“มันเป็นอะไรที่อันตรายอย่างมาก แต่ฉันชอบแนวคิดของมัน”
หานเซิ่นจดจำเนื้อหาทั้งหมดของเบรกซิกซ์สกาย เขามีแผนที่จะเรียนรู้มันเมื่อมีเวลาว่าง มันเป็นวิชาจีโนที่สามารถใช้เพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าได้ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่หานเซิ่นกำลังต้องการ
แต่มันก็เป็นอะไรที่ยากจะเรียนรู้ มันเป็นวิชาจีโนที่จำเป็นต้องใช้ความแม่นยำอย่างมาก ซึ่งระดับความยากของมันสามารถเทียบได้กับวิชาผนึกมารของปราสาทนภา
ถ้าให้เปรียบเทียบ วิชาจีโนนี้ก็เหมือนกับระเบิดปรมาณูของมนุษย์ ถึงแม้ผู้ใช้จะเข้าใจถึงหลักการทำงานของมัน แต่การพยายามใช้มันโดยที่ไม่ให้ระเบิดตัวเองไปด้วยก็เป็นเรื่องยากอยู่ดี
แน่นอนว่าหานเซิ่นไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องความแม่นยำ เพราะเขามีศาสตร์ตงเสวียนอยู่
แต่ถึงอย่างนั้นการฝึกมันก็จำเป็นต้องใช้เวลาอยู่ดี แถมในตอนนี้หานเซิ่นก็ยังมีวิชาอื่นที่จำเป็นต้องฝึกอีก ด้วยเหตุนั้นเขาจึงยังไม่คิดจะเริ่มฝึกมันในตอนนี้
หานเซิ่นมองดูรอบๆโกดังต่อ แต่เขาไม่พบอะไรที่น่าสนใจ และในที่สุดเขาก็กลับมาสนใจที่ลูกบาศก์โลหะอีกครั้ง
หานเซิ่นเริ่มสื่อสารกับอสูรโลหะสีขาวอีกครั้ง ถึงแม้ระหว่างพวกเขาจะมีกำแพงภาษาขวางกั้นอยู่ก็ตาม แต่หานเซิ่นก็ใช้ความพยายามอย่างมากในการก้าวข้ามมัน และเขาก็ใช้ตัวกินโลหะเป็นเหยื่อล่อเพื่อยั่วให้อสูรโลหะสีขาวร่วมมือกันกับเขา
ในที่สุดหานเซิ่นก็สามารถยืนยันได้ว่าอสูรโลหะสีขาวจะเหลือราชาแมลงปีศาจในสภาพปางตายเอาไว้ให้กับเขา และหลังจากที่ตกลงกันได้แล้ว หานเซิ่นก็เดินเข้าไปหาหนึ่งในลูกบาศก์โลหะ
อสูรโลหะสีขาวเคยกินแมลงปีศาจมาก่อน สิ่งเดียวที่มันไม่ชอบก็คือชั้นนอกของลูกบาศก์ เมื่อหานเซิ่นขอให้อสูรโลหะสีขาวเหลือยีนซีโน่เจเนอิคของแมลงปีศาจธรรมดาเอาไว้ เขาก็ถูกปฏิเสธในทันที แม้แต่การใช้ตัวกินโลหะล่อลวงก็ไม่สามารถเปลี่ยนจิตใจของมันได้ ดังนั้นหานเซิ่นจึงต้องยอมแพ้ในเรื่องนั้น
‘ด้วยราชาแมลงปีศาจ 24 ตัว นั่นควรจะทำให้เราได้รับวิญญาณอสูรราชาแมลงปีศาจอีกสักดวง เราต้องการแค่ดวงเดียวเท่านั้น’ หานเซิ่นคิดกับตัวเองขณะที่ยืนอยู่ต่อหน้าลูกบาศก์โลหะสีทองลูกหนึ่ง
รหัสผ่านของลูกบาศก์โลหะแต่ละลูกนั้นแตกต่างกันออกไป และการจะระบุรหัสผ่านของพวกมันเป็นอะไรที่น่าปวดหัว การจะตบฝ่ามือไปบนผิวของลูกบาศก์ได้ในลำดับที่ถูกต้องนั้นเป็นอะไรที่มีโอกาสน้อยยิ่งกว่าการถูกลอตเตอรี่ซะอีก
แต่หานเซิ่นไม่จำเป็นต้องพึ่งโชค ขณะที่เขาตรวจดูลูกบาศก์โลหะสีทอง แสงสีม่วงก็ไหลเข้ามาในดวงตาข้างขวาของเขา ม่านตาสีดำของเขากลายเป็นสีม่วง หลังจากนั้นมันก็แบ่งออกเป็น 4 มันกลายเป็นม่านตาสีม่วงที่ประกอบด้วย 4 กลีบ
นั่นคือวิญญาณอสูรที่หานเซิ่นได้รับมาจากการฆ่าเนตรมาร มันมีชื่อว่าผีเสื้อเนตรม่วงและมันก็เป็นวิญญาณอสูรระดับเทพเจ้า
ถึงแม้มันจะไม่ใช่วิญญาณอสูรสำหรับการต่อสู้ แต่หานเซิ่นก็ยังหลงรักมัน เขาถือว่ามันเป็นเหมือนกับทรัพย์สินที่มีประโยชน์ แม้แต่อาวุธวิญญาณอสูรระดับเทพเจ้ามันก็เป็นแค่อาวุธที่มีพลังระดับเทพเจ้าเท่านั้น ถึงแม้มันจะทำให้หานเซิ่นแข็งแกร่งขึ้นก็จริง แต่มันก็ไร้ประโยชน์เมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูระดับเทพเจ้าที่แท้จริง
แต่วิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงนั้นต่างออกไป ถึงแม้จะต้องเผชิญหน้ากับศัตรูระดับเทพเจ้า มันก็ยังเป็นอะไรที่มีประโยชน์มากๆ
หานเซิ่นจ้องมองไปที่ลูกบาศก์สีทองด้วยดวงตาข้างขวาและกลีบทั้ง 4 ในดวงตาของเขาก็เริ่มหมุนวน มันดูแปลกประหลาดมากๆ ขณะที่กลีบกำลังหมุนนั้นดวงตาข้างขวาของหานเซิ่นก็เห็นในบางสิ่งที่เขาไม่เคยทำได้มาก่อน
มันแตกต่างไปจากแสงเทพของเนตรมาร ดวงตาข้างขวาของหานเซิ่นไม่ได้มีผลในการจำกัดการเคลื่อนไหวศัตรู แต่มันทำให้หานเซิ่นแยกแยะโครงสร้างของสิ่งต่างๆและวิเคราะห์มันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เมื่อหานเซิ่นมองไปที่ลูกบาศก์ด้วงดวงตาสีม่วง มันก็ดูเหมือนกับว่าเขากำลังมองดูลำดับการก่อกำเนิดของลูกบาศก์สีทองที่กำลังถูกย้อนกลับ เขาเห็นส่วนประกอบของมันถูกแยกออกไปทีละส่วนจนกระทั่งมันกลายเป็นแค่กองวัตถุดิบ หานเซิ่นเห็นทุกขั้นตอนที่สิ่งต่างๆถูกสร้างขึ้นมา ถ้ามันมีวัตถุดิบแบบเดียวกันอยู่ เขาก็สามารถสร้างของแบบเดียวกันขึ้นมาได้
แต่หานเซิ่นไม่ได้มีแผนที่จะสร้างลูกบาศก์โลหะขึ้นมา ด้วยกระบวนการทั้งหมดถูกคลี่คลายต่อหน้าของเขา หานเซิ่นก็เริ่มจดจำรหัสผ่านที่ถูกใส่ไว้ในลูกบาศก์
หลังจากนั้นเขาก็เรียกวิญญาณอสูรกลับไปและเริ่มใช้ฝ่ามือตบใส่รอยฝ่ามือบนลูกบาศก์
เมื่อฝ่ามือสุดท้ายของหานเซิ่นตบลงบนลูกบาศก์ เขาก็รีบถอยออกไปโดยไม่ลังเล เขาดึงเป่าเอ๋อและตัวกินโลหะเข้ามาใกล้ๆหลังจากนั้นก็เรียกใบเสมาราชาแมลงปีศาจออกมา
ลูกบาศก์สีทองเริ่มเปิดออก และไม่นานฝูงแมลงปีศาจสีทองก็พากันบินออกมา พวกมันแต่ละตัวมีขนาดใหญ่พอๆกับมนุษย์
หานเซิ่นมองไปที่แมลงปีศาจสีทองและสังเกตเห็นว่าพวกมันดูเกือบจะเหมือนกับแมลงปีศาจสีฟ้า ซึ่งเห็นได้ชัดว่าพวกมันเป็นสายพันธุ์เดียวกัน
เมื่อได้เห็นแมลงปีศาจพวกนั้น อสูรโลหะสีขาวก็ดูดีใจอย่างมาก มันแค่ไม่ชอบชั้นนอกที่คลุมลูกบาศก์อยู่เท่านั้น พวกแมลงเป็นอะไรที่ค่อนข้างเอร็ดอร่อยสำหรับมัน
ก่อนที่แมลงปีศาจสีทองจะแพร่กระจายออกไป อสูรโลหะสีขาวก็เปิดปากของมันออกและกลืนกินแมลงทั้งฝูงเข้าไปในคำเดียว
“เฮ้! เฮ้! ไหนนายบอกว่าจะเหลือราชาแมลงปีศาจสีทองเอาไว้ให้กับฉันไง แต่นายกลับกินพวกมันทั้งหมดเข้าไป!” หานเซิ่นตะโกนอย่างไม่พอใจ
มอนสเตอร์จอมตะกละกินแมลงทั้งหมดเข้าไป หานเซิ่นใช้ความพยายามอย่างมากในการเปิดลูกบาศก์ แต่เขากลับไม่ได้รางวัลอะไรตอบแทน
ขณะที่หานเซิ่นกำลังเรียกร้องอยู่นั้น อสูรโลหะสีขาวก็เปิดปากและพ่นอะไรบางอย่างออกมา
มันคือคริสตัลแมลงสีทองหลายลูก พวกมันเรืองแสงสีทองอร่ามเหมือนกับอัญมณีที่หายาก ซึ่งพวกมันจะต้องเป็นยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชัน
นอกจากคริสตัลแมลงสีทองแล้ว มันยังมีแมลงปีศาจสีทองตัวหนึ่งถูกพ่นออกมาด้วยเช่นกัน ร่างกายของมันละลายไปครึ่งหนึ่งและอวัยวะภายในของมันก็ไหลออกมาทั่วร่าง มันดิ้นไปมาอยู่กับพื้นราวกับว่ามันจะขาดใจได้ทุกเมื่อ
“ขอบคุณ” หานเซิ่นรู้สึกอย่างมาก เขารีบใช้มีดเขี้ยวผีสิงฟันใส่ราชาแมลงปีศาจสีทองพร้อมกับพึมพำกับตัวเอง ‘มอบวิญญาณอสูรให้กับฉัน มอบวิญญาณอสูรให้กับฉัน! ถึงแม้วิญญาณอสูรของราชาแมลงตัวนี้จะเหมือนกับวิญญาณอสูรดวงที่ฉันมีอยู่ แต่มันก็ยังคงเป็นวิญญาณอสูรที่ดี ฉันจะได้มอบมันให้กับภรรยาและลูก พวกมันจะช่วยให้พวกเขาปลอดภัยจากภายอันตรายใดๆ มันจะมีแค่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าเท่านั้นที่เป็นภัยต่อพวกเขา’