Super God Gene – ตอนที่ 2243

ด้วยการป้องกันของใบเสมาราชาแมลงปีศาจ หานเซิ่นรีบหนีไปยังบริเวณที่ไม่ถูกสำรวจบนดาวไอซ์บลู

 

ราชาอัศวินไอซ์บลูเทเลพอร์ตตามหานเซิ่นและชกหมัดออกไปใส่ใบเสมาราชาแมลงปีศาจ ใบเสมาสั่นสะเทือน แต่มันก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะแตกร้าว

 

“โล่นั่นทรงพลังจริงๆ มันป้องกันการโจมตีของราชาอัศวินไอซ์บลูได้ แต่ไม่ว่ามันจะเป็นสมบัติที่สุดยอดแค่ไหน มันก็คงจะอยู่ตลอดการไม่ได้ พวกเราควรเตรียมพร้อมที่จะแสดงตัวของพวกเราในเร็วๆนี้”

เอ็ดเวิร์ดพูด หลังจากนั้นเขาก็แอบออกจากฐานทัพและตามหานเซิ่นไป

 

เอ็ดเวิร์ดไม่มีอะไรต้องกลัว ราชาอัศวินไอซ์บลูได้ขัดคำสั่งของราชาไป๋ทำการโจมตีหานเซิ่น และตามหลักแล้วเอ็ดเวิร์ดจะไม่ถือว่าเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ เขาแค่จะเข้าไปช่วยราชาอัศวินจับตัวหานเซิ่น และทำให้แน่ใจว่าเขาปลอดภัย

 

ขณะที่ราชาอัศวินไอซ์บลูจู่โจมใส่ใบเสมาราชาแมลงปีศาจ หานเซิ่นก็ได้ยินเสียงร้าวราวกับว่าโล่กำลังจะแตกสลาย มันเป็นเหมือนกับแก้วที่ถูกใช้จนถึงจุดแตกหัก หานเซิ่นขมวดคิ้วและคิดกับตัวเอง

‘ดูเหมือนว่าใบเสมาราชาแมลงปีศาจจะป้องกันการโจมตีของครึ่งเทพได้แต่ไม่ตลอด น่าเสียดายที่วิญญาณอสูรใบเสมาราชาแมลงปีศาจดวงอื่นยังใช้งานไม่ได้ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ใบเสมาราชาแมลงปีศาจ 3 สีก็คงจะป้องกันการโจมตีของราชาอัศวินไอซ์บลูได้อย่างสบายๆ’

 

หานเซิ่นบินหนีต่อไปขณะที่พยายามคิดหาหนทางที่จะสลัดราชาอัศวินไอซ์บลูให้หลุด เขารู้ว่าลำพังแค่ความเร็วของตัวเองไม่เพียงพอ และเขาจำเป็นต้องหาหนทางที่จะหนีไปก่อนที่ใบเสมาราชาแมลงปีศาจจะถูกทำลาย

 

‘ถ้าเราหลบพ้นจากสายตาของราชาอัศวินไอซ์บลูและซ่อนพลังชีวิตของตัวเอง เราก็จะใช้ล่องหนน้อยเพื่อหนีไปได้ แต่ในตอนนี้การทำแบบนั้นดูเหมือนจะเป็นอะไรที่ยากเกินไป’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง

 

หานเซิ่นมุ่งหน้าไปที่ภูเขาลูกหนึ่งที่อยู่ใกล้เคียง และที่ไหนก็ตามที่พวกเขาไป สิ่งมีชีวิตในบริเวณรอบๆก็จะวิ่งหนีแตกตื่น ท้องฟ้าเต็มไปด้วยซีโน่เจเนอิคที่กำลังหนีไปด้วยความหวาดกลัว และนั่นทำให้หานเซิ่นประหลาดใจ

 

ความเร็วที่เหนือกว่าของราชาอัศวินไอซ์บลูทำให้เขาไล่ตามทันได้อย่างรวดเร็ว หานเซิ่นมีความคิดหลายอย่างที่ทำได้ แต่เขายังไม่มีโอกาสได้ใช้พวกมันเลย

 

ใบเสมาราชาแมลงปีศาจรับความเสียหายมากขึ้นเรื่อยๆ และมันดูใกล้จะแตกสลายเต็มที หมัดของราชาอัศวินไอซ์บลูชกด้วยดุดันที่เพิ่มขึ้น แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงคำรามดังขึ้นมาจากภูเขาด้านล่าง

 

ูม!

 

ลำแสงแสงสีขาวพุ่งออกมาจากภายในภูเขาและพุ่งตรงไปที่ราชาอัศวินไอซ์บลู

 

ราชาอัศวินไอซ์บลูหันไปเพื่อป้องกันลำแสงที่เข้ามา มันเกิดเป็นการปะทะกันของแสงสีขาวและสีฟ้าที่เจิดจ้าในท้องฟ้า แรงจากการปะทะกันของพลังทั้ง 2 นั้นทำลายทุกสิ่งทุกอย่างโดยรอบถูกทำลาย หลังจากนั้นอสูรตัวใหญ่ยักษ์ที่มีความยาวกว่าหนึ่งร้อยเมตรก็ปรากฏตัวออกมาภูเขา และมันส่งพลังสีขาวเข้าใส่ราชาอัศวินไอซ์บลูอีกครั้ง

 

“แม้แต่พระเจ้าก็กำลังช่วยเหลือเรา!” หานเซิ่นยิ้มและรีบบินลงไปในภูเขา ขณะที่ราชาอัศวินไอซ์บลูยังยุ่งอยู่กับอสูรใหญ่ยักษ์ตัวนั้น ราชาอัศวินไอซ์บลูชกด้วยพลังที่มากขึ้นเรื่อยๆราวกับว่ามันเป็นสิ่งที่ที่สามารถหยุดการทำลายล้างของโลกใบนี้ได้

 

ทั้งเทือกเขาสั่นสะเทือนขณะที่ยอดเขาแต่ละลูกถล่มลงมาจากจุดสูงสุดของพวกมัน พื้นดินแตกแยกขณะที่สิ่งมีชีวิตมากมายพากันหนีตาย

 

หานเซิ่นลงไปที่ภูเขาและโยนเป่าเอ๋อเข้าไปในหอคอยแห่งโชคชะตา หลังจากนั้นเขาก็เปลี่ยนตัวเองเป็นวัวหินผาและเริ่มวิ่งเข้าไปในฝูงซีโน่เจเนอิคที่อยู่ใกล้เคียง

 

ขณะที่หานเซิ่นเข้าไปปะปนกับเหล่าซีโน่เจเนอิคที่กำลังแตกตื่น ทันใดนั้นเขาก็เห็นเงาของคนบางคนบินมาอยู่เหนือภูเขา คนๆนั้นก็คือผู้ตรวจการเอ็ดเวิร์ด

 

สายตาของเอ็ดเวิร์ดกวาดไปตามพื้นของภูเขา มันดูเหมือนว่าเขากำลังมองหานเซิ่นอยู่

 

หานเซิ่นไม่หันไปมองเอ็ดเวิร์ดและหวังว่าอีกฝ่ายจะมองการปลอมตัวของเขาไม่ออก ขณะที่เขาวิ่งตามซีโน่เจเนอิคตัวอื่นลึกเข้าไปในภูเขา

 

“แปลกจริงๆ เขาหายไปไหนกัน?” เอ็ดเวิร์ดขมวดคิ้ว เขาเห็นหานเซิ่นบินลงมาในบริเวณนั้น แต่ในตอนนี้เป้าหมายของเอ็ดเวิร์ดกลับหายตัวไปในอากาศธาตุ

 

“หรือว่าบางทีเขาจะล่องหนได้? แต่ถึงเขาจะทำได้ เขาก็ไม่รอดพ้นไปจากสายตาของข้าอยู่ดี ภูเขาดูไม่ได้รับความเสียหายอะไร และมันก็ไม่มีอุโมงค์ลับไหนที่จะใช้หนีได้ ทางเลือกเดียวของเขาก็คือเดินเท้าออกไป ดังนั้นสิ่งที่กำลังหนีอยู่ในตอนนี้…”

ดวงตาสีเขียวของเอ็ดเวิร์ดมองไปรอบๆ หลังจากนั้นเขาก็บินตรงเข้าไปหากลุ่มของซีโน่เจเนอิคที่กำลังวิ่งหนี

 

เอ็ดเวิร์ดดูตื่นเต้นอย่างมาก ดวงตาของเขาเป็นประกายขณะที่เขาพูดกับตัวเอง

“เจ้านี่ไม่ธรรมดาจริงๆ! เขาแม้กระทั่งเปลี่ยนร่างของตัวเองได้ ถ้าเขาเป็นครึ่งเทพเหมือนกันล่ะก็ เราก็คงจะเอาชนะเขาไม่ได้”

 

โดยไม่ลังเลเอ็ดเวิร์ดบินตามซีโน่เจเนอิคที่กำลังหนีออกจากบริเวณนี้ไป ขณะที่เขาลอยตัวอยู่เหนือหัวของพวกมัน เขาก็มองลงไปที่ซีโน่เจเนอิคนับพัน ตาดำของเขาเปลี่ยนเป็นคริสตัลขณะที่เขาตรวจดูพวกมัน

 

เอ็ดเวิร์ดสังเกตซีโน่เจเนอิคทุกตัวและเปรียบเทียบกับภาพในความทรงจำของเขา ในเวลาเพียงแค่หนึ่งวินาที เขาก็สังเกตถึงความผิดปกติ

 

“วัวหินผานั่นหายตัวไป”

 

เมื่อรู้สึกตัวเอ็ดเวิร์ดก็ไม่ได้ตามกลุ่มของซีโน่เจเนอิคไปต่อ เขาหันกลับไปในทิศทางที่มาแทน

 

ในตอนที่หานเซิ่นพ้นจากสายตาของเอ็ดเวิร์ด เขาได้ใช้ล่องหนน้อยเพื่อปีกตัวออกมาจากกลุ่มของซีโน่เจเนอิค แต่เขาไม่ได้ไปไกลนัก เขาวนรอบและหันกลับไปในที่ที่ราชาอัศวินไอซ์บลูและซีโน่เจเนอิคตัวใหญ่ยักษ์กำลังต่อสู้กัน

 

โดยไม่ลังเลหานเซิ่นตรงเข้าไปในรูลึกที่อสูรใหญ่ยักษ์ตัวนั้นออกมา

 

หานเซิ่นไม่เชื่อว่าการแทรกแซงของมอนสเตอร์ตัวนั้นจะเป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญ เพราะถ้าเกิดว่ามันออกมาเพราะถูกรบกวนโดยการต่อสู้ระหว่างหานเซิ่นและราชาอัศวินไอซ์บลูจริงๆ น่าแปลกที่มันตัดสินใจจะเมินเฉยต่อหานเซิ่นและตรงเข้าไปหาราชาอัศวินไอซ์บลู

 

เมื่อหานเซิ่นเข้าไปในรูที่มอนสเตอร์ตัวใหญ่ออกมาและมองไปรอบๆ เขาก็รู้ทันทีว่าถ้ำแห่งนี้ไม่ใช่ที่อยู่อาศัยของมัน

 

ด้วยออร่าศาสตร์ตงเสวียน ทำให้หานเซิ่นมองเห็นร่องรอยโมเลกุลของมอนสเตอร์ตัวนั้น มันเพิ่งเข้ามาในถ้ำเมื่อไม่นานมานี้

 

ถ้ำแห่งนี้เป็นรังของซีโน่เจเนอิคที่แข็งแกร่ง แต่ร่องรอยโมเลกุลของเจ้าของถ้ำแห่งนี้ต่างออกไป ร่องรอยโมเลกุลที่เขาเจอนั้นไม่ได้เป็นของมอนสเตอร์ที่ช่วยเขาเอาไว้

 

“ดูเหมือนเอ็ดเวิร์ดจะช่วยให้เราหนีจากราชาอัศวินไอซ์บลู” หานเซิ่นวิ่งลึกเข้าไปในถ้ำโดยไม่ลังเล

 

หานเซิ่นมั่นใจว่าสิ่งมีชีวิตที่เคยอาศัยอยู่ที่นี่ตอนนี้น่าจะตายไปหมดแล้ว และมอนสเตอร์ใหญ่ยักษ์ตัวนั้นต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็ดเวิร์ด

 

ซึ่งถ้าเอ็ดเวิร์ดส่งมอนสเตอร์ตัวนั้นออกมาช่วยหานเซิ่นจริงๆ อย่างนั้นแล้วการที่หานเซิ่นแอบเข้าไปในรังของมอนสเตอร์ที่อันตรายก็คงจะเป็นสิ่งที่เขาไม่ได้คาดคิดเอาไว้

 

‘ถึงยังไงจิตใจของเอ็ดเวิร์ดก็เป็นอะไรที่น่ากลัว ไม่ช้าก็เร็วเขาต้องมาที่นี่ เราจำเป็นต้องหนีออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง

 

หลังจากที่เข้ามาภายในรัง หานเซิ่นเห็นกระดูกขนาดใหญ่กระจัดกระจายอยู่เต็มถ้ำ

 

คนส่วนใหญ่คงจะสันนิษฐานว่ากระดูกพวกนี้คือเศษซากของเหยื่อที่เหลืออยู่ แต่หานเซิ่นสามารถบอกได้ทันทีว่าพวกมันคือซากของซีโน่เจเนอิคที่แต่เดิมอาศัยอยู่ที่นี่

 

“ไม่รู้ว่าภายในรังนี้จะมีทางออกอีกทางหรือเปล่า”

หานเซิ่นยืนยันว่าภายในนั้นไม่มีซีโน่เจเนอิคตัวไหนอยู่ หลังจากนั้นเขาก็ตัดสินใจมุ่งหน้าลึกเข้าไปในรัง

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset