ราชาไนท์ริเวอร์อยากจะฆ่าหานเซิ่นถึงขนาดยอมใช้มีดดาบเสี้ยวพระจันทร์ของเขา แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามสักแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถแตะต้องตัวของหานเซิ่นได้ เมื่อหานเซิ่นออกไปจากดาวเบลดโดยไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ความล้มเหลวของราชาไนท์ริเวอร์ก็ทำให้เขากลายเป็นตัวตลกภายในแนร์โรว์มูน
ถึงแม้ขุนนางทั่วไปจะไม่กล้าหัวเราะเยาะราชาไนท์ริเวอร์ต่อหน้า แต่ลับหลังพวกเขาต่างก็พูดคุยกันถึงเรื่องนั้น ทุกคนประหลาดใจที่โล่ป้องกันของหานเซิ่นทรงพลังถึงขนาดที่ราชาไนท์ริเวอร์ไม่สามารถทำอะไรได้
ไม่นานมานี้หานเซิ่นได้มอบใบเสมาราชาแมลงปีศาจของเขาให้กับซีโร่ นางฟ้าและหานเมิ่งเอ๋อ แต่เขาก็เก็บใบเสมาราชาแมลงปีศาจสีทองอันหนึ่งเอาไว้กับตัว
ที่หานเซิ่นทำแบบนี้ก็เพราะเขาต้องการให้พวกเธอคอยเฝ้าฐานทัพ ถ้าเกิดมียอดฝีมือระดับราชันบุกมาจู่โจมฐานทัพล่ะก็ พวกพ้องของเขาก็จะสามารถใช้ใบเสมาราชาแมลงปีศาจทั้ง 3 สีเพื่อป้องกันมันได้ เมื่อโล่ทั้ง 3 สีรวมพลังกันศักยภาพในการป้องกันของมันก็สามารถปกป้องได้ทั้งฐานทัพ และแม้แต่ยอดฝีมือระดับราชันก็ไม่สามารถผ่านเข้ามาข้างในได้ง่ายๆ
ถ้าราชาไนท์ริเวอร์ตัดสินใจที่จะทุ่มทุกอย่าง หานเซิ่นก็ต้องทำให้แน่ใจว่าฐานทัพของเขาจะปลอดภัย เขาไม่สามารถปล่อยให้ฐานทัพถูกโจมตีอย่างไร้การป้องกันได้
และสำหรับหานเหยียน หานเซิ่นติดต่อกับทางปราสาทนภาโดยหวังว่าพวกเขาจะให้เธอไปฝึกที่นั่นได้ ในตอนที่พวกเขายอมรับเธอไป หานเซิ่นก็ได้มอบวิญญาณอสูรใบเสมาสีทองให้กับเธอเพื่อความปลอดภัย
“มันจะเป็นอะไรที่ดีมากถ้าเราหาวิญญาณอสูรใบเสมามาเพิ่มได้อีก”
หานเซิ่นได้มันมาถึง 4 ดวงแล้ว แต่ในจิตใจของเขารู้ว่ามันยังคงไม่พอ
ในตอนนี้หานเซิ่นไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร เขาไปที่ตำหนักเย็นเพื่อดูดซับพลังจันทราและพลังน้ำแข็งทุกๆวันที่ 1 และ 15 ของเดือน ทุกครั้งเขาจะบดบังแสงจันทร์ที่ส่องไปที่ราชาไนท์ริเวอร์อีกด้วย ทำให้อีกฝ่ายไม่ได้รับอะไร
ในที่สุดราชาไนท์ริเวอร์ก็ได้รับตำแหน่งผู้พิทักษ์ตำหนักเย็นที่ต้องการมา แต่ทั้งหมดที่เขาทำได้ก็คือนั่งอยู่เฉยๆและมองดูหานเซิ่นรับผลประโยชน์ทั้งหมดไปคนเดียว สายลมที่สดชื่นคืออย่างเดียงที่เขาสามารถเพลิดเพลินได้ เขาเกลียดชังหานเซิ่น แต่ตอนนี้เขารู้ว่าไม่สามารถทำอะไรกับหานเซิ่นได้
เขามองหายอดฝีมือคนอื่นที่อาจจะหยุดหานเซิ่นจากการเดินทางมาที่ดาวเบลดได้ แต่ราชันที่เป็นเพื่อนกับเขาอย่างราชาชาโดว์ก็ยังไม่ตกลงจะช่วยเขาเลย
ผู้คนของแนร์โรว์มูนเห็นพ้องต้องกันในตอนที่อี๋ซาตายนั้นเป็นเพราะพวกเขาต้องการจะแบ่งมรดกของอี๋ซา แม้แต่ขุนนางที่ติดตามอี๋ซาก็ยังไม่ต้องการมอบของของอี๋ซาให้กับหานเซิ่นเลย เนื่องจากหานเซิ่นเป็นแค่คนนอกคนหนึ่ง และพวกเขาก็อยากจะได้ของบางอย่างของอี๋ซาไปเป็นของตัวเอง ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ไม่มีใครคัดค้านในเรื่องที่หานเซิ่นแทบจะไม่ได้รับอะไรเลย
แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันต่างออกไป มรดกของอี๋ซาถูกแบ่งเรียบร้อยแล้ว และราชาไนท์ริเวอร์ก็ได้กลายเป็นผู้พิทักษ์ตำหนักเย็น ดังนั้นมันไม่มีเหตุผลที่พวกเขาจะช่วยราชาไนท์ริเวอร์กำจัดหานเซิ่น
อี๋ซาเพิ่งจะตายไป และพวกเขาก็ได้ขโมยของที่ควรจะตกเป็นของหานเซิ่นไปแล้ว แบบนั้นผู้คนจะคิดยังไงถ้าพวกเขายังพยายามจะกำจัดหานเซิ่นอีก?
แถมหานเซิ่นยังมีโล่ป้องกันที่ทรงพลัง ซึ่งมันก็ไม่มีอะไรมารับประกันว่าพวกเขาจะทำลายมันได้ ราชาไนท์ริเวอร์ได้ลองพยายามดูแล้ว และนั่นก็ทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียง ราชาคนอื่นไม่ต้องการทำอะไรที่ไม่เป็นผลประโยชน์ต่อพวกเขา เพราะยังไงซะเรื่องนี้มันก็ไม่ใช่ธุระของพวกเขา
ราชาไนท์ริเวอร์ไม่สามารถหยุดหานเซิ่นได้ตามลำพัง ดังนั้นทุกวันที่ 1 และ 15 ของเดือนราชาไนท์ริเวอร์จะต้องมองดูหานเซิ่นดูดซับแสงจันทร์เข้าไป และที่เขาเกลียดมากที่สุดก็คือความจริงที่ว่าเขาเป็นคนอนุญาตให้หานเซิ่นเข้าออกดาวเบลดด้วยตัวเอง
แต่ตอนนี้มันสายเกินไปแล้ว หานเซิ่นไม่เคยพลาดแม้แต่วันเดียว และในที่สุดราชาไนท์ริเวอร์ก็สูญเสียความสนใจทั้งหมดที่จะเดินทางไปที่ดาวเบลด
หานเซิ่นใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกวิชากายหยกโดยหวังว่ามันจะกลายเป็นดยุกได้โดยเร็ว เพื่อที่เขาจะได้เริ่มดูดซับยีนซีโน่เจเนอิคระดับดยุกสักที
ราชาไนท์ริเวอร์ไม่ได้บ้าพอที่จะไปยังดาวอุปราคา ถึงแม้เขาอยากจะทำมากๆก็ตาม แม้แต่การสร้างปัญหาต่อการขนส่งเสบียงก็ดูจะเป็นไปไม่ได้
ภายในฐานทัพมันไม่ได้มีผู้คนอยู่มากมายอะไร นอกจากนั้นมันยังมีทรัพยากรอยู่บนดวงดาวเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเสบียงอาหารของพวกเขาคงจะไม่หมดลงในเร็วๆนี้แน่ และในเรื่องของเสบียงอื่นๆ พวกเขาก็อุดมสมบูรณ์ดีเช่นกัน
ราชาแบล็คมูนมอบการช่วยเหลือเพิ่มเติมให้กับหานเซิ่นเพื่อทำให้แน่ใจว่าดาวอุปราคาจะไม่ถูกตัดขาด การถูกตัดขาดไม่ได้มีความหมายอะไรมากต่อหานเซิ่น แต่เขาก็ซาบซึ้งในความช่วยเหลือที่ได้รับ
เวลาผ่านไป วิชากายหยกของหานเซิ่นก็ใกล้จะพัฒนาไปถึงระดับดยุกขึ้นทุกที แต่ก่อนที่เขาจะได้วิวัฒนาการไปสู่ระดับดยุก เขาได้รับข้อความจากหวงฟูจิ้ง
นั่นทำให้หานเซิ่นประหลาดใจ หวงฟูจิ้งเป็นผู้หญิงที่ไม่ค่อยพึ่งใครคนไหน สมญานามของเธอภายในสหพันธ์คือควีน และบุคลิกของเธอก็เหมาะสมกับสมญานามเป็นอย่างดี ถ้าเธอติดต่อหานเซิ่นมาล่ะก็ อย่างนั้นแล้วมันก็คงจะต้องมีเรื่องอะไรบางอย่างเกิดขึ้น
“เกิดอะไรขึ้น?” หานเซิ่นถามในทันที มันไม่มีความจำเป็นที่ต้องมากพิธีการกับเธอ
หวงฟูจิ้งตอบอย่างตรงๆเช่นกัน “ฉันอยู่บนดาวเจดดรัม มันมีปัญหา”
“บอกรายละเอียดมา” หานเซิ่นเปิดข้อมูลเกี่ยวกับดาวเจดดรัมขณะที่พูดกับเธอ
ดาวเจดดรัมเป็นดวงดาวของเผ่า1000สมบัติ มันมีซีโน่เจเนอิคที่มีชื่อว่าเจดดรัมอยู่ที่นั่น และดวงดาวนั้นก็ถูกตั้งตามชื่อของพวกมัน
สโตนดรัม สตีลดรัม บรอนซ์ดรัม ซิลเวอร์ดรัม โกลด์ดรัมและเจดดรัม ซีโน่เจเนอิคทั้ง 6 นั้นโดยปกติแล้วเป็นระดับดยุก และพวกมันทั้งหมดก็อาศัยอยู่ร่วมกันบนดาวเจดดรัม
จากข้อมูลที่หานเซิ่นหาได้ เจดดรัมสามารถกลายเป็นระดับราชันได้ แต่เจดดรัมระดับราชันจะถูกพาตัวออกไปจากดาวเจดดรัม
เหตุผลที่เจดดรัมเป็นที่แสวงหานั้นเป็นเพราะว่าพวกมันมีลักษณะเฉพาะตัวที่เป็นเอกลักษณ์ พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ และพวกเขาก็จำเป็นต้องมีเผ่าพันธุ์อื่นช่วยพวกมันในการเคลื่อนที่ไปรอบๆจักรวาล โดยปกติแล้วเหล่าดรัมจะติดตามเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่ง ถ้าใครคนหนึ่งอยากจะมารับดรัมตัวหนึ่งไปนั้น พวกเขาก็ต้องได้รับความยินยอมจากดรัมตัวนั้นซะก่อน แบบนั้นดรัมถึงจะปล่อยให้ตัวเองถูกพาออกไปจากดาวเจดดรัมได้
ซีโน่เจเนอิคเจดดรัมเป็นซีโน่เจเนอิคดนตรี พวกมันสามารถไปที่ไหนก็ได้และดูดซับพลังเสียงเพื่อเพิ่มระดับขึ้น พลังที่พวกมันใช้เองก็เป็นพลังเสียงเช่นกัน ถ้าใครคนหนึ่งเก็บเจดดรัมเอาไว้ข้างตัว เมื่อพวกเขาถูกโจมตีด้วยพลังเสียง เจดดรัมก็จะปกป้องพวกเขาและตอบโต้กลับด้วยพลังเสียงของมัน
หวงฟูจิ้งออกไปท่องโลกตามลำพัง และเมื่อเธอผ่านไปที่ดาวเจดดรัม เธอก็อยากจะลองเสี่ยงดวงจับดรัมสักตัวหนึ่ง
น่าประหลาดใจที่หวงฟูจิ้งได้รับความยินยอมจากเจดดรัมตัวหนึ่ง แต่หลังจากนั้นสถานการณ์ก็เริ่มจะแย่ลง
เจดดรัมเป็นซีโน่เจเนอิคของเผ่า1000สมบัติ เผ่า1000สมบัติเก็บพวกมันเอาไว้ในฐานะสมบัติแจกฟรี ใครก็ตามที่ซื้อตั๋วจากเผ่า1000สมบัติสามารถไปที่ดาวเจดดรัมและหาดรัมตัวหนึ่งที่ยอมรับพวกเขาได้
ส่วนคนๆหนึ่งจะหาดรัมและได้รับการยินยอมจากพวกมันได้ยังไงนั้น ทาง1000สมบัติไม่สนใจ พวกเขาแค่จะลงทะเบียนเอาไว้ว่าดรัมตัวนั้นถูกเอาไปแล้ว
หวงฟูจิ้งเป็นแค่เอิร์ลคนหนึ่ง ถึงแม้เธอจะได้รับการยอมรับจากเจดรัมและทาง1000สมบัติจะอนุญาตให้เธอเอามันไปได้ แต่ถ้าเธอเอามันไปลงทะเบียน ทุกคนก็จะรู้ว่าเอิร์ลคนหนึ่งที่ได้เอาเจดดรัมไป เธออาจจะยังปลอดภัยบนดาวเจดดรัม แต่หลายคนอาจจะมาแย่งมันไปจากเธอเมื่อเธอเดินทางออกมา
ด้วยเหตุนั้นหวงฟูจิ้งจึงยังไม่ได้นำมันไปลงทะเบียน แต่เธอติดต่อมาหาหานเซิ่นแทน