Super God Gene – ตอนที่ 2241

“หานเซิ่น เจ้ายังหันหลังกลับได้” ราชาอัศวินไอซ์บลูพูดอย่างหนักแน่น

 

แต่หานเซิ่นไม่ตอบ เขากำลังครุ่นคิดแทน

 

ราชาอัศวินไอซ์บลูไม่ได้มีความแค้นอะไรกับหานเซิ่น ความจริงแล้วเมื่อคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างหว่างอี๋ซากับพวกเขา ราชาอัศวินไอซ์บลูก็ไม่ควรจะเกลียดชังอะไรหานเซิ่น นอกจากนั้นไป๋เวยก็กำลังจะพาหานเซิ่นไปที่ดาวบ้านเกิดของเอ็กซ์ตรีมคิงในเร็วๆนี้ ดังนั้นมันไม่มีเหตุผลอะไรที่อัศวินไอซ์บลูจะมาโจมตีเขา นี่ถือเป็นการขัดต่อความต้องการของผู้ปกครองเอ็กซ์ตรีมคิง มันถือว่าเป็นความผิดที่ใหญ่หลวงที่สุด

 

เมื่อคิดเกี่ยวกับมันดีๆ หานเซิ่นก็คิดว่ามันคงจะเป็นเพราะแผ่นหินที่เขาครอบครองอยู่ เพราะแม้แต่เอ็ดเวิร์ดเองก็ยังใช้รูปปั้นแอนเชี่ยนท์ก็อตที่มีค่างเพื่อจะแย้งเอาแผ่นหินนั้นไปครอบครอง

 

‘ถ้าอัศวินไอซ์บลูรู้เกี่ยวกับแผ่นหิน ทำไมเขาถึงไม่โจมตีเราตั้งแต่แรก ทำไมเขาถึงต้องรอจนถึงตอนนี้? เขาคงเพิ่งจะรู้ถึงเรื่องนี้แน่ๆ และมีเพียงแค่เอ็ดเวิร์ดเท่านั้นที่รู้ว่าเราเอาแผ่นหินไป แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ อะไรที่เป็นสาเหตุทำให้จู่ๆเอ็ดเวิร์ดบอกกับราชาอัศวินไอซ์บลูว่าเรามีแผ่นหินอยู่?’ หานเซิ่นคิด

‘ใช่แล้ว มันเป็นเพราะไป๋เวยต้องการพาตัวเราไป เอ็ดเวิร์ดคงจะรู้ว่าหยุดเรื่องนั้นไม่ได้ ดังนั้นการบอกราชาอัศวินไอซ์บลูจึงเป็นหนทางสุดท้ายของเขา’

 

“ดูเหมือนแผ่นหินนี้จะมีค่ามากกว่าที่เราคิด แม้แต่ราชาอัศวินไอซ์บลูก็ยังขัดคำสั่งของราชาไป๋เพื่อพยายามหยุดเราเอาไว้ที่นี่ ถ้าพวกเขาต้องการให้เราอยู่ที่นี่มากขนาดนั้น บางทีแผ่นหินอาจจะทำงานได้แค่ที่นี่เท่านั้น ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็คงจะคิดหาหนทางเอามันกลับคืนไปในตอนที่เราอยู่ที่ดาวบ้านเกิดของเอ็กซ์ตรีมคิง มันต้องมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้พวกเขาขัดคำสั่งของผู้ปกครองตัวเองด้วยแผนการที่เสี่ยงแบบนี้”

 

หานเซิ่นเงยหน้าขึ้นไปมองที่ราชาอัศวินไอซ์บลู เขาสามารถฆ่าหานเซิ่นได้ถ้าต้องการ ด้วยอำนาจและชื่อเสียงของเขา เขาคงจะฆ่าหานเซิ่นและรอดจากการลงโทษไปได้

 

บางทีที่เขายั้งมือเอาไว้ก็เพราะอี๋ซา หรือบางทีเขาอาจจะไม่ได้ต้องการทำร้ายอะไรหานเซิ่น และที่เขาต้องการก็คือแผ่นหินเท่านั้น

 

แต่หานเซิ่นไม่อยากจะเสียแผ่นหินไป ถ้าหานเซิ่นยอมมอบแผ่นหินแต่โดยดี อัศวินไอซ์บลูก็จะหยุดไล่ล่าหานเซิ่น ดูเหมือนเขาจะไม่หยุดจนกว่าเขาจะได้แผ่นหินไป

 

“เวรเอ้ย! เอ็ดเวิร์ดมันรู้ได้ยังไงว่าเราเอาแผ่นหินไป?” หานเซิ่นถอนหายใจ

 

เขาระมัดระวังอย่างเต็มที่ แต่เอ็ดเวิร์ดก็ยังค้นพบตัวหัวขโมย

 

แต่ตอนนี้หานเซิ่นไม่มีเวลาจะมาคิดถึงเรื่องนั้น ถ้าเขาไม่อยากจะเสียแผ่นหินไป แบบนั้นเขาก็ต้องหาทางหนีไปจากที่นี่

 

ตอนนี้พวกเขากำลังอยู่ในศูนย์บัญชาการของหน่วยอัศวินไอซ์บลู ดังนั้นหานเซิ่นจึงถูกล้อมโดยยอดฝีมือจากทุกด้าน ราชาอัศวินไอซ์บลูไม่ต้องการทำให้เรื่องนี่เป็นเรื่องใหญ่ และเขาก็ไม่ต้องการทำให้หานเซิ่นเข้าตาจน ดังนั้นเขาจึงมาขวางหานเซิ่นตามลำพัง

 

“หานเซิ่น สิ่งนั้นมันไร้ประโยชน์สำหรับเจ้า ทิ้งมันไปและเจ้าจะได้รับรางวัล”

ราชาอัศวินไอซ์บลูยังคงไม่โจมตี เขาแค่ใช้ความแข็งแกร่งของตัวเองเพื่อข่มหานเซิ่น

 

“ท่านกำลังพูดถึงเรื่องอะไร?” หานเซิ่นใช้จิตแห่งมีดและดาบเพื่อต้านแรงกดดันของราชาอัศวินไอซ์บลู

 

จิตแห่งมีดและจิตแห่งดาบของหานเซิ่นเป็นระดับครึ่งเทพ ดังนั้นพวกมันจึงอยู่ในระดับเดียวกับของราชาอัศวินไอซ์บลู แต่มันก็มีความต่างระหว่างพลังของทั้งคู่มากถึงขนาดที่หานเซิ่นไม่มีหวังจะเอาชนะได้

 

“ถ้าเจ้ายังยืนกรานที่จะทำแบบนี้ ข้าก็ต้องใช้กำลังพาเจ้ากลับไปด้วยตัวเอง”

เมื่อได้เห็นจิตแห่งมีดและจิตแห่งดาบของหานเซิ่น ดวงตาของราชาอัศวินไอซ์บลูก็เปล่งประกายด้วยความชื่นชม

 

มันถือว่าเป็นอะไรหาได้ยากที่มาร์ควิสคนหนึ่งจะมีจิตใจที่แข็งแกร่งแบบนั้น

 

แสงสีฟ้าที่ห่อหุ้มราชาอัศวินไอซ์บลูตั้งแต่ที่เขาพังเข้าไปในห้องของหานเซิ่น มันเป็นเพียงแค่พลังติดตัว แต่ยิ่งมันทำงานนานมากเท่าไหร่ มันก็จะขยายกว้างขึ้นมากเท่านั้น ดูเหมือนกับว่าอากาศเองก็กลายเป็นสีฟ้า มันห้อมล้อมหานเซิ่นและเขาก็รู้สึกได้ถึงพลังงานอันหนาวเย็นแผ่ออกมาจากมัน เขารู้สึกราวกับว่าออร่านั้นจะแช่แข็งเขา

 

พลังหนาวเย็นนั้นจำกัดความสามารถในการเคลื่อนไหวของหานเซิ่น การพยายามจะเทเลพอร์ตนั้นเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์ภายในแสงสีฟ้านั่น ปีกมังกรทำให้หานเซิ่นเทเลพอร์ตได้แค่ระยะสั้นๆเท่านั้น เขาไม่สามารถหนีไปจากรัศมีของมันได้

 

หานเซิ่นและเป่าเอ๋อถูกแช่แข็งภายในแสงสีฟ้า ทั้งคู่ดูเหมือนกับก้อนน้ำแข็งคู่หนึ่งที่กำลังลอยอยู่ในอากาศสีฟ้า

 

ภายในฐานทัพ เอ็ดเวิร์ดมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยรอยยิ้มที่พึงพอใจ

“ราชาอัศวินไอว์บลูไม่ใช่สมาชิกของเอ็กซ์ตรีมคิงที่มีพรสวรรค์พิเศษอะไร แต่เขามีศรัทธาในหลักการที่คนอื่นหลงลืมไป เขาเป็นเพียงคนเดียวที่ฝึกวิชาจีโนไอซ์บลูไปถึงระดับนั้น ทั้งๆที่มันเป็นแค่วิชาพื้นฐานที่ผู้คนแทบจะไม่เสียเวลากับมัน”

 

“แต่สุดท้ายแล้วความพยายามของเขาก็ไร้ประโยชน์ ตั้งแต่เกิดพวกเราก็รู้ว่าเขาไม่มีวันกลายเป็นระดับเทพเจ้าได้ เขาจะเป็นระดับครึ่งเทพไม่ว่าจะยังไงก็ตาม”

อัศวินไอซ์บลูที่อยู่ข้างๆเอ็ดเวิร์ดยิ้ม หลังจากนั้นสายตาของเขาก็มองไปที่หานเซิ่น “แต่ข้าสนใจหานเซิ่นคนนี้มากกว่า นอกจากที่เขาจะมีสมบัติโล่ป้องกันที่มหัศจรรย์แล้ว เขายังฆ่าราชาไนท์ริเวอร์ได้สำเร็จ นั่นไม่ใช่สิ่งที่มีเพียงแค่การป้องกันจะทำได้”

 

“เจ้าเห็นเด็กหญิงตัวน้อยที่ถือเจดดรัมนั่นไหม? นั่นไม่ใช่เจดดรัมธรรมดาๆ มันเป็นเจดดรัมระดับราชันกลายพันธุ์ ข้าได้ตรวจสอบร่างของราชาไนท์ริเวอร์ ถึงแม้เขาจะถูกฆ่าด้วยการตัดคอ แต่สมองของเขาได้รับความเสียหายอย่างหนัก เขาคงจะถูกการโจมตีของเจดดรัมโดยที่ไร้การป้องกัน” เอ็ดเวิร์ดพูด

 

“เขาเป็นเพียงแค่มาร์ควิสจากเผ่าพันธุ์เล็กๆ แต่เขากลับมีสมบัติมากมายที่เจ้าและข้าก็ยังต้องการ” อัศวินไอซ์บลูมองไปที่เจดดรัมของเป่าเอ๋อด้วยความละโมบ

 

“เจ้านี่มีอะไรมากกว่าที่เห็น พวกเราไม่รู้ถึงธรรมชาติของโบราณวัตถุนั่นด้วยซ้ำ แต่เขากลับหามันเจอได้ ถ้าไม่ใช่เพราะเขา พวกเราก็คงจะไม่สังเกตเห็นว่าโบราณวัตถุนั้นเป็นแค่แผ่นหินเล็กๆที่ติดอยู่บนหลังคา”

เอ็ดเวิร์ดหลี่ตาของเขาขณะที่มองไปที่หานเซิ่น “ถ้าเป็นไปได้ข้าก็ไม่อยากเป็นศัตรูกับเขา แต่พวกเราจำเป็นต้องใช้โบราณวัตถุนั่น”

 

“เจ้าคิดว่าหานเซิ่นจะหนีไปได้ไหม? ถ้าเขาถูกจับได้ มันก็ไม่มีปัญหา ใครจะคาดเดาว่าแผ่นหินที่ดูธรรมดาๆนั่นก็คือโบราณวัตถุที่พวกเรากำลังมองหา พวกเราก็จะมีโอกาสที่จะเก็บมันไปจากสิ่งของสมบัติอื่นๆที่เขามี แต่ถ้าเกิดเขาหนีไปได้ นั่นก็จะมอบโอกาสให้กับพวกเรา” อัศวินไอซ์บลูหันไปมองเอ็ดเวิร์ด

 

“ข้าคิดว่าราชาอัศวินไอซ์บลูจะหยุดเขาเอาไว้ได้ แต่ถึงหานเซิ่นจะหนีไปจากราชาอัศวินได้อย่างปาฏิหาริย์ ข้าก็จะทำให้แน่ใจว่าสถานการณ์เป็นไปตามที่พวกเราต้องการ”

เอ็ดเวิร์ดดูมั่นใจ “ราชาอัศวินไอซ์บลูจะช่วยพวกเราโดยการไปอธิบายกับราชาไป๋ พวกเราแค่ต้องรออยู่เฉยๆ และไม่นานสิ่งนั้นก็จะตกมาอยู่ในมือของพวกเรา”

 

ในอีกส่วนหนึ่งของฐานทัพ กุนซือไวท์และครามกำลังมองดูสิ่งที่เกิดขึ้น กุนซือไวท์ขมวดคิ้ว แต่เขายังคงนิ่งเงียบ ครามถามขึ้นมาด้วยความสงสัย

“มิสเตอร์ไวท์ นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมจู่ๆราชาอัศวินไอซ์บลูถึงได้จู่โจมหานเซิ่น?”

 

“มันมีเพียงสิ่งเดียวบนดาวดวงนี้ที่ทำให้ราชาอัศวินไอซ์บลูขัดคำสั่งและโจมตีหานเซิ่น” กุนซือไวท์มองหานเซิ่นด้วยสีหน้าแปลกๆ

 

“ไม่มีทาง ทำไมเขาถึงมีสิ่งนั้นได้?” ดวงตาของครามเบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset