“ดอลลาร์?” ผู้หญิงจากเอ็กซ์ตรีมคิงจดจำคนที่ลอยตัวอยู่ตรงหน้าเธอในตอนนี้ได้
เอ็กซ์ตรีมคิงเป็นเผ่าพันธุ์ที่ค่อนข้างหลงตัวเอง และเนื่องจากพวกเขามักจะคิดว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่นๆ พวกเขาจึงไม่ได้เข้าร่วมในบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโน แต่ทว่าพวกเขาก็ได้ดูการต่อสู้ที่เกิดขึ้นภายในนั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการต่อสู้ในระดับมาร์ควิส เธอได้ดูการต่อสู้ในทุกรอบ ด้วยเหตุนั้นเธอจึงจดจำชุดเกราะที่หานเซิ่นกำลังสวมใส่อยู่ได้
“ข้าจะเก็บสิ่งนี้ไป ตอนนี้เจ้าไปได้แล้ว” หานเซิ่นพูดขณะที่ตรวจดูเดสทรอยเยอร์ไบเบิลในมือ
เขาใช้ล่องหนน้อยเพื่อซ่อนตัวเองและติดตามไป๋หลินมา แต่เขารอคอยจนกระทั่งตอนนี้ถึงเริ่มเคลื่อนไหว
เขาไม่อยากลงมือทำอะไรในตอนที่อยู่ภายในซีโน่เจเนอิคสเปชซิกซ์สตาร์ แต่ขณะที่เขากำลังติดตามพี่น้องจิ้งจอกไป เขาก็สังเกตเห็นว่าผู้หญิงจากเอ็กซ์ตรีมคิงคนนั้นก็กำลังไล่ตามพวกเธอมาเช่นกัน
เขาจึงเห็นว่านี่เป็นโอกาสที่ดี ถ้าจะขโมยเดสทรอยเยอร์ไบเบิลไปและป้ายความผิดให้กับผู้หญิงจากเอ็กซ์ตรีมคิง
เนื่องจากพี่น้องจิ้งจอกทำการหนีไป ในอีกไม่นานทุกคนก็จะรับรู้ว่าเดสทรอยเยอร์ไบเบิลถูกขโมยไปโดยเอ็กซ์ตรีมคิง ซึ่งมันคงจะไม่มีใครเชื่อว่ามีใครบางคนกล้าเผชิญกับคนของเอ็กซ์ตรีมคิงและขโมยมันกลับไป ดังนั้นหานเซิ่นจะปลอดภัยจากการตกเป็นผู้ต้องสงสัย
และถึงผู้คนจะเชื่อว่าดอลลาร์ได้รับมันไป นั่นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพราะไม่มีใครรู้ว่าจริงๆแล้วดอลลาร์คือใคร ดังนั้นไม่ว่ายังไงหานเซิ่นก็จะปลอดภัยจากการตกเป็นผู้ต้องสงสัย
ในตอนแรกหานเซิ่นมีแผนจะลอบโจมตี แต่ผู้หญิงคนนั้นสัมผัสได้ถึงตัวตนของเขาซะก่อน นั่นทำให้เขาประหลาดใจอย่างมาก
“ในสายตาของเอ็กซ์ตรีมคิง การได้รับอันดับที่หนึ่งภายในบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโนนั้นไม่ได้เป็นอะไรมากกว่าเรื่องตลก” ผู้หญิงคนนั้นพูดอย่างอวดดี
โดยที่ไม่ลังเล เธอชกหมัดเข้าใส่หานเซิ่น หมัดในครั้งนี้รุนแรงยิ่งกว่าที่เขาเจอครั้งก่อน
อวกาศรอบๆตัวหานเซิ่นดูเหมือนจะถูกบีบอัดโดยแรงมหาศาลของหมัดนั้น อวกาศและกาลเวลาดูเหมือนจะถูกแช่แข็งและแตกเป็นเสี่ยงๆ
ถึงแม้เธอจะแกล้งทำเป็นว่าดอลลาร์ต้อยต่ำในสายตาของเธอ แต่หลังจากที่ได้เห็นการต่อสู้ของดอลลาร์กับเนตรมารและไผ่เดียวดาย เธอก็รู้ว่าเขาไม่ใช่ศัตรูที่เธอจะประมาทได้ เธอรู้ดีว่าเขาเป็นศัตรูที่ยากจะรับมือ ดังนั้นเธอจึงใช้พลังทั้งหมดในหมัดๆนั้น
เมื่อเห็นหมัดของผู้หญิงคนนั้นกำลังเข้ามาหาเขา หานเซิ่นก็ใช้ท่าตบขั้นสุดยอดสวนกลับไป
ปัง!
เมื่อหมัดของพวกเขาปะทะกัน แรงมหาศาลจากหมัดของเอ็กซ์ตรีมคิงก็ถูกแยกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นซีดไป และเธอก็ถอยออกไปด้วยความเร่งรีบ
แต่ว่ามันสายเกินไปแล้ว ถุงมือเกราะของเธอแตกสลายและพลังในการแยกสลายยังแพร่ขยายต่อไปที่ชุดเกราะของเธอ ทุกอย่างที่เธอสวมใส่อยู่กลายเป็นผุยผง ทำให้เธอเหลือเพียงแค่ร่างกายที่เปลือยเปล่า
ใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกของผู้หญิงจากเอ็กซ์ตรีมคิงร้อนขึ้นมาด้วยความอับอาย เธอเรียกชุดเกราะอีกชุดออกมาเพื่อปกปิดร่างกายของตัวเอง แต่ในเวลาที่เธอหันกลับไปมองคู่ต่อสู้อีกครั้ง ดอลลาร์ก็ได้หายตัวไปแล้ว
“ดอลลาร์ ข้าจะฆ่าเจ้า” เธอกัดฟันด้วยความโกรธ แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามสักแค่ไหน เธอก็หาตัวดอลลาร์ไม่เจอ
หานเซิ่นได้ชดใช้หมัดที่เคยติดค้างเธอบนดาวเบลด เขาได้ทำลายชุดเกราะของเธอ ด้วยเหตุนั้นตอนนี้ถือว่าพวกเขาเสมอกันแล้ว
หานเซิ่นรีบกลับไปที่ดาวโซดิ เขาจำเป็นต้องกลับไปเพื่อให้ทุกคนรู้ว่าหานเซิ่นยังอยู่ที่นั่น แบบนั้นจะไม่มีใครสงสัยในตัวเขาได้
ส่วนในเรื่องผู้หญิงจากเอ็กซ์ตรีมคิงนั้น เขาไม่คิดจะฆ่าเธอ เพราะยังไงซะตราบใดที่เธอยังมีชีวิตอยู่ หานเซิ่นก็สามารถใส่ร้ายว่าเธอเป็นคนที่ขโมยเดสทรอยเยอร์ไบเบิลไป แต่ถ้าเธอถูกฆ่าล่ะก็ นั่นจะเป็นเรื่องยาก เพราะนอกจากทางเดสทรอยเยอร์จะสืบสวนความตายของเธอแล้ว ทางเอ็กซ์ตรีมคิงก็คงจะต้องการรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเช่นเดียวกัน แบบนั้นมันจะเป็นเรื่องแย่สำหรับหานเซิ่น
หานเซิ่นกลับไปที่ดาวโซดิและไปพบกับพวกพ้องของเขา
ทุกเผ่าพันธุ์ที่ร่วมการค้นหายืนยันว่าผู้หญิงที่หนีไปคือจิ้งจอกเปลี่ยนร่าง แต่ทว่ามันยังมีความหวัง การปิดล้อมซีโน่เจเนอิคสเปชซิกซ์สตาร์ยังคงไม่ถูกยกเลิก ดังนั้นในที่สุดเหล่าราชันก็เข้ามาดูรอบๆด้วยตัวเอง
แต่พวกเขาก็ได้ข้อสรุปอย่างรวดเร็วว่าจิ้งจอกเปลี่ยนร่างนั้นหนีออกไปแล้ว 2 วันหลังจากนั้นเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น การปิดล้อมซีโน่เจเนอิคสเปชซิกซ์สตาร์ก็ถูกยกเลิก หานเซิ่นจึงพาพวกพ้องของเขากลับไปที่ดาวอุปราคา
ภายในฐานทัพบนดาวอุปราคา ในห้องลับแห่งหนึ่ง หานเซิ่นลูบปกของเดสทรอยเยอร์ไบเบิลอย่างมีความสุข
“สมบัติระดับเทพเจ้า มันเป็นอะไรที่ดีจริงๆที่ได้รับมา”
แต่หลังจากนั้นสักพัก ความสุขของหานเซิ่นก็เปลี่ยนกลายเป็นความขุ่นมัว เพราะไม่ว่าเขาจะพยายามยังไง เขาก็ไม่สามารถใช้พลังของเดสทรอยเยอร์ไบเบิลได้
หานเซิ่นรวมพลังแสงและความมืดเข้าด้วยกัน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่สามารถใช้พลังของเดสทรอยเยอร์ไบเบิลได้อยู่ดี
หานเซิ่นไม่สามารถแม้แต่จะเปิดหน้าปกของหนังสือเพื่ออ่านเนื้อหาข้างใน
หานเซิ่นพยายามลองหลายๆธาตุ แต่มันก็ไม่มีอะไรที่ได้ผล
ดังนั้นหานเซิ่นจึงใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียนและวิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงเพื่อตรวจสอบเดสทรอยเยอร์ไบเบิล หลังจากที่สังเกตอย่างละเอียด เขาก็ได้รู้ว่ามันถูกสร้างขึ้นมาจากการรวมของพลังแสง ความมืดและเคออส
“ยีนไม่เพียงพอ ไม่สามารถดูดซับยีนระดับเทพเจ้าได้”
หานเซิ่นได้ยินเสียงประกาศซ้ำๆที่บอกว่าเขาไม่สามารถดูดซับมันเข้าไปได้ เดสทรอยเยอร์ไบเบิลเป็นยีนซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้า ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถดูดซับมันเข้าไปได้ เนื่องจากเขายังเป็นแค่มาร์ควิส มันเป็นเหมือนกับร่างของเรเวนอาทิตย์
‘ถ้าเรากินหรือใช้มันไม่ได้ มันก็ไร้ประโยชน์ ถึงแม้มันจะเป็นระดับเทพเจ้าก็ตาม นอกจากนั้นถึงเราจะวิวัฒนาการไปถึงระดับเทพเจ้าได้ มันก็จำเป็นต้องใช้พลังธาตุแสง ความมืดและเคออสเท่านั้น พลังแสงและความมืดนั้นยากมากพออยู่แล้วที่จะจำลองขึ้นมา และเราก็ไม่เคยจำลองพลังเคออสได้เลยแม้แต่นิดเดียว’ หลังจากที่คิดอยู่พักหนึ่ง หานเซิ่นก็ตัดสินใจจะยอมแพ้
หานเมิ่งเอ๋อดันประตูห้องลับเปิดออกและยื่นหัวของเธอเข้ามา หลังจากนั้นเธอก็ชี้ไปที่หนังสือและพูด “พ่อ ลูกขอหนังสือนี้ได้ไหม?”
“ลูกต้องการอ่านมันอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นหันไปมองหานเมิ่งเอ๋อด้วยความประหลาดใจ เพราะเธอไม่เคยขออะไรจากเขามาก่อน
หานเมิ่งเอ๋อพยักหน้า เธอมองไปที่เดสทรอยเยอร์ไบเบิลและพูด “ด้วยเหตุผลบางอย่าง หนังสือนั่นดูเหมือนจะตอบสนองต่อพลังที่ลูกคุ้นเคย”
หานเซิ่นส่งมันให้กับเธอและคิดกับตัวเอง ‘นั่นก็ดูจะเป็นไปได้ เลือดของเมิ่งเอ๋อเป็นอะไรที่ซับซ้อน แต่เท่าที่จำได้ พ่อของเธอมีพลังธาตุแสง ขณะที่แม่ของเธอมีพลังแห่งความตาย และก็ยังเลือดของเรา…”
ขณะที่หานเซิ่นครุ่นคิดอยู่นั้น หานเมิ่งเอ๋อก็รับเดสทรอยเยอร์ไบเบิลไป หนังสือไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไรในตอนอยู่ในมือของหานเซิ่น แต่มันลุกเป็นไฟขึ้นมาเมื่อสัมผัสกับมือของเมิ่งเอ๋อ เปลวไฟห่อหุ้มหนังสือหินและมันก็แพร่ขยายออกไปเพื่อกลืนกินทั้งร่างของหานเมิ่งเอ๋อ
แสง 3 สีเริ่มส่องสว่างขึ้นมาจากสัญลักษณ์ 3 เหลี่ยมบนปกของหนังสือหิน สีขาวเป็นพลังแสง สีดำเป็นพลังความมืดและสีเทาเป็นพลังเคออส ซึ่งแต่ละสีนั้นสัมพันธ์กับธาตุเฉพาะของมัน