Super God Gene – ตอนที่ 2238

หานเซิ่นและทีมไม่ได้รับภารกิจอื่นอีก พวกเขาคิดว่าที่ราชาอัศวินไอซ์บลูไม่ให้พวกเขาออกไปไหนก็เพื่อรับรองความปลอดภัยของไป๋เวย พวกเขาต้องติดแหง็กอยู่ในฐานทัพเป็นเวลา 2 อาทิตย์

 

แต่สำหรับหานเซิ่นแล้วนั่นถือเป็นเรื่องที่ดี หลังจากเหตุการณ์ของราชาไนท์ริเวอร์ ใครจะรู้ว่ามันยังมีนักฆ่าคนอื่นที่มีรูปปั้นแอนเชี่ยนท์วอร์ริเวอร์ซ่อนตัวอยู่นอกฐานทัพ

 

วิญญาณอสูรใบเสมาราชาแมลงปีศาจทั้ง 3 สีได้รับความเสียหายอย่างหนัก มีเพียงแค่ใบเสมาราชาแมลงปีศาจสีทองของหานเหยียนเท่านั้นที่สามารถใช้งานได้ขณะนี้ ดังนั้นถ้ามีเหตุการณ์ร้ายแบบเดียวกันเกิดขึ้นกับพวกเขาอีกครั้ง พวกเขาก็ไม่มีอะไรจะป้องกันการโจมตีที่ร้ายแรงได้

 

การอยู่ภายในฐานทัพของเหล่าอัศวินไอซ์บลูจึงถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

 

เรื่องนี้ดำเนินไปจนกระทั่งตระกูลจีส่งไดอารี่คืนกลับมาให้กับเขา

 

ทีมถอดรหัสของตระกูลจีมีฝีมือสูง หลังจากที่พวกเขาถอดรหัสของไดอารี่ได้แล้ว พวกเขาก็แปลข้อความของราชาไนท์ริเวอร์มาให้กับหานเซิ่น

 

เนื้อหาในไอดารี่เริ่มขึ้นก่อนที่ราชาไนท์ริเวอร์จะเข้ามาในระบบจักรวาลเคออส และเนื้อหาแรกๆค่อนข้างน่าเบื่อ พวกมันมีเพียงไม่กี่คำเท่านั้น เขาคงแค่เขียนพวกมันเป็นรหัสลับโดยติดเป็นนิสัย

 

แต่ทว่าเมื่อราชาไนท์ริเวอร์มาถึงที่ระบบจักรวาลเคออส เขาก็ถูกซีโน่เจเนอิคโจมตีขณะที่เขาป้องกันระบบไอซ์บลู นั่นคือตอนที่ไอดารี่เริ่มน่าสนใจขึ้นมา

 

ราชาไนท์ริเวอร์มาอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน แต่ในช่วงเวลานั้นเขาค้นพบอะไรบางอย่างที่ค่อนข้างแปลกประหลาด และแทนที่จะไปรายงานกับหน่วยอัศวินไอซ์บลู เขากลับเริ่มจะสืบสวนมันอย่างลับๆด้วยตัวเอง

 

67 วันก่อนที่หานเซิ่นเริ่มอ่านไดอารี่ วันที่ 2 หลังจากที่ราชาไนท์ริเวอร์ไปประจำการอยู่ที่ขอบระบบไอซ์บลู กลุ่มของซีโน่เจเนอิคมุ่งหน้าตรงมาที่เขตแดนของระบบไอซ์บลูและโจมตีเหล่าอัศวินไอซ์บลูที่รักษาการณ์อยู่

 

หลังจากนั้นราชาไนท์ริเวอร์ก็เขียนลงในไดอารี่ว่า
“มันอยู่ที่นี่ มันอยู่ที่นี่มาโดยตลอด”

 

นั่นไม่ได้บอกอะไรมากนัก และหานเซิ่นก็ไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไรกันแน่ แต่มันเห็นได้ชัดว่าราชาไนท์ริเวอร์พบอะไรบางอย่าง

 

หานเซิ่นอ่านไดอารี่ของราชาไนท์ริเวอร์ต่อไป เขาสังเกตเห็นว่าวันต่อๆมา ราชาไนท์ริเวอร์บันทึกเอาไว้แค่เพียงสั้นๆ

 

“มันยังอยู่ที่นี่ สีม่วง.”

 

“หมายเลข 7 ติดเชื้อ ไม่พบอะไรที่ผิดปกติ”

 

“หมายเลข 32 ติดเชื้อ ไม่มีอะไรผิดปกติ”

 

“หมายเลข 1 ผิดปกติ คอยสังเกตต่อไป”

 

บันทึกประจำวันสั้นๆดำเนินไปตลอดทั้งเดือน ราชาไนท์ริเวอร์ดูเหมือนจะค้นพบอะไรบางอย่าง ถึงแม้บันทึกประจำวันจะสั้น แต่หานเซิ่นก็สัมผัสได้ว่าราชาไนท์ริเวอร์เต็มไปด้วยความกังวล

 

“อะไรกันที่ทำให้เขากลัว? บันทึกของเขากำลังพูดถึงอะไรกันแน่?” หานเซิ่นขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

 

ไดอารี่ดำเนินต่อไปแบบนั้นสักพัก แต่ไม่กี่วันก่อนที่ราชาไนท์ริเวอร์จะมาพยายามฆ่าหานเซิ่น เขาได้บันทึกสิ่งใหม่ลงในไดอารี่

 

“เอ็ดเวิร์ดขอให้ข้าไปฆ่าหานเซิ่น มันเป็นอะไรที่เสี่ยง แต่มันก็คุ้มค่าที่จะลองดู ถ้าข้าทำสำเร็จ ข้าจะได้ไปจากมัน”

 

หานเซิ่นขมวดคิ้วอีกครั้ง ราชาไนท์ริเวอร์รู้ว่าการช่วยเอ็ดเวิร์ดถือเป็นการกระทำที่เสี่ยง แต่เขาหวาดตัวต่อสิ่งลึกลับนี้ยิ่งกว่า

 

วันต่อๆมา ราชาไนท์ริเวอร์ยังคงสังเกตการณ์ต่อไป และเขาก็พูดถึงสิ่งที่เรียกว่า “มัน” และหมายเลขอยู่บ่อยครั้ง เหล่าหมายเลขที่เขาพูดถึงนั้นผ่านการเปลี่ยนแปลงประหลาดมากมาย

 

วันก่อนที่ราชาไนท์ริเวอร์จะมาฆ่าหานเซิ่น เขาเขียนบันทึกประจำวันสุดท้ายเอาไว้ ซึ่งมันมีความยาวมากกว่าวันอื่นๆ สิ่งที่ถูกเขียนเอาไว้ทำให้หานเซิ่นรู้สึกไม่สบายใจ

 

“โอ้พระเจ้า หมายเลข 7 กลายเป็นราชัน… มัน… มันส่งผลต่อหมายเลข 7… พลังนั่นคืออะไรกัน? มันเป็นอันตรายหรือเปล่า? ข้าจะใช้มันได้ไหม?”
ราชาไนท์ริเวอร์ดูเหมือนจะกังวลใจอย่างมาก เขาใช้เครื่องหมายคำถามหลายตัว

 

‘ราชาไนท์ริเวอร์เห็นอะไรกัน? หมายเลขที่เขาพูดถึงคืออะไร? มันยกระดับของสิ่งมีชีวิตขึ้นไปสู่ระดับราชันอย่างนั้นหรอ? ถ้ามันอยู่ภายในระบบไอซ์บลู มันก็ไม่มีทางรอดพ้นไปจากสายของอัศวินไอซ์บลูคนอื่นไปได้’
หานเซิ่นขมวดคิ้วขณะที่คิดกับตัวเอง แต่ราชาไนท์ริเวอร์ไม่เคยบรรยายแม้แต่ครั้งเดียวว่า “มัน” ที่เขาพูดถึงคืออะไร ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงไม่สามารถคาดเดาได้

 

“สีม่วง ราชาไนท์ริเวอร์พบมัน แต่เหล่าอัศวินไอซ์บลูที่อยู่กับเขาไม่พบอะไร เขาบอกว่ามันส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆ และหนึ่งในพวกมันก็กลายเป็นระดับราชัน…” หานเซิ่นเรียบเรียงเบาะแสทั้งหมด แต่มันยังไม่เพียงพอที่จะไปต่อได้

 

‘ดูเหมือนว่าเราต้องลองไปดูที่ที่ราชาไนท์ริเวอร์เคยประจำการณ์ ถ้าเราไปที่นั่น เราอาจจะพบอะไรบางอย่างที่เขาพูดถึง’ หานเซิ่นคิด มันน่าเสียดายที่หน่วยอัศวินไอซ์บลูเป็นเจ้าของทุกซอกทุกมุมของระบบแห่งนี้ เขาจึงไม่สามารถไปไหนมาไหนได้ตามที่ต้องการ

 

หานเซิ่นใช้ราชาไนท์ริเวอร์เป็นข้ออ้างเพื่อถามข้อมูลเกี่ยวกับชายแดนของระบบไอซ์บลู เขาพบว่าในเวลาที่ราชาไนท์ริเวอร์อยู่ป้องกันชายแดนร่วมกับอัศวินไอซ์บลูนั้น ไม่มีพวกเขาคนไหนที่พัฒนาจากระดับดยุกไปสู่ระดับราชัน

 

ในตอนแรกหานเซิ่นคิดว่าหมายเลขนั้นอาจจะหมายถึงอัศวินไอซ์บลูที่ทำงานร่วมกับราชาไนท์ริเวอร์ แต่นั่นดูเหมือนจะเป็นการสันนิษฐานที่ไม่ถูกต้อง

 

‘หมายเลขพวกนี้หมายถึงอะไรกันแน่? ถ้าเราคิดออก มันก็ไม่ควรจะเป็นเรื่องยากที่จะหาตัว’ หานเซิ่นคิด

 

ไดอารี่วันสุดท้ายของราชาไนท์ริเวอร์นั้นเป็นอะไรที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับหานเซิ่น ถ้า “มัน” ที่ลึกลับนั้นสามารถยกระดับของสิ่งชีวิตอื่นสู่ระดับราชันได้ อย่างนั้นแล้วหานเซิ่นก็สนใจอย่างมากที่จะหาความจริงว่ามันคืออะไร

 

แต่เนื่องจากมันทำให้ราชาไนท์ริเวอร์หวาดกลัวถึงขนาดนั้น มันก็คงจะเป็นอะไรที่เป็นอันตรายเช่นกัน

 

“เราจะไปยังสถานที่ที่ราชาไนท์ริเวอร์เคยประจำการณ์ได้ยังไง?”
หานเซิ่นพยายามคิดหาหนทางที่จะไปที่นั่น แต่มันไม่มีความคิดไหนที่ดูจะเป็นไปได้

 

หานเซิ่นจำเป็นต้องไปที่ชายแดนของระบบไอซ์บลู แต่มันมีแค่อัศวินไอซ์บลูอย่างเป็นทางการเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้ประจำการณ์ที่นั่น หานเซิ่นเป็นแค่อัศวินสำรอง ดังนั้นเขาจึงมีคุณสมบัติไม่เพียงพอ

 

แถมหานเซิ่นก็ไม่คิดว่าการไปที่นั่นด้วยตัวเองจะเป็นความคิดที่ดี เพราะเอ็ดเวิร์ดคงจะหาหนทางจัดการกับเขาเพื่อแย่งชิงแผ่นหินกลับไป

 

แต่การติดแหง็กอยู่ในฐานทัพโดยที่ไม่สามารถหาความจริงถึงสิ่งที่ราชาไนท์ริเวอร์พูดถึงได้นั้นก็ทำให้หานเซิ่นหยุดคิดถึงมันไม่ได้

 

ถ้าสิ่งนั้นเป็นอันตรายอย่างที่ราชาไนท์ริเวอร์พูดถึงจริงๆ มันก็มีโอกาสสูงที่มันจะเป็นภัยต่อทั้งระบบไอซ์บลู และหานเซิ่นเองก็จะประสบกับภัยนั้นเช่นเดียวกัน

 

อัศวินสำรองคนหนึ่งมาเคาะประตูห้องหานเซิ่น “หานเซิ่น ราชาอัศวินเรียกให้เจ้าไปพบที่ออฟฟิศของเขา”

 

“โอเค ข้าจะไปเดี๋ยวนี้หละ” หานเซิ่นพูด เขาลุกขึ้นและเดินตรงไปที่ออฟฟิศของราชาอัศวินไอซ์บลู เขาไม่รู้เลยว่าทำไมราชาอัศวินไอซ์บลูถึงได้เรียกพบเขา

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset