หานเซิ่นตรวจดูลวดลายสีแดงที่อยู่บนเจดดรัมอย่างระมัดระวัง และเขารู้สึกตัวว่าพวกมันเป็นรูปร่างของแมงป่อง โดยรวมแล้วมันมีขนาดพอๆกับฝ่ามือคน มันมีสีแดงเหมือนกับหยกซึ่งตัดกับผิวสีขาวของมัน ลวดลายนั้นดูไม่เหมือนกับว่าถูกสลักลงไป แต่มันดูเหมือนกับว่ามีแมงป่องจริงๆอาศัยอยู่ภายใต้ผิวของเจดดรัม
หวงฟูจิ้งมองไปที่บลัดสกอร์เปี้ยน เธอพูดออกมาด้วยความประหลาดใจ
“ข้าได้ยินมาว่าเจดดรัมคือดรัมที่ดีที่สุดที่คนคนหนึ่งจะหาได้ แต่อันนี้มีลวดลายแมงป่องอยู่ บางที่มันอาจจะเป็นอะไรที่ดียิ่งกว่า? มันอาจจะเป็นเจดดรัมระดับราชันที่บังเอิญเกิดมาแบบนี้”
หานเซิ่นพยักหน้า เขาดีใจอย่างมากกับการค้นพบในครั้งนี้ เจดดรัมปกติสามารถไปถึงระดับราชันได้ แต่ถ้านี่เป็นเจดดรัมที่เกิดมาในฐานะราชัน มันก็อาจจะไปถึงระดับเทพเจ้าได้ และถึงมันเป็นไปไม่ได้ อย่างน้อยๆมันก็คงจะกลายเป็นระดับครึ่งเทพได้
มันมีเผ่าพันธุ์ชั้นสูงหลายเผ่าพันธุ์ที่พึ่งพาการมีอยู่ของยอดฝีมือระดับครึ่งเทพสักคนเพื่อรักษาตำแหน่งของพวกเขา
หานเซิ่นรีบลงมือขุดบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมออกมา เขามาที่นี่เพื่อช่วยเหลือหวงฟูจิ้งเท่านั้น และเขาไม่เคยคาดคิดว่าได้รับอะไรดีๆติดมือกลับไปด้วย
“คนที่ดีก็มักจะได้รางวัลที่ดี ถ้าอย่างนั้นฉันคงจะต้องทำเรื่องดีๆให้บ่อยขึ้นสินะ?” หานเซิ่นพึมพำขณะที่ขุดมันออกมา
แต่หินรอบๆนั้นแข็งเกินไป หานเซิ่นจำเป็นต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการจะขุดเอาบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมออกมา
เจดดรัมนี้มีขนาดเล็กกว่าเจดดรัมตัวอื่นที่พวกเขาเก็บมาได้ มันมีขนาดเท่ากับกำปั้นของผู้ใหญ่ 2 กำปั้นประกบกัน ทั้ง 2 ด้านของมันมีสัญลักษณ์แมงป่องสีแดงอยู่ และมันก็ดูเหมือนกับว่ามีแมงป่องที่มีชีวิตอยู่ภายใน
ด้านข้างของเจดดรัมยังสลักด้วยสัญลักษณ์สีแดงอีกจำนวนมาก ซึ่งมันแตกต่างไปจากสิ่งที่จะพบเห็นได้บนเจดดรัมทั่วๆไป
หานเซิ่นยกมันขึ้นมาในมือของเขาด้วยความดีใจ เขารวบรวมพลังของตัวเองและตีใส่เจดดรัมนั้น
สิ่งที่ถูกปล่อยออกมาไม่ใช่เสียงของเจดดรัม เมื่อหานเซิ่นตีเจดดรัม เจดดรัมกลับสะท้อนพลังมาใส่หานเซิ่น มันทำให้เขาตกอยู่ในความเจ็บปวดทันที
“มันไม่ทำงาน!” แต่หานเซิ่นไม่คิดจะยอมแพ้ง่ายๆ เพื่อจะได้รับการยอมรับจากเหล่าดรัม หานเซิ่นจะต้องแสดงพลังของตัวเองให้มันเห็น
หานเซิ่นรวบรวมพลังของวิชากายหยกและตีผิวของเจดดรัมอีกครั้ง
เจดดรัมไม่เคลื่อนไหวหรือปลดปล่อยเสียงดนตรีออกมา มันมีแค่เสียงมือของหานเซิ่นตีเข้ากับบางสิ่งที่แข็ง
หานเซิ่นไม่ต้องการยอมแพ้ เขาใช้พลังทั้งหมดเพื่อตีใส่เจดดรัม เขาพยายามทั้งทุบทั้งตบ แต่เจดดรัมนั้นเหมือนกับว่าเป็นใบ้ มันไม่ปล่อยเสียงอะไรออกมา ไม่ว่าหานเซิ่นจะพยายามสักแค่ไหนก็ตาม
ตอนนี้หานเซิ่นรู้สึกหดหู่ ถ้าเขาต้องการจะเอาเจดดรัมนั่นกลับไป เขาก็จำเป็นต้องได้รับการยอมรับจากมัน ไม่อย่างนั้นทางเผ่า1000สมบัติก็จะไม่ปล่อยให้เขาเอามันติดตัวออกไปได้
ปัง!
เสียงระเบิดดังขึ้นในหูของหานเซิ่น มันเกือบจะทำให้เขาหมดสติ เขาหันไปและเห็นเป่าเอ๋อกำลังตีใส่เจดดรัมอยู่
ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง!
เป่าเอ๋อตีใส่มันอย่างสนุกสนาน ยิ่งไปกว่านั้นเธอกำลังเล่นเพลงที่ถูกเรียกว่าเจเนอรัล
เธออาจจะกำลังสนุกสนาน แต่หานเซิ่นและหวงฟูจิ้งไม่สนุกด้วย พวกเขาพยามยามจะไม่กระอักเลือดออกมา หานเซิ่นรีบอุ้มเป่าเอ๋อออกห่างจากเจดดรัม ขณะที่ตัวเขาเองเคลื่อนที่เข้าไปหาเจดดรัมสีขาวเพื่อลองดูว่าเขาจะสามารถเล่นมันได้หรือเปล่า
‘บลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมอาจจะมีระดับสูงเกินไป แต่อย่างน้อยๆเจดดรัมนี้ก็ยังดูดี มันเป็นถึงระดับดยุกและมันก็มีโอกาสที่กลายเป็นระดับราชันได้ในอนาคต’ หานเซิ่นคิด เขาตีใส่เจดดรัมด้วยความมั่นใจ แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับมาก็คือความรู้สึกเจ็บปวดเท่านั้นขณะที่เจดดรัมไม่ได้สร้างเสียงใดๆออกมา เขารวบรวมพลังมากขึ้นและตีใส่มันซ้ำๆ แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามสักแค่ไหน เจดดรัมก็ไม่สร้างเสียงออกมาเลย
หานเซิ่นรู้สึกหดหู่ หลังจากนั้นเขาก็คิดกับตัวเอง ‘เป่าเอ๋อเล่นเพลงเจเนอรัล นั่นหมายความว่าเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากเจดดรัม คนๆนั้นจำเป็นต้องใช้พลังเสียงอย่างนั้นหรอ?’
ทฤษฎีนั้นทำให้หานเซิ่นสนใจขึ้นมา เขาพยายามนึกถึงเพลงๆหนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็ใช้กำปั้นทุบใส่เจดดรัมเป็นทำนองเพลง
ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง!
หานเซิ่นทุบตามท่วงทำนองเพลงเจเนอรัลที่เป่าเอ๋อเล่นก่อนหน้านี้ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาไม่เหมือนกัน หานเซิ่นเล่นมันได้แย่จนสุดท้ายมือของเขาก็ปูดบวม แต่เจดดรัมสีขาวก็ยังคงไม่สร้างเสียงดนตรีออกมา เสียงทั้งหมดที่เกิดขึ้นคือเสียงกำปั้นของเขา
‘นี่จังหวะดนตรีของเรามันแย่หรือยังไง? มันไม่มีทางที่เราจะไม่ได้รับการยินยอมจากพวกมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงความโชคดีของเรา บางทีเราควรจะลองเพลงอื่นดู’ หานเซิ่นนึกเพลงอีกเพลงขึ้นมา หลังจากนั้นเขาก็รวบรวมพลังทั้งหมดไปที่กำปั้นของเขา
ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง!
เสียงของการตีใส่เหล็กดังขึ้นมา และหลังจากตีไม่กี่ครั้ง หานเซิ่นก็รู้สึกราวกับว่ามือกำลังจะแตกสลาย และถ้ายังเป็นแบบนี้เขาก็อาจจะกลายเป็นคนพิการ
หานเซิ่นลูบกำปั้นของตัวเองด้วยความรู้สึกหดหู่ แต่จู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงกลองดังขึ้นมา
ปัง!
หานเซิ่นล้มลงกับพื้นและกระอักเลือดออกมา อวัยวะภายในทั้งหมดของเขาได้รับความเสียหาย ร่างกายของหานเซิ่นแข็งแกร่งยิ่งกว่าดราก้อนเลือดบริสุทธิ์ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่สามารถทนต่อพลังเสียงของเจดดรัมได้
หวงฟูจิ้งเองก็ตกอยู่ในสภาพเช่นเดียวกัน เลือดไหลออกมาจากริมฝีปากของเธอ
เป่าเอ๋อรู้สึกแปลกใจ เธอรีบปล่อยมือออกจากบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัม เธอเข้าไปหาหานเซิ่นและจับหัวของเขา เธอแค่ตีบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมไปมั่วๆเนื่องจากเธอเบื่อ เธอไม่ได้คาดคิดว่ามันจะทำให้หานเซิ่นและหวงฟูจิ้งได้รับบาดเจ็บ
“เป่าเอ๋อ นี่หนูพยายามจะฆ่าพ่อหรือยังไง?!” หานเซิ่นพยุงตัวเองขึ้นมาจากพื้นด้วยความเจ็บปวด
“พ่อ หนูขอโทษ! หนูแค่ตีมันไปมั่วๆเท่านั้น” เป่าเอ๋อพูดอย่างไร้เดียงสา
“โชดดีที่หนูแค่ตีเบาๆ ถ้าหนูใช้แรงมากกว่านี้ พวกพ่อก็คงจะตายไปแล้ว!” หานเซิ่นพูดขณะที่พยุงหวงฟูจิ้งขึ้นมา
โชคดีที่อาการบาดเจ็บของพวกเขาไม่ได้เป็นอะไรที่ถาวร และพวกเขาก็สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ด้วยวิชาจีโน แต่นั่นก็ทำให้พวกเขาได้รู้ว่าบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมนั้นน่ากลัวถึงขนาดไหน
เมื่อรักษาตัวเสร็จแล้ว หานเซิ่นก็เรียกหอคอยแห่งโชคชะตาออกมา เขาตั้งใจจะเก็บบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมเข้าไปข้างในเพื่อทำการตรวจสอบในอนาคตข้างหน้า
เนื่องจากแต่ละคนสามารถนำดรัมออกไปได้แค่คนละตัวเท่านั้น และมีเพียงแค่หวงฟูจิ้งกับเป่าเอ๋อเท่านั้นที่ได้รับการยอมรับจากเจดดรัม ดังนั้นหานเซิ่นจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากแอบเอามันออกไป
แต่เมื่อหอคอยแห่งโชคชะตาเข้าใกล้บลัดสกอรเปี้ยนเจดดรัน จู่ๆมันก็ส่องแสงและสร้างเสียงขึ้นมา พลังเสียงนั้นผลักหอคอยแห่งโชคชะตากระเด็นกลับเข้าไปในจิตของหานเซิ่น
“บ้าจริง! มันไม่ยอมเข้าไปหรอเนี่ย?” สีหน้าของหานเซิ่นเปลี่ยนไป ขณะที่เลือดไหลออกมาจากริมปากของเขา เขามองไปที่บลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมด้วยความแปลกใจ