Super God Gene – ตอนที่ 2151

“หานเซิ่น ข้าเคยได้ยินชื่อของเจ้ามาก่อน แต่ข้าไม่ได้คาดคิดว่าจะได้เห็นเจ้าที่นี่”

รูปปั้น 3 หัว 6 แขนเดินมาตรงหน้าใบเสมา หัวนกที่อยู่ตรงกลางนั้นจ้องมาที่หานเซิ่น สายตาของมันเหมือนกับปีศาจที่กำลังจ้องมองทารกที่ไร้การป้องกัน

 

สำหรับหานเซิ่นและคนอื่นๆแล้ว ความแข็งแกร่งของรูปปั้นโลหะนั้นน่าสะพรึงกลัวเกินไป ตอนนี้พวกเขาถูกล้อมอย่างสมบูรณ์ และแน่นอนว่ามันยังมีซีโน่เจเนอิคที่เหมือนกับแมลงปอบินอยู่เต็มท้องฟ้า ตอนนี้สถานการณ์เป็นอะไรที่ดูสิ้นหวัง

 

“เจ้าเป็นใคร?” หานเซิ่นถามขณะที่เงยหน้ามองรูปปั้นไจแอนท์ 3 หัว 6 แขน

 

“ชื่อของข้าคือคลีนส์มันเผ่าเดสทรอยเยอร์” รูปปั้นตอบ

 

“ไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าเดสทรอยเยอร์จะเป็นส่วนหนึ่งของเบรกสกาย” หานเซิ่นพูด

 

คลีนส์มันหัวเราะและพูด “เจ้าเข้าใจผิดแล้ว เดสทรอยเยอร์ไม่ใช่แค่ส่วนหนึ่งของเบรกสกาย พวกเราเป็นราชวงศ์ของเบรกสกาย พวกไจแอนท์หน้าโง่ก็เป็นแค่ทาสที่มีสายเลือดของพวกเราปะปนอยู่ พวกเราคือเบรกสกายที่แท้จริง”

 

“ถ้าอย่างนั้นนี่ก็เป็นที่อยู่อาศัยของเบรกสกายระดับเทพเจ้าสินะ?” หานเซิ่นถาม

 

คลีนส์มันหัวเราะ “ข้ารู้ว่าเจ้าแค่พยายามจะถ่วงเวลา แต่นั่นไม่เป็นไร เดสทรอยเยอร์จะควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างที่นี่ พวกเจ้าไม่มีทางจะหนีไปได้”

 

หลังจากที่หยุดไปชั่วครู่ คลีนส์มันก็พูดต่อ “นี่เป็นที่อยู่ของเบรกสกายระดับเทพเจ้า แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเจ้าของมันหายตัวไปเป็นเวลานานแล้ว รูปปั้นเบรกสกายที่เขาทิ้งเอาไว้นั้นเพียงพอที่จะทำให้พวกเราครอบครองทั้งเมทัลเวิลด์ เนื่องจากผู้คนที่เหนือกว่าระดับมาร์ควิสเข้ามาในนี้ไม่ได้ ดังนั้นมันไม่มีใครจะต่อต้านพวกเราได้ ที่นี่จะกลายเป็นซีโน่เจเนอิคสเปชของเดสทรอยเยอร์ และสำหรับพวกเจ้าแล้ว…”

 

คลีนส์มันจ้องไปที่พวกเขาแต่ละคน “ถ้าพวกเจ้ายอมแพ้แต่โดยดี เดสทรอยเยอร์จะต้อนรับพวกเจ้าเป็นสมาชิกทางสังคมของเมทัลเวิลด์”

 

“คลีนส์มัน ข้ากลัวว่าตัวเองจะไม่ได้มองโลกในแง่ดีเหมือนกับเจ้า” หานเซิ่นพูด

 

“เจ้าหมายความว่ายังไง?” ใบหน้าผู้หญิงที่อยู่ด้านขวาหันมาหาเขา

 

หานเซิ่นมองไปรอบๆและพูด “ข้าได้ยินมาว่าก่อนที่เจ้าจะเข้ามาในเมืองแห่งนี้ ที่นี่ก็เป็นสนามต่อสู้อยู่ก่อนแล้ว”

 

“แล้วมันยังไง? แน่นอนอยู่แล้วว่ามันเคยมีการต่อสู้เกิดขึ้นที่นี่ ไม่อย่างนั้นมันจะกลายเป็นโบราณสถานได้ยังไง?” ใบหน้าผู้หญิงพูด

 

หานเซิ่นหัวเราะและพูด “ถ้าพลังของเมทัลเวิลด์แข็งแกร่งพอที่จะทำให้คนนอกผ่านเข้ามาไม่ได้ และมีเพียงแค่มาร์ควิสเท่านั้นที่เข้ามาได้ นั่นก็หมายความว่าพลังจากภายนอกจะไม่ส่งผลต่อสถานที่แห่งนี้ แต่ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วทำไมถึงได้มีการต่อสู้ที่อันตรายพอทีจะทำให้ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าหนีไปจากที่นี่ล่ะ?”

 

คลีนส์มันขมวดคิ้ว หลังจากนั้นใบหน้าผู้ชายของรูปปั้นก็พูดขึ้นมา

“บางทีเขาอาจจะบุกผ่าพลังของเมทัลเวิลด์เข้ามาข้างใน?”

 

“บุกผ่าพลังป้องกันที่แม้แต่ยอดฝีมือของทั้ง 5 เผ่าพันธุ์ยังทำไม่ได้น่ะหรอ? ถ้ามียอดฝีมือระดับเทพเจ้าที่ทำแบบนั้นได้อยู่จริงๆ เจ้าคิดว่าเบรกสกายจะหนีจากสิ่งมีชีวิตแบบนั้นได้อย่างนั้นหรอ? และถึงพวกเขาจะหนีไปได้จริง แล้วทำไมยอดฝีมือคนนั้นถึงไม่ได้ครอบครองเมทัลเวิลด์ไปเป็นของตัวเองล่ะ?” หานเซิ่นพูดต่อ

 

“เจ้าหมายความว่ายังไง?” ใบหน้าผู้หญิงถามอีกครั้ง

 

“ถ้าการสันนิษฐานของข้าถูกต้อง เบรกสกายไม่ได้ทอดทิ้งที่นี่เพราะศัตรูจากภายนอก แต่ภัยร้ายแรงที่สุดของพวกเขามาจากภายในดาวดวงนี้”

 

“เจ้ากำลังจะพูดอะไรกันแน่?” รูปปั้นด้านข้างของคลีนส์มันดูรำคาญ

 

หานเซิ่นหัวเราะและพูด “พลังที่เป็นภัยต่อเบรกสกายนั้น ถ้ามันยังอยู่ในดาวดวงนี้จริงๆล่ะก็ ข้าไม่คิดว่ามันจะเป็นภัยต่อใครคนอื่น นอกจากเบรกสกาย ถ้าข้าเป็นเจ้าล่ะก็ ข้าจะไม่อวดดีแบบนั้น ถ้าเป็นข้า ข้าจะคิดหาทางหนีออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด เพราะมันมีโอกาสสูงที่พวกเจ้าจะถูกฆ่าก่อนพวกเราซะอีก”

 

“ไร้สาระ! ถ้ามันยังมีอะไรแบบนั้นอยู่จริงๆ ทำไมมันถึงไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเรา? หานเซิ่น ข้านับถือในสติปัญญาของเจ้า ด้วยเหตุนั้นข้าจะไม่ฆ่าเจ้า ยอมแพ้ซะ และข้าจะปล่อยให้เจ้ามีชีวิตอยู่ต่อไป” หัวนกยิ้มอย่างชั่วร้าย

 

หานเซิ่นไม่ได้พูดอะไรอีก เขาเพียงแค่ให้ความสนใจกับวิธีที่จะรอดไปจากสถานการณ์ในตอนนี้ แต่สิ่งที่เขาบอกกับคลีนส์มันไม่ใช่แค่การล่อหลอก ถ้าพลังที่เป็นภัยต่อยอดฝีมือระดับเทพเจ้ามาจากดาวดวงนี้จริงๆ มันก็ไม่มีทางจะหายไปง่ายๆแบบนั้น และมันก็อาจจะยังอยู่ที่ไหนสักแห่งบนดาวดวงนี้

 

“ถ้าเจ้าอยากจะตายล่ะก็ ข้าก็จะทำให้เจ้าได้สมหวัง” คลีนส์มันสั่งให้รูปปั้นเบรกสกายเริ่มโจมตีใส่ใบเสมาอีกครั้ง

 

รูปปั้นเบรกสกายปลดปล่อยพลังที่น่าสะพรึงกลัวออกมาเพื่อทำลายใบเสมาราชาแมลงปีศาจของหานเซิ่น ใบเสมาสีฟ้าเริ่มสั่นสะเทือนและมันดูพร้อมที่จะแตกสลายทุกเมื่อ

 

หานเซิ่นคิดว่าสถานการณ์กำลังคับขัน รูปปั้นเบรกสกายแต่ละรูปนั้นมีพลังระดับราชัน ถ้าหานเซิ่นย่อขนาดของใบเสมาราชาแมลงปีศาจเพื่อป้องกันตัวเองแค่คนเดียว ความแข็งแกร่งของมันก็มากพอที่จะป้องกันการโจมตีของอีกฝ่ายได้ แม้แต่ราชันสิบคนโจมตีพร้อมๆกัน พวกเขาก็ไม่สามารถเจาะทะลุการป้องกันของมันได้ แต่ตอนนี้หานเซิ่นขยายใบเสมาราชาแมลงปีศาจเพื่อป้องกันศิษย์ของปราสาทนภาหนึ่งร้อยคนและยังคนของเผ่าเดม่อน บุดด้าและดราก้อนอีก นั่นทำให้ความแข็งแกร่งของมันลดลงอย่างมากและไม่สามารถทนต่อการโจมตีของรูปปั้นนับสิบได้

 

เมื่อเห็นว่าใบเสมาเริ่มสั่นสะเทือน พวกเขาก็รู้ว่ามันกำลังจะพังทลายในเร็วๆนี้ ทุกคนเริ่มจะหนีออกไปจากใบเสมา หานเซิ่นรู้ว่าถึงจะเตะพวกเดม่อน บุดด้าและดราก้อนออกไป ใบเสมาราชาแมลงปีศาจของเขาก็ไม่เพียงพอที่จะป้องกันคนของปราสาทนภาอยู่ดี

 

“หานเซิ่น ปล่อยพวกเราออกไป! แบบนั้นบางคนอาจจะรอดไปได้” ดราก้อนเอทตะโกนเมื่อรู้ว่าใบเสมากำลังจะพังทลาย

 

“อมิตตาพุทธ! พวกเราต้องสู้” มาร์ควิสบุดด้าพูด

 

ข่านขมวดคิ้ว สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย เขารู้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้คับขันอย่างมาก

 

หานเซิ่นอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ในจังหวะที่เขากำลังจะพูด พื้นดินก็เริ่มสั่นไหวราวกับแผ่นดินไหวลูกใหญ่กำลังมา หลังจากนั้นมันก็มีหลุมขนาดมหึมาเกิดขึ้นภายในเมือง พื้นผิวโลหะเริ่มจะร่วงลงไปในหลุมที่ไร้ก้นบึ้ง เสียงระเบิดดังออกมาจากหลุมนั้น ซึ่งบ่งบอกว่ามีบางสิ่งที่ใหญ่โตกำลังออกมา

 

รูปปั้นเบรกสกายทั้งหมดหยุดโจมตีหานเซิ่นและหันความสนใจไปที่หลุมไร้ก้น

 

ซีโน่เจเนอิคแมลงปอต่างพากันบินหนีไปอย่างแตกตื่น ถ้ามันมีพลังที่ทำให้ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าทอดทิ้งดวงดาวของตัวเองไปจริงๆ มันก็คงจะฆ่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางทางของมัน

 

‘ไม่มีทาง! เราเดาถูกหรอเนี่ย?’ หานเซิ่นยิ้มแห้งๆออกมา

 

รูปปั้นเบรกสกายที่ถูกสั่งโดยคลีนส์ก้าวถอยออกไป พวกมันจ้องมองไปที่หลุมขนาดใหญ่ยักษ์

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset