หลังจากที่เอ็ดเวิร์ดกลับไปที่ฐานทัพของหน่วยอัศวินไอซ์บลู เขาก็ไปที่ห้องเก็บข้อมูล เขาตรวจสอบบันทึกของทีมอัศวินต่างๆ หลังจากที่ดูพวกมันเสร็จ เขาก็ขมวดคิ้ว เขาหันไปหาผู้จัดการฝ่ายเก็บข้อมูลและพูด
“วิดีโอที่ถูกบันทึกตลอดเดือนที่ผ่านมามีเพียงแค่นี้อย่างนั้นหรอ?”
“ใช่แล้ว ท่านผู้ตรวจการ” ผู้จัดการฝ่ายเก็บข้อมูลตอบอย่างมีมารยาท
หลังจากหยุดคิดอยู่ชั่วครู่ เอ็ดเวิร์ดก็ถามขึ้นมา “มีทีมไหนหรือเปล่าที่นำเครื่องบันทึกที่ได้รับความเสียหายกลับมาและขอเปลี่ยนอันใหม่?”
“ตลอดเดือนที่ผ่านมามี 4 ทีมที่มาขอเปลี่ยนเครื่องบันทึกเครื่องใหม่”
ผู้จัดการฝ่ายเก็บข้อมูลตอบหลังจากที่ตรวจเช็ดระบบข้อมูลของเขา
“มันมีทีมไหนบ้างที่มาขอเปลี่ยนในช่วง 2 อาทิตย์ก่อน?” เอ็ดเวิร์ดถามอีกครั้งก่อนที่ผู้จัดการฝ่ายเก็บข้อมูลจะพูดจบ
“ในช่วง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา มีอยู่ 2 ทีมที่มาขอเปลี่ยนเครื่องบันทึก ทีม 79 ที่นำโดยจอห์นและทีม 354 ที่นำโดยหานเซิ่น สมาชิกของพวกเขาคือ…” ผู้จัดการฝ่ายเก็บข้อมูลรีบอ่านรายชื่อที่อยู่ในไฟล์ของเขา
“ทีม 354? นั่นคือทีมใหม่ที่กัปตันพามาที่นี่อย่างนั้นหรอ?” เอ็ดเวิร์ดพูดขณะที่จ้องมองไปที่ข้อมูลของทีม 354
“ใช่แล้วท่านผู้ตรวจการ ทีมนี้เป็นทีมพิเศษ ถึงแม้พวกเขาจะเป็นทีมสำรอง แต่พวกเขาไม่ได้อยู่ในรายชื่อของอัศวินสำรอง พวกเขาเป็นองครักษ์ส่วนตัวของกุนซือไวท์” ผู้จัดการฝ่ายเก็บข้อมูลพูด
“องครักษ์ของกุนซือไวท์?” เอ็ดเวิร์ดถามขณะที่ตรวจดูข้อมูล สีหน้าที่แปลกๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา ขณะที่เขาพูดขึ้นมา
“เขาคือลูกศิษย์ของราชินีแห่งมีด นั่นเป็นอะไรที่น่าสนใจ”
หานเซิ่นยังคงอยู่ระหว่างการเก็บกวาดหุบเขาลาวา แต่มันมีซีโน่เจเนอิคอยู่มากเกินไป และมันก็ไม่มีทางที่ทีมของเขาจะสามารถกำจัดพวกมันได้หมด หานเซิ่นถูกส่งมาที่นี่เพื่อถ่ายภาพซะมากกว่า ถ้าซีโน่เจเนอิคไม่ได้เข้ามาจู่โจมทีมของพวกเขา โดยปกติแล้วพวกเขาก็จะไม่เข้าไปยุ่งกับพวกมัน
หานเซิ่นเดินไปตามเส้นทางที่คดเคี้ยวของหุบเขาลาวาเพื่อค้นหาซีโน่เจเนอิคระดับดยุก
หานเซิ่นบอกให้เป่าเอ๋อโฟกัสไปที่การถ่ายซีโน่เจเนอิคที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำลาวาและหันกล้องมาทางพวกเขาเฉพาะตอนที่พวกเขาสังหารซีโน่เจเนอิคธรรมดาๆ เขาไม่อยากให้กล้องถ่ายภาพในตอนที่พวกเขาสังหารซีโน่เจเนอิคระดับดยุก
น่าเสียดายที่หานเซิ่นยังไม่พบวิญญาณอสูรที่กำลังตามหา ตลอด 2 วันที่ผ่านมาเขาได้สังหารซีโน่เจเนอิคระดับดยุกไป 3 ตัว แต่ไม่มีตัวไหนที่มอบวิญญาณอสูรให้กับเขา
“ทุกคนระวัง!” หานเซิ่นพูดขึ้นมาขณะที่จ้องมองไปที่แม่น้ำลาวา กระดูกสันหลังที่ยาวกว่าสิบเมตรโผล่ขึ้นมาจากผิวของลาวา แต่หานเซิ่นรู้ว่าสิ่งที่มองเห็นเป็นเพียงแค่ส่วนน้อยของมันเท่านั้น
ทุกคนหันไปมองที่แม่น้ำลาวา เงาของตัวอะไรบางอย่างนั้นกำลังว่ายอยู่ในหุบเขาและไม่แสดงทีท่าที่จะออกมาจากแม่น้ำลาวา แต่ถึงอย่างนั้นซีโน่เจเนอิคธาตุไฟตัวอื่นๆก็ออกห่างจากทางของมัน แม้แต่นกซีโน่เจเนอิคก็ยังบินหนีและกลับเข้าไปซ่อนในรัง ทันใดนั้นหุบเขาก็เงียบสะงัดไป
เมื่อเงานั้นจากไปแล้ว ซีโน่เจเนอิคตัวอื่นถึงจะพากันกลับออกมาอีกครั้ง
“ซีโน่เจเนอิคระดับราชัน?” จีชิงถาม
“คงจะอย่างนั้น” หานเซิ่นพยักหน้า
หานเซิ่นและพวกพ้องเดินทางกันต่อไป จนกระทั่งพวกเขาไปถึงจุดมืดของแม่น้ำลาวา มันมีฝูงนกที่ดูเหมือนกับกระเรียนอยู่ที่นั่น พวกมันมีขนสีขาวและหัวสีแดง หานเซิ่นยิ้มออกมาเมื่อมองเห็นพวกมัน
มันมีกระเรียนสีแดงอยู่ที่นี่เป็นพันตัว และตัวที่อ่อนแอที่สุดของพวกมันเป็นระดับเอิร์ล บางตัวเป็นระดับมาร์ควิสและแม้แต่ตัวที่เป็นระดับดยุกก็ยังมี
“พวกมันจะให้วิญญาณอสูรแบบไหนกันนะ?”
หานเซิ่นบอกให้เป่าเอ๋อหันไปถ่ายทางอื่น ขณะที่เขาและทีมเริ่มสังหารเหล่ากระเรียนสีแดง
พวกเขาอยู่ห่างออกไปจากเหล่ากระเรียนสีแดงหลายพันเมตร แต่ในที่สุดพวกมันก็สังเกตเห็นถึงการเข้ามาของพวกเขา เปลวไฟลุกโชติช่วงขึ้นบนหัวของนกกระเรียนหลังจากนั้นก็ปกคลุมทั่วร่างของพวกมัน พวกมันส่งเสียงร้องขึ้นมาพร้อมกับพุ่งเข้าหากลุ่มของหานเซิ่นราวกับมิสไซล์
กระสุนของหานเซิ่นและลูกธนูของหานเมิ่งเอ๋อเริ่มจู่โจมเหล่ากระเรียน แต่เมื่อพวกเขาสังหารกระเรียนตัวแรก มันก็ระเบิดกลางอากาศ ไฟพุ่งออกมาจากศพของนกกระเรียนและเผาไหม้ดินแดนโดยรอบ
“โอ้ไม่นะ! นกกระเรียนพวกนี้เป็นนักบินคามิกาเซะ! เรียกใบเสมาออกมา!” หานเซิ่นตะโกน
หานเมิ่งเอ๋อเรียกใบเสมาราชาแมลงปีศาจสีฟ้าออกมา และนกกระเรียนสีแดงที่ลุกเป็นไฟมากมายก็พุ่งเข้ามาชนกับมัน พวกมันเริ่มจะระเบิดใส่ผิวของโล่ป้องกันราวกับดวงอาทิตย์
กระเรียนสีแดงนับพันพุ่งเข้ามาหาใบเสมาราวกับลูกระเบิด มันเป็นภาพที่เหลือเชื่อ มันเหมือนกับว่ากำลังมีลูกไฟพุ่งเข้ามาใส่ใบเสมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ขณะที่กำแพงไฟที่ยิ่งใหญ่แพร่ขยายออกไปและเผาผลาญทุกสิ่งทุกอย่าง
“เจ้าพวกนี้ไม่ต้องการมีชีวิตอยู่จริงๆ” หานเซิ่นมองดูเหล่ากระเรียนระเบิดใส่โล่ป้องกันอย่างไม่หยุด
โชคดีที่กลุ่มของหานเซิ่นมีใบเสมาราชาแมลงปีศาจป้องกันตัวเองอยู่
มันมีกระเรียนสีแดงเป็นพันๆตัวอยู่ที่นี่ และมันใช้เวลากว่าสิบนาทีก่อนที่พวกมันจะฆ่าตัวเองกับผิวของใบเสมาจนหมด ไม่มีตัวไหนที่เหลือรอด และพวกมันทั้งหมดก็เปลี่ยนเป็นเถ้าถ่านอย่างรวดเร็ว หานเซิ่นสงสัยว่าพวกมันอยู่รอดมานานถึงขนาดนี้ได้ยังไง
ซีโน่เจเนอิคตัวอื่นๆในบริเวณแห่งนั้นทั้งหมดหนีไปด้วยความกลัวต่อพวกนกกระเรียนสีแดงที่บ้าคลั่ง แต่มีซีโน่เจเนอิคตัวหนึ่งออกมาจากลาวาโดยที่ไม่ได้กลัวเหล่านกกระเรียนสีแดง มันค่อยๆร่อนข้ามแม่น้ำลาวาเข้ามาหาหานเซิ่นอย่างไม่รีบไม่ร้อน
ซีโน่เจเนอิคที่ออกมาจากลาวาตัวนั้นดูเหมือนกับนกยูงสีทอง ร่างกายของมันประกอบขึ้นมาจากลาวาที่ร้อนแรง และขณะที่มันบินเข้ามา ลาวาสีทองก็หยดไปตามทาง
เมื่อเจ้านกยูงเข้ามาใกล้กับใบเสมาราชาแมลงปีศาจ มันก็อ้าปากและพ่นลาวาออกมา ของเหลวสีทองเข้าปกคลุมใบเสมาราชาแมลงปีศาจอย่างรวดเร็ว แต่ของเหลานั้นไม่ร้อนพอที่จะเจาะผ่านการป้องกันของใบเสมาราชาแมลงปีศาจได้
“นั่นคือซีโน่เจเนอิคระดับดยุกกลายพันธุ์อย่างนั้นหรอ?”
หานเซิ่นประหลาดใจขณะที่มองไปที่นกยูงลาวา เขาดูดีใจที่ได้เห็นมัน
“เปิดใบเสมาและปล่อยให้พ่อออกไปฆ่ามัน” หานเซิ่นชักมีดเขี้ยวผีสิงออกมาและวิ่งออกไปจากโล่ป้องกัน เขาฟันเข้าใส่นกยูงลาวาด้วยมีดลมปราณสีม่วงคล้ำ
ขณะที่มีดปีศาจฟันเข้าไปหามัน นกยูงลาวาก็พ่นลาวาออกมามากขึ้นและส่งน้ำพุของหินหลอมเหลวขึ้นสู่บนอากาศ มันสามารถละลายมีดลมปราณของหานเซิ่นได้สำเร็จ ซึ่งทำให้เขาต้องประหลาดใจ
หานเซิ่นเคลื่อนไหวราวกับผีพร้อมกับฟันมีดลมปราณออกไป แต่ดูเหมือนว่าการโจมตีของเขาจะไม่ได้ผลกับเจ้านกยูง
ขณะที่เขาพยายามจะฆ่านกยูงลาวา เจ้านกยูงก็กระพือปีกและหายตัวไป
“เจ้าตัวนี้…รวดเร็วจริงๆ” หานเซิ่นขมวดคิ้ว