Super God Gene – ตอนที่ 2193

หานเซิ่นยืนอยู่ด้านบนของน้ำตกรวมกับพวกคางคกหยก และกำลังดูดซับพลังจันทราและพลังน้ำแข็งเข้าไป

 

เมื่อราชาไนท์ริเวอร์เห็นอย่างนั้น ใบหน้าของเขาก็บูดเบี้ยว

‘นี่มันต้องถูกจัดวางเอาไว้ก่อนที่นางจะจากไปแน่ๆ นั่นคงจะเป็นเหตุผลที่นางอนุญาตให้เขามาเป็นผู้พิทักษ์ตำหนักเย็น ทำไมนางถึงได้ปฏิบัติกับคนนอกดีขนาดนี้โดยไม่คิดถึงคนในเผ่าพันธุ์ตัวเอง?’

 

ราชาไนท์ริเวอร์คิดว่านี่ต้องเป็นแผนการที่ถูกวางเอาไว้โดยอี๋ซา นั่นเป็นคำอธิบายเดียวที่เขาจะคิดได้ถึงความต้านทานต่อพลังอันหนาวเย็นของหานเซิ่นและมิตรภาพของเขากับเหล่าคางคกหยก

 

ราชาไนท์ริเวอร์โกรธ แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรกับหานเซิ่นได้ เขารู้สึกเสียใจที่อนุญาตให้หานเซิ่นเข้ามาในดาวเบลด ถ้าเขาไม่ยอมทำตามคำขอของหานเซิ่น หานเซิ่นก็คงจะไม่สามารถทำอะไรแบบนี้ได้

 

ราชาไนท์ริเวอร์เลิกสนใจหานเซิ่น เขาเริ่มใช้วิชาจีโนของเขาเพื่อดูดซับแสงจันทร์เข้าไป

 

แต่ในจังหวะที่เขากำลังเตรียมจะดูดซับแสงจันทร์เข้าไปนั้น หานเซิ่นที่อยู่บนน้ำตกก็ก้าวออกมาข้างหน้าและเดินไปอยู่ตรงหน้าของพระจันทร์ที่คางคกหยกพ่นออกมา ซึ่งการทำแบบนั้นเขาจะบดบังแสงจันทร์ที่จะส่องไปหาราชาไนท์ริเวอร์โดยสมบูรณ์

 

บริเวณที่ราชาไนท์ริเวอร์อยู่ตกอยู่ในความมืด เขาตกอยู่ภายใต้เงาของหานเซิ่น ทำให้เขาไม่สามารถเห็นแสงจันทร์ที่จะดูดซับได้

 

‘บัดซบ!’ ราชาไนท์ริเวอร์คิด แต่ต่อหน้าคางคกหยกระดับเทพเจ้า เขาไม่กล้าจะส่งเสียงดังรบกวน เขาไม่อยากไปขัดจังหวะคางคกหยกเทพเจ้า ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการปลดปล่อยแสงจันทร์ออกมา

 

ราชาไนท์ริเวอร์ไม่ได้คิดว่าคางคกหยกเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีจิตใจกว้างขวางอะไร เพราะเจ้าคางคกหยกระดับเทพเจ้าเคยมีชื่อเสียงเรื่องความโหดร้าย ครั้งหนึ่งมันเคยกลืนกินดาวทั้งดวงและฆ่าชีวิตของผู้คนนับไม่ถ้วน ตัวตนที่แท้จริงของมันจึงไม่ทีทางเป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นมิตรไปได้

 

คางคกหยกระดับเทพเจ้าไม่ได้มาอยู่ในแนร์โรว์มูนในฐานะผู้อยู่ภายใต้บัญชาของรีเบท แต่มันเป็นความสัมพันธ์แบบหุ้นส่วน

 

คางคกหยกจำเป็นต้องพ่นแสงจันทร์ออกมาเพื่อฝึกวิชาจีโนของมัน ซึ่งแนร์โรว์มูนมีดวงจันทร์อย่างมากมาย ดังนั้นมันจึงเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการฝึกฝนของมัน

 

คางคกหยกมีเจตนาที่จะเข้ามาในแนร์โรว์มูนโดยการใช้กำลัง มันเริ่มสงครามและในระหว่างสงครามนั้น มันก็คงจะดับดวงไฟภายในจีโนฮอลล์ของรีเบทด้วย โชคดีที่ทางเอ็กซ์ตรีมคิงยื่นมือเข้ามาช่วย พวกเขาหยุดเจ้าคางคกหยกระดับเทพเจ้าเอาไว้และจัดทำข้อตกลงระหว่างคางคกหยกกับรีเบทขึ้นมา

 

เจ้าคางคกหยกได้รับอนุญาตให้อาศัยอยู่ภายในแนร์โรว์มูนได้ ซึ่งในเวลาเดียวกันรีเบทจะคอยดูแลมัน แต่รีเบทก็สามารถส่งใครคนหนึ่งที่มีแผ่นหยกผู้พิทักษ์มาเพื่อดูดซับพลังแสงจันทร์ของมันได้เช่นกัน และถ้าแนร์โรว์มูนเผชิญหน้ากับวิกฤติ คางคกหยกระดับเทพเจ้าก็จะยื่นมือเข้าช่วย

 

ตลอดเวลาหลายปีมราผ่านมา คางคกหยกถูกดูแลโดยรีเบท และตลอดช่วงเวลานั้นหนึ่งในรีเบทก็จะถูกเลือกให้มาดูดซับแสงจันทร์ มันเป็นความสัมพันธ์ที่สงบสุขไร้ซึ่งความบาดหมาง

 

ราชันอย่างราชาไนท์ริเวอร์นั้นมีอายุมาก เขายังคงจดจำช่วงเวลาที่เจ้าคางคกหยกพยายามใช้กำลังเพื่อฝ่าเข้ามาในแนร์โรว์มูนได้ ความหวาดกลัวในตอนนั้นยังคงฝังลึกมาจนถึงทุกวันนี้ คนที่อายุมากอย่างเขารู้ดีกว่าไม่ควรไปยั่วให้มันโกรธ

 

ตอนนี้หานเซิ่นกำลังบดบังแสงจันทร์อยู่ ความเศร้าหมองปรากฏบนใบหน้าของราชาไนท์ริเวอร์ หน้าผากของเขาเปลี่ยนสีเขียวและเส้นเลือดในดวงตาของเขาก็ดูเหมือนกับว่ากำลังจะระเบิดออกมา แต่เขาไม่สามารถทำอะไรกับเรื่องนี้ได้

 

ราชาไนท์ริเวอร์กัดฟันและมองไปรอบๆ เขาคิดกับตัวเอง ‘ถ้าหานเซิ่นขึ้นไปบนนั้นได้ แบบนั้นแล้วเราก็ควรเลือกที่สถานที่อื่นสำหรับนั่งลงเช่นกัน’

 

ราชาไนท์ริเวอร์ต้องการจะขยับไปในตำแหน่งอื่น แต่เขาไม่กล้าเข้าไปใกล้น้ำตก เขาแค่ต้องการจะหาตำแหน่งอื่นเพื่อดูดซับแสงจันทร์โดยตกอยู่ภายใต้เงาของหานเซิ่น

 

ราชาไนท์ริเวอร์ไม่แน่ใจว่าจะทำแบบนั้นได้หรือไม่ เพราะข้อตกลงกับคางคกหยกระดับเทพเจ้าบอกเอาไว้ว่าผู้พิทักษ์จะต้องอยู่บนระเบียงเท่านั้น

 

ถ้าเขาไปที่อื่นไม่ได้ อย่างนั้นแล้วมันก็จะไม่มีแสงจันทร์แม้แต่นิดเดียวที่ส่องมาถึงตัวของเขา เขาไม่สามารถฝึกวิชาได้ ซึ่งแน่นอนว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาจะยินยอมปล่อยให้มันเกิดขึ้น

 

ราชาไนท์ริเวอร์รวบรวมความกล้าเพื่อเสี่ยงขยับไปที่อื่น ในขณะที่จับจ้องไปคางคกหยกระดับเทพเจ้า เขายกขาข้างหนึ่งขึ้นด้วยเจตนาที่จะวางมันลงภายนอกระเบียง

 

แต่ในจังหวะที่เขายกขาขึ้นมา เจ้าคางคกหยกระดับเทพเจ้าที่อยู่บนน้ำตกก็ขยับลูกตามองมาทางเขา ราชาไนท์ริเวอร์รู้สึกหนาวถึงกระดูกสันหลัง เขาหยุดชะงักไปราวกับถูกสาปให้กลายเป็นหิน เหงื่อไหลลงมาจากหน้าผากของเขา และเขาไม่กล้าแม้แต่จะกระดิกนิ้ว เขาค่อยๆดึงขาของตัวเองกลับมา

 

คางคกหยกระดับเทพเจ้ากลับไปมองท้องฟ้าอีกครั้งราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

“ทำไม…ทำไม…ทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้?”

 

มันเป็นอะไรที่ยากลำบากกว่าที่ราชาไนท์ริเวอร์จะได้ตำแหน่งผู้พิทักษ์ตำหนักเย็นมา ตอนนี้ในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จ แต่เขากลับไม่สามารถเห็นแสงจันทร์ที่คางคกหยกระดับเทพเจ้าพ่นออกมาได้ เขาได้แต่นั่งอย่างไร้ประโยชน์ราวกับเป็นยามรักษาการณ์ทั่วๆไปคนหนึ่ง

 

“หานเซิ่น… หานเซิ่น… ข้าจะฆ่าเจ้า…” ราชาไนท์ริเวอร์พึมพำกับตัวเองขณะที่จ้องไปที่ด้านหลังของชายที่กำลังยืนอยู่บนน้ำตก

 

แน่นอนว่าในขณะที่คางคกหยกระดับเทพเจ้ายังอยู่ที่นี่ ราชาไนท์ริเวอร์ก็ได้แต่อยู่นิ่งๆภายในระเบียงของบ้าน เขากัดฟันแน่นจนพวกมันเกือบจะถูกบดกลายเป็นผง

 

หานเซิ่นไม่แบ่งแสงจันทร์ให้กับราชาไนท์ริเวอร์เลยสักนิดเดียว เขายืนอยู่ตรงหน้าแสงจันทร์ที่คางคกหยกระดับเทพเจ้าพ่นออกมา พร้อมกับดูดซับพลังของมันเข้าไปให้ได้มากที่สุด

 

หานเซิ่นรู้ว่าราชาไนท์ริเวอร์จะโกรธแค้นเขาในเรื่องนี้ แต่แล้วมันจะยังไง? ถ้าหานเซิ่นยอมแพ้โดยไม่ต่อสู้ นั่นจะเป็นสิ่งที่ทำให้ราชาไนท์ริเวอร์มีความสุข และมันก็จะมีแต่จะทำให้ความก้าวหน้าในการเพิ่มระดับของหานเซิ่นถูกหยุดไป

 

มนุษยชาติเกิดมาเพื่อการแข่งขัน มันเริ่มตั้งแต่ที่พวกเขายังเป็นแค่ตัวอสุจิในหมู่ตัวอสุจิอื่นๆนับพันล้าน ทุกสิ่งทุกอย่างคือการแข่งขัน แม้แต่ในครอบครัวการต่อสู้กันระหว่างพี่น้องเพื่อแย่งชิงทรัพยากรก็เป็นอะไรที่เห็นได้บ่อยๆ มนุษย์จะต่อสู้กับเพื่อนร่วมชั้นเพื่อโอกาส หรือต่อสู้กับเพื่อนร่วมงานเพื่อความก้าวหน้า พวกเขาต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตอื่นเพื่อแย่งชิงอาหาร และต่อสู้เพื่อโอกาสที่จะเห็นคนที่วิวัฒนาการเป็นคนแรก

 

คนที่ปฏิเสธจะต่อสู้ ไม่มีวันจะเหนือกว่าคนอื่น พวกเขาไม่มีวันที่จะไปถึงจุดสูงสุด

 

ถ้าหานเซิ่นหวาดกลัวที่จะต่อสู้ เขาก็คงจะไม่เดินทางบนเส้นทางที่กำลังเดินอยู่ในตอนนี้ แทนที่จะมาจักรวาลจีโน เขาสามารถอยู่บ้านอย่างมีความสุขกับครอบครัว

 

ใครก็ตามที่เดินทางมาจักรวาลจีโนไม่ว่าจะเป็นหานเซิ่นหรือหนิงเยวี่ย พวกเขาต่างรู้ว่าต้องเผชิญหน้ากับการต่อสู้ พวกเขาจะทำทุกอย่างเพื่อก้าวไปข้างหน้า

 

ราชาไนท์ริเวอร์ตัดขาดหานเซิ่นจากทรัพยากรทั้งหมดของรีเบท นั่นหมายความว่าเขาหยุดหานเซิ่นจากโอกาสในการวิวัฒนาการ ซึ่งมันเลวร้ายไม่ต่างไปจากการฆ่าคนในครอบครัวของหานเซิ่น และนั่นหมายความว่าหานเซิ่นจะไม่สามารถสงบศึกกับเขาได้อีกต่อไป

 

ในจังหวะที่หานเซิ่นรับมรกดมา เขาก็รู้ว่าหนึ่งในพวกเขาจำต้องเป็นฝ่ายที่เจ็บปวด

 

ราชาไนท์ริเวอร์ยืนอยู่บนระเบียงและจ้องมองไปยังเงาที่อยู่ด้านบนของน้ำตก เขาต้องการจะฆ่าหานเซิ่นอย่างที่สุด แต่เขาทำได้แค่ยืนดูอีกฝ่ายดูดซับแสงจันทร์เข้าไป

 

หานเซิ่นดูเยือกเย็นและภาคภูมิ ในจิตใจของเขาสาบานว่าถ้าใครก็ตามมาต่อสู้กับเขาเพื่อทรัพยากร พวกเขาก็จะเป็นคนถูกทิ้งให้กินฝุ่น

 

เงานั้นเป็นเหมือนกับขุนเขา และมันทิ้งให้ราชาไนท์ริเวอร์อ้าปากค้าง เขาต้องการจะฆ่าหานเซิ่นจริงๆ และเขาก็เริ่มวางแผนการที่จะทำให้หานเซิ่นตาย

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset