Super God Gene – ตอนที่ 2206

“ข้าจำเป็นต้องไปอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

 

“มันเพียงแค่การแนะนำของข้าเท่านั้น” ราชาแบล็คมูนพูด

“แต่มังกรจะไม่ว่ายร่วมกับปลา เสือจะไม่อยู่อาศัยร่วมกับสุนัข นี่เป็นโอกาสที่เจ้าจะได้ออกไปจากที่นี่”

 

หานเซิ่นรู้ว่าราชาแบล็คมูนหวังดีต่อเขา และเขาก็รู้ว่าราชาแบล็คมูนไม่ต้องการให้เขากับราชาไนท์ริเวอร์ต่อสู้กันอีก แต่หานเซิ่นส่ายหัวและพูด

“ขอบคุณสำหรับความเมตตา แต่ถ้าข้ายืนหยัดอยู่ที่นี่ไม่ได้ แล้วแบบนั้นข้าจะไปถึงจุดที่ที่ข้าต้องการในอนาคตได้ยังไง?”

 

“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้อะไรง่ายๆ…” ราชาแบล็คมูนอยากจะพูดอะไรอย่างอื่นอีก แต่เขาอ้ำๆอึ้งๆไป หลังจากนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมา

“ช่างเถอะ เส้นทางที่ทุกคนจะก้าวไปนั้นแตกต่างกัน ซึ่งตัดสินไม่ได้ว่าเส้นทางเส้นไหนเป็นเส้นทางที่ถูกต้อง ถ้านี่คือความต้องการของเจ้า พวกเราก็ได้แต่ปล่อยเรื่องนี้ไป”

 

หลังจากนั้นราชาแบล็คมูนก็จากไป ซึ่งทำให้หานเซิ่นคิดไปว่า

‘ดูเหมือนว่าทางเอ็กซ์ตรีมคิงจะกำลังรวบรวมยอดฝีมือจากเผ่าพันธุ์ต่างๆ นี่มันกำลังมีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นกับพวกเขาอย่างนั้นหรอ?’

 

แต่หานเซิ่นไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับพวกเขา ดังนั้นเขาจึงคาดเดาอะไรไม่ได้ เขายังคงฝึกวิชากายหยกต่อไปทุกๆวันโดยหวังจะให้มันกลายเป็นดยุกโดยเร็วที่สุด

 

ในวันนั้นทุกคนภายในรวมแนร์โรว์มูนไปรวมตัวกันที่ลานกว้างเทพจันทรา พวกเขาทุกคนสวมใส่ชุดที่ดีที่สุด ซึ่งบ่งบอกว่าพวกเขากำลังจะพบกับใครบางคนที่มีความสำคัญ หานเซิ่นไม่ได้ไปที่ลานกว้าง แต่เขารู้ว่านั่นเป็นวันที่คนของเอ็กซ์ตรีมคิงเดินทางมาถึง เขาได้เห็นยานอวกาศหลายลำที่งดงามราวกับดวงดาวมุ่งหน้ามาทางแนร์โรว์มูน

 

“ดูเหมือนว่าเอ็กซ์ตรีมคิงจะไม่ได้มุ่งเน้นไปที่ความแข็งแกร่งของตัวเองเท่านั้น แม้แต่เทคโนโลยีของพวกเขาก็ยังก้าวหน้าอย่างมาก แนร์โรว์มูนไม่มียานอวกาศแบบนั้นสักลำ แต่นี่พวกเขามีพวกมันอยู่เป็นกองทัพ ขอบคุณสวรรค์ที่พวกเขาไม่ใช่ศัตรู ถ้าพวกเขาเป็นศัตรูล่ะก็ แนร์โรว์มูนก็คงจะล่มสลายอย่างรวดเร็ว” หานเซิ่นพึมพำกับตัวเอง

 

หานเซิ่นไม่ต้องการเข้าร่วมกับเอ็กซ์ตรีมคิง แต่คนอื่นๆในแนร์โรว์หวังว่าตัวเองจะได้เข้าร่วม แต่มันไม่ใช่ว่าทางเอ็กซ์ตรีมคิงจะยินดีรับทุกคน ผู้สมัครต้องผ่านกระบวนการทดสอบอย่างถี่ถ้วนซะก่อน

 

ขุนนางมากมายคาดหวังกับโอกาสในครั้งนี้ ซึ่งคนหนุ่มคนไหนก็ตามที่เข้าร่วมกับพวกเขาจะเติบโตและกลายเป็นคนที่แข็งแกร่ง

 

รีเบทอาจจะเป็นเผ่าพันธุ์ชั้นสูง แต่พวกเขาไม่ติดอันดับหนึ่งในร้อยด้วยซ้ำไป ดังนั้นในด้านของทรัพยากรและความแข็งแกร่งแล้ว พวกเขาไม่สามารถเทียบชั้นกับเอ็กซ์ตรีมคิงได้

 

มันน่าเสียดายที่มาตรฐานของเอ็กซ์ตรีมคิงสูงมากๆ การเข้าร่วมกับพวกเขายากยิ่งกว่าการสอบเข้าโรงเรียนไหนๆ และผู้คนส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถผ่านการทดสอบของพวกเขาได้

 

แนร์โรว์มูนก็เป็นแค่หนึ่งในสถานที่เอ็กซ์ตรีมคิงหยุดเพื่อรับสมัครคน ซึ่งทั้งหมดแล้วมันมีเป็นพันสถานที่พวกเขาตั้งใจจะหยุดเพื่อรับสมัครคนเช่นเดียวกับที่แนร์โรว์มูน แต่ทว่าพวกเขาจะไม่รับใครก็ตามที่ไม่ผ่านการทดสอบของพวกเขา

 

ถึงแม้หานเซิ่นจะไม่ได้เข้าร่วมการทดสอบ แต่เขาก็รู้มาว่าตลอด 4 วันที่ผ่านมา มีเพียงแค่เอิร์ลหนึ่งคนและมาร์ควิสอีกคนเท่านั้นที่ผ่านเกณฑ์ของเอ็กซ์ตรีมคิง ขณะที่คนหนุ่มมากมายนับไม่ถ้วนไม่ผ่านการทดสอบ

 

ทางเอ็กซ์ตริมคังกำลังรับสมัครอัศวินสำรอง ซึ่งระดับของพวกเขาไม่ได้สำคัญอะไร ที่สำคัญก็คือพรสวรรค์และศักยภาพในอนาคตของพวกเขา ดังนั้นแม้แต่อัจฉริยะระดับดยุกของรีเบทหลายคนก็ยังไม่ผ่านการทดสอบ

 

“ราชากงล้อจันทรา ข้าได้ยินมาว่าอี๋ซามีลูกศิษย์อยู่คนหนึ่ง เขาคือคนไหนอย่างนั้นหรอ?”

ราชาอัศวินไอซ์บลูถามพร้อมกับขมวดคิ้ว เขาคือคนที่มีรับหน้าที่ในการรับสมัครคนของแนร์โรว์มูน

 

มันมีหน่วยอัศวินอยู่ทั้งหมดสิบหน่วยในเอ็กซ์ตรีมคิง ทุกหน่วยอัศวินจะมีหัวหน้าอยู่คนหนึ่ง ซึ่งราชาอัศวินไอซ์บลูก็คือหัวหน้าของหน่วยอัศวินไอซ์บลู

 

ในตอนที่พวกเขาแบ่งพื้นเพื่อไปทำการรับสมัครคน ราชาอัศวินไอซ์บลูจงใจเลือกแนร์โรว์มูน ซึ่งเขาจำเป็นต้องจ่ายด้วยราคาที่สูงเช่นกัน

 

ที่เขาทำแบบนี้ก็เพราะในตอนที่อี๋ซาอยู่ที่เอ็กซ์ตรีมคิง เธอเองก็เข้าร่วมกับอัศวินไอซ์บลู ราชาอัศวินไอซ์บลูนับถืออี๋ซาเป็นอย่างมาก และนั่นก็เป็นเหตุผลที่เขาเลือกมาที่แนร์โรว์มูน เพราะมันถือสถานที่ที่เธอจากมา เขาหวังจะได้รับอัจฉริยะในระดับเดียวกันนั้น

 

แต่การทดสอบตลอดหลายวันที่ผ่านมา ทำให้เขาผิดหวังอย่างมาก ในสายตาของเขาคนของรีเบทขาดพรสวรรค์ หรืออย่างน้อยๆพวกเขาก็ไม่ได้ยอดเยี่ยมแบบอี๋ซา ในตอนแรกราชาอัศวินไอซ์บลูมีความสุขที่ได้มาที่แนร์โรว์มูน แต่ตอนนี้เขาไม่รู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว

 

ราชาอัศวินไอซ์บลูจำได้ว่าอี๋ซาเคยบอกว่าเธอมีลูกศิษย์อยู่คนหนึ่ง ดังนั้นราชาอัศวินไอซ์บลูจึงสงสัยว่าทำไมเขาถึงไม่เห็นชายหนุ่มคนนั้น ถ้าเธอรับเขามาเป็นลูกศิษย์จริงๆ คนคนนั้นก็ต้องเป็นคนที่พิเศษ

 

ราชากงล้อจันทราลังเลอยู่ชั่วขณะ หลังจากนั้นเขาก็ยิ้มและพูด

“อี๋ซามีลูกศิษย์อยู่จริงๆ แต่เขาเป็นลูกศิษย์เพียงคนเดียวของนาง เขาต้องสืบทอดมรดกต่อจากนาง ด้วยเหตุนั้นเขาจึงยอมเสียโอกาสที่จะเข้าร่วมกับอัศวินไอซ์บลูไป”

 

“จริงหรอ?” ราชาอัศวินไอซ์บลูถาม

 

ราชาไนท์ริเวอร์รีบพูดขึ้นมา “จากความเห็นของข้า ถ้าเขาต้องการจะสืบทอดมรดกของนาง เขาก็ควรจะเข้าร่วมกับทางเอ็กซ์ตรีมคิง เพราะแม้แต่อี๋ซาเองก็ยังเข้าร่วมกับทางเอ็กซ์ตรีมคิงเลยถูกไหม? แบบนั้นลูกศิษย์ของนางก็ควรตามรอยนางไป เขาจะเสียเวลาไปเปล่าๆถ้ายังอยู่ในแนร์โรว์มูน ถ้าอี๋ซายังมีชีวิตอยู่ล่ะก็ นางก็คงจะคิดเหมือนกัน”

 

ราชาไนท์ริเวอร์ไม่ได้พูดแบบนี้เพื่อหานเซิ่น ทั้งหมดที่เขาต้องการก็คือเตะหานเซิ่นออกไปจากแนร์โรว์มูน แบบนั้นเขาจะได้รับพลังจากแสงจันทร์คนเดียว

 

ราชาอัศวินไอซ์บลูเห็นด้วย “ราชาไนท์ริเวอร์พูดถูก ศิษย์ของอี๋ซาต้องเป็นบุคคลที่พิเศษ เขาสมควรได้รับอะไรที่ดีกว่าการติดเหง็กอยู่ในแนร์โรว์มูน บอกให้เขามาที่นี่และเข้าร่วมการทดสอบ ถ้าเขาผ่าน ข้าจะปฏิบัติกับเขาเป็นอย่างดีเพื่อเห็นแก่อี๋ซา”

 

ราชากงล้อจันทรายิ้มแห้งๆออกมา เขารู้ว่าหานเซิ่นไม่ต้องการเข้าร่วมกับเอ็กซ์ตรีมคิง แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถขัดคำสั่งของราชาอัศวินไอซ์บลูได้ เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเรียกหานเซิ่นมาที่ลานกว้างเทพจันทรา

 

ราชากงล้อจันทราไม่ต้องการทำให้หานเซิ่นประหลาดใจ ดังนั้นเขาจึงส่งองครักษ์ไปพบกับหานเซิ่นโดยตรงและอธิบายถึงเรื่องราวทั้งหมด การมาของพวกองครักษ์ทำให้หานเซิ่นขมวดคิ้ว

 

องครักษ์ของราชากงล้อจันทราพูด “เจ้าจำเป็นต้องไปไม่ว่ายังไงก็ตาม ถ้าเจ้าไม่ไป ราชากงล้อจันทรจะไปอธิบายกับราชาอัศวินไอซ์บลูไม่ได้ ราชากงล้อจันทราบอกว่าถ้าเจ้าไม่อยากจะเข้าร่วมกับพวกเขาจริงๆ เจ้าก็แค่แกล้งทดสอบไม่ผ่าน แบบนั้นถึงเจ้าอยากจะเข้าร่วม ราชาอัศวินไอซ์บลูก็ไม่อนุญาตให้เจ้าเข้าร่วม”

 

หานเซิ่นรู้ว่าเขาไม่มีทางเลือก ดังนั้นเขาจึงตามเหล่าองครักษ์ไปที่ลานกว้างเทพจันทรา

 

หานเซิ่นรู้ว่าจำเป็นต้องควบคุมพลังของตัวเองเอาไว้เพื่อทำให้แน่ใจว่าเขาจะไม่ผ่านการทดสอบ

 

เมื่อหานเซิ่นไปถึงลานกว้างเทพจันทรา เขาก็เห็นขุนนางจำนวนมากต่อคิวเพื่อรับการทดสอบ แต่เหล่าองครักษ์ไม่ได้พาเขาไปต่อคิว เหล่าองครักษ์พาเขาตรงไปหาราชาอัศวินไอซ์บลูแทน

 

“เจ้าก็คือลูกศิษย์ของราชินีแห่งมีดอย่างงั้นหรอ?”

เมื่อได้เห็นหานเซิ่น ราชาอัศวินไอซ์บลูก็ดูประหลาดใจ เขาคาดว่าศิษย์ของอี๋ซาจะเป็นรีเบทคนหนึ่งซะอีก

 

“ใช่แล้ว ข้าชื่อหานเซิ่น” หานเซิ่นโค้งคำนับ

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset