ฝูงแรดโลหะเคลื่อนที่ไปที่ริมฝั่งแม่น้ำ และในที่สุดพวกมันก็พากันเดินลงไปเล่นในน้ำที่ดูเหมือนกับปรอท
พวกมันมีร่างกายโลหะที่ใหญ่โตเหมือนกับเหล็กทื่อ ด้วยเหตุนั้นร่างกายของพวกมันจึงตัดกับแม่น้ำสีเงินที่เปล่งประกาย
หานเซิ่นไม่รู้ว่าของเหลวสีเงินในแม่น้ำคืออะไรกันแน่ แต่มันต้องไม่ใช่น้ำอย่างแน่นอน แต่เหล่าแรดโลหะสามารถดื่มของเหลวสีเงินเข้าไปได้อย่างอิสระ ดังนั้นมันมีโอกาสที่ของเหลวจะไร้พิษภัย
ขณะที่เหล่าแรดกำลังดื่มและเล่นกันอยู่นั้น มันก็มีเสียงดังมาจากป่า หลังจากนั้นมอนสเตอร์โลหะก็ออกมาจากป่า พวกมันทั้งหมดมุ่งตรงไปที่แม่น้ำและดื่มของเหลวสีเงินเข้าไป
มันมีทั้งงูโลหะที่มีความยาวอย่างน้อยหนึ่งร้อยเมตร สิงโตสีเงินหรือแม้แต่ตะขาบที่ดูเหมือนจะมีขาที่ไม่จำกัด มันมีมอนสเตอร์โลหะหลากหลายชนิดมุ่งตรงไปที่แม่น้ำด้วยความกระหาย
มอนสเตอร์โลหะหลายตัวดูน่ากลัวอย่างมาก พวกมันดูเหมือนจะเป็นระดับดยุกหรือราชัน แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างพวกมันดูจะไม่มีความปรปักษ์ต่อกัน แม้แต่มอนสเตอร์โลหะระดับต่ำหลายตัวก็ก้าวมาข้างหน้าเพื่อดื่มของเหลวสีเงินพร้อมกับมอนสเตอร์โลหะที่แข็งแกร่ง
“มอนสเตอร์โลหะพวกนี้ดูจะเป็นมิตรดีนะ” ไวท์เรียลพูดขึ้นมา
“บางทีอาจจะไม่” อวี้เอียะอัญเชิญซีโน่เจเนอิคที่ดูเหมือนกับนกพิราบออกมา และให้มันบินออกไปทางแม่น้ำ นกซีโน่เจเนอิคนั้นดูยังไงก็ไม่เหมือนสิ่งมีชีวิตท้องถิ่นของเมทัลเวิลด์
ทันใดนั้นก็มีร่างกายสีทองแดงบินข้ามท้องฟ้ามา มันมีรูปร่างเหมือนกับแมลงปอ แต่ทั้งตัวของมันเป็นทองแดงโดยสมบูรณ์ ร่างกายของมันยาวกว่า 5 เมตร ดวงตาและขากรรไกรที่ปูดขึ้นมานั้นทำให้มันดูน่าเกลียดน่ากลัว
ร่างกายสีทองแดงบินผ่านแม่น้ำและตรงเข้าไปฉีกร่างของนกซีโน่เจเนอิคที่อวี้เอียะเรียกออกมา มันกลืนกินนกเข้าไปทั้งตัวจนไม่เหลือแม้แต่ขนนก
ทุกคนอึ้งไป อวี้เอียะพูดขึ้นมา “ดูเหมือนพวกมันจะเป็นมิตรกับมอนสเตอร์ท้องถิ่นของเมทัลเวิลด์เท่านั้น คนนอกจะไม่ได้รับการปฏิบัติที่เหมือนกัน”
หานเซิ่นพยักหน้า ตอนนี้เขารู้สึกนับถือยวิ๋นอี้จริงๆ มอนสเตอร์พวกนั้นข้ามภูเขาผ่านป่าเพื่อมายังบริเวณแห่งนี้ แต่ในจุดที่ยวิ๋นอี้เลือกให้ตั้งค่ายนั้นปราศจากสิ่งมีชีวิตท้องถิ่นของเมทัลเวิลด์
และถึงจะมีมอนสเตอร์เข้ามาใกล้เขตปลอดภัยของพวกเขา พวกเขาก็สามารถถอยเข้าไปในถ้ำเพื่อซ่อนตัวได้ มันเป็นจุดที่ดีที่จะจัดตั้งค่าย
เนื่องจากมันมีมอนสเตอร์โลหะที่ทรงพลังอยู่มากเกินไป หานเซิ่นจึงจัดเวรยามค่อยเฝ้าระวัง และห้ามไม่ให้ใครออกไปข้างนอกในตอนนี้
หลังจากผ่านไปสิบชั่วโมง บริเวณแม่น้ำก็ยังเต็มไปด้วยมอนสเตอร์โลหะ เมื่อมอนสเตอร์ตัวเก่าจากไป ตัวใหม่ก็เข้ามา มันดูเหมือนกับว่านี่อาจจะเป็นแม่น้ำแห่งเดียวบนดวงดาวนี้ และด้วยเหตุนั้นทุกสิ่งชีวิตจะต้องแวะมาเพื่อดื่มมัน
“กัปตันหาน ออกมาดูนี่เร็วเข้า” ขณะที่หานเซิ่นกำลังพักผ่อน อวี้เอียะก็มาเรียกเขาอย่างกะทันหัน
หานเซิ่นลุกขึ้นและตามอวี้เอียะไปที่ปากถ้ำ เมื่อมองออกไปข้างนอก เขาก็สังเกตเห็นว่ามอนสเตอร์ที่อยู่ใกล้ๆกับแม่น้ำเริ่มจะดูแปลกไป พวกมันเริ่มถอยห่างจากของเหลวสีเงิน ราวกับว่าพวกมันหวาดกลัวอะไรบางอย่าง
หานเซิ่นรอคอยและมองดูต่อไปสักพัก จนกระทั่งในที่สุดก็มีอสูรโลหะสีขาวตัวหนึ่งเดินเข้ามาที่แม่น้ำ เมื่อมอนสเตอร์ตัวอื่นๆเห็นอสูรตัวนั้นเดินเข้ามาใกล้ ทุกตัวก็จะหลีกทาง ไม่มีใครกล้าเดินเข้าไปขวางทางของมัน
หานเซิ่นสังเกตอสูรโลหะสีขาวตัวนั้น มันไม่ได้ตัวใหญ่อะไรมากและยาวเพียงแค่ประมาท 2 เมตรเท่านั้น ร่างของมันสีขาวเผือกและดูเหมือนกับช้างแมมมอธ
แมมมอธโลหะเดินตรงเข้าไปที่แม่น้ำและเริ่มดูดของเหลวสีขาวด้วยงวงของมัน มอนสเตอร์โลหะตัวอื่นๆถอยออกห่างและคอยจับตามองไปที่แมมมอธตัวนั้น ดูเหมือนกับว่ามอนสเตอร์ตัวอื่นจะไม่กล้าดื่มของเหลวสีเงินนั้น ขณะที่เจ้าแมมมอธยังอยู่ที่นี่
พวกมันรอจนกระทั่งแมมมอธดื่มจนอิ่มและออกไปจากบริเวณ เมื่อมันจากไปแล้ว มอนสเตอร์ตัวอื่นก็กลับมาที่แม่น้ำและเริ่มดื่มของเหลวสีเงินเข้าไป
เมื่อเห็นแมมมอธตัวนั้นเดินกลับเข้าไปในป่า หานเซิ่นและอวี้เอียะก็มองหน้ากัน ก่อนที่จะถอนหายใจออกมา ในตอนที่แมมมอธตัวนั้นปรากฏตัวออกมา พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ พวกเขาไม่อยากให้เจ้าตัวนั้นหาพวกเขาเจอ
แมมมอธตัวนั้นทรงพลังอย่างมาก และมาร์ควิสคนหนึ่งไม่มีทางจะรับมือกับศัตรูแบบนั้นได้
“ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะไม่เข้าข้างพวกเราเท่าไหร่นัก มันมีแค่มาร์ควิสเท่านั้นที่จะเข้ามาในที่แห่งนี้ได้ แต่มอนสเตอร์บางตัวที่นี่กลับมีระดับราชัน ความผิดพลาดเพียงแค่เล็กน้อยอาจจะทำให้พวกเราทั้งหมดถูกฆ่าตายได้เลย” อวี้เอียะพูด
ยวิ๋นอี้พยักหน้าและพูด “ทีมสำรวจของเผ่าพันธุ์อื่นก็อาจจะกำลังซ่อนตัวอยู่เช่นกัน ดังนั้นในตอนนี้มันไม่มีความจำเป็นที่พวกเราต้องรีบ ดูเหมือนว่ามอนสเตอร์โลหะพวกนั้นจะออกมาเฉพาะตอนที่ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีชมพู บางทีเมื่อพายุแม่เหล็กเปลี่ยนกลับเป็นสีฟ้า พวกมันทั้งหมดก็จะหายไป”
หานเซิ่นและคนอื่นๆคิดว่านั่นสมเหตุสมผล มันไม่มีความจำเป็นที่ต้องรีบร้อน พวกเขาสามารถใช้เวลาเพื่อทำความเข้าใจซีโน่เจเนอิคสเปชแห่งนี้
พวกเขาคอยจับตาดูแม่น้ำนั้นต่อไป และตลอดหลายวันที่ผ่านมา พวกเขาก็ได้เห็นมอนสเตอร์โลหะหลากหลายชนิดมาที่นี่เพื่อดื่มของเหลวสีเงินจากแม่น้ำ
มันยังมีมอนสเตอร์ที่น่ากลัวอย่างแมมมอธตัวอื่นๆอยู่อีกด้วย ซึ่งมันทำให้ทีมของหานเซิ่นค่อนข้างเป็นกังวล
หลังจากผ่านไป 80 ชั่วโมง มอนสเตอร์โลหะที่แวะมาที่แม่น้ำก็ค่อยๆลดจำนวนลงไป และไม่นานหลังจากนั้นพายุแม่เหล็กก็เริ่มเกิดความเปลี่ยนแปลง อีกหนึ่งชั่วโมงทุกอย่างก็ดูจะกลับมาปกติอีกครั้ง
เมื่อทีมของหานเซิ่นสรุปได้ว่าไม่มีมอนสเตอร์โลหะเดินทางมาที่แม่น้ำอีกแล้ว หานเซิ่นก็ส่งคนออกไปเพื่อสำรวจบริเวณรอบๆ
ผลที่ออกมาเป็นอย่างที่คาดคิดเอาไว้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ทำให้พวกเขาประหลาดใจอยู่ดี ตอนนี้มอนสเตอร์โลหะที่ปรากฏตัวใกล้ๆกับแม่น้ำหายไปหมดแล้ว ราวกับว่าพวกมันสลายกลายเป็นอากาศธาตุ
“นี่พวกมันล่องหนได้อย่างนั้นหรอ? หรือว่าบางทีพวกมันอาจจะกำลังซ่อนตัวอยู่ใต้ดินที่ไหนสักแห่ง?” ไวท์เรียลถามด้วยสีหน้าแปลกๆ
อวี้เอียะไม่ได้พูดอะไร พวกเขากำลังครุ่นคิดอยู่ เมทัลเวิลด์นั้นแปลกประหลาดเกินไป และพวกเขาก็ยังไม่สามารถหาข้อสรุปอะไรได้จนกว่าจะรู้อะไรมากกว่านี้
ขณะที่หานเซิ่นและคนอื่นๆกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ก็มีใครบางคนเข้ามาหาพวกเขาจากทางภูเขา เมื่อคนๆนั้นเข้ามาถึงบริเวณของพวกหานเซิ่น เขาก็ส่งเสียงเรียก
“ข้าคือข่านจากเผ่าเดม่อน กลุ่มของพวกเจ้ามาจากปราสาทนภาใช่ไหม?”
หานเซิ่นมองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง แต่คนเดียวที่เขามองเห็นก็คือข่าน ดังนั้นเขาจึงก้าวออกไปข้างหน้าเพื่อพูดกับข่าน
“เจ้ามาทำอะไรที่นี่?”
“หานเซิ่น เจ้าคือหัวหน้าของทีมสำรวจนี้อย่างนั้นหรอ? นั่นเยี่ยมไปเลย ไหนๆพวกเราก็รู้จักกันมาก่อนแล้ว ทำไมพวกเราไม่มาร่วมมือกันล่ะ” ข่านหัวเราะ
“ข้าไม่เห็นจำได้ว่าพวกเรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน” หานเซิ่นตอบอย่างเย็นชา
“บอกตามตรง ข้าก็จำไม่ได้ว่าเราสนิทสนมกัน แต่ตอนนี้ดราก้อน บุดด้าและเดสทรอยเยอร์ได้ร่วมมือกันแล้ว ดังนั้นถ้าพวกเราไม่สร้างพันธมิตรขึ้นมาบ้าง พวกเราก็จะเสียเปรียบพวกเขา” ข่านพูด
“ทำไมข้าถึงต้องเชื่อเจ้าด้วย?” หานเซิ่นพูด
“พวกเรามาถึงที่นี่ก่อนหน้าพวกเจ้านานแล้ว ข้าคิดว่าพวกเจ้าอาจจะสนใจในข้อมูลที่ข้ามีอยู่” ข่านยิ้ม