ตอนที่ 2233 รูปปั้นโลหะ
ในขณะที่ทำการค้นหา หานเซิ่นก็พบว่าตัวเองเข้ามาอยู่ในเขตแดนของอีกาอัคคี มันมีพวกอีกาอัคคีอย่างน้อย 5 หมื่นตัว ดังนั้นพวกเขาจึงต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าที่จะกำจัดพวกมันได้ทั้งหมด พวกเขายังพบกับไข่ของอีกาอัคคีจำนวนมากภายในถ้ำ
ขณะที่พวกเขากำลังจัดการกับไข่ของอีกาอัคคี หานเซิ่นก็ตัดสินใจเอาไข่มาวางไว้ในรังนก เขาอยากรู้ว่ามันจะมีผลอะไรไหม
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ไข่ของอีกาอัคคีที่อยู่ภายในรังนกก็ฟักตัวออกมา
“ว้าว! พลังของรังนกนี้คือการฟักไข่อย่างนั้นหรอ?” สีหน้าของหานเซิ่นเปลี่ยนไป
หานเซิ่นลองทำการทดสอบอยู่หลายครั้ง และไม่นานเขาก็พบว่ารังนกทำอะไรได้กันแน่ ดูเหมือนกับว่ารังของอันดายอิ้งเบิร์ดจะสามารถเร่งเวลาที่ไข่จะฟักตัวออกมา หานเซิ่นได้ลองวางไข่หลายต่อหลายฟองลงในรังนก ซึ่งพวกมันทั้งหมดฟักตัวออกมาในเวลาอันสั้น ดังนั้นมันไม่มีทางเป็นแค่เรื่องบังเอิญไปได้
เมื่อคำนึงถึงวิถีแห่งชีวิตและความตายแล้ว หานเซิ่นก็เชื่อว่ามันไม่มีทางเป็นแค่เรื่องบังเอิญ นอกจากนั้นอีกาอัคคีน้อยที่ฟักออกมายังแข็งแกร่งกว่าอีกาอัคคีทั่วไป พวกมันดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่ามาก แต่เมื่อพวกมันฟักออกมาจากไข่แล้ว รังนกก็หยุดส่งผลต่ออีกาอัคคี มันไม่ได้เร่งการเจริญเติบโตของพวกมันหลังจากที่ฟักออกมา
หานเซิ่นจึงรู้แค่ว่ารังนกสามารถเร่งความเร็วในการฟักตัว และทำให้สิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นมาจากไข่แข็งแกร่งขึ้น แต่มันก็ดูเหมือนจะทำอะไรนอกเหนือไปจากนั้นไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นหานเซิ่นก็ยังคงพยายามทดสอบเพื่อหาว่ามันยังมีพลังพิเศษอย่างอื่นอีกไหม
หานเซิ่นทำทั้งหมดนี้ลับหลังไป๋เวย ดังนั้นเธอจึงไม่รู้ว่ารังนกนั้นทำอะไรได้
“เจ้าสิ่งนี้มันเป็นรังนกจริงๆ” หลังจากที่หานเซิ่นได้เรียนรู้ถึงประโยชน์ของมัน เขาก็มองมันอย่างแปลกๆ ถ้านั่นคือทั้งหมดที่รังนกทำได้ อย่างนั้นแล้วมันก็คงจะช่วยอะไรเขาไม่ได้มาก ตอนนี้สิ่งที่เขาจำเป็นคือสมบัติที่ใช้สำหรับต่อสู้
แต่หานเซิ่นนึกถึงนกสีแดงตัวน้อยที่อยู่ภายในโกดังที่สหพันธ์ดวงดาวขึ้นมา หานเซิ่นสงสัยขึ้นมาว่ารังนกนี้จะสามารถเร่งการฟักตัวของมันได้ไหม มันกินร่างของเรเวนอาทิตย์เข้าไป ดังนั้นถ้ามันเสร็จสิ้นการวิวัฒนาการ มันก็ควรจะมีประโยชน์บ้าง แต่เนื่องจากตอนนี้ไป๋เวยอยู่ในทีมของเขา ดังนั้นหานเซิ่นจึงยังไม่สามารถกลับเข้าไปในสหพันธ์ได้ เขาจะรู้ความจริงก็ต่อเมื่อกลับไปแล้ว
หลังจากที่เสร็จสิ้นการเก็บกวาดไข่ของอีกาอัคคี พวกหานเซิ่นก็ออกเดินทางกันต่อ ในขณะที่กำลังเคลื่อนที่ไป ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง มันทำให้เขาตะโกนขึ้นมา “ใช้ใบเสมา!”
หานเมิ่งเอ๋อใช้ใบเสมาราชาแมลงปีศาจในทันที และในขณะที่ใบเสมากำลังทำงาน พลังที่น่ากลัวก็พุ่งเข้ามาชนเข้ากับผิวของมัน
“ราชาไนท์ริเวอร์” เมื่อหานเซิ่นเห็นการโจมตีที่เหมือนกับแม่น้ำสีดำ เขาก็รู้ทันทีว่าใครกันที่จู่โจมพวกเขา
น้ำสีดำแตกสลายไป และจากภายในก็มีเงาคนๆหนึ่งออกมา ซึ่งมันก็คือราชาไนท์ริเวอร์ เขามองหานเซิ่นที่อยู่ภายในโล่ป้องกันอย่างเลือดเย็น
“หานเซิ่น วันนี้คือวันตายของเจ้า”
“ราชาไนท์ริเวอร์ การมาที่ระบบจักรวาลไอซ์บลูทำให้เจ้าเป็นบ้าไปแล้วหรือยังไง? เจ้าทำลายใบเสมาของข้าไม่ได้ อย่างนั้นแล้วเจ้าจะฆ่าข้าได้ยังไง?”
หานเซิ่นต้องการจะยั่วยุราชาไนท์ริเวอร์ แต่เขารู้ว่าราชาไนท์ริเวอร์ไม่ได้โง่ ถ้าเขามาจู่โจมอีกครั้งแบบนี้ มันก็หมายความว่าเขามีบางสิ่งบางอย่างเตรียมเอาไว้
ราชาไนท์ริเวอร์ไม่ต้องการจะเสียเวลาต่อปากต่อคำกับหานเซิ่น เขามีเวลาไม่มาก ดังนั้นเขาจำเป็นต้องฆ่าหานเซิ่นและออกไปจากที่นี่โดยเร็ว เขาไม่สามารถปล่อยให้คนของราชาอัศวินไอซ์บลูมาเห็นเขาได้ และเขาก็ยังจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการทิ้งหลังฐานใดๆเอาไว้
ราชาไนท์ริเวอร์มั่นใจว่าเขาสามารถฆ่าหานเซิ่นและคนอื่นๆได้ เขากังวลแค่ใบเสมาราชาแมลงปีศาจที่หานเซิ่นครอบครองเท่านั้น
ไม่ว่ามาร์ควิสคนหนึ่งจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน พวกเขาก็ไม่สามารถเอาชนะราชันคนหนึ่งได้ แม้แต่ไผ่เดียวดายสิบคนก็ยังไม่เพียงพอ ความแตกต่างระหว่างพลังนั้นมันเป็นอะไรที่มากเกินไป
การลอบโจมตีนั้นล้มเหลว แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ราชาไนท์ริเวอร์รู้สึกลังเล เขานำสิ่งที่เอ็ดเวิร์ดมอบให้กับเขาออกมา นี่เป็นไพ่ตายที่เขาฝากความหวังเอาไว้ นี่คือสิ่งที่เขาหวังว่ามันจะช่วยทำลายใบเสมาราชาแมลงปีศาจ
มันเป็นรูปปั้นโลหะที่สูงหนึ่งฟุต มันมีสีทองและดูเหมือนกับนักรบน้อยๆในชุดเกราะทองคำ
“รูปปั้นแอนเชี่ยนท์วอร์ริเออร์!” สีหน้าของไป๋เวยเปลี่ยนไป เมื่อเธอเห็นรูปปั้นที่ราชาไนท์ริเวอร์ถืออยู่
“มันคืออะไร?” หานเซิ่นหันไปมองไป๋เวย เขารู้ว่ามันต้องเป็นบางสิ่งที่พิเศษ
“นี่คือรูปปั้นของเผ่าแอนเชี่ยนท์ก็อต ถ้าข้าดูไม่ผิดล่ะก็ นั่นคือรูปปั้นแอนเชี่ยนท์วอร์ริเออร์ของแอนเชี่ยนท์ก็อต” ไป๋เวยพูด
“มันทำอะไรได้?” ในตอนที่หานเซิ่นพูด รูปปั้นแอนเชี่ยนท์วอร์ริเออร์ของราชาไนท์ริเวอร์ก็เริ่มจะเรืองแสงที่น่ากลัวออกมา และพลังสีทองก็เข้าห่อหุ้มร่างกายของราชาไนท์ริเวอร์ มันกลายเป็นชุดเกราะทองคำที่ช่วยเสริมระดับพลังของเขาขึ้น
“ตำนานบอกว่าเหล่าแอนเชี่ยนท์ก็อตกำเนิดมาเป็นระดับเทพเจ้า พวกเขามีพลังพิเศษที่จะใส่พลังของตัวเองเข้าไปในรูปปั้น พวกเขาจะมอบพวกมันให้กับคนที่ภักดีต่อพวกเขา และเมื่อมันเปิดถูกเปิดใช้งาน คนๆหนึ่งก็จะใช้พลังของแอนเชี่ยนท์ก็อตได้ชั่วคราว” ไป๋เวยพูดด้วยสีหน้าที่มืดมัว
สีหน้าของหานเซิ่นและคนอื่นเปลี่ยนไป แอนเชี่ยนท์ก็อตเป็นระดับเทพเจ้าตั้งแต่กำเนิด และการมีรูปปั้นนั้นอยู่ ราชาไนท์ริเวอร์ก็สามารถยืมพลังของพวกเขาได้ นั่นหมายความว่าตอนนี้เขามีพลังของสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้า
“ตายซะ หานเซิ่น!” ร่างกายของราชาไนท์ริเวอร์ห่อหุ้มด้วยชุดเกราะสีทองของรูปปั้นแอนเชี่ยนท์วอร์ริเออร์ ตอนนี้เขาดูเหมือนกับนักรบสีทองที่ถล่มทั้งจักรวาลได้
พลังอันมหาศาลทำให้ราชาไนท์ริเวอร์รู้สึกมั่นใจเต็มเปี่ยม แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่คิดจะมัวเสียเวลา เขารวมพลังไปที่มีดกงล้อจันทราและฟันเข้าใส่ใบเสมาราชาแมลงปีศาจสีฟ้า
มันดูแตกต่างไปจากพลังปกติของราชาไนท์ริเวอร์ ด้วยการเสริมพลังจากชุดเกราะแอนเชี่ยนท์วอร์ริเออร์ พลังของเขาเปลี่ยนเป็นสีทองเช่นเดียวกัน
พลังของไนท์ริเวอร์บัสต์เป็นเหมือนกับกงล้อสีทองขนาดใหญ่ มันพุ่งตรงเข้าไปหาใบเสมาราชาแมลงปีศาจสีฟ้า กงล้อสีทองนั้นหมุนวนราวกับว่ามันสามารถฉีกและทำลายมิติได้
หานเซิ่นไม่มีโอกาสจะหลบหลีก พลังที่เข้ามานั้นเหนือกว่าพลังที่สิ่งมีชีวิตระดับราชันทั่วไปจะปลดปล่อยออกมาได้ แม้แต่คนที่เป็นระดับครึ่งเทพก็ไม่สามารถต่อต้านมัน
“โอ้ไม่นะ” ใบหน้าของไป๋เวยเปลี่ยนเป็นสีเทา พวกเขาไม่มีหวังจะหลบหนีไปได้ กงล้อสีทองกำลังจะปะทะกับใบเสมา และเมื่อมันพุ่งเข้าชนโล่สีฟ้า มันก็ตัดผ่านใบเสมาราชาแมลงปีศาจสีฟ้าได้จริงๆ และมันก็ไม่ได้อ่อนพลังลงไปเช่นกัน มันพุ่งต่อไปข้างหน้าและดูเหมือนว่ามันจะตัดทั้งใบเสมาราชาแมลงปีศาจขาดเป็น 2 ส่วน