่นประหลาดใจกับเรื่องนี้ นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาคาดคิดว่าอี๋ซาจะทำเลยสักนิด
อี๋ซายังคงยิ้มและพูดต่อ “รีเบทเป็นเผ่าพันธุ์ชั้นสูง แต่พวกเราไม่ได้เหมือนกับปราสาทนภา พวกเราไม่ได้มีใครที่เป็นระดับเทพเจ้า พวกเราจึงจำเป็นต้องทำข้อตกลงเพื่อแข่งขันกับเผ่าพันธุ์อื่นๆ ดังนั้นพวกเราจึงต้องยอมเสียบางสิ่ง นั่นคือสิ่งที่มันควรจะเป็น”
หานเซิ่นเข้าใจว่าเธอยอมแพ้ ถึงแม้เธออยากจะได้รับชัยชนะก็ตาม เธอไม่ได้พ่ายแพ้ให้กับคู่ต่อสู้จริงๆ แต่เธอพ่ายแพ้ให้กับการเมือง
“กลับไปที่ปราสาทนภา เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าต้องมาสนใจ เจ้าแค่ต้องกลายเป็นราชันให้ได้ และหลังจากนั้นเจ้าถึงจะถูกเล่นในเกมส์การเมือง ในขณะนี้เจ้าไม่ใช่แม้แต่เบี้ยบนกระดาน” อี๋ซาพูดหลังจากนั้นก็วางสายไปอย่างกะทันหัน
หานเซิ่นรู้ว่าระดับของตัวเองยังต่ำเกินไป แต่เรื่องราวของยีนเป็นอะไรที่ยากเกินไป เขาเคยคิดที่จะยอมแพ้กับมันและหันไปให้ความสนใจในการพัฒนาวิชาจีโนอื่นสู่ระดับราชันแทน
การต่อสู้รอบสุดท้ายของระดับมาร์ควิสกำลังจะเริ่มขึ้น ซึ่งชื่อของดอลลาร์และเนตรมารเป็นที่ติดปากของทุกๆคน มันเป็นหัวข้อที่ร้อนแรงที่สุดในเวลานี้
ถึงแม้ดอลลาร์จะแสดงการโจมตีที่ทรงพลังออกมา แต่ดราก้อนเอทเป็นคู่ต่อสู้เพียงคนเดียวที่เขาเอาชนะด้วยพลังกำลังอย่างแท้จริง การถอนตัวของไผ่เดียวดายทำให้ผู้คนมากมายต่างก็รู้สึกผิดหวัง
ซึ่งเมื่อเทียบกับผลงานตลอดหลายชีวิตของเนตรมารแล้ว เนตรมารยังดูน่าประทับใจกว่ามาก ด้วยเหตุนั้นคนส่วนใหญ่จึงคิดว่าเนตรมารจะเป็นฝ่ายที่ชนะการต่อสู้ เพราะยังไงซะเนตรมารก็เคยเป็นเทพเจ้ามาหลายครั้งและเขาก็เคยเห็นสิ่งต่างๆมามากมาย
แต่ถึงอย่างนั้นขุนนางหลายคนก็ยังคงเชื่อว่าดอลลาร์จะเป็นฝ่ายชนะ ขุนนางหลายคนนั้นหลงรักเหรียญของดอลลาร์ และจนถึงตอนนี้ดอลลาร์ก็พิสูจน์ว่าเหรียญสามารถเอาชนะได้ทุกสิ่งทุกอย่าง หลายคนนั้นจึงหลงรักมัน
ในสถานีที่จัดเดิมพันบนดวงดาวแห่งหนึ่ง มีมอเตอร์ไซค์ที่ดูสกปรกคันหนึ่งขับมาจอด ชายที่ขี่มันมาเดินเข้ามาข้างในและวางกระเป๋าที่หนักอึ้งลงบนโต๊ะ เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดกระเป๋าออก รอยยิ้มก็ฉีกกว้างบนใบหน้าของพวกเขา หนึ่งในพนักงานรีบพูดขึ้นมา
“ท่านลูกค้า ใครกันที่ท่านต้องจะเดิมพัน?”
“อัตราต่อรองของดอลลาร์เท่าไร?” ชายคนนั้นถาม
“1 ต่อ 84” เจ้าหน้าที่ตอบ หลังจากนั้นเขาก็มองชายที่ขี่มอเตอร์ไซค์อย่างแปลกๆ
คนส่วนใหญ่เชื่อว่าเนตรมารจะเป็นฝ่ายชนะ ดังนั้นมันจึงไม่มีใครคิดจะเดิมพันกับดอลลาร์
“ข้าขอเดิมพันว่าดอลลาร์จะเป็นฝ่ายชนะ” ชายคนนั้นพูดขณะที่ดันแว่นกันแดนของเขา
ถ้าชายคนนั้นยินดีจะมอบเงินจำนวนมากให้แบบฟรีๆ มันก็ไม่มีพนักงานคนไหนจะปฏิเสธเขา พนักงานจึงรีบรับเงินมาและมอบใบเสร็จให้กับชายคนนั้น
“โง่จริงๆ นี่เขาใช้เงินทั้งหมดของตัวเองเดิมพันข้างดอลลาร์เนี่ยนะ ทั้งจักรวาลต่างก็รู้ดีว่าเนตรมารไม่มีทางแพ้”
พนักงานพูดหลังจากที่เห็นชายคนนั้นขี่มอเตอร์ไซค์จากไปแล้ว
หวังอวี่ฮังเก็บใบเสร็จเอาไว้ในที่ปลอดภัยและเดินทางไปล่าซีโน่เจเนอิคต่ออย่างร่าเริง
เมื่อการต่อสู้รอบสุดท้ายเริ่มต้นขึ้น ทุกคนก็สามารถมองดูมันได้ ยกเว้นแต่คนที่ยังต้องทำการต่อสู้อยู่
ในอดีตการต่อสู้ที่ผู้ชมให้ความสนใจมากที่สุดจะเป็นการต่อสู้ระดับราชัน แต่ในปีนี้มันต่างออกไป ระดับมาร์ควิสและไวเคานต์ได้รับความสนใจพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระดับมาร์ควิส การต่อสู้ระหว่างดอลลาร์และเนตรมารได้รับความสนใจมากกว่าการต่อสู้ของระดับราชันซะอีก
ส่วนระดับไวเคานต์ได้รับความสนใจเนื่องจากเสี่ยวฮวา แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่มีเหตุผลอะไรมากกว่าดูการต่อสู้ของเขา เพราะผู้คนส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่ามันจะมีไวเคานต์คนไหนที่สามารถล้มเสี่ยวฮวาที่มีพลังของเซเคร็ดได้
“มันกำลังจะเริ่มแล้ว! ดอลลาร์จะต่อสู้กับเนตรมารได้นานสักแค่ไหนกัน?”
ดราก้อนเอทและดราก้อนไนน์มองดูภาพบนบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโนอย่างใจจดใจจ่อ ความสนใจของพวกเขาอยู่ที่การต่อสู้รอบสุดท้ายของระดับมาร์ควิส
“ถ้าศิษย์พี่ไผ่เดียวดายไม่หายตัวไป มันก็คงจะเป็นเขาที่ได้ต่อสู้กับเนตรมาร” ภายในปราสาทนภา กระเรียนพันขนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
ตอนนี้ทุกคนมุ่งความสนใจไปที่การต่อสู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกนักวิจัย พวกเขาสนใจอย่างมากที่จะได้เห็นวิชาของทั้งดอลลาร์และเนตรมาร เพราะแม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าก็ไม่สามารถมีชีวิตตลอดไป แต่เนตรมารกลับสามารถเกิดใหม่ได้ซ้ำๆ ทุกคนจึงอยากรู้ความลับของเขา
“หวังว่าดอลลาร์จะต่อกรกับเนตรมารได้นานพอที่จะเปิดเผยความลับของเขา” หัวหน้าสวนวิถีนภามองไปที่บัญชีสิ่งมีชีวิตจีโนอย่างตั้งใจ
“ระหว่างเหรียญของดอลลาร์และความลับของเนตรมาร พวกเราจะต้องได้เรียนรู้อะไรบางอย่างในวันนี้” นักวิจัยอีกคนพูดขึ้นมา
“ข้าอยากจะรู้ความลับการไปเกิดใหม่ของเนตรมารจริงๆ” หัวหน้าของสวนวิถีนภาพูดซ้ำๆ