แสงจันทร์สว่างไสว และหานเซิ่นยังคงยืนอยู่ใกล้ๆกับคางคกหยก เขาดูดซับพลังจันทราและพลังน้ำแข็งเข้าไปได้อย่างเงียบๆ
คางคกหยกปฏิบัติกับหานเซิ่นเป็นอย่างดี เนื่องจากความเชี่ยวชาญในวิชากายหยกของเขา หลังจากที่เขาดูดซับพลังจันทราและพลังน้ำแข็งเข้าไป พลังและออร่าของเขาก็กลายเป็นอะไรที่ใกล้เคียงกับของคางคกหยก นั่นเป็นเหตุผลที่คางคกหยกไม่ว่าอะไรที่เขาจะไปอยู่ตรงนั้นด้วย
แต่นั่นยังไม่ใช่เหตุผลทั้งหมดที่คางคกหยกปฏิบัติกับเขาเป็นพิเศษ ความเมตตาส่วนใหญ่ของคางคกหยกระดับเทพเจ้าจริงๆแล้วมาจากเหตุผลสำคัญอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งก็คือความจริงที่หานเซิ่นเป็นบุตรแห่งจันทรา
ที่ไหนก็ตามที่หานเซิ่นไป พระจันทร์จะมอบแสงจันทร์ให้กับเขา และเนื่องจากคางคกหยกจำเป็นต้องพ่นพระจันทร์ออกมาเพื่อฝึกวิชาจีโนของมัน ด้วยเหตุนั้นตัวตนของหานเซิ่นจึงมีประโยชน์ต่อพวกมัน มันเป็นเรื่องดีสำหรับคางคกระดับเทพเจ้าและคางคกน้อยตัวอื่นๆ ดังนั้นคางคกหยกจึงปล่อยให้หานเซิ่นทำอะไรที่เขาต้องการ
หานเซิ่นรู้ว่าความเป็นมิตรขึ้นอยู่กับการแลกเปลี่ยนของเขา เขามีประโยชน์ต่อคางคกหยก และนั่นก็เป็นเหตุผลที่มันปฏิบัติกับเขาเป็นอย่างดี ไม่อย่างนั้นซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าอย่างมันก็คงจะบังคับให้เขาอยู่บนระเบียงเหมือนอย่างราชาไนท์ริเวอร์
หานเซิ่นไม่คิดว่าตัวเองงดงามมากไปกว่าคนอื่น และถึงแม้เขาจะหล่อเหลา เขาก็ไม่คิดว่าเจ้าคางคกหยกจะสามารถตัดสินความงามของมนุษย์คนหนึ่งได้
หานเซิ่นคิดได้แบบนั้น หลังจากที่เขานั่งลงและใช้เวลาครุ่นคิดกับมันดีๆ
หานเซิ่นได้สังเกตความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเจ้าคางคกหยกระดับเทพเจ้าอย่างใกล้ชิด ไม่อย่างนั้นเขาก็คงไม่กล้าต่อสู้กับราชาไนท์ริเวอร์เพื่อดูดซับพลังแสงจันทร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไม่มีแผ่นหยกผู้พิทักษ์อยู่ หานเซิ่นรู้สึกตัวว่าเจ้าคางคกหยกต้องการเขาและเจ้าคางคกก็จะไม่โกรธเพียงเพราะเขาไม่มีแผ่นหยกผู้พิทักษ์อยู่
พลังจันทราและพลังน้ำแข็งไหลเข้าไปในตัวของหานเซิ่น พวกมันทำให้ยีนของเขาค่อยๆวิวัฒนาการไปอย่างเงียบๆ
24 ชั่วโมงผ่านไป ราชาไนท์ริเวอร์ยังคงนั่งอยู่บนระเบียง ร่างกายของหานเซิ่นบดบังดวงจันทร์เอาไว้อย่างสมบูรณ์ ทำให้ราชาไนท์ริเวอร์ไม่สามารถดูดซับแสงจันทร์ได้เลยแม้แต่นิดเดียว
มันไม่สำคัญว่าราชาไนท์ริเวอร์จะโกรธสักแค่ไหน ทั้งหมดที่เขาทำได้ก็คือนั่งอยู่ตรงนั้น เขาไม่สามารถจากไปได้ เขาต้องรอจนกระทั่วคางคกหยกกลับเข้ามาในตำหนักเย็น เมื่อมันหายเข้าไปในประตูแล้ว เขาถึงจะออกไปจากระเบียงได้
แต่ราชาไนท์ริเวอร์ไม่มีแผนจะไปที่ไหนทั้งนั้น เขากำลังรอให้คางคกหยกกลับเข้าไปในตำหนักเย็น หานเซิ่นเป็นแค่มาร์ควิสคนหนึ่ง และเขาได้หยามศักดิ์ศรีของราชาไนท์ริเวอร์เป็นอย่างมาก นี่เป็นบางสิ่งที่ราชาไนท์ริเวอร์จะไม่ยอนทน เขาจะรอจนกระทั่งเจ้าคางคกหยกกลับเข้าไปในตำหนักเย็น และเมื่อถึงตอนนั้นเขาจะฆ่าหานเซิ่น
แต่ถึงอี๋ซาจะตายไปแล้ว การฆ่าหานเซิ่นก็ยังทำความเสียหายต่อชื่อเสียงของเขา แต่มันไม่มีใครจะมาละเมิดราชาไนท์ริเวอร์เพื่อปกป้องหานเซิ่นได้
ราชาไนท์ริเวอร์มั่นใจในตัวเองอย่างมาก เขารู้ถึงขีดจำกัดของตัวเองดี เขารู้ว่าอะไรที่ทำได้และทำไม่ได้ ไม่อย่างนั้นในตอนที่อี๋ซายังมีชีวิตอยู่ดี เขาก็คงจะไม่รออย่างใจเย็นและไม่เคยนำภัยมาสู่หานเซิ่น
ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ราชาไนท์ริเวอร์ใจเย็นขึ้นเรื่อยๆ เขาให้ความสนใจกับเวลาเป็นพิเศษ เขารู้ว่าทุกเข็มนาฬิกาที่เดินไปจะนำหานเซิ่นเข้าไปใกล้ความตายเรื่อยๆ
ในที่สุดคางคกหยกระดับเทพเจ้าก็พาคางคกหยกน้อยลงมาจากน้ำตก หลังจากนั้นพวกมันก็กลับเข้าไปในถ้ำหินอย่างที่ทำอยู่เสมอๆ
ราชาไนท์ริเวอร์ยังคงยืนอยู่ที่เดิม เขาจ้องมองไปที่หานเซิ่นด้วยดวงตาที่ดูแน่วแน่
ราชาไนท์ริเวอร์รู้ว่าเพื่อจะฆ่าใครบางคน เขาต้องใจเย็นเอาไว้ การให้ความโกรธเข้าครอบงำจะทำให้สูญเสียการควบคุมตัวเองไป ความผิดพลาดมักเกิดขึ้นบ่อยๆจากปล่อยให้ความโกรธควบคุมตัวเอง ถึงแม้หานเซิ่นจะเป็นแค่มาร์ควิสคนหนึ่ง ราชาไนท์ริเวอร์ก็ไม่อยากจะทิ้งหลักฐานเอาไว้มากจนเกินไป
ราชาไนท์ริเวอร์ไม่ใช่คนที่มีชื่อเสียงที่สุดในรีเบท พรสวรรค์ของเขาถือว่าอยู่ในระดับปานกลางเท่านั้น มันถือเป็นอะไรที่ค่อนข้างแปลกที่เขารอดและวิวัฒนาการมาถึงระดับราชันได้ ในขณะที่อัจฉริยะรุ่นเดียวกับเขาตายไปกันหมด
เมื่อคางคกหยกทั้งหมดกลับเข้าไปในถ้ำหินและประหินปิดลงแล้ว ราชาไนท์ริเวอร์ก็เริ่มเดินตรงเข้าไปหาหานเซิ่นในทันที เขาดูสงบนิ่งราวกับน้ำในบ่อ
“หานเซิ่น เจ้ายังเด็กเกินไป เจ้าไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เจ้าไม่รู้ว่าอะไรที่ควรทำและไม่ควรทำ” ราชาไนท์ริเวอร์พูดขณะที่เดินเข้าไปหาหานเซิ่น
เขาไม่ได้มีแผนที่จะจู่โจมในทันที เขาแค่เดินไปตามเส้นทางที่นำไปสู่หานเซิ่น ชุดสีดำของเขาโบกสะบัดท่ามกลางสายลมในยามค่ำคืน
มันไม่ใช่ว่าเขาไม่สามารถฆ่าหานเซิ่นได้ เขาแค่ไม่อยากจะทำมันที่นี่เผื่อในกรณีที่เขาเกิดไปรบกวนคางคกหยกระดับเทพเจ้าเข้า
ถึงแม้ราชาไนท์ริเวอร์จะรู้ว่าคางคกระดับเทพเจ้าจะไม่ล้างแค้นเขาต่อความตายของหานเซิ่น แต่ถ้าเขามีแผนที่จะฆ่าหานเซิ่น เขาต้องฆ่าภายในการโจมตีเพียงครั้งเดียว เขาไม่สามารถปล่อยให้หานเซิ่นมีโอกาสหนีไปได้ เขาจำเป็นต้องจบทุกอย่างในการโจมตีครั้งเดียว
“โอ้ ข้าไม่รู้อย่างนั้นหรอ? ถ้าอย่างนั้นช่วยบอกข้าได้ไหมว่าข้าควรทำอะไร?” หานเซิ่นถามพร้อมกับหัวเราะออกมา
“รอคอย เจ้าจำเป็นต้องอดทนและรอให้โอกาสมาถึง นักสู้ที่มีประสบการณ์จะมีความคิดนี้เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าตัวเอง” ราชาไนท์ริเวอร์พูด ริบบิ้นสีดำเริ่มหมุนวนรอบมือของเขา มันเป็นเหมือนกับงูที่ขดและเรื่อยรอบๆกิ่งไม้กิ่งหนึ่ง
“ท่านพูดถูก!” หานเซิ่นพยักหน้า
ราชาไนท์ริเวอร์หัวเราะและพูด “ถ้าอย่างนั้นมันก็ดูเหมือนว่าเจ้ายังพอจะเยียวยาได้ ข้าจะมอบโอกาสให้กับเจ้าอีกสักครั้ง”
“ไปจากที่นี่และอย่าได้ก้าวเท้าเข้ามาบนดาวเบลดอีก”
หานเซิ่นหยุดเดินและหันกลับมามองราชาไนท์ริเวอร์ด้วยความดูถูก
“สิ่งที่ท่านพูดอาจจะถูก แต่ท่านไม่รู้ถึงสายตาของข้า”
“นั่นหมายความว่ายังไง?” ราชาไนท์ริเวอร์ถามอย่างใจเย็น
หานเซิ่นหัวเราะ “ในสายตาของข้า ท่านไม่ใช่คนที่แข็งแกร่ง แบบนั้นทำไมข้าต้องรอคอยด้วย?”
“พูดได้ดี ถ้าอย่างนั้นเจ้าคงจะเตรียมตัวรับโทสะของราชันคนหนึ่งแล้วสินะ”
ราชาไนท์ริเวอร์พูดอย่างใจเย็น หลังจากนั้นมือของเขาก็ห่อหุ้มไปด้วยดอกกุหลาบน้ำสีดำ
น้ำสีดำกลายเป็นอสูรขนาดมหึมาที่แม้แต่ภูเขาทั้งลูกก็สามารถกลืนกินได้
ภาพของแม่น้ำเป็นอะไรที่น่าตกใจ ราชาไนท์ริเวอร์กำลังใช้วิชาจีโนที่ทรงพลังที่สุดของเขา เขาไม่ได้ออมมือเลยแม้แต่น้อย
ขณะที่หานเซิ่นดูเหมือนจะกำลังถูกกลืนกินโดยน้ำสีดำ ทันใดนั้นก็มีแสงสีฟ้าปรากฏขึ้นมาและก่อตัวเป็นโล่โปร่งใสที่ห่อหุ้มหานเซิ่นเอาไว้
ตูม!
อสูรน้ำสีดำที่น่าสะพรึงพุ่งลงมาและกลืนกินผืนดินที่หานเซิ่นอยู่เข้าไป มีรอยฉีกขาดเกิดขึ้นบนพื้นดินราวกับว่าผิวของดวงดาวเป็นแอปเปิล
“ข้ารู้ว่าเจ้ามีพลังป้องกันการโจมตีระดับราชันอยู่ แต่ไนท์ริเวอร์บีสต์ก็อตนั้นต่างออกไป พลังของมันอาจจะไม่ได้รุนแรงที่สุดในบรรดาการโจมตีระดับราชัน แต่มันอาจจะเป็นการโจมตีที่ยาวนานที่สุดเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าสมบัติของเจ้าจะทรงพลังสักแค่ไหน มันก็ไม่มีทางจะทนต่อการโจมตีนี้ได้ถ้าไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน” ราชาไนท์ริเวอร์พูดอย่างเลือดเย็น
อสูรน้ำสีดำเข้าห่อหุ้มรอบโล่ป้องกันของหานเซิ่นและมันไม่ได้ถอยกลับมา พลังของมันเป็นเหมือนกรดที่กัดกร่อนพลังงานของโล่ป้องกันสีฟ้า