Super God Gene – ตอนที่ 2236

ราชาไนท์ริเวอร์ไม่ควรอยู่ใกล้กับหานเซิ่นขนาดนี้ ถ้าระยะห่างระหว่างพวกเขามากกว่านี้ การโจมตีของบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมก็คงจะไม่ร้ายแรงขนาดนั้น แถมราชาไนท์ริเวอร์ยังพยายามโจมตีหานเซิ่นโดยที่ไม่ได้เก็บพลังส่วนหนึ่งเอาไว้ป้องกันตัวเอง นั่นทำให้ร่างกายระดับราชันของเขาไม่สามารถทนต่อพลังเสียงที่บลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมปล่อยออกมาได้

 

พลังเสียงของเจดดรัมเป็นเหมือนกับเหล็กในของหางแมงป่องที่ทิ่มตรงเข้าไปในสมองของราชาไนท์ริเวอร์ การคิดกลายเป็นเรื่องยากขึ้นมาทันที เขารู้สึกราวกับว่าหัวกำลังจะระเบิด การรวบรวมสมาธิเพื่อจะเคลื่อนไหวร่างกายนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้

 

มือของเป่าเอ๋อตีลงไปที่เจดดรัมอย่างต่อเนื่องเป็นท่วงทำนองที่เรียบง่าย

 

ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง!

ทุกท่วงทำนองรู้สึกราวกับเข็มเล่มหนึ่งที่ทิ่มเข้าไปในกะโหลกของราชาไนท์ริเวอร์ เขากุมหัวของตัวเองและส่งเสียงกรีดร้องออกมา เขาไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้ขณะที่ร่วงลงไป

 

เสียงของเจดดรัมดังก้องไปทั่วท้องฟ้า แต่พลังเสียงของมันไม่สามารถทำร้ายหานเหยียนและคนอื่นๆที่อยู่ภายในโล่ป้องกันได้

 

หานเซิ่นเคลื่อนไหวตามท่วงทำนองของเจดดรัมเพื่อฟันใส่ราชาไนท์ริเวอร์ พลังเสียงของเจดดรัมนั้นไม่ได้ส่งผลต่อเขา

 

เลือดของหานเซิ่นที่มีพลังของวิชาโลหิตชีพจรได้ฝังลึกเข้าไปในบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัม ถึงแม้เขาจะยังควบคุมมันไม่ได้ แต่เลือดบางส่วนของเขาได้รวมเข้ากับแมงป่องโลหิตที่อยู่ภายใน

 

แมงป่องโลหิตเชื่อว่าหานเซิ่นเป็นส่วนหนึ่งของมัน ดังนั้นมันจึงไม่ได้ทำร้ายอะไรเขา

 

หานเซิ่นกวัดแกว่งมีดของเขาราวกับปีศาจที่ต้องการจะทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่าง เขายืนอยู่ตรงหน้าของราชาไนท์ริเวอร์และฟันใส่คอของอีกฝ่ายซ้ำๆอย่างบ้าคลั่ง

 

แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของราชาไนท์ริเวอร์ เสียงเจดดรัมจะดังขึ้นมาเรื่อยๆตราบใดที่มันยังคงถูกตี ราชาไนท์ริเวอร์ไม่สามารถตอบโต้อะไรได้ เขาทำได้แต่กุมตัวของตัวเองและกรีดร้องออกมา

 

หานเซิ่นฟันไปที่จุดเดิมซ้ำๆและสร้างรอยแผลที่ลึกกว่าเดิมทีละนิดๆ มีดลมปราณสีม่วงของเขาน่ากลัวยิ่งกว่าที่เคย

 

ถ้าการฟันครั้งหนึ่งไม่ได้ผล อย่างนั้นแล้วการฟันหนึ่งร้อยครั้งก็คงจะได้ผล แต่ถ้าหนึ่งร้อยครั้งก็ยังไม่ได้ผล เขาก็แค่ต้องฟันไปหนึ่งพันครั้ง มันไม่สำคัญว่าร่างกายของราชาไนท์ริเวอร์จะแข็งแกร่งสักแค่ไหน เพราะยังไงเขาก็มีขีดจำกัดอยู่ ราชาไนท์ริเวอร์ไม่สามารถทนต่อการฟันของหานเซิ่นไปได้ตลอดการ

 

มาร์ควิสทั่วๆไปไม่สามารถแม้แต่จะสะกิดผิวของราชันคนหนึ่งได้ แต่มีดลมปราณของหานเซิ่นทรงพลังอย่างมาก แม้แต่ดยุกทั่วไปก็ไม่สามารถเทียบชั้นกับเขาได้

 

พลังเขี้ยวยังคงมีความสามารถในการฉีกบาดแผลของศัตรู ขณะที่เขาฟันใส่ไปที่คอของราชาไนท์ริเวอร์ซ้ำๆ หานเซิ่นก็ปล่อยให้พลังเขี้ยวสะสมมากขึ้นๆ สีม่วงที่บาดแผลของราชาไนท์ริเวอร์เริ่มเข้มขึ้น ในขณะที่พลังในการฉีกบาดแผลของมันก็รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

 

ไป๋เวยยังคงยืนอยู่ภายในใบเสมา เธอมองหานเซิ่นที่กำลังพยายามตัดคอของราชาไนท์ริเวอร์อย่างบ้าคลั่ง ภาพที่เห็นทำให้เธอพูดอะไรไม่ออก

 

หานเซิ่นทำให้เธอประหลาดใจครั้งแล้วครั้งเล่า เขาพิสูจน์ตัวเองว่ามีทั้งความมั่นใจและการตัดสินใจที่เฉียบแหลม เขามีโล่ป้องกันที่สามารถทนการโจมตีของศัตรูระดับเทพเจ้าได้ นอกจากนั้นเขายังมีเจดดรัมที่สามารถทำให้ยอดฝีมือระดับราชันตกอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถตอบโต้อะไรได้ ทุกอย่างที่หานเซิ่นมีทำให้องค์หญิงของเอ็กซ์ตรีมคิงรู้สึกอิจฉา

 

ถ้าไป๋เวยต้องการอาวุธระดับราชันหรือเทพเจ้า เธอสามารถหาพวกมันได้อย่างไม่ยากอะไร

 

แต่การมีอาวุธแบบนั้นไม่ได้มีความหมายอะไรมาก เพราะยังไงเธอก็เป็นแค่มาร์ควิสคนหนึ่ง เธอไม่สามารถใช้พลังเต็มที่ของอาวุธระดับเทพเจ้าได้

 

แต่ทว่าโล่ป้องกัน 3 สีของหานเซิ่นสามารถใช้ได้โดยมาร์ควิสคนหนึ่ง และมันก็สามารถป้องกันการโจมตีระดับเทพเจ้าได้ มันยากที่จะจินตนาการได้ว่านั่นเป็นสมบัติแบบไหนกันแน่

 

ไป๋เวยยังจดจำเจดดรัมได้อีกด้วย แต่ถึงเธอจะมีเจดดรัมระดับราชันอยู่ในมือ เธอก็ไม่สามารถตีมันได้เหมือนอย่างที่เป่าเอ๋อทำ เธอไม่สามารถสร้างพลังเสียงที่ทำให้คู่ต่อสู้ระดับราชันหมดสภาพแบบนั้นได้

 

ที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่านั้นคนที่กำลังใช้เจดดรัมเพื่อปลดปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังออกมานั้นเป็นเพียงแค่เด็กคนหนึ่ง เธอดูไม่ต่างไปจากเด็กอายุ 5 ขวบ

 

หานเซิ่นฟันต่อไป และในที่สุดคอของราชาไนท์ริเวอร์ก็ถูกตัดจนเปิดออก ทำให้มีเลือดไหลออกมา และแม้แต่กระดูกก็เป็นรอยจากการฟันของเขา

 

หานเซิ่นฟันใส่มันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด พลังเขี้ยวฝังเข้าไปภายในกระดูกและกำลังฉีกมัน ตอนนี้รอยมีดปกคลุมทั่วกระดูก

 

หานเซิ่นฟันใส่อีกครั้งและมีดเขี้ยวผีสิงก็ตัดกระดูกคอเปิดออก ทำให้หัวของราชาไนท์ริเวอร์ห้อยแกว่งไปแกว่งมา

 

ราชาไนท์ริเวอร์มึนงงจากเสียงของเจดดรัม เขาไม่สามารถตอบโต้อะไรได้ เลือดไหลออกมาจากตา จมูกและปากของเขา

 

หานเซิ่นโบกมือให้เป่าเอ๋อหยุดตีบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัม เขามองไปที่ราชาไนท์ริเวอร์และถาม “ใครส่งเจ้ามาฆ่าข้า?”

 

หานเซิ่นไม่เชื่อว่าราชาไนท์ริเวอร์จะมาที่ดาวไอซ์บลูด้วยการตัดสินใจตัวเอง ถ้าราชาไนท์ริเวอร์มีรูปปั้นแอนเชี่ยนท์ก็อตตั้งแต่แรก เขาก็คงจะไม่เก็บมันเอาไว้จนถึงตอนนี้

 

ราชาไนท์ริเวอร์ต้องการจะฆ่าหานเซิ่นมาเป็นเวลานานแล้ว ตั้งแต่ก่อนที่พวกเขาจะมาเข้าร่วมกับเอ็กซ์ตรีมคิง

 

หานเซิ่นรู้คำตอบถึงคำถามนั่นอยู่แล้ว แต่เขาก็ยังต้องการจะยืนยันมัน

 

คอของราชาไนท์ริเวอร์กำลังจะขาด และพลังเขี้ยวก็กำลังฉีกลึกเข้าไปในบาดแผลมากขึ้นเรื่อยๆ เขากำลังนอนนิ่งอย่างสมบูรณ์อยู่บนพื้น ใบหน้าของเต็มไปด้วยเลือดและดวงตาของเขาก็เริ่มจะปิด

 

“ไม่…อย่า…ฆ่า…ข้า…” ราชาไนท์ริเวอร์พึมพำด้วยปากที่เต็มไปด้วยเลือด

 

“ใครส่งเจ้ามาฆ่าข้า?” หานเซิ่นถามซ้ำ

 

“ผู้…ตรวจการ…อย่าฆ่าข้า…” คำพูดของราชาไนท์ริเวอร์กระจ่างพอที่จะลบล้างความสงสัยทั้งหมด

 

หลังจากได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายพูด หานเซิ่นก็ฟันคอราชาไนท์ริเวอร์ที่กำลังถูกฉีดขาดด้วยพลังเขี้ยวของเขา

 

หัวของราชาไนท์ริเวอร์กลิ้งออกไป ยอดฝีมือระดับราชันคนหนึ่งถูกฆ่าได้

 

หานเซิ่นจำเป็นต้องรู้ถึงคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้ แต่มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไว้ชีวิตราชาไนท์ริเวอร์ ลำพังแค่คำพูดของเขายังไม่เพียงพอที่จะโค้นล้มเอ็ดเวิร์ด

 

หลังจากฆ่าราชาไนท์ริเวอร์ หานเซิ่นก็ตรวจค้นศพของเขา มันมีมีดกงล้อจันทราระดับราชัน 2 เล่มและยังมีสิ่งของอื่นอีกเช่นกัน แต่พวกมันไม่ใช่วิญญาณอสูรที่จะเก็บเข้าไปภายในจิตได้ หานเซิ่นต้องถือมันติดตัวไป แต่มันมีสิ่งของต่างๆที่เขาต้องพกพามากอยู่แล้ว และมันก็มีขีดจำกัดถึงสิ่งที่เขาจะนำติดตัวไปได้

 

มีดกงล้อจันทราถือเป็นสมบัติที่มีค่าสูง เขาควรจะแลกเปลี่ยนมันกับสิ่งอื่นๆที่มีระดับทัดเทียมกันได้

 

หลังจากการฆ่าราชาไนท์ริเวอร์ หานเซิ่นก็ไม่ได้ทำการค้นหาต่อ เขาทำลายกล้องและพาร่างของราชาไนท์ริเวอร์กลับไปที่ฐานทัพ

 

หานเซิ่นโทษราชาไนท์ริเวอร์เรื่องกล้องที่ถูกทำลาย และนั่นเป็นข้ออ้างที่จะช่วยป้องกันปัญหาที่จะตามมาทีหลัง

 

ราชาอัศวินโกรธเมื่อได้ยินเรื่องราวจากหานเซิ่น แต่นั่นไม่ใช่เพราะราชาไนท์ริเวอร์อยากจะฆ่าหานเซิ่น เขาโกรธที่ไป๋เวยเกือบจะถูกฆ่าตาย

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset