หลังจากที่เตรียมพร้อมแล้ว หานเซิ่นก็พาเป่าเอ๋อและตัวกินโลหะไปที่เมทัลเวิลด์
หลังจากที่มาถึง หานเซิ่นไม่เสียเวลามองหาภัยอันตราย เขาอุ้มเป่าเอ๋อกับตัวกินโลหะเอาไว้และเทเลพอร์ตหนีไปจากบริเวณนั้นด้วยความเร่งรีบ
โชคดีสิ่งที่เขาเป็นกังวลมากที่สุดไม่เกิดขึ้นมา อสูรโลหะตัวน้อยไม่ได้ดักรอโจมตีเขาในตอนที่กลับมา
แต่เมื่อหานเซิ่นมองไปรอบๆ สีหน้าของเขาก็ซีดเผือก สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดอาจจะไม่เกิดขึ้นก็จริง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าการมาถึงของเขาจะผ่านไปโดยไม่มีใครเห็น แทนที่จะกลับลงไปในหลุมที่โผล่ออกมา อสูรโลหะตัวน้อยกลับนอนหลับอยู่บนซากปรักหักพัง
ซึ่งการเทเลพอร์ตของหานเซิ่นปลุกให้อสูรโลหะตื่นขึ้นมา มันลุกขึ้นและหันมามองที่หานเซิ่น
“เวรเอ๊ย! ถ้ารู้แบบนี้ก็คงจะไม่เทเลพอร์ตหรอก” หานเซิ่นรู้สึกหดหู่
ทันทีที่เห็นหานเซิ่น อสูรโลหะตัวน้อยก็ลุกขึ้น แต่เมื่อมันสังเกตเห็นตัวกินโลหะ ดวงตาของมันก็เบิกกว้าง ตัวกินโลหะของหานเซิ่นก็มองอสูรโลหะสีขาวด้วยความอยากรู้อยากเห็นเช่นกัน ตอนนี้อสูรโลหะสีดำกับสีขาวกำลังจ้องมองซึ่งกันและกัน
“มันได้ผล!” หานเซิ่นดีใจ
หลังจากที่อสูรโลหะสีขาวจ้องไปอีกฝ่ายสักพักหนึ่ง มันก็ส่งเสียงร้องออกมาเหมือนกับว่ามันกำลังพูดอะไรบางอย่าง หานเซิ่นไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่อย่างน้อยๆมันก็ฟังดูไม่เหมือนกับการข่มขู่
ตัวกินโลหะดิ้นออกจากแขนของหานเซิ่นและหล่นลงไปบนพื้น หลังจากนั้นมันก็ส่งเสียงร้องตอบอสูรโลหะสีขาว
อสูรโลหะสีขาวส่งเสียงร้องขึ้นมาอีกครั้งและเริ่มวิ่งเข้าไปหาตัวกินโลหะ
แน่นอนว่านี่ทำให้หานเซิ่นรู้สึกกังวล เขาต้องการอุ้มตัวกินโลหะขึ้นมาและวิ่งหนีไป แต่ตัวกินโลหะกลับวิ่งเข้าไปหาอสูรโลหะสีขาวแทน
หานเซิ่นรู้ว่าตัวกินโลหะไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ฉลาดอะไร แต่มันก็สัมผัสถึงอันตรายได้ ซึ่งมันไม่มีทางจะวิ่งเข้าไปหาอันตรายแบบนั้น ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงไม่ได้เทเลพอร์ตหนีไปและมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างระมัดระวัง
อสูรโลหะสีดำและขาววิ่งไปหยุดอยู่ตรงหน้ากัน พวกมันต่างก็จ้องมองอีกฝ่าย ตัวกินโลหะมีขนาดตัวใหญ่กว่าอสูรโลหะสีขาว แต่พลังของมันอ่อนแอกว่ามาก นั่นคือสิ่งที่ทำให้หานเซิ่นเป็นกังวล
อสูรทั้ง 2 ร่ายโล่ป้องกันของตัวเอง โล่ของอสูรโลหะสีขาวนั้นโปร่งใส แต่โล่ป้องกันของตัวกินโลหะได้ผสมผสานกับพลังของวิชาคอนซูม ด้วยเหตุนั้นมันจึงมืดมัวกว่าเล็กน้อย
หลังจากนั้นอสูรโลหะสีขาวก็เดินวนรอบๆและดมกลิ่นของตัวกินโลหะ
“นี่พวกมันกำลังพูดคุยกันด้วยรหัสลับใช่ไหม?” หานเซิ่นรู้สึกกังวลอย่างมาก เขากังวลว่าอสูรโลหะสีขาวจะค้นพบว่าตัวกินโลหะไม่ใช่สายพันธุ์เดียวกัน หรือบางทีมันอาจจะจู่โจมตัวกินโลหะ เนื่องจากเป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอกว่า
อสูรโลหะสีขาวเดินวนรอบๆตัวกินโลหะอยู่หลายรอบ และในที่สุดมันก็กระโดดขึ้น นั่นทำให้หัวใจของหานเซิ่นเกือบจะหยุดเต้น และในจังหวะที่เขากำลังจะเข้าไปช่วยตัวกินโลหะนั้น เขาก็รู้สึกตัวว่าจริงๆแล้วอสูรโลหะสีขาวตัวน้อยกระโดดลงไปในหลุมที่มันปรากฏตัวออกมาในตอนแรก
ตัวกินโลหะไม่ได้เคลื่อนไหวไปไหน มันแค่มองไปทางที่อสูรโลหะสีขาวหายตัวไป
หานเซิ่นปาดเหงื่อบนหน้าผาก ถ้าอสูรโลหะสีขาวต้องการจะฆ่าตัวกินโลหะล่ะก็ เขาก็ไม่รู้ว่าจะช่วยพวกพ้องของเขาได้ไหม
“ทุกอย่างยังโอเคอยู่ แต่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป? นี่พวกมันจะจดจำกันได้ไหมนะ? หรือว่าบางทีพวกมันจำเป็นต้องพูดคุยกันมากกว่านี้?” หานเซิ่นครุ่นคิดอย่างเป็นกังวล
ขณะที่หานเซิ่นยังคงครุ่นคิดอยู่นั้น อสูรโลหะสีขาวก็กลับออกมาจากหลุม ร่างกายอันจ้ำม่ำของมันค่อยๆเดินต้วมเตี้ยมเข้าไปหาตัวกินโลหะ
หานเซิ่นสังเกตเห็นว่าอสูรโลหะสีขาวกำลังคาบกิ่งโลหะที่มีความยาวประมาทแขนคนอยู่ บนกิ่งมีผลไม้โลหะอยู่หลายลูก เมื่ออสูรโลหะสีขาวเดินไปตรงหน้าตัวกินโลหะแล้ว มันก็วางกิ่งไม้นั้นลง
ตัวกินโลหะไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไร ดังนั้นอสูรโลหะสีขาวจึงเดินเข้ามาใกล้ๆและส่งเสียงร้องอีกครั้ง
หลังจากนั้นตัวกินโลหะก็ก้มหัวและกลืนผลไม้ลูกหนึ่งเข้าไป
เมื่ออสูรโลหะสีขาวตัวน้อยเห็นตัวกินโลหะกินผลไม้เข้าไป มันก็วิ่งวนรอบๆอย่างร่าเริง มันไปหยุดอยู่ข้างๆตัวกินโลหะและใช้ร่างกายของมันลูบสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่กว่า มันดูมีความสุขอย่างมาก
ตัวกินโลหะกินผลไม้โลหะลูกที่เหลืออยู่เข้าไป และร่างกายของมันก็เริ่มเรืองแสงขึ้นมา หลังจากนั้นตัวกินโลหะก็ปลดปล่อยสสารประหลาดออกมา มันค่อยๆกลายเป็นชุดเกราะจีโนที่ห่อหุ้มร่างกายของมัน ก่อนที่จะละลายเข้าไปในร่างกายของมันอีก
“มันกำลังจะกลายเป็นบารอนหรอเนี่ย?” หานเซิ่นทั้งประหลาดใจและดีใจ
หานเซิ่นดีใจที่อสูรโลหะสีขาวมอบผลไม้โลหะให้กับตัวกินโลหะ มันทำให้ตัวกินโลหะวิวัฒนาการไปเป็นบารอนได้ในทันที ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกมันเป็นของดีอย่างเห็นได้ชัด แต่เมื่อเป็นแบบนั้นตอนนี้มันก็ไม่สามารถกลับเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่ได้อีกแล้ว
‘แต่เมทัลเวิลด์แห่งนี้เป็นอะไรที่เหมาะกับมันมากกว่าเป็นไหนๆ และมันก็ไม่ต้องอยู่อย่างโดดเดียวในโกดังอีกต่อไปแล้ว’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง
อสูรโลหะสีขาวดูเหมือนว่ากำลังปกป้องตัวกินโลหะ ขณะที่ตัวกินโลหะกำลังอยู่ในระหว่างการวิวัฒนาการ อสูรโลหะสีขาวก็จ้องมองมาที่หานเซิ่นกับเป่าเอ๋อราวกับว่าพวกเขาเป็นหัวขโมย
“เจ้าคือคนนอกของที่นี่” นั่นเป็นสิ่งที่มันพยายามจะบอก ซึ่งมันทำให้หานเซิ่นรู้สึกอึดอัดขึ้นมา
การวิวัฒนาการของตัวกินโลหะดูเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดี ร่างกายใหม่ของมันดำมืดและเล็กลงกว่าเดิม แต่ร่างกายของมันก็ดูเป็นโลหะมากกว่าที่เคย
เมื่อเห็นว่าการวิวัฒนาการของตัวกินโลหะเสร็จสมบูรณ์แล้ว อสูรโลหะสีขาวก็เลียแก้มของตัวกินโลหะอย่างมีความสุข
แต่หานเซิ่นก็ยังคงกังวล ถ้าเขาไม่แน่ใจว่าตัวกินโลหะเป็นตัวผู้ล่ะก็ เขาก็คงจะคิดไปว่าอสูรโลหะสีขาวกำลังมองหาคนที่จะผสมพันธุ์ด้วยอยู่
“ตัวกินโลหะเป็นตัวผู้ ถ้าอสูรโลหะสีขาวเป็นตัวเมีย พวกมันก็จะผสมพันธุ์กันได้ แต่เจ้าอสูรโลหะสีขาวนั้นแข็งแกร่งมาก ไม่รู้ว่ามันมีชีวิตอยู่มานานแค่ไหนแล้ว แบบนั้นมันจะไม่แก่เกินไปสำหรับตัวกินโลหะหรอกหรอ?” หานเซิ่นมองพวกมันอย่างแปลกๆ
ตัวกินโลหะนั้นเงียบๆ ไม่เหมือนกับอสูรโลหะสีขาวที่ดูกระตือรือร้น ขณะที่อสูรโลหะสีขาวส่งเสียงหลายต่อหลายครั้ง แต่มันก็ได้รับเสียงตอบกลับแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
แต่ถึงอย่างนั้นอสูรโลหะสีขาวก็ดูมีความสุขอย่างมาก มันกลับลงไปในหลุมและนำผลไม้โลหะออกมามอบให้กับตัวกินโลหะเพิ่มอีก
“ว้าว! นี่มันกำลังจีบตัวกินโลหะอยู่อย่างนั้นหรอ? ถ้าเป็นอย่างนั้นการเสียสละก็เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ พวกเราจะหนีไปจากเมทัลเวิลด์ได้หรือไม่ ตอนนี้มันก็ขึ้นอยู่กับนายแล้วตัวกินโลหะ แสดงเสน่ห์ของนายออกมา!” หานเซิ่นส่งเสียงเชียร์ตัวกินโลหะ
แต่มันเห็นได้ชัดว่าตัวกินโลหะไม่เข้าใจว่าหานเซิ่นจะบอกอะไร ทั้งหมดที่มันทำก็คือกินผลไม้ที่อสูรโลหะสีขาวนำออกมาให้ มันขี้เกียจถึงขนาดที่ไม่แม้แต่จะพูดคุยกับอีกฝ่าย