Super God Gene – ตอนที่ 2152

พวกเขารออยู่สักพัก แต่มันก็ยังไม่มีอะไรออกมาจากหลุมนั่น และยิ่งเวลาผ่านไป ความถี่ของเสียงระเบิดแต่ละครั้งก็ห่างจากกันไปเรื่อยๆ

 

ขณะที่ทุกคนกำลังจ้องมองด้วยความสับสน สายตาของเขาก็เหลือบไปมองที่ด้านข้างของหลุม มันมีอุ้งมือสีขาวพร้อมกับกรงเล็บโลหะยื่นออกมาจากหลุม กรงเล็บนั้นดูแหลมคม แต่อุ้งมือมีขนาดพอๆกับมือของเด็กทารกเท่านั้น

 

อุ้งมือน้อยๆคำไปรอบๆเพื่อสัมผัสพื้น เมื่อมันจับขอบหลุมและเริ่มจะดึงตัวเองขึ้นมา ใบหน้าโลหะสีขาวก็เผยให้เห็น ดวงตาของมันกลมโต

 

เมื่อมันโผล่ออกมาจากหลุมแล้ว ทุกคนก็มองเห็นมันอย่างชัดเจน มันเป็นอสูรสีขาวตัวน้อยที่ดูคล้ายคลึงกับตัวนิ่ม ตัวของมันยาวไม่เกินหนึ่งเมตร ซึ่งเมื่อเทียบกับรูปปั้นโลหะแล้ว อสูรโลหะสีขาวตัวนั้นก็ดูเหมือนกับมดตัวหนึ่ง

 

หลังจากที่อสูรตัวน้อยขึ้นมาบนพื้น ร่างกายอันจ้ำม่ำของมันก็เริ่มต้วมเตี้ยมเข้ามาหาพวกเขา มันไม่ได้รวดเร็วอะไร และหางกับตูดของมันก็ส่ายไปมาเหมือนกับก้นของทารก

 

หานเซิ่นมองไปที่อสูรตัวนั้นด้วยท่าทางสับสน มันอาจจะดูเหมือนกับตัวนิ่ม แต่มันไม่ใช่ตัวนิ่มซะทีเดียว หานเซิ่นนึกถึงสิ่งมีชีวิตหนึ่งที่ดูคล้ายคลึงมันยิ่งกว่านั้น

 

“ตัวกินโลหะ!” หานเซิ่นจดจำตัวกินโลหะได้ มอนสเตอร์ตัวนี้มีขนาดเล็กกว่าตัวกินโลหะ แต่นอกจากเรื่องนั้นแล้ว มันก็ดูเหมือนกันไม่มีผิด

 

‘เมื่อคำนึงเรื่องที่ทั้งดวงดาวเป็นโลหะทั้งหมด นี่ก็อาจจะเป็นตัวกินโลหะจริงๆ แต่เมื่อดูจากขนาดตัว มันเป็นแค่ทารกเท่านั้น หรือว่าบางทีมันอาจจะมีตัวผู้ใหญ่ซ่อนอยู่ในหลุมนั่นอีก?’ หานเซิ่นคิดด้วยความกังวล

 

ถึงแม้สิ่งมีชีวิตตัวนี้จะไม่ใช่สายพันธุ์เดียวกับที่หานเซิ่นเคยเจอในก็อตแซงชัวรี่ แต่มันต้องเป็นชนิดเดียวกันอย่างแน่นอน อสูรตัวน้อยดูท่าทางมั่นใจ ขณะที่เดินต้วมเตี้ยมเข้าไปหาหนึ่งในรูปปั้นโลหะ

 

“จับมัน!” คลีนส์มันตะโกนบอกพวกพ้อง เขามีความคิดที่คล้ายคลึงกับหานเซิ่น ถ้าอสูรตัวนั้นเป็นบางสิ่งที่อันตรายจริงๆแล้วล่ะก็ เขาก็อยากจะจับตัวของมันเอาไว้โดยเร็วที่สุด

 

เดสทรอยเยอร์ที่ควบคุมรูปปั้นโลหะรีบบังคับรูปปั้นโลหะเข้าไปจับตัวอสูรตัวน้อยในทันที

 

อสูรตัวนั้นมีขนาดเล็กและเชื่องช้าอย่างมาก และในขณะที่มือขนาดใหญ่เอื้อมเข้ามาจับอสูรตัวน้อย มันก็จ้องมองไปที่มืออย่างทำอะไรไม่ถูก

 

แต่เมื่อมือขนาดใหญ่เข้ามาถึง อสูรตัวน้อยก็อ้าปากของมันออก ในจังหวะเดียวกันดวงตาของทุกคนก็เบิกกว้าง ไม่เว้นแม้แต่หานเซิ่น เขาเคยเห็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวมามากมายในชีวิต และเขาก็เคยสิ่งมีชีวิตหนึ่งกินกลืนสิ่งมีชีวิตอื่นมาก่อน แต่เขาไม่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตที่ทำอะไรแบบนี้มาก่อน

 

อสูรน้อยมีขนาดตัวที่เล็กมากๆ แต่เมื่อมันอ้าปาก หัวของมันก็ขยายใหญ่ขึ้นอย่างน่าตกใจ ทั้งตัวของอสูรน้อยนั้นเปลี่ยนกลายเป็นปากโลหะขนาดมหึมา ลำคอของมันดูเหมือนกับเหวลึกอันมืดมิด รูปปั้นโลหะนั้นสูงหลายร้อยเมตร แต่มอนสเตอร์ตัวน้อยก็สามารถกลืนกินรูปปั้นโลหะเข้าไปในคำเดียว

 

มันเป็นภาพที่น่าขนลุก มันน่าตกใจยิ่งกว่าการที่มดตัวหนึ่งกินช้างซะอีก

 

แต่มันก็เกิดขึ้นจริง รูปปั้นโลหะนั้นหายเข้าไปในปากพร้อมกับเดสทรอยเยอร์ที่บังคับมันอยู่

 

หลังจากนั้นมอนสเตอร์โลหะตัวน้อยก็เรอออกมาอย่างมีความสุข ทุกคนที่อยู่ที่นี้รู้สึกหนาวขึ้นมาทันที แม้แต่เดสทรอยเยอร์ที่ควบคุมรูปปั้นโลหะอยู่ก็ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว

 

อสูรตัวน้อยเลียริมฝีปากด้วยลิ้นยาวๆของมัน หลังจากนั้นมันก็หันไปหารูปปั้นโลหะที่อยู่ใกล้ที่สุด ก่อนจะกระโดดออกไปข้างหน้า

 

“ฆ่ามัน!” คลีนส์มันตะโกน เขาควบคุมรูปปั้น 3 หัว 6 แขนและใช้หมัดปล่อยปลดลำแสงใส่อสูรตัวน้อย รูปปั้นโลหะรูปอื่นๆก็เคลื่อนที่เข้าไปจู่โจมมอนสเตอร์ตัวน้อยเช่นกัน คลื่นไฟและน้ำแข็งถูกยิงออกไปจากรูปปั้นโลหะเพื่อจัดการกับอสูรตัวน้อย

 

ทันใดนั้นร่างกายของมอนสเตอร์ตัวน้อยก็ห่อหุ้มด้วยโล่โปร่งใส เมื่อโล่นั้นปรากฏขึ้นมา การโจมตีที่เข้ามาก็ถูกลบล้างไปอย่างสมบูรณ์ พวกมันไม่แม้แต่จะทำให้โล่ที่โปร่งใสสั่นไหวได้

 

“ตัวกินโลหะ มันคือตัวกินโลหะ” เมื่อหานเซิ่นเห็นโล่ป้องกัน เขาก็มั่นใจว่ามอนสเตอร์ตัวนี้คือตัวกินโลหะ พลังที่พวกมันมีคล้ายคลึงกันเกินไป

 

ตัวกินโลหะของก็อตแซงชัวรี่ก็สร้างโล่ป้องกันแบบเดียวกันได้ ถึงโล่ป้องกันของตัวกินโลหะที่หานเซิ่นเคยเจอจะอ่อนแอกว่านี้มาก แต่ความคล้ายคลึงกันระหว่างพวกมันเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัด

 

อสูรตัวน้อยวิ่งเข้าไปหารูปปั้นที่อยู่ใกล้ที่สุด ซึ่งการเคลื่อนไหวที่ดูเชื่องช้าก่อนหน้านี้ ตอนนี้กลายเป็นอะไรที่ดูน่ากลัว เมื่อมันอ้าปากขึ้นอีกครั้ง มันก็กลืนกินรูปปั้นโลหะเข้าไปทั้งตัว

 

มันยากที่จะจินตนาการได้ว่ามอนสเตอร์ตัวน้อยแบบนั้นกลืนกินรูปปั้นโลหะที่ใหญ่โตเหมือนกับภูเขาได้ยังไง

 

มาร์ควิสทุกคนมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความหวาดกลัว รูปปั้นโลหะมีความแข็งแกร่งระดับราชัน แต่พวกมันกำลังถูกกินเข้าไปทีละตัวๆ และถึงแม้มอนสเตอร์ตัวนั้นจะมีขนาดเล็ก แต่มันก็ต้องเป็นระดับเทพเจ้าอย่างไม่ต้องสงสัย

 

“วิ่ง!” หานเซิ่นตะโกนขณะที่ปิดใช้งานใบเสมา หลังจากนั้นมาร์ควิสทั้งหมดก็รีบพากันหนีออกไปจากเมือง

 

ต่อหน้าสิ่งมีชีวิตแบบนั้น มาร์ควิสอย่างพวกเขาไม่มีโอกาสจะทำอะไรได้ ตัวเลือกเดียวของพวกเขาก็คือการหนีไปจากที่นี่ พวกเขาได้แต่หวังว่าอสูรน้อยตัวนั้นจะสนใจแต่รูปปั้นเบรกสกาย นั่นเป็นโอกาสเดียวที่เหล่ามาร์ควิสจะหนีไปได้

 

ขณะที่หานเซิ่นวิ่งหนีไป เขาหันกลับไปมองและสังเกตเห็นว่าอสูรตัวน้อยเคลื่อนไหวระหว่างพวกรูปปั้นโลหะ รูปปั้นโลหะถูกกลืนกินตามกันไปติดๆโดยไม่สามารถตอบโต้อะไรได้เลย

 

ถึงแม้รูปปั้นโลหะจะตัวใหญ่โตเหมือนกับภูเขา แต่เมื่ออยู่ต่อหน้ามอนสเตอร์โลหะตัวนั้น พวกมันก็เป็นเหมือนกับเด็ก เพียงแค่คำเดียวก็เพียงพอที่จะกลืนกินพวกมันแต่ละตัวเข้าไป

 

หานเซิ่นได้แต่หวังว่ามอนสเตอร์โลหะตัวน้อยจะไม่สนใจสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กและอ่อนแออย่างสมาชิกในทีมของเขา ถ้ามันอยากจะลองลิ้มรสพวกเขาล่ะก็ มันก็เป็นจุดจบของพวกเขา

 

คลีนส์มันและพวกพ้องตกตะลึง ตอนนี้พวกเขารู้สึกตัวว่าสิ่งที่หานเซิ่นพูดเป็นความจริง เบรกสกายระดับเทพเจ้าอาจจะหวาดกลัวต่อสิ่งมีชีวิตตัวน้อยนี้จริงๆ

 

และถ้ามันทำให้ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าหนีไปด้วยความหวาดกลัวได้ ใครจะรู้ว่ามันยังมีความสามารถอะไรซ่อนอยู่อีก

 

ด้วยเหตุนั้นคลีนส์มันจึงหันหลังและวิ่งหนีไปอย่างไม่ลังเล เขายังตะโกนบอกให้เดสทรอยเยอร์คนอื่นทำเหมือนกัน แต่ว่ามันสายเกินไปแล้ว มันใช้เวลาเพียงไม่นานก่อนที่มอนสเตอร์ตัวน้อยจะกลืนกินรูปปั้นโลหะที่เหลืออยู่ไปจนหมด

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset