หานเซิ่นและทีมไม่ได้รับภารกิจอื่นอีก พวกเขาคิดว่าที่ราชาอัศวินไอซ์บลูไม่ให้พวกเขาออกไปไหนก็เพื่อรับรองความปลอดภัยของไป๋เวย พวกเขาต้องติดแหง็กอยู่ในฐานทัพเป็นเวลา 2 อาทิตย์
แต่สำหรับหานเซิ่นแล้วนั่นถือเป็นเรื่องที่ดี หลังจากเหตุการณ์ของราชาไนท์ริเวอร์ ใครจะรู้ว่ามันยังมีนักฆ่าคนอื่นที่มีรูปปั้นแอนเชี่ยนท์วอร์ริเวอร์ซ่อนตัวอยู่นอกฐานทัพ
วิญญาณอสูรใบเสมาราชาแมลงปีศาจทั้ง 3 สีได้รับความเสียหายอย่างหนัก มีเพียงแค่ใบเสมาราชาแมลงปีศาจสีทองของหานเหยียนเท่านั้นที่สามารถใช้งานได้ขณะนี้ ดังนั้นถ้ามีเหตุการณ์ร้ายแบบเดียวกันเกิดขึ้นกับพวกเขาอีกครั้ง พวกเขาก็ไม่มีอะไรจะป้องกันการโจมตีที่ร้ายแรงได้
การอยู่ภายในฐานทัพของเหล่าอัศวินไอซ์บลูจึงถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
เรื่องนี้ดำเนินไปจนกระทั่งตระกูลจีส่งไดอารี่คืนกลับมาให้กับเขา
ทีมถอดรหัสของตระกูลจีมีฝีมือสูง หลังจากที่พวกเขาถอดรหัสของไดอารี่ได้แล้ว พวกเขาก็แปลข้อความของราชาไนท์ริเวอร์มาให้กับหานเซิ่น
เนื้อหาในไอดารี่เริ่มขึ้นก่อนที่ราชาไนท์ริเวอร์จะเข้ามาในระบบจักรวาลเคออส และเนื้อหาแรกๆค่อนข้างน่าเบื่อ พวกมันมีเพียงไม่กี่คำเท่านั้น เขาคงแค่เขียนพวกมันเป็นรหัสลับโดยติดเป็นนิสัย
แต่ทว่าเมื่อราชาไนท์ริเวอร์มาถึงที่ระบบจักรวาลเคออส เขาก็ถูกซีโน่เจเนอิคโจมตีขณะที่เขาป้องกันระบบไอซ์บลู นั่นคือตอนที่ไอดารี่เริ่มน่าสนใจขึ้นมา
ราชาไนท์ริเวอร์มาอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน แต่ในช่วงเวลานั้นเขาค้นพบอะไรบางอย่างที่ค่อนข้างแปลกประหลาด และแทนที่จะไปรายงานกับหน่วยอัศวินไอซ์บลู เขากลับเริ่มจะสืบสวนมันอย่างลับๆด้วยตัวเอง
67 วันก่อนที่หานเซิ่นเริ่มอ่านไดอารี่ วันที่ 2 หลังจากที่ราชาไนท์ริเวอร์ไปประจำการอยู่ที่ขอบระบบไอซ์บลู กลุ่มของซีโน่เจเนอิคมุ่งหน้าตรงมาที่เขตแดนของระบบไอซ์บลูและโจมตีเหล่าอัศวินไอซ์บลูที่รักษาการณ์อยู่
หลังจากนั้นราชาไนท์ริเวอร์ก็เขียนลงในไดอารี่ว่า
“มันอยู่ที่นี่ มันอยู่ที่นี่มาโดยตลอด”
นั่นไม่ได้บอกอะไรมากนัก และหานเซิ่นก็ไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไรกันแน่ แต่มันเห็นได้ชัดว่าราชาไนท์ริเวอร์พบอะไรบางอย่าง
หานเซิ่นอ่านไดอารี่ของราชาไนท์ริเวอร์ต่อไป เขาสังเกตเห็นว่าวันต่อๆมา ราชาไนท์ริเวอร์บันทึกเอาไว้แค่เพียงสั้นๆ
“มันยังอยู่ที่นี่ สีม่วง.”
“หมายเลข 7 ติดเชื้อ ไม่พบอะไรที่ผิดปกติ”
“หมายเลข 32 ติดเชื้อ ไม่มีอะไรผิดปกติ”
…
“หมายเลข 1 ผิดปกติ คอยสังเกตต่อไป”
บันทึกประจำวันสั้นๆดำเนินไปตลอดทั้งเดือน ราชาไนท์ริเวอร์ดูเหมือนจะค้นพบอะไรบางอย่าง ถึงแม้บันทึกประจำวันจะสั้น แต่หานเซิ่นก็สัมผัสได้ว่าราชาไนท์ริเวอร์เต็มไปด้วยความกังวล
“อะไรกันที่ทำให้เขากลัว? บันทึกของเขากำลังพูดถึงอะไรกันแน่?” หานเซิ่นขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
ไดอารี่ดำเนินต่อไปแบบนั้นสักพัก แต่ไม่กี่วันก่อนที่ราชาไนท์ริเวอร์จะมาพยายามฆ่าหานเซิ่น เขาได้บันทึกสิ่งใหม่ลงในไดอารี่
“เอ็ดเวิร์ดขอให้ข้าไปฆ่าหานเซิ่น มันเป็นอะไรที่เสี่ยง แต่มันก็คุ้มค่าที่จะลองดู ถ้าข้าทำสำเร็จ ข้าจะได้ไปจากมัน”
หานเซิ่นขมวดคิ้วอีกครั้ง ราชาไนท์ริเวอร์รู้ว่าการช่วยเอ็ดเวิร์ดถือเป็นการกระทำที่เสี่ยง แต่เขาหวาดตัวต่อสิ่งลึกลับนี้ยิ่งกว่า
วันต่อๆมา ราชาไนท์ริเวอร์ยังคงสังเกตการณ์ต่อไป และเขาก็พูดถึงสิ่งที่เรียกว่า “มัน” และหมายเลขอยู่บ่อยครั้ง เหล่าหมายเลขที่เขาพูดถึงนั้นผ่านการเปลี่ยนแปลงประหลาดมากมาย
วันก่อนที่ราชาไนท์ริเวอร์จะมาฆ่าหานเซิ่น เขาเขียนบันทึกประจำวันสุดท้ายเอาไว้ ซึ่งมันมีความยาวมากกว่าวันอื่นๆ สิ่งที่ถูกเขียนเอาไว้ทำให้หานเซิ่นรู้สึกไม่สบายใจ
“โอ้พระเจ้า หมายเลข 7 กลายเป็นราชัน… มัน… มันส่งผลต่อหมายเลข 7… พลังนั่นคืออะไรกัน? มันเป็นอันตรายหรือเปล่า? ข้าจะใช้มันได้ไหม?”
ราชาไนท์ริเวอร์ดูเหมือนจะกังวลใจอย่างมาก เขาใช้เครื่องหมายคำถามหลายตัว
‘ราชาไนท์ริเวอร์เห็นอะไรกัน? หมายเลขที่เขาพูดถึงคืออะไร? มันยกระดับของสิ่งมีชีวิตขึ้นไปสู่ระดับราชันอย่างนั้นหรอ? ถ้ามันอยู่ภายในระบบไอซ์บลู มันก็ไม่มีทางรอดพ้นไปจากสายของอัศวินไอซ์บลูคนอื่นไปได้’
หานเซิ่นขมวดคิ้วขณะที่คิดกับตัวเอง แต่ราชาไนท์ริเวอร์ไม่เคยบรรยายแม้แต่ครั้งเดียวว่า “มัน” ที่เขาพูดถึงคืออะไร ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงไม่สามารถคาดเดาได้
“สีม่วง ราชาไนท์ริเวอร์พบมัน แต่เหล่าอัศวินไอซ์บลูที่อยู่กับเขาไม่พบอะไร เขาบอกว่ามันส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆ และหนึ่งในพวกมันก็กลายเป็นระดับราชัน…” หานเซิ่นเรียบเรียงเบาะแสทั้งหมด แต่มันยังไม่เพียงพอที่จะไปต่อได้
‘ดูเหมือนว่าเราต้องลองไปดูที่ที่ราชาไนท์ริเวอร์เคยประจำการณ์ ถ้าเราไปที่นั่น เราอาจจะพบอะไรบางอย่างที่เขาพูดถึง’ หานเซิ่นคิด มันน่าเสียดายที่หน่วยอัศวินไอซ์บลูเป็นเจ้าของทุกซอกทุกมุมของระบบแห่งนี้ เขาจึงไม่สามารถไปไหนมาไหนได้ตามที่ต้องการ
หานเซิ่นใช้ราชาไนท์ริเวอร์เป็นข้ออ้างเพื่อถามข้อมูลเกี่ยวกับชายแดนของระบบไอซ์บลู เขาพบว่าในเวลาที่ราชาไนท์ริเวอร์อยู่ป้องกันชายแดนร่วมกับอัศวินไอซ์บลูนั้น ไม่มีพวกเขาคนไหนที่พัฒนาจากระดับดยุกไปสู่ระดับราชัน
ในตอนแรกหานเซิ่นคิดว่าหมายเลขนั้นอาจจะหมายถึงอัศวินไอซ์บลูที่ทำงานร่วมกับราชาไนท์ริเวอร์ แต่นั่นดูเหมือนจะเป็นการสันนิษฐานที่ไม่ถูกต้อง
‘หมายเลขพวกนี้หมายถึงอะไรกันแน่? ถ้าเราคิดออก มันก็ไม่ควรจะเป็นเรื่องยากที่จะหาตัว’ หานเซิ่นคิด
ไดอารี่วันสุดท้ายของราชาไนท์ริเวอร์นั้นเป็นอะไรที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับหานเซิ่น ถ้า “มัน” ที่ลึกลับนั้นสามารถยกระดับของสิ่งชีวิตอื่นสู่ระดับราชันได้ อย่างนั้นแล้วหานเซิ่นก็สนใจอย่างมากที่จะหาความจริงว่ามันคืออะไร
แต่เนื่องจากมันทำให้ราชาไนท์ริเวอร์หวาดกลัวถึงขนาดนั้น มันก็คงจะเป็นอะไรที่เป็นอันตรายเช่นกัน
“เราจะไปยังสถานที่ที่ราชาไนท์ริเวอร์เคยประจำการณ์ได้ยังไง?”
หานเซิ่นพยายามคิดหาหนทางที่จะไปที่นั่น แต่มันไม่มีความคิดไหนที่ดูจะเป็นไปได้
หานเซิ่นจำเป็นต้องไปที่ชายแดนของระบบไอซ์บลู แต่มันมีแค่อัศวินไอซ์บลูอย่างเป็นทางการเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้ประจำการณ์ที่นั่น หานเซิ่นเป็นแค่อัศวินสำรอง ดังนั้นเขาจึงมีคุณสมบัติไม่เพียงพอ
แถมหานเซิ่นก็ไม่คิดว่าการไปที่นั่นด้วยตัวเองจะเป็นความคิดที่ดี เพราะเอ็ดเวิร์ดคงจะหาหนทางจัดการกับเขาเพื่อแย่งชิงแผ่นหินกลับไป
แต่การติดแหง็กอยู่ในฐานทัพโดยที่ไม่สามารถหาความจริงถึงสิ่งที่ราชาไนท์ริเวอร์พูดถึงได้นั้นก็ทำให้หานเซิ่นหยุดคิดถึงมันไม่ได้
ถ้าสิ่งนั้นเป็นอันตรายอย่างที่ราชาไนท์ริเวอร์พูดถึงจริงๆ มันก็มีโอกาสสูงที่มันจะเป็นภัยต่อทั้งระบบไอซ์บลู และหานเซิ่นเองก็จะประสบกับภัยนั้นเช่นเดียวกัน
อัศวินสำรองคนหนึ่งมาเคาะประตูห้องหานเซิ่น “หานเซิ่น ราชาอัศวินเรียกให้เจ้าไปพบที่ออฟฟิศของเขา”
“โอเค ข้าจะไปเดี๋ยวนี้หละ” หานเซิ่นพูด เขาลุกขึ้นและเดินตรงไปที่ออฟฟิศของราชาอัศวินไอซ์บลู เขาไม่รู้เลยว่าทำไมราชาอัศวินไอซ์บลูถึงได้เรียกพบเขา