นิ้วของหานเซิ่นเป็นเหมือนกับอุกกาบาตที่พุ่งข้ามอวกาศมาสู่เหรียญ หานซิ่นทำแบบเดียวกันกับที่เนตรมารทำก่อนหน้านี้ เขาแยกส่วนเหรียญและรวมเข้าด้วยกันเป็นสิ่งใหม่
เนตรมารประหลาดใจที่เห็นว่าหานเซิ่นสามารถบดขยี้เหรียญที่เขาปรับแต่งขึ้นใหม่เป็นผุยผง และภาพอันน่าตกใจนั้นก็ทำให้ผู้ชมอึ้งไป
“ไม่มีทาง! ดอลลาร์มีพลังแบบนั้นด้วยอย่างนั้นหรอ?”
“จริงหรอเนี่ย? เนตรมารทำบางสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ และตอนนี้ดอลลาร์ก็ทำแบบเดียวกัน?”
“การต่อสู้ครั้งนี้ดูเหมือนจะกลับมาน่าสนใจอีกครั้งแล้ว”
สิ่งต่างๆเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่ผู้ชมจะตามทัน พวกเขาจ้องอย่างไม่อยากจะเชื่อ ขณะที่หานเซิ่นแยกส่วนวิชาจีโนและเริ่มสร้างมันขึ้นมาใหม่ให้เหมาะสมต่อความต้องการของเขา
นิ้วทั้งหมดของหานเซิ่นเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและเศษเล็กเศษน้อยของเหรียญก็ค่อยๆผสานเข้าด้วยกันจนกลายเป็นเหรียญใหม่
แต่เหรียญที่ประกอบขึ้นมาใหม่ดูต่างไปจากเหรียญที่เนตรมารสร้างขึ้นมา มันดูทองอร่ามและรอยแกะสลักสีม่วงก่อนหน้านี้ก็หายไปจนหมด และยิ่งไปกว่านั้นตัวเลขบนเหรียญก็เปลี่ยนเป็นเลข 3 แทนที่จะเป็นเลขหนึ่ง
ติ๊ง!
เมื่อหานเซิ่นประกอบเหรียญใหม่เสร็จแล้ว เขาก็ดีดมันออกไปหาเนตรมาร แสงสีทองถูกยิงเข้าไปหาเนตรมารด้วยความเร็วสูง
เนตรมารขมวดคิ้วและยกมือขึ้นมารับเหรียญนั้น แต่เมื่อเขาสัมผัสเหรียญในครั้งนี้ เขาก็ถอยหลังไป 4 ก้าวก่อนที่จะหยุดตัวเองเอาไว้ได้ และในทุกก้าวเขาก็ทิ้งรอยเท้าลึกเอาไว้เบื้องหลัง ทรายรอบๆตัวของเขากำลังจมลงไป
“ว้าว! ดอลลาร์ทำมันได้จริงๆด้วย เหรียญนั้นทรงพลังขึ้นมาก ตอนนี้เห็นได้ชัดว่านี่คือวิธีการที่พวกเขาทั้งคู่จะต่อสู้กัน”
“ในวันนี้ข้าได้เรียนรู้อะไรมากมายเลย”
“การต่อสู้ในครั้งนี้อาจจะโด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ของบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโนระดับมาร์ควิส”
“พวกเขาฝึกวิชาจีโนแบบไหนกันแน่? เรื่องแบบนี้ควรจะมีแค่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าเท่านั้นที่ทำได้”
“นั่นก็ยังขึ้นอยู่กับว่ายอดฝีมือระดับเทพเจ้าคนนั้นมีพรสวรรค์ในด้านวิชานั้นๆหรือเปล่า ถ้าพวกเขาไม่มี พวกเขาก็จะทำในสิ่งที่ทั้ง 2 คนกำลังทำอยู่ในตอนนี้ไม่ได้”
“ทำไมวิธีการต่อสู้ของพวกเขาถึงได้แตกต่างจากวิธีการต่อสู้ของพวกเรา?”
“นี่คือการต่อสู้ของยอดฝีมือที่แท้จริง”
เนตรมารจับเหรียญเอาไว้ในมือ ถุงมือของเขาบุบเข้าไปจากแรงกระแทกอันหนักหน่วง และการถือเหรียญเอาไว้ในมือก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป เนตรมารไม่ได้พูดหยอกล้ออีกแล้วเช่นกัน เขาทำให้เหรียญลอยอยู่เหนือนิ้วมือและย้อมพวกมันด้วยแสงสีม่วง จนในที่สุดเหรียญก็แตกหัก
หลังจากที่เหรียญถูกแยกส่วนและประกอบขึ้นใหม่ ตัวเลขบนเหรียญก็เพิ่มเป็นเลข 4
เนตรมารขว้างเหรียญกลับไปหาหานเซิ่น และหานเซิ่นก็เอื้อมมือไปรับมันมา แต่เขาไม่ได้ถูกผลักถอยไปด้านหลังเหมือนกับเนตรมาร เขารับเหรียญมาราวกับว่ามันเป็นแค่เหรียญธรรมดาๆที่ไม่ได้มีพลังอะไรเลยสักนิด
หานเซิ่นใช้ความสามารถในการมองเห็นโครงสร้างลำดับในการแยกส่วนเหรียญ แต่เนตรมารใช้วิธีการที่ต่างกันออกไปโดยสิ้นเชิง เนตรมารนั้นพึ่งพาความสามารถของเขาเพื่อรู้สึกและควบคุมพลังในความแม่นยำที่สูง
หานเซิ่นมองทะลุถึงธรรมชาติของเนตรมารและรู้สึกตัวว่าพวกเขาทั้งคู่จริงๆแล้วแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง การที่เนตรมารสามารถทำลายพลังของเหรียญด้วยการแยกส่วนนั้นเป็นอะไรที่มหัศจรรย์ ถึงแม้มันจะเป็นอะไรที่ล้าหลัง แต่นั่นก็เป็นวิธีการที่ทำให้เขาสามารถสร้างเหรียญขึ้นมาใหม่ได้
เนตรมารเกิดใหม่ในหลายๆเผ่าพันธุ์ และเขาก็กลายเป็นระดับเทพเจ้าได้สำเร็จอยู่บ่อยครั้ง สิ่งที่เขาได้เรียนรู้และแสดงออกมาในตอนนี้เป็นอะไรที่น่าสะพรึงกลัว ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาสามารถใช้ความรู้ที่สะสมมาแยกส่วนและสร้างเหรียญขึ้นใหม่ได้
แต่ความสามารถของเขาพึ่งพาความรู้ระดับเทพเจ้า มาร์ควิสทั่วๆไปไม่สามารถเข้าใจสิ่งต่างๆได้อย่างลึกซึ้งถึงระดับนั้น ทั้งหมดนี่เกิดขึ้นจาก ความสามารถเกิดใหม่ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดของเนตรมาร
ขณะที่วัฏจักรแห่งการเกิดใหม่มอบความแข็งแกร่งที่น่าเหลือเชื่อให้กับเนตรมาร แต่หานเซิ่นก็เห็นถึงข้อเสียที่ทุกคนมองไม่เห็น
ซึ่งมันก็คือเรื่องที่เนตรมารไม่สามารถมองเห็นโครงสร้างลำดับของเหรียญได้จริงๆ เขาแค่ใช้ความรู้และความรู้สึกเพื่อสร้างเหรียญขึ้นมาใหม่เท่านั้น ดังนั้นถึงเขาจะสร้างโครงสร้างลำดับขึ้นมาได้ แต่มันก็ยังขาดความละเอียดอ่อนไป
ถ้าเทคนิคในการสร้างวิชาจีโนขึ้นใหม่ของหานเซิ่นมีความแม่นยำ 100 เปอร์เซ็นต์ เนตรมารก็จะมีความแม่นยำเพียงแค่ 99.99 เปอร์เซ็นต์ ความแตกต่างของมันอาจจะเล็กน้อยและยากที่จะมองเห็นได้ แต่มันก็ยังคงมีอยู่และนั่นหมายความว่าเนตรมารไม่ได้สมบูรณ์แบบ
ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงไม่รังเกลียดที่จะทำการต่อสู้ด้วยวิธีแบบนี้ ซึ่งความจริงแล้วมันทำให้เขาดีใจด้วยซ้ำ แต่ไม่นานเนตรมารก็รู้ตัวว่าถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป เขาก็ไม่สามารถเอาชนะหานเซิ่นได้
เนตรมารไม่สามารถเอาชนะหานเซิ่นได้ถ้าปราศจากความสามารถในการอ่านโครงสร้างลำดับ ดังนั้นเขาพบว่าตัวเองจำเป็นต้องใช้ความรู้ระดับเทพเจ้าเพื่อปรับแต่งเหรียญทุกครั้งที่เขาสร้างมันขึ้นใหม่ ซึ่งในสายตาของหานเซิ่น มันก็เหมือนกับว่ามียอดฝีมือระดับเทพเจ้าคนหนึ่งมาช่วยเขาปรับแต่งเหรียญด้วยตัวเอง ซึ่งนั่นทำให้เขายินดีที่จะทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ
พวกเขาทั้งคู่ขว้างเหรียญกลับไปกลับมา และในการขว้างแต่ละครั้งตัวเลขที่แสดงบนเหรียญก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งในทุกครั้งที่ตัวเลขเพิ่มขึ้น พลังในการขว้างก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดด้วยเช่นกัน
ทุกครั้งที่เนตรมารรับเหรียญที่ถูกขว้างมา พื้นรอบๆเท้าของเขาก็จะสั่นสะเทือน แต่ทางด้านหานเซิ่นสามารถรับเหรียญได้อย่างง่ายดายราวกับว่าเขาไม่ได้รับผลจากเหรียญเลยแม้แต่นิดเดียว
แต่นั่นเป็นเหตุผลที่หานเซิ่นบอกเนตรมารว่าไม่เข้าใจถึงจุดประสงค์ของเหรียญ และถึงแม้เขาจะสร้างเหรียญขึ้นมาใหม่ได้ มันก็ขาดหัวใจที่แท้จริงของวิชาไป เนตรมารสามารถใช้เหรียญเพื่อโจมตีใส่คู่ต่อสู้ได้ก็จริง แต่เขาไม่สามารถใช้มันได้ดีอย่างที่คิด
ถึงแม้เขาจะสร้างเหรียญที่มีแรงกดดันอันหนักหน่วงแบบเดียวกับหานเซิ่นได้ แต่มันไม่ได้เหมือนกับเหรียญที่หานเซิ่นสร้างขึ้นซะทีเดียว เพราะเหรียญของหานเซิ่นสามารถสะสมพลังได้
ตูม!
เมื่อเนตรมารรับเหรียญครั้งต่อไป ตัวเลขบนเหรียญคือเลข 10 สีม่วงบนชุดเกราะของเขาเข้มขึ้น แต่มันดูเหมือนกับว่าสีม่วงกำลังดิ้นรนต่อน้ำหนักมหาศาล
ในตอนนี้ผู้ชมทุกคนอึ้งไป เมื่อเห็นว่าเนตรมารกำลังถูกไล่ต้อนโดยดอลลาร์
“ไม่ว่าเจ้าจะพยายามลอกเลียนผลงานของข้าสักกี่ครั้ง เจ้าก็ควรจะรู้ว่าเหรียญนั่นยังเป็นของข้าอยู่ดี” หานเซิ่นพูดขณะที่จ้องไปยังคู่ต่อสู้ของเขา
เนตรมารมองกลับมาที่หานเซิ่น ดอกไม้กระดูกสีม่วงบนชุดเกราะของเขาเริ่มจะบานออกราวกับดอกไม้จริงๆ พลังที่เข้มขึ้นและแปรปรวนยิ่งกว่าเดิมเริ่มปะทุขึ้นมาจากร่างกายของเขา
“น่าสนใจ” จู่ๆเนตรมารก็ยิ้มออกมาอย่างน่าขนลุก มือของเขากำเหรียญเอาไว้แน่น และภายในแสงสีม่วง เหรียญก็ถูกบดขยี้จนกลายเป็นผุยผง ผงธุลีสีทองร่วงหล่นลงจากนิ้วมือของเขา
“ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินเจ้าต่ำเกินไป” เนตรมารมองตรงไปที่หานเซิ่น ขณะที่ดอกไม้กระดูกบนชุดเกราะของเขายังคงบานออกเรื่อยๆ