Super God Gene – ตอนที่ 2181

หานเซิ่นเงยหน้าขึ้นมาและเห็นเฟเธอร์หญิงยืนอยู่ข้างๆเขา เธอมีดวงตาสีฟ้าและเส้นผมสีทอง ปีกสีขาวของเธอดูน่าดึงดูดอย่างมาก

 

หานเซิ่นมองไปรอบๆและเห็นว่าโต๊ะทุกตัวมีคนนั่งหมดแล้ว และมันก็มีที่นั่งว่างเหลืออยู่ไม่มากนักภายในร้านอาหารแห่งนี้

 

บาร์นั่งครองโต๊ะตัวหนึ่งอยู่ตามลำพัง แต่มันไม่มีใครอยากจะนั่งร่วมกับเขา

 

“เชิญตามสบาย” หานเซิ่นพูดอย่างเป็นกันเอง หลังจากนั้นเขาก็เมินเฉยต่อตัวตนของเฟเธอร์หญิงคนนั้นและกลับไปกินอาหารของตัวเองต่อ

 

บางอย่างดูเหมือนจะผิดปกติ บรรยากาศภายในร้านอาหารดูตึงเครียดขึ้นมา หานเซิ่นเชื่อว่ากำลังจะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น ด้วยเหตุนั้นเขาจึงมีแผนจะอยู่ที่นี่ต่อเพื่อดูว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น

 

เฟเธอร์หญิงสั่งอาหารบางอย่างมาทาน แต่เธอไม่ได้พูดอะไร และเมื่ออาหารมาถึง เธอก็เริ่มกินมันเงียบๆ

 

หลายๆเผ่าพันธุ์ยังคงพากันเข้ามาในร้านอาหาร แต่มันไม่มีโต๊ะหลงเหลือสำหรับพวกเขาอีกแล้ว ด้วยเหตุนั้นแต่ละคนจึงมองหาโต๊ะที่มีคนเผ่าพันธุ์เดียวกันนั่งอยู่ และเมื่อใครบางคนไม่สามารถหาที่นั่งได้ พวกเขาก็จะยืนติดกำแพงแทนที่จะออกไปจากร้าน

 

ในที่สุดดยุกคนหนึ่งที่มีหัวเป็นกระทิงก็มาถึง เขาและพวกพ้องเดินไปที่โต๊ะของผู้หญิงจากเอ็กซ์ตรีมคิง พวกเขาไม่ได้พูดอะไรและแค่ดึงเก้าอี้ออกมานั่ง

 

หานเซิ่นรู้ว่าอะไรก็ตามที่จะเกิดขึ้นต่อไปเป็นอะไรที่น่าสนุก

 

“ไสหัวไปซะ” ผู้หญิงจากเอ็กซ์ตรีมคิงพูดขึ้นมา ขณะที่เหล่าชายหัวกระทิงกำลังจะนั่งลง

 

“สาวน้อย อย่าได้อวดดีจนเกินไป นั่นจะไม่เป็นผลดีสำหรับเจ้า”

ดยุกหัวกระทิงพูด เขาไม่คิดจะฟังคำเตือนของผู้หญิงจากเอ็กซ์ตรีมคิง เขายิ้มขณะที่ดึงเก้าอี้ตัวหนึ่งออกมา

 

หานเซิ่นถอนหายใจเมื่อเห็นอย่างนั้น เหล่าคนหัวกระทิงโง่เขลากว่าที่หานเซิ่นคาดคิดเอาไว้ ถึงแม้พวกเขาจะไม่รู้ว่าเธอมาจากเอ็กซ์ตรีมคิง แต่พวกเขาก็ควรจะรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับผู้หญิงคนนั้น เธอนั่งอยู่ตามลำพังขณะที่โต๊ะอื่นเต็มไปด้วยผู้คน นอกจากนั้นแล้วเขายังกล้ายั่วยุเธอด้วยคำพูดแบบนั้นอีก

 

ขณะที่ดยุกหัวกระทิงนั่งลง ผู้หญิงคนนั้นก็ขยับแขนของเธอ ก่อนที่คนหัวกระทิงจะรู้สึกตัวว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็ถูกส่งกระเด็นออกไปแล้ว

 

ปัง!

 

ดยุกคนนั้นลอยไปชนเข้ากับกำแพงและทะลุผ่านออกไปนอกร้านอาหาร เขาพยายามพยุงตัวเองขึ้นมาขณะที่ในปากเต็มไปด้วยเลือด

 

ทุกคนมองไปที่ผู้หญิงจากเอ็กซ์ตรีมคิงด้วยความตกใจ คนหัวกระทิงคนอื่นรีบถอยออกมาด้วยความหวาดกลัว พวกเขาพยุงดยุกหัวกระทิงที่ได้รับบาดเจ็บขึ้นมาและรีบหนีไปจากที่นั่นโดยไม่พูดอะไรสักคำ

 

ถึงแม้ดยุกหัวกระทิงจะไม่ใช่ยอดฝีมืออย่างแท้จริงๆ แต่การที่ตบธรรมดาของผู้หญิงคนนี้เกือบจะฆ่าเขาได้นั้น มันก็เห็นได้ชัดว่าเธอมีพลังมหาศาล

 

ชิงหลีนั่งลงข้างๆหานเซิ่นและกระซิบบอกเขา “ในตอนนี้ทุกเผ่าพันธุ์กำลังคิดว่าคนทรยศนั้นซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งในเมืองสตีล พวกเขาตรวจเช็คทุกหนทุกแห่งด้วยความหวังที่จะหาคนทรยศคนนั้นให้เจอ พวกคนหัวกระทิงและเดสทรอยเยอร์ดูเหมือนว่าจะมีความเกี่ยวข้องกัน ถ้าข้าเดาไม่ผิดล่ะก็ พวกเขาถูกส่งมาที่นี่เพื่อทดสอบผู้หญิงคนนั้น แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ และพวกเขาก็กำลังสงสัยว่านางจะใช่คนทรยศนั่นหรือเปล่า”

 

“เจ้ารู้ไหมว่าคนทรยศนั่นมาจากที่ไหน?” หานเซิ่นถาม

 

ชิงหลีคิดอยู่ชั่วครู่ “คนที่ทรยศเดสทรอยเยอร์ไม่ใช่คนของเดสทรอยเยอร์เอง แต่เขาเป็นคนนอกที่เข้าร่วมกับเดสทรอยเยอร์ แต่เดสทรอยเยอร์ไม่ได้บอกว่าคนๆนั้นเป็นเผ่าพันธุ์ไหน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ว่ามันเป็นใครกันแน่ จากการสืบสวนของพวกเรา เผ่าพันธุ์ของคนทรยศยังไม่ถูกตัดสิน และมันก็เป็นไปได้สูงที่คนทรยศจะเปลี่ยนรูปลักษณ์เป็นเผ่าพันธุ์ไหนก็ได้”

 

หลังจากนั้นชิงหลีก็มองไปที่เฟเธอร์หญิง ดวงตาของเธอแคบลงเล็กน้อยด้วยความสงสัย

 

หานเซิ่นพยักหน้าและถาม “เจ้ารู้ไหมว่าสมบัติที่คนทรยศขโมยไปคืออะไร?”

 

ชิงหลีพยักหน้าและพูด “มันก็พอจะมีข่าวอยู่บ้าง แต่ข้าไม่แน่ใจว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่ มันดูเหมือนว่าคนทรยศนั้นจะขโมยสมบัติระดับเทพเจ้าที่เรียกว่าไบเบิลเดสทรอยเยอร์ไป นั่นเป็นเหตุผลที่เดสทรอยเยอร์ต้องการหาตัวคนๆนั้นให้เจอ พวกเขาจำเป็นต้องชิงไบเบิลเดสทรอยเยอร์กลับไป เผ่าพันธุ์อื่นๆก็กำลังหมายตาสมบัตินั้นเช่นเดียวกัน และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้สถานการณ์เป็นอะไรที่ซับซ้อน”

 

“เจ้าไปได้ข้อมูลพวกนี้มาจากไหนกัน?” หานเซิ่นมองเธออย่างแปลกๆ

 

“ไม่มีใครรู้ถึงแหล่งที่มาของมัน แต่ข้อมูลนี้ถูกพูดถึงทุกหนทุกแห่ง”

ชิงหลีดูสับสน หลังจากนั้นเธอก็ถามหานเซิ่น “เจ้าคิดว่ามันเป็นความจริงไหม?”

 

หานเซิ่นยักไหล่ของเขา “บางทีคนทรยศนั่นอาจจะเป็นคนที่ปล่อยข่าวลือพวกนี้เพื่อสร้างความโกลาหลก็ได้ นั่นอาจจะเป็นหนทางที่ทำให้เขาหนีรอดออกไปได้ ไม่อย่างนั้นแล้วทำไมความลับแบบนี้ถึงได้แพร่กระจายออกไปเร็วนัก แน่นอนว่านี่เป็นแค่การคาดเดา ข้าไม่ได้รู้อะไรมาก”

 

หานเซิ่นหยุดไปชั่วครู่ก่อนจะถามขึ้นมา “ว่าแต่ไบเบิลเดสทรอยเยอร์ที่เจ้าพูดถึงมันคืออะไร? มันฟังดูเหมือนกับวิชาจีโนตัวหนึ่ง แบบนั้นทำไมถึงบอกว่ามันเป็นสมบัติ?”

 

ชิงหลีมองหานเซิ่นด้วยความประหลาดใจ “เจ้าไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับไบเบิลเดสทรอยเยอร์อย่างนั้นหรอ? มันเป็นสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดของเดสทรอยเยอร์ จากเรื่องราวนั้นบอกเอาไว้ว่าในตอนที่เดสทรอยเยอร์อัลฟ่าตายไป ยีนซีโน่เจเนอิคของเขากลายเป็นสมบัติระดับเทพเจ้า และมันก็กักเก็บพลังของเดสทรอยเยอร์อัลฟ่าเอาไว้ แต่ทว่าการจะสืบสานพลังนั้นเป็นเรื่องยากมากๆ ด้วยแหตุนั้นพวกเขาจึงใช้พลังของไบเบิลเดสทรอยเยอร์ไม่ได้”

 

“แต่ถึงอย่างนั้นไบเบิลเดสทรอยเยอร์ก็ยังคงเป็นสมบัติที่สำคัญที่สุดของพวกเขา พวกเขาหวงแหนมันในฐานะสิ่งที่เป็นตัวแทนของทั้งเผ่าพันธุ์ ดังนั้นเดสทรอยเยอร์จึงอยากได้ไบเบิลเดสทรอยเยอร์กลับไป พวกเขาจะไม่ปล่อยให้เผ่าพันธุ์อื่นเอามันไปได้”

 

หานเซิ่นไม่พูดอะไรอีก แต่เขาคิดกับตัวเอง ‘สมบัติระดับเทพเจ้านั้นฟังดูเป็นอะไรที่ล้ำค่าจริงๆนั่นแหละ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันมีพลังของเดสทรอยเยอร์อัลฟ่าอยู่ ไม่แปลกใจเลยที่ทุกคนดูจะต้องการมัน ตอนนี้แม้แต่เราเองก็ยังอยากจะได้มันมาเลย แต่ถึงจะพูดแบบนั้น ใครก็ตามที่ได้มันไปก็คงต้องพบกับโทสะของเหล่าเดสทรอยเยอร์’

 

หานเซิ่นสังเกตเห็นว่าเดสทรอยเยอร์ระดับมาร์ควิสและดยุกกำลังจ้องมองซีโร่ หานเมิ่งเอ๋อ นางฟ้าและเฟเธอร์หญิง ดวงตาของพวกเขาดูเอาจริงเอาจัง

 

หานเซิ่นสะดุ้งและคิดกับตัวเอง ‘นี่พวกเขาพบว่าคนทรยศที่ขโมยไบเบิลเดสทรอยเยอร์ไปไม่ใช่ผู้ชาย แต่ความจริงแล้ว…เป็นผู้หญิงอย่างนั้นหรอ?’

 

หลังจากนั้นหานเซิ่นก็มองไปที่เฟเธอร์หญิง ถ้าคนทรยศเป็นผู้หญิงจริงๆ เฟเธอร์หญิงคนนี้ก็ดูน่าสงสัย เพราะเธอตัวคนเดียว

 

ขณะที่เขาจ้องมองเธอ เขาก็รู้สึกสนใจมากขึ้นๆ พลังชีวิตของเฟเธอร์หญิงคนนี้ดูเหมือนกับเฟเธอร์ระดับมาร์ควิสธรรมดาๆ แต่เมื่อหานเซิ่นสแกนเธอด้วยออร่าศาสตร์ตงเสวียน เขาก็พบว่าพลังชีวิตของเธอดูเหมือนกับสิ่งที่ถูกปลอมแปลงขึ้นมา และจริงๆแล้วพลังชีวิตของเธอลึกมากๆ มันลึกซะจนออร่าศาสตร์ตงเสวียนของหานเซิ่นไม่อาจจะหยั่งถึง

 

‘หรือว่าเธอจะเป็นคนทรยศของเดสทรอยเยอร์ตัวจริง?’ หานเซิ่นคาดเดา

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset